จุนห่าวรับรู้ทิศทางคร่าวๆ ของสายฟ้า และมุ่งไปทางนั้น จิตใจของจุนห่าวนั้นสั่นไหว ที่นั่นก็คือป่าหลานอู มองไปในป่าอันเขียวชอุ่มที่ไม่สิ้นสุด จุนห่าวรู้สึกว่ามีฆาตกรอยู่ในนั้น กำลังต่อสู้ของสายฟ้า จุนตง จุนหนานล้วนไม่สูง สัตว์ป่าอันทรงพลังในนั้นอาจเอาชีวิตของพวกเขาได้ทุกเมื่อ ยิ่งไปกว่านั้น ในนั้นไม่เพียงมีสัตว์ป่า แต่ยังมีสัตว์อสูรที่มีระดับที่แตกต่างกัน สัตว์อสูรบางจำพวก ขนาดเขาในตอนนี้ยังต้องหลีกเลี่ยง นับประสาอะไรกับพวกจุนตง จุนห่าวไม่กล้าจินตนาการถึงฉากนั้น เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาเร่งฝีเท้าของเขา เขาต้องตามหาพวกเขาโดยเร็วที่สุด ตอนนี้พวกเขาเป็อันตรายยิ่งนัก จำเป็ต้องให้พ่อคนนี้ไปช่วย
จุนห่าวปฏิบัติภารกิจกู้ภัยมามากมาย มีทั้งสำเร็จและล้มเหลว ทุกคนชื่นชมยินดีเมื่อเขาทำสำเร็จ และกอดคอร้องไห้กับญาติเมื่อเขาล้มเหลว นี่เป็ครั้งแรกที่จุนห่าวจะช่วยชีวิตคนที่เขารัก ในเวลานี้เขารู้สึกเหมือนกับครอบครัวของคนที่เขาเคยช่วยชีวิต ที่ทั้งวิตกกังวลและหวาดกลัว จุนห่าวระงับอารมณ์ทุกอย่าง เวลานี้เขาต้องใจเย็น ให้สมองของเขาชัดเจน เพื่อให้เขาตัดสินใจได้อย่างถูกต้องที่สุด เขาไม่อาจทำให้ตนเองวุ่นวายใจจนเปิดโอกาสให้ศัตรู เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ ไม่ทราบว่าศัตรูคือใคร มีกี่คน มีจุดประสงค์อะไร เขาทำได้เพียงรอจังหวะเข้าโจมตีเท่านั้น
เห็นจุนห่าวที่เร่งความเร็ว พลางมองไปทางเบื้องหน้าของพวกเขา หานรุ่ยเข้าใจได้ว่า เหตุใดจุนห่าวถึงเร่งความเร็ว ตอนนี้ลูกๆ ของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย ในป่านั้น ทุกนาทีอาจเป็อันตรายถึงชีวิต ยามนี้ หากพวกเขาพบลูกๆ ได้เร็วขึ้นหนึ่งนาที พวกเขาก็จะอันตรายน้อยลงไปหนึ่งนาที หานรุ่ยกังวลใจมาก สีหน้าของเขาตึงเครียด พลันเร่งความเร็วเพื่อไปอยู่เคียงข้างจุนห่าว
ชายสองคนเร่งความเร็วเข้าไปในป่าลึก สัตว์อสูรที่พวกเขาพบก็ถูกหมัดของจุนห่าวจัดการในทันที หานรุ่ยมิได้ลงมือแม้แต่น้อย เวลานี้จุนห่าวเต็มไปด้วยความโกรธ สัตว์อสูรจึงกลายเป็ที่ระบายอารมณ์ของเขา หนึ่งหมัดต่อหนึ่งหมัดไปเรื่อยๆ มิได้ล่าถอยแต่เดินหน้า โดยไม่กระทบความเร็วที่มุ่งไปข้างหน้าของพวกเขา ไม่นานทั้งสองก็มาถึงจุดกึ่งกลางระหว่างป่าชั้นนอกและชั้นใน เมื่อพวกเขามาถึงตรงนี้ จิตใจที่ข่มไว้ของพวกเขากลับเป็ทุกข์อีกครั้ง ป่าชั้นในนั้นอันตรายกว่าป่าชั้นนอกมากทีเดียว สถานการณ์ของพวกจุนตงอันตรายยิ่งกว่าพวกเขา ทั้งสองคนพุ่งเข้าไปในป่าอย่างไม่คิดอะไรทั้งสิ้น ต่อให้จะเป็ขุมนรกชั้นสิบแปดอยู่ตรงหน้าเวลานี้ พวกเขาก็ต้องฝ่าฟันให้ได้ เพื่อลูกๆ พวกเขาแล้ว ต้องสู้สุดชีวิต
“จุนห่าว พวกเขาเข้าไปในป่าได้อย่างไร ข้าไม่เข้าใจว่าจุดประสงค์ของการลักพาตัวคืออะไร?” หานรุ่ยเอ่ยถามจุนห่าวพลางหน้านิ่วคิ้วขมวด หากแค่้าขู่กรรโชก งั้นต้องหาสถานที่ที่ปลอดภัยมิใช่หรือ? หากคิดจะสังหารพวกจุนตง ก็ไม่จำเป็ต้องเข้าป่าลึกเพื่อไปผจญอันตรายถึงจะลงมือ หากคิดที่จะลักพาตัวจุนตงจุนหนานเพื่อค้ามนุษย์ ยิ่งไม่ควรเข้าไปในป่าอันไร้ผู้คนเช่นนี้ เว้นแต่ว่าเขาเป็คู่แค้นของเขาและจุนห่าว คิดจะฆ่าพวกเขา จึงยืมมือลูกๆ ให้เขาและจุนห่าวเข้าไปในป่าชั้นใน เพื่อให้สัตว์อสูรระดับสูงจัดการกับพวกเขาอีกที อย่างไรก็ตาม สองปีมานี้ เขาและจุนห่าวอยู่ในหมู่บ้านเหมยหลินอย่างสงบสุขมาตลอด ก็มิได้ไปยั่วยุใคร อย่าบอกนะว่าคือ เซ่าหานอี้ เป็คนที่หานรุ่ยคิดว่าเป็ไปได้ที่สุด แม้ว่าเซ่าเจี้ยนหลิ่นบอกว่าเขาจะดูแลเซ่าหานอี้ ทว่าอูฐผอมก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า [1] ไม่แน่ว่าเซ่าหานอี้อาจยังมีผู้ติดตาม บัดนี้หานรุ่ยเริ่มคิดแผนร้าย แต่ทว่า เมื่อคิดๆ ดูก็ไม่ถูก พวกเขาไม่รู้ว่ามีสายฟ้าอยู่ ยิ่งไม่รู้ว่าจุนห่าวได้ทำพันธะสัญญากับสายฟ้าที่ตามมาจนพบ ดังนั้น เื่นี้ทำให้หานรุ่ยงงงวยยิ่งนัก หานรุ่ยไม่รู้ว่ามันเป็แค่มดในตาที่เขามองไม่เห็น คิดจะแก้แค้นเขาและจุนห่าว คนที่จะคิดแผนการเช่นนี้ได้ คงมีเพียงคนเดียว ก็คือเฉินเสาอวี่ที่แค้นจุนห่าวและหานรุ่ยอย่างแสนสาหัสโดยไม่สนใจภยันอันตราย แน่นอนว่าความคิดของเฉินเสาอวี่ หานรุ่ยไม่มีทางเข้าใจ
“ตอนนี้ข้าก็ยังไม่แน่ใจ รอให้พบก่อนคงได้รู้ ยามนี้เราต้องเร่งความเร็วอย่างที่สุด ถึงตอนนั้นค่อยพลิกแพลงตามสถานการณ์ แต่สายฟ้าตอนนี้น่าจะยังปลอดภัย ข้ารู้สึกว่าสถานะของมัน ณ ตอนนี้ยังดีอยู่” จุนห่าวพูดกับหานรุ่ย สับสนปนเปไปซะทุกอย่าง คิดอะไรตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์ ความคิดของคนอื่นยากที่จะคาดเดาที่สุด
“ครั้งนี้ต้องขอบคุณสายฟ้า เขาช่วยเราได้มาก ไม่อย่างนั้นเรายังตกอยู่ในสภาพอึดอัดใจ ไม่รู้เงื่อนงำอะไรสักนิด” หานรุ่ยพูดกับจุนห่าว
“ใช่แล้ว สายฟ้า เคยเป็สุนัขทหารที่ดีที่สุด ความสามารถในการติดตามแข็งแกร่งนัก มันจะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดี มันจะไม่ดุร้าย หากมันรู้ว่ามันยังเป็แค่สุนัขหมาป่าธรรมดา มิฉะนั้นตอนนี้มันคงเปิดเผยตัวตนและถูกฆ่าตายไปแล้ว บัดนี้มันได้เบิกปัญญา ยิ่งเป็ดั่งเสือติดปีก แม้ว่ามันจะเป็ผู้ใหญ่ ทว่าชาติก่อนนี้มันยังอายุไม่ถึง 10 ขวบเลย ประสบการณ์ทางสติปัญญาทางสังคมไม่มากพอ ยังต้องให้เราอบรมสั่งสอนอีกมาก จากนี้ไปเสี่ยวรุ่ย เ้าต้องสั่งสอนเขาให้มาก” จุนห่าวพูดกับหานรุ่ย หลังจากที่สายฟ้ามาที่นี่ มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ในอดีตไม่ว่าสายฟ้าจะมีพละกำลังเพียงใด ท้ายที่สุดมันก็ยังเป็สุนัข ไม่อาจแปรเปลี่ยนแก่นแท้นี้ได้ แต่สายฟ้าในเวลานี้ ที่หลังจากในบำเพ็ญเพียรได้ สามารถแปลงกายเป็มนุษย์ แม้ว่าแก่นแท้ยังคงเป็สุนัข ทว่ากลับไม่อาจปฏิบัติต่อเขาในฐานะสุนัขได้อีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาควรสั่งสอนแบบลูก สอนเขาและดูแลเขาอย่างตั้งใจ
“เ้าไม่บอกข้าก็รู้ ข้าคือแม่ของสายฟ้า มันคือลูกชายของข้า” หานรุ่ยพูดกับจุนห่าวอย่างไม่สบอารมณ์ จุนห่าวไม่วางใจหรือ เกรงว่าเขาจะไม่ปฏิบัติต่อสายฟ้าเฉกเช่นลูกแท้ๆ และไม่ตั้งใจสั่งสอนเขา
“ข้าผิดเองที่ทำให้เ้าคิดเล็กคิดน้อย จริงๆ แล้วข้ามิได้หมายความอย่างนั้น เ้าคิดมากเกินไป ความเชื่อใจที่มีต่อเ้า มากกว่าความเชื่อที่ข้ามีต่อตัวเองด้วยซ้ำ ข้าไม่เชื่อตัวเองแต่กลับเชื่อเ้า ข้าเกรงว่าเ้าจะไม่เข้าใจสถานการณ์ของสายฟ้า ถึงพูดเช่นนี้กับเ้า” จ้องมองหานรุ่ยของเขา จุนห่าวกล่าวรับผิดก่อน ในหัวใจของจุนห่าว ไม่ว่าเขาจะถูกหรือผิด ขอเพียงหานรุ่ยคิดว่าเขาผิด เขาก็จะขอโทษก่อน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหานรุ่ยเสมอ ์และปฐีอันยิ่งใหญ่ ภรรยายิ่งใหญ่ที่สุด อย่างอื่นชิดขอบไปเลย
หานรุ่ยรู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดของจุนห่าว มองจุนห่าวอย่างกกรุ้มกริ่มอยู่ครู่หนึ่ง จึงมีรอยยิ้มกลับมา และมุ่งไปข้างหน้าด้วยสีหน้าตึงเครียด ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะฟังคำพูดอ้อล้อของจุนห่าว
จุนห่าวรู้สึกงุนงงกับสายตาที่กรุ้มกริ่มของหานรุ่ย จุนห่าวคิดในใจ อย่าบอกนะว่าเสี่ยวรุ่ยไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด? แต่เขาไม่มีกระจิตกระใจคิดถึงมันตอนนี้ เพราะเขารู้สึกว่าเขาอยู่ไม่ไกลจากสายฟ้าแล้ว
“เสี่ยวรุ่ย ระวังตัวด้วย ข้ารู้สึกว่าเราอยู่ไม่ไกลจากสายฟ้าแล้ว คงจะได้พบมันในไม่ช้า” จุนห่าวกล่าว พวกเขาไม่ควรไปคนละเส้นทางกับสายฟ้า มิฉะนั้นคงไม่พบร่องรอยใดๆ แต่โชคดีที่พวกเขาใกล้จะพบแล้ว ไม่ได้พลาดไป
จุนห่าวและหานรุ่ยกำลังร้อนรนตามหาลูกๆ ส่วนชายชราเฉินที่เป็ผู้ใหญ่บ้านก็กำลังตามหาลูกชายในหมู่บ้าน พวกเขาไม่ทราบว่า ลูกๆ ที่พวกเขามองหาอยู่ด้วยกัน เพียงแค่จุนห่าวและหานรุ่ยกำลังจะพบลูกๆ ของเขาในไม่ช้า ส่วนชายชราเฉินไม่รู้ว่าเขาไม่อาจตามหาลูกของตัวเองให้พบได้
ชายชราเฉินผู้ซึ่งกำลังมองหาลูกชายในหมู่บ้าน ได้พบกับลุงโจวซึ่งออกมารอฟังข่าวคราว ลุงโจวเห็นชายชราเฉินที่กระตือรือร้นมองไปรอบๆ เอ่ยขึ้นอย่างทักทาย “ผู้ใหญ่บ้าน ท่านกำลังมองหาอะไรหรือ”
“ข้ากำลังมองหาเสาอวี่บ้านข้าอยู่ ไม่รู้ว่าลูกคนนี้หายไปไหน เพิ่งจะหายจากอาการาเ็ก็ออกมา ออกมาซักพักหนึ่ง แม่ของเขาก็เป็กังวลใจกับร่างกายของลูก ขอให้ข้าออกมาตามหา” จริงๆ แล้วชายชราเฉินต้องหาหลบหลีกลุงโจว แต่เมื่อคิดดูแล้ว หากเขาเห็นเสาอวี่ล่ะ อาจพลาดอะไรไป? ดังนั้นเขาจึงฝืนใจเผชิญหน้ากับลุงโจว นี่คือหน้าที่ของคนเป็พ่อ
“ท่านก็ตามหาลูกหรือ เด็กสองคนของครอบครัวจุนก็หายไป หลายปีมานี้หมู่บ้านของเราไม่เคยเกิดเื่อันใด ดูเหมือนว่าเหมยเซียนจะโกรธเป็แน่ ดอกเหมยก็ไม่ผลิบาน ยังเกิดเื่คนหายเช่นนี้อีก แต่เสาอวี่บ้านท่านน่าจะไม่เป็อันใด คงจะไปหาเพื่อน” ลุงโจวพูดกับชายชราเฉิน อันที่จริงเฉินเสาอวี่เป็ผู้ใหญ่แล้ว ไม่รู้ว่าชายชราเฉินจะกังวลอะไร แต่ไม่นึกถึงที่เฉินเสาอวี่แสดงออกในตอนนั้น ดูเหมือนลุงโจวจะเข้าใจแล้วว่าชายชราเฉินกังวลอะไร
ลุงโจวคร่ำครวญในใจ บุตรคือหนี้กรรมจริงๆ ชายชราเฉินมีบุตรเมื่อตอนอายุเยอะ ถึงตามใจมากเกินไปจนนิสัยเสีย
ณ ป่าชั้นใน ในเวลาเดียวกัน
ในที่สุดหลังจากที่กลุ่มของเฉินเสาอวี่เข้าไปในป่า ก็ประสบกับวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุด พวกเขาพบฝูงมดทมิฬกินคน มองมดทมิฬที่คืบคลานเข้ามาหาพวกเขาไม่สิ้นสุด เฉินเสาอวี่ใจนเข่าอ่อน เขาไม่อาจจะก้าวเดินได้ ทำได้แค่ให้หวังเส่าหวาดึงเขาออกไป นี่เป็ครั้งที่สองที่เขารู้สึกว่าความตายอยู่ใกล้เขามากขนาดนี้ ครั้งแรกคือตอนที่จุนห่าวทำกับเขา
มือของหวังเส่าหวาไม่อาจดูแลจุนตงและจุนหนานแล้ว พวกเขาโยนจุนตงจุนหนานเอาไปในดงมดทมิฬ และเริ่มวิ่งหนีตลบ หลังจากจุนตงจุนหนานถูกโยนเข้าไป สายฟ้าก็พุ่งพรวดเข้าไปทันที เพื่อกำบังจุนตงและจุนหนานตรงด้านหน้า
จุนห่าวที่กำลังรีบร้อนเข้ามาทางนี้ ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าสายฟ้าได้รับาเ็ เขาพูดกับหานรุ่ยอย่างร้อนใจว่า “เสี่ยวรุ่ย ต้องเร็วขึ้นอีก สายฟ้าาเ็แล้ว พวกเขาตกอยู่ในอันตรายแล้ว”
“เ้าล่วงหน้าไปก่อน ไม่ต้องรอข้า ข้าจะรีบตามให้ทัน” หานรุ่ยกล่าวขึ้นเมื่อได้ยินจุนห่าวบอกว่าลูกๆ ตกอยู่ในอันตราย พลังปราณของจุนห่าวสูงกว่าเขา ดังนั้นความเร็วจึงเร็วกว่าเขา
“ได้ เ้าระวังตัวด้วย” จุนห่าวพูดจบพลันใช้พลังิญญาทั้งหมด ปกคลุมขาทั้งสองข้าง พลันพุ่งพรวดไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อจุนห่าวมาถึง สิ่งที่เห็นก็คือ คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์อันกระอักกระอ่วนใจไม่กี่คนและฝูงมดทมิฬกินคน อีกฝ่ายก็คือสายฟ้าที่กำลังต่อสู่กับมดทมิฬ เนื้อตัวของสายฟ้าโชกไปด้วยเืจากการถูกมดทมิฬกัด เห็นได้ชัดว่าร่างกายาเ็ไม่น้อย ทว่าไม่เห็นจุนตงและจุนหนาน จุนห่าวคร่ำครวญในใจครู่หนึ่ง คิดในใจ อย่าบอกนะว่าสายฟ้าไม่ได้อยู่กับพวกเขา หรือเกิดเื่บางอย่างแล้ว หรือตายไปอย่างไร้กระดูกแล้ว คิดถึงตรงนี้ จุนห่าวพุ่งเข้าไปต่อสู้ด้วย ระดับขั้นของมดทมิฬกินคนไม่สูงนัก แต่มีจำนวนมหาศาล มดจำนวนมากยังทำให้ช้างตายได้ ไปที่ใดความจริงข้อนี้ก็ยังเหมือนเดิม
จุนห่าวฆ่ามดทมิฬด้วยลูกไฟ และไปอยู่ข้างกายของสายฟ้าโดยเร็ว หลังจากกวาดล้างฝูงมดทมิฬรอบๆ พวกเขาแล้ว เขาก็เทขวดยาฟื้นฟูใส่ปากสายฟ้า พร้อมพูดกับสายฟ้าว่า “สายฟ้า จุนตงและจุนหนานล่ะ? พวกเขาไม่ได้อยู่กับเ้าหรือ?” จุนห่าวร้อนใจดุจดังไฟแผดเผา ร้อนรนอยากที่จะรู้ข่าวคราวของจุนตงจุนหนาน
“ท่านพ่อ น้องๆ อยู่บนต้นไม้” เสียงของสายฟ้าส่งมาในจิตสำนึกของจุนห่าว สายฟ้าปรีดายิ่งที่พวกเขาไม่เป็อันใด มิฉะนั้นมันคงไม่อาจอธิบายกับท่านพ่อได้ เป็เพราะมันดูแลน้องๆ ไม่ดี
“ท่านพ่อ ท่านพ่อ พวกเราอยู่ตรงนี้” เมื่อสายฟ้าพูดจบ เสียงเด็กน้อยสองคนก็ดังมาจากบนศรีษะของเขา เมื่อเห็นพ่อของเขาจาก้า จุนตงและจุนหนานะโด้วยความปิติยินดี
เห็นลูกๆ ยังปลอดภัย จุนห่าวใจชื้นขึ้น เขาหันไปมองสายฟ้าแล้วพูดในจิตสำนึกว่า “สายฟ้า เ้าพักผ่อนก่อนเถอะ ที่เหลือให้เป็หน้าที่ของพ่อ” ยาิญญาฟื้นฟูที่จุนห่าวป้อนให้สายฟ้าเป็ยาเกรดดี ดังนั้นจุนห่าวเชื่อว่าสายฟ้าคงไม่เป็อันตรายถึงชีวิต การฟื้นฟูขึ้นอยู่กับระยะเวลาแล้ว
เมื่อเห็นว่าจุนห่าวแค่โบกมือก็ทำให้มดทมิฬกินคนดับสูญในพริบตา พรรคพวกของเฉินเสาอวี่ต่างตะลึงงัน คิดในใจ คนร้ายกาจนี่มาจากไหนกัน เก่งกาจได้ถึงเพียงนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรอดแล้ว พวกเขายังไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขา จะเป็เทพแห่งความตายของพวกเขา
จุนห่าวและหานรุ่ยที่มาถึงในภายหลัง แผดเผาฝูงมดทมิฬจนตายเรียบ เหลือทิ้งไว้เพียงยาในที่อยู่บนพื้น จุนตงจุนหนานบอกสิ่งที่พวกเขาได้ยินกับจุนห่าวและหานรุ่ย รวมถึงสายฟ้าที่กล่าวเสริม ทั้งสองก็พบความจริงอย่างรวดเร็ว พวกเขาคิดไม่ถึงว่าทั้งหมดนี้คือแผนการของเฉินเสาอวี่ คนที่พวกเขาไม่คิดจะสนใจ เกือบจะทำให้พวกเขาต้องตาย และเกือบจะฆ่าลูกๆ ของพวกเขา ดูเหมือนว่าต่อแต่นี้ไป อย่าประเมินใครต่ำเกินไป อันตรายที่ซ่อนเร้นต้องมองให้แจ่มชัด ท้ายที่สุดหัวใจที่อ่อนไหวจะทำร้ายตัวเองและบุคคลอันเป็ที่รักได้
จุนห่าวเดินไปหาเฉินเสาอวี่อย่างช้าๆ เมื่อเขาเห็นใบหน้าเหี้ยมฆ่าของจุนห่าว เฉินเสาอวี่พูดอย่างหวาดกลัวว่า “เ้าจะทำอะไร? เ้ารู้ไหมว่าข้าเป็ใคร?” เฉินเสาอวี่กล่าวเสียงดังพลางมองจุนห่าวที่ย่างก้าวเข้ามาไม่หยุดยั้งว่า “อย่าข้ามา อย่าเข้ามา” จากนั้นเขาก็หันกลับไปพูดกับพรรคพวกของเขาว่า “พวกเ้ายืนบื้ออะไรอยู่ ยังไม่รีบช่วยข้าจัดการมันให้ตาย ไม่เห็นหรือว่ามันจะฆ่าข้า?”
ดูเหมือนว่าคนของหวังเส่าหวาจะไม่ได้ยินอะไร คุกเข่าลงพลางก้มศรีษะคำนับจุนห่าว เอ่ยว่า “ไว้ชีวิตด้วย เราแค่ทำตามคำสั่ง ไว้ชีวิตเราด้วย ใต้เท้า”
จุนห่าวจ้องมองพวกเขา พร้อมกล่าวว่า “ใครที่กล้าทำร้ายลูกชายของข้า ข้าไม่มีวันปล่อยไป” กล่าวจบจุนห่าวก็โยนลูกไฟลงบนเรือนร่างของคนเ่าั้ เปลวไฟผุดขึ้นในทันที พวกเขาดิ้นรนอย่างเ็ป สุดท้ายก็ถูกไฟครอกจนกลายเป็ขี้เถ้าสลายไป
เมื่อเห็นจุนห่าวสังหารคนเ่าั้ในชั่วพริบตา หวังเส่าหวาคุกเข่าลงบนพื้น เขารู้ว่าครั้งนี้เขาจบเห่แน่ ดันไปหาเื่คนที่ไม่ควรหาเื่ บัดนี้ถึงจะเขาเสียใจก็สายไปแล้ว เขาไม่อยากถูกไฟคลอกตาย เขาจึงกัดลิ้นฆ่าตัวตายเสียเอง
จุนห่าวมองหวังเส่าหวากัดลิ้นฆ่าตัวตายอย่างไม่ได้สนใจนัก เขาเดินไปตรงหน้าเฉินเสาอวี่ พูดอย่างเคร่งเครียดว่า “ข้าเคยบอกเ้าแล้ว อย่ารังควานพวกเราอีก ครั้งก่อน แค่สั่งสอนเ้าเล็กๆ น้อยๆ หากเ้ายังรังควานเรา ข้าจะหักคอเ้า ยินดีกับเ้า ครั้งนี้เ้าทำให้ข้าโกรธถึงขีดสุด เ้าอยากให้เหยี่ยวกินคนดื่มเืของลูกชายข้ามิใช่รึ? ข้าจะให้เ้าสมใจ” พูดจบ จุนห่าวก็หิ้วเฉินเสาอวี่ไปยังที่ที่เหยี่ยวกินคนอยู่
“เสี่ยวรุ่ย รอข้าประเดี๋ยว สักพักข้าก็กลับมา” หานรุ่ยมองจุนห่าวและเฉินเสาอวี่ที่หายไปต่อหน้าเขา ท้ายที่สุดเหลือเพียงเสียงของจุนห่าวดังมาจากระยะไกล
[1] อูฐผอมก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า คือ ถึงจะตกต่ำแต่ก็เคยยิ่งใหญ่มาก่อน
