หยางซียกยิ้มมุมปาก ก่อนจะควบม้าตามนางไปอย่างรวดเร็ว
ไป๋เยว่ซินร้อนใจเป็อย่างมาก ฟังจากที่หยางซีบอกเล่ามาก่อนหน้านี้ คาดว่าคนตระกูลหลินจะต้องพาไป๋เซียงไปขายที่หอนางโลมต่างอำเภอเป็แน่ เพราะทิศทางที่คหบดีหลินมุ่งหน้าไปคืออำเภออี้ซาน ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำสายใหญ่และสามารถเดินทางข้ามไปอีกแคว้นหนึ่งได้ การจะส่งสตรีบ้านป่านางหนึ่งขายไปต่างแคว้น แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่เื่ยาก อีกทั้งก่อนหน้านี้หลินจวงก็เคยไล่พี่สาวนางให้ไปขายตัวที่หอนางโลม นางจึงคิดถึงความเป็ไปได้นี้ขึ้นมา
ไป๋จงและไป๋ฟานนั่งอยู่ในรถม้าด้วยใจที่ไม่สงบ ไป๋จงนั้นใเป็อย่างมากหลังจากที่รู้ว่าบุตรสาวของตนขี่ม้าได้ เมื่อเขาเอ่ยถามไป๋ฟานหลานชายก็เพียงส่ายหน้าไปมาบอกว่าตนก็ไม่รู้เช่นเดียวกัน
หยางซีมองดูไป๋เยว่ซินที่ควบม้าอย่างไม่ตื่นกลัวก็เพียงยิ้มขึ้นมาคราหนึ่ง
เขาจำได้ว่านางมีทักษะด้านการขี่ม้า ยิงธนู และใช้แส้เป็เลิศ ฝีมือเก่งกาจจนแทบหาตัวจับยาก
คนทั้งสองควบม้าไปข้างหน้าโดยมีรถม้าของสองพ่อลูกตระกูลไป๋ตามหลัง ตลอดเส้นทางกลับไม่พบร่องรอยของคนตระกูลหลินเลย
ไป๋เยว่ซินยิ่งร้อนใจมากขึ้นไปอีก ไป๋เซียงเป็เพียงสตรีบอบบางไร้วรยุทธ์ แน่นอนว่าย่อมไม่อาจสู้รบปรบมืออันใดกับบุรุษได้ยามอยู่ในสถาณการณ์ที่ย่ำแย่ แต่ไหนแต่ไรพี่สาวของนางก็เรียบรอยหัวอ่อนออกปานนั้น ยามนี้คงกำลังนั่งร้องไห้อยู่เป็แน่
ไป๋เย่วซินใช้แส้ฟาดท้องม้าให้แรงขึ้น หยางซีเองก็รีบเร่งนำทางอย่างสุดความสามารถ ราวครึ่งชั่วยามก็มาถึงอำเภออี้ซาน
เมื่อมาถึงก็พบกับรถม้าของคหบดีหลินที่กำลังออกมาจากประตูอำเภออี้ซานพอดี หยางซีรุดหน้าไปถามหาคนก่อน ส่วนไป๋เย่วซินกำลังมองรถม้าของคหบดีหลินด้วยสายตาเย็นเยียบ ก่อนจะะโลงมาจากหลังม้าและเดินเข้าไปขวางหน้ารถม้าของคหบดีหลินเอาไว้
ไป๋จงและไป๋ฟานก็ตามลงมาสมทบเช่นเดียวกัน
เมื่อถูกขวางอยู่เบื้องหน้า คหบดีหลินจึงยื่นมือมาเปิดผ้าม่านรถม้าออกดูว่าใครบังอาจขวางทางตน เมื่อเห็นว่าเป็คนตระกูลไป๋เขาจึงยิ้มอย่างดูแคลนคราหนึ่ง
“อ้าว นังหนูไป๋ มาทำอันใดที่นี่หรือ หรือว่ามาขายของ บ้านเ้ามีของดีด้วยหรือ โอะ ท่านพ่อกับพี่ชายของเ้าก็อยู่ด้วยหรือนี่”
ไป๋เยว่ซินที่เห็นท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนของคหบดีหลินก็ยิ่งโมโห แม้แต่ไป๋จงและไป๋ฟานยังกำมือแน่น
“พี่สาวของข้าอยู่ที่ใด ท่านรีบส่งตัวนางคืนมา!”
เมื่อได้ยินในสิ่งที่ไป๋เยว่ซินเอ่ยถาม คหบดีหลินจึงเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“พี่สาวเ้าหายไปหรือ แล้วมาถามข้าทำไมกัน ข้าจะรู้หรือ เอ๋? หรือว่านางหนีตามบุรุษคนใดไปแล้ว พี่สาวเ้าน่ะแต่ไหนแต่ไรมาก็อยากมีสามีจนตัวสั่นไม่ใช่หรือ”
“หุบปาก!”
คหบดีที่ถูกไป๋เยว่ซินตะคอกใส่ก็ถึงกับสะดุ้งโหยง เมื่อเขามองสบตากับอีกฝ่ายอีกคราก็ถึงกับขนลุกซู่
เหตุใดสตรีอายุน้อยเพียงเท่านี้กลับมีกลิ่นอายของอำนาจที่สามารถกดข่มคนได้กันเล่า
“คหบดีหลิน ข้าจะถามเ้าอีกครา พี่รองของข้าอยู่ที่ไหน!”
ไป๋เยว่ซินเริ่มหมดความอดทนแล้ว บางคราคหบดีหลินอาจจะเป็คนแรกที่นางลงมือฆ่าก็เป็ได้
แม้นางจะไม่เคยลงมือฆ่าคน แต่นางก็ไม่กลัวหากจะต้องลงมือทำ
คหบดีหลินยังคิดจะเล่นลิ้น แต่ทว่าต่อมาเขากลับหน้าซีดปากสั่นจนพูดจาติดขัด
“เล่นลิ้นนักนะ คนอย่างเ้านี่คงใช้ชีวิตสุขสบายเกินไปเสียแล้ว มิสู้มีชีวิตให้สั้นลงอีกหน่อยคงจะดี!”
ไป๋เยว่ซินมองหยางซีที่พุ่งเข้าไปหาคหบดีหลินพร้อมกับใช้มีดสั่นจ่อลำคอของอีกอีกฝ่ายด้วยแววตาที่วูบไหวคราหนึ่ง เขาลงมือรวดเร็วอีกทั้งยังออกแรงกดคมมีดลงไปบนลำคอของคหบดีหลินจนคอของอีกฝ่ายโลหิตไหลซึมออกมา คหบดีหลินที่เห็นว่าเป็หยางซี แม่ทัพใหญ่หยางที่แม้แต่นายอำเภอเจี่ยงยังเกรงกลัวก็รีบร้องของชีวิตอย่างกลัวตาย
“ทะ ท่านแม่ทัพ อ๊า!”
หยางซีออกแรงกดคมมีดให้บาดลึกเข้าไปอีก แม้แต่ไป๋ฟานและไป๋จงยังทนมองไม่ได้
“ตอบนาง!”
“ฮือ ตอบแล้วขอรับ ข้าส่งนางไปขายต่างแคว้นแล้ว ตอนนี้เรือขนสินค้าคงกำลังจะเตรียมออกเดินทางแล้ว นางกำลังจะถูกขายไปที่หอนางโลมต่างแคว้น ชาตินี้จะไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีก!”
ไป๋เยว่ซินกัดฟันกรอด ยามนี้นางอยากจะฆ่าคนขึ้นมาจริงๆเสียแล้วสิ!
“ไอ้ชั่วเอ๊ย!”
ไป๋จงและไป๋ฟานด่าทอคหบดีหลินอย่างไม่ไว้หน้า
หยางซีรีบสั่งให้องค์รักษ์ไปหยุดการเดินเรือ และสั่งห้ามให้เรือลำไหนออกจากท่าเรือเป็อันขาด จากนั้นก็จับตัวคหบดีหลินและคนที่ติดตามมาจากจวนตระกูลหลินให้เดินตามเข้าไปในอำเภออี้ซานพร้อมกับไป๋เยว่ซิน
คนทั้งหมดเดินมายังท่าเรือ เหล่าองค์รักษ์สามารถช่วยสตรีหลายนางที่กำลังถูกส่งไปขายมาได้อย่างปลอดภัย หยางซีถึงกับกำมือแน่น เขาไม่คิดเลยว่าที่อำเภออี้ซานจะค้าขายคนกันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายเช่นนี้
ไป๋เยว่ซินมองสตรีเ่าั้ที่ถูกพาลงจากเรือมาคนแล้วคนเล่าแต่กลับไม่พบตัวไป๋เซียงก็ยิ่งร้อนรน ในขณะที่นางกำลังมืดแปดด้าน ดวงตาคู่งามกลับเหลือบไปเห็นคนคุมเรือผู้หนึ่งที่มีท่าทีน่าสงสัย เขาลอบปลดเชือกที่ผูกเรือ ก่อนจะค่อยๆปล่อยเรือให้แล่นไปตามแม่น้ำ
“หยางซีท่านดูนั่น!”
หยางซีมองไปยังเรือลำที่ไป๋เยว่ซินเอ่ยท้วง ดวงตาของเขาเ็าขึ้นมาทันที
คิดจะหนีหรือ!
ไป๋เยว่ซินมองหาของบางอย่างที่สามารถนำมาเป็อาวุธได้ จนกระทั่งมองเห็นแส้เส้นหนึ่งนางเอ่ยขอยืมแส้จากพ่อค้า ก่อนจะฟาดแส้ออกไปเกี่ยวกับเสาธงของเรือและโหนตัวขึ้นไปอยู่บนเรือลำนั้นได้อย่างรวดเร็ว
ไป๋จงและไป๋ฟานต่างมองตากันปริบๆ
หยางซีเองก็ตามไป๋เยว่ซินขึ้นเรือไปเช่นเดียวกัน ด้วยวรยุทธ์ที่สูงส่งของเขาล้วนเป็เื่ง่ายอย่างยิ่ง
เรือลำนี้ใหญ่มาก อีกทั้งคนคุมเรือก็มีท่าทีดุดันไม่เป็มิตร หยางซีและไป๋เยว่ซินกำลังจะเข้าไปหาตัวคนแต่พวกเขากลับมาขวางเอาไว้
“พวกเ้าอย่ามาก่อกวน ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าพวกข้าไม่ไว้หน้า!”
หนึ่งในผู้คมเรือเอ่ยกับพวกนางอย่างไม่พอใจ ไป๋เยว่ซินไม่มีเวลามาเจรจาพาทีจึงเอ่ยถามเข้าประเด็นทันที
“บนเรือลำนี้มีสตรีหน้าตาน่ารักคนหนึ่งขึ้นเรือมาหรือไม่ นางสวมเสื้อสีชมพูอ่อนกลางเก่ากลางใหม่ บนศีรษะปักปิ่นดอกไห่ถาง นามว่าไป๋เซียง หากมีก็ส่งนางมาให้ข้า”
ผู้คุมเรือถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวด อีกทั้งยังปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้า
ไป๋เยว่ซินหมดความอดทนแล้ว นางฟาดแส้ใส่ผู้คุมเรือจนเขาร่วงตกแม่น้ำ ผู้คุมเรือคนอื่นๆมองไป๋เยว่ซินด้วยสายตาเย็นเยียบ ก่อนจะพุ่งเข้ามาหานาง แต่กลับถูกแส้ของนางสะบัดฟาดเข้าใส่จนร่วงตกแม่น้ำไปทีละคน ท่วงท่าของนางพลิ้วไหวเป็อย่างมาก อีกทั้งยังได้หยางซีช่วยอีกแรง เพียงไม่นานก็สามารถจัดการพวกมันได้ทั้งหมด
หยางซีส่งสัญญาณให้องค์รักษ์หาเรือสำรองมารับพวกเขา เพราะตอนนี้เรือลำนี้ถูกจอดนิ่งอยู่กลางแม่น้ำไม่สามารถหันหัวเรือกลับไปที่ท่าเรือได้อีก
ความวุ่นวายอลหม่านเกิดขึ้น คนบนเรือที่เหลืออยู่ถูกจับทั้งหมด ไป๋เยว่ซินรีบเข้าไปในเรือพร้อมกับตามหาไป๋เซียง เมื่อเข้ามาถึงด้านในเรือกลับพบว่ามีสตรีหลายคนกำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว ไป๋เยว่ซินยังคงไม่ละความพยายาม นางตามหาพี่สาวอย่างไม่ยอมแพ้ จนกระทั่งมาถึงที่ด้านหลังเรือ
“พี่รอง!”
ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาไป๋เยว่ซินแทบเข่าทรุด
ไป๋เซียงยามนี้ถูกมัดมือมัดเท้านอนตัวงออยู่บนพื้น เสื้อผ้าของนางมีโลหิตอาบย้อมไปทั่วทั้งกาย
“พี่รอง!”
ไป๋เยว่ซินกรีดร้องออกมาสุดเสียง ก่อนจะรีบเข้าไปช่วยไป๋เซียง ตอนนี้ไป๋เซียงหมดสติไปแล้ว ไป๋เยว่ซินรีบเอามือไปอังที่จมูกของพี่สาวเมื่อเห็นว่าคนยังมีลมหายใจก็ถึงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
หยางซีที่เข้ามาเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็รู้สึกสังเวชใจไม่น้อยเลย
ไป๋เยว่ซินแบกพี่สาวเอาไว้บนหลังอย่างทุลักทุเล ดวงตาของนางแดงก่ำเหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
หยางซีกำมือแน่น เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นิจูในสภาพเช่นนี้
จากสูงสุดสู่สามัญ จากองค์หญิงใหญ่ผู้แสนสง่างาม มีแต่เหล่าข้ารับใช้รายล้อม กลับต้องมาตกระกำลำบากถึงเพียงนี้
“ข้าช่วยแบกนางไปเอง”
หยางซีทนไม่ไหว จึงรีบเข้ามาอุ้มไป๋เซียงไปแทน ไป๋เยว่ซินที่เห็นอย่างนั้นก็ไม่ได้ทัดทาน พวกเขากลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย คหบดีหลินและผู้คุมเรือทั้งหมดล้วนถูกจับ ไป๋ฟานและไป๋จงที่เห็นสภาพของไป๋เซียงก็ถึงกับร้องไห้ออกมา
“เ้านำป้ายประจำตัวของข้าไป รีบตรงไปที่โรงหมอเยว่ไหล โรงหมอแห่งนั้นอยู่ใจกลางตลาดไม่ไกลจากท่าเรือ คนที่นั่นล้วนเป็คนของข้าทั้งหมด เ้านำป้ายประจำตัวของข้ามอบให้พวกเขา แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”
ไป๋เยว่ซินมองป้ายประจำตัวที่หยางซียื่นมาตรงหน้าด้วยความลังเล แต่ตอนนี้นางไม่อาจคิดอันใดให้มากนัก เพราะไป๋เซียงยังอยู่ในภาวะอันตราย หญิงสาวจึงพยักหน้าก่อนจะรับป้ายประจำตัวของหยางซีมา และรีบพาไป๋เซียงไปส่งที่โรงหมอทันที
ก่อนไปนางได้หันกลับไปมามองคหบดีหลินด้วยแววตาเ็า ก่อนจะเอ่ย
“สองมือนี้ของเ้าสินะ ที่ฉุดลากพี่สาวข้ามาขาย!”
คหบดีหลินถึงกับตัวสั่น เขาถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ทำให้ไม่อาจหนีไปที่ใดได้ ไป๋เยว่ซินมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเ็า ก่อนจะหันไปเอ่ยกับหยางซี
“ข้าขอยืมดาบของท่านสักครู่ได้หรือไม่?”
หยางซีแม้จะสงสัยแต่กลับไม่ได้เอ่ยถาม อีกทั้งยังมอบดาบของตนให้กับนางอย่างว่าง่าย
ไป๋เยว่ซินรับดาบมาจากหยางซี ก่อนจะก้าวเข้ามาหาคหบดีหลินอย่างรวดเร็ว
“เ้าคนสารเลว ข้าจะตัดมือคู่นี้ของเ้าทิ้งเสีย!”
“อ๊ากก!”
ไป๋เยว่ซินใช้ดาบยาวตัดมือทั้งสองข้างของคหบดีหลินจนขาดสะบั้น เขาชักดิ้นชักงอด้วยความเ็ป หลังจากจัดการคนจนสาแก่ใจแล้วนางก็ส่งดาบคืนให้หยางซี ก่อนจะรีบพาไป๋เซียงไปโรงหมอทันที
หยางซีมองตามแผ่นหลังของนางไปจนลับสายตา ก่อนจะหันมาเอ่ยกับองค์รักษ์ของตนด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“ตัดคอคหบดีหลินซะ เขาจะได้ไม่ต้องท นทรมาณอีก”
คหบดีหลินหวาดกลัวจนฉี่ราด แต่ยังไม่ทันจะได้เปิดปากร้องวอนขอชีวิต ศีรษะของเขาก็หล่นลงมาจากบ่าเสียแล้ว