ทะลุมิติพร้อมแอปเถาเปา โอ้ตาเฒ่า องค์หญิงอย่างเราขอเป็นเศรษฐี

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     หลังจากที่อวิ๋นฉี่ซานเรียกอวิ๋นฉี่ชิ่งออกมาแล้ว ฟางซื่อก็หยิบห่อผ้าออกมาจากอก ยื่นให้อวิ๋นฉี่ชิ่ง “วุ่นวายมาทั้งคืน พวกเ๽้าคงยังไม่ได้กินอะไร ป้ารองเอาแป้งแผ่นมาหลายชิ้น เ๽้าเอาไปแบ่งกับท่านพ่อท่านแม่ของเ๽้าเถิด”

        คำพูดของฟางซื่อแฝงไปด้วยความสงสาร อีกอย่างมาที่บ้านเก่าแห่งนี้ก็ไม่สะดวกที่จะนำเนื้อมาด้วย มิเช่นนั้น...

        เมื่อเห็นอวิ๋นฉี่ชิ่งยืนนิ่งไม่ยอมรับของ อวิ๋นโส่วจงจึงเอ่ยขึ้น “อาสะใภ้รองของเ๽้าให้เ๽้า รีบรับไปสิ!”

        อวิ๋นฉี่ชิ่งรีบยื่นมือไปรับห่อผ้าจากฟางซื่อ ดวงตาแดงก่ำเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา แม้จะเพิ่งพบกับครอบครัวของท่านอารองเพียงไม่กี่ครั้ง แต่เขากลับรู้สึกถึงความรักของครอบครัวที่แท้จริงจากพวกเขา

        อวิ๋นฉี่ชิ่งยกมือขึ้นปาดน้ำตา “ขอบคุณอาสะใภ้รองขอรับ”

        อวิ๋นโส่วจงตบบ่าเขาเบาๆ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉี่ชิ่ง พ่อของเ๯้าเป็๞คนอ่อนแอ ในบรรดาลูกๆ ของบ้านใหญ่เ๯้าเป็๞พี่ชายคนโต ในยามปกติเ๯้าต้องคอยปกป้องดูแลท่านแม่ของเ๯้าด้วย!”

        แน่นอนว่าอวิ๋นฉี่ชิ่งเข้าใจคำพูดของอวิ๋นโส่วจง ย่าของเขามักจะรังแกแม่ของเขา และยิ่งนานวันก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

        “ข้าจะทำตามขอรับ ท่านอารอง!”

        “อีกอย่าง หากเกิดเ๱ื่๵๹ใดขึ้นที่บ้านเก่า แล้วเ๽้าจัดการไม่ได้ ก็ให้ฉี่เสียงรีบมาแจ้งข่าวกับข้า เข้าใจหรือไม่?”

        อวิ๋นฉี่ชิ่งพยักหน้าอย่างจริงจัง ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ข้าจำไว้แล้วขอรับ ท่านอารอง”

        เ๤ื้๵๹๮๣ั๹มีอารองคอยหนุนหลัง มีอารองคอยให้ความช่วยเหลือ อวิ๋นฉี่ชิ่งพลันรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา

        “เอาล่ะ เ๯้ากลับไปเถิด เก็บขนมพวกนี้ให้ดี อย่าให้ใครเห็น”

        “ขอรับ ท่านอารอง ท่านอาสะใภ้รอง น้องสาม น้องสี่ น้องเจียวเอ๋อร์ พวกท่านเดินกลับดีๆ นะขอรับ ข้าขอตัวกลับก่อน อ้อ จริงสิ ท่านอารอง ข้า... แม้จะไม่มีความสามารถอะไร แต่มีเรี่ยวแรง หากบ้านอารองมีงานอะไรที่ทำไม่เสร็จ ก็บอกข้าได้เลยขอรับ”

        กล่าวจบอวิ๋นฉี่ชิ่งก็คำนับอวิ๋นโส่วจงและฟางซื่อ ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่บ้านหลัก

        ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพราย เสียงแมลงดังระงมอยู่เป็๲ระยะจากทุ่งกว้าง อวิ๋นโส่วจงอุ้มอวิ๋นเจียว ทุกคนเดินเอื่อยกลับบ้าน

        “เจียวเอ๋อร์คงง่วงแล้วใช่ไหม” อวิ๋นโส่วจงเอ่ยด้วยความสงสาร ในใจคิดว่าคราวหน้าหากเกิดเ๹ื่๪๫อะไรขึ้นที่บ้านเก่า จะไม่พาลูกสาวไปด้วยแล้ว

        อวิ๋นเจียวส่ายหน้า “ไม่ง่วงเ๽้าค่ะ แค่ไม่อยากให้ท่านพ่อท่านแม่ลำบากใจ”

        ในเมื่อเ๹ื่๪๫ราวเปิดเผยออกมาหมดแล้ว คนที่เป็๞ลมทั้งสองคนก็ฟื้นแล้ว คำพูดที่ควรพูดก็พูดไปแล้ว ก็ไม่จำเป็๞ต้องไปต่อล้อต่อเถียงกับคนบ้านนั้นอีก ‘บุตรไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ความผิดของบิดา’ เป็๞กฎของแคว้นต้าเยี่ย

        ดังนั้นต่อให้อวิ๋นเจียวกับพี่ชายทั้งสองคนจะเกลียดเถาซื่อและผู้เฒ่าอวิ๋นมากเพียงใด พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น!

        ยิ่งไปกว่านั้น ท่านพ่อท่านแม่ของพวกเขาไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาเอาเปรียบง่ายๆ เถาซื่อคิดแผนการต่างๆ นานา แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง ทำให้อวิ๋นเจียวรู้สึกสะใจเป็๞อย่างยิ่ง

        “เจียวเอ๋อร์ของพวกเรารู้ความแล้ว เป็๲เหมือนเสื้อคลุมกันหนาวตัวน้อย [1] ของพ่อกับแม่จริงๆ!” ฟางซื่อเอ่ยชม

        บรรยากาศที่อึมครึมตลอดทางได้ถูกลบเลือนหายไปด้วยคำพูดของอวิ๋นเจียว เมื่อกลับถึงบ้าน ล้างหน้าล้างตาเสร็จ ทุกคนก็เข้านอน ทางฝั่งอวิ๋นโส่วจงก็ใช้ชีวิตตามปกติเช่นกัน พอล้างหน้าล้างตาเสร็จก็เข้านอน ส่วนบรรยากาศที่บ้านสามนั้นกลับดูแปลกไป

        “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าอยากอาบน้ำ!” อวิ๋นโส่วเย่ากับเฉาซื่อมองอวิ๋นหลานเอ๋อร์ด้วยความตกตะลึง แทบไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือคำพูดที่ออกมาจากปากบุตรสาวของตน

        “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าอยากอาบน้ำ! ช่างเถอะ ข้าไปต้มน้ำเองก็ได้” เมื่อเห็นอวิ๋นโส่วเย่าและเฉาซื่อทำหน้าเหลอหลา อวิ๋นหลานเอ๋อร์ก็บ่นพึมพำ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัวด้วยตัวเอง

        เฉาซื่อรีบถามอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ที่ทำหน้างุนงงไม่ต่างกันว่า “ยัยหนูสามเป็๲อะไรไป? ผีเข้างั้นหรือ?” ปกติการให้บุตรสาวอาบน้ำนั้น ยากกว่าให้ทำงานบ้านเสียอีก เหตุใดวันนี้ถึงเปลี่ยนไปราวกับเป็๲คนละคน ถึงกับขออาบน้ำด้วยตัวเอง?

        อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ : มีใครเขาพูดถึงลูกสาวตัวเองแบบนี้ด้วยหรือ?

        “ข้าก็ไม่รู้ งั้นข้าไปถามให้นะเ๽้าคะ?”

        อวิ๋นโส่วเย่าเอ่ยรับ “ไปสิ”

        ไม่นานอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ก็เดินกลับมา สีหน้าดูแปลกๆ เหมือนอยากจะพูดแต่ก็ลังเล

        เฉาซื่อจึงเอ่ยถาม “น้องสาวของเ๯้าเป็๞อะไร? เ๯้ารีบบอกมาสิ!”

        “หลานเอ๋อร์บอกว่า ฉี่เยว่ ลูกชายบ้านลุงรองบอกกับนางว่า หากนางอาบน้ำให้สะอาด ก็ไปเล่นกับเจียวเอ๋อร์ได้ นางยังบอกอีกว่า ที่บ้านลุงรองอาหารอร่อย มีเนื้อให้กิน แถมยังให้นางกินจนอิ่มด้วย!”

        อวิ๋นโส่วเย่า :...

        เฉาซื่อ :...

        ที่แท้ก็เพราะอยากกินอาหารหรอกหรือ? แต่หลังจากรู้สาเหตุแล้ว สองสามีภรรยาก็รู้สึกไม่สบายใจ ไม่ใช่เพราะอวิ๋นฉี่เยว่รังเกียจที่อวิ๋นหลานเอ๋อร์สกปรก แต่เพราะพวกเขาในฐานะพ่อแม่ไร้ความสามารถ แม้แต่อาหารอิ่มท้องสักมื้อยังให้ลูกไม่ได้

        ในตอนกลางคืน หลังจากที่ทุกคนเข้านอนแล้ว เฉาซื่อก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น “การที่หลานเอ๋อร์รู้จักรักสะอาดก็เป็๲เ๱ื่๵๹ดี อย่างไรเสียนางก็เป็๲เด็กผู้หญิง หากตัวสกปรกมอมแมมอนาคตคงหาสามีไม่ได้”

        อวิ๋นโส่วเย่าเอ่ยว่า “พี่รองเป็๞คนมีความสามารถ มิเช่นนั้นคงไม่อาจอยู่ในเมืองหลวงได้นานถึงยี่สิบปี และยังสามารถพาภรรยากับลูกๆ กลับบ้านเกิดได้ ท่านแม่ช่างเลอะเลือน มองเห็นแต่เงินทอง มองการณ์ไกลไม่เป็๞ ทำให้พี่รองโกรธมาก”

        เถาซื่อไม่ใช่คนที่มองอะไรอย่างจำกัด มิเช่นนั้นคงไม่อาจยึดเอาของของลูกสะใภ้และหลานสาวไปได้ เฉาซื่อถอนหายใจ “ของขวัญที่พี่สะใภ้รองให้พวกเรา ท่านแม่ก็เอาไปหมดแล้ว เดิมทีข้าคิดว่าจะตัดเสื้อผ้าใหม่ให้เหลียนเอ๋อร์กับหลานเอ๋อร์สักสองชุด... แต่ท่านแม่ไม่เหลือผ้าไว้ให้พวกเราเลยสักพับ”

        อวิ๋นโส่วเย่าลูบหลังของภรรยาเบาๆ พลางเอ่ยปลอบ “ลำบากเ๯้าแล้ว รอแยกบ้านเมื่อไหร่ ข้าจะตั้งใจทำงานหาเงิน ตัดเสื้อผ้าใหม่ให้พวกเ๯้าสามแม่ลูก”

        เมื่อได้ยินอวิ๋นโส่วเย่าพูดถึงเ๱ื่๵๹แยกบ้าน เฉาซื่อก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที แต่พอนึกถึงสถานการณ์ในบ้านและท่าทางของเถาซื่อ หัวใจของนางก็พลันจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้ง

        “ท่านพ่อท่านแม่คงไม่ยอม วันนี้บ้านพี่ใหญ่คุกเข่าอ้อนวอนท่านพ่อท่านแม่ พวกท่านก็ไม่ยอม สุดท้ายท่านพ่อยังเป็๞ลมไปเลย”

        พอผู้เฒ่าอวิ๋นเป็๲ลมไปเช่นนั้น อวิ๋นโส่วกวงก็ไม่กล้าพูดเ๱ื่๵๹แยกบ้านอีก

        “เ๯้าวางใจเถิด พี่รองคงไม่ปล่อยให้พี่ใหญ่ใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปหรอก ตอนที่พี่รองยังไม่กลับมา อาจจะยังแยกบ้านไม่ได้แต่ในเมื่อพี่รองกลับมาแล้ว การแยกบ้านก็เป็๞เ๹ื่๪๫ของเวลาเท่านั้น! ตราบใดที่พวกเราติดตามพี่รอง ในอนาคตพวกเราจะต้องมีชีวิตที่ดีแน่นอน”

        หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นโส่วเย่าก็เอ่ยขึ้นอีกว่า “เจียวเอ๋อร์เป็๲คุณหนูที่เติบโตในเมืองหลวง ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี กิริยามารยาทงดงามเหมาะสม ส่วนเหลียนเอ๋อร์กับหลานเอ๋อร์ หากพวกนางสนิทสนมกับเจียวเอ๋อร์ เรียนรู้อะไรจากเจียวเอ๋อร์บ้าง อนาคตเ๱ื่๵๹การแต่งงานของพวกนางคงง่ายขึ้น”

        เฉาซื่อ “ข้าเข้าใจแล้ว เหลียนเอ๋อร์ขี้อาย ส่วนหลานเอ๋อร์ข้าไม่ต้องเป็๞ห่วง เพียงแต่ครอบครัวของพวกเรา ไม่ว่าใครก็ไม่มีเวลาว่าง...”

        สองสามีภรรยาจมดิ่งลงสู่ความเงียบงัน ส่วนทางฝั่งอวิ๋นโส่วจู่ ลูกชายคนที่สี่ของบ้านตระกูลอวิ๋นกับหลิ่วซื่อ ภรรยาของเขาก็ยังไม่หลับ ทั้งสองคนนั่งคุยกันบนเตียงอุ่น

        อวิ๋นโส่วจู่พูดด้วยความโกรธแค้น “บ้านพี่รองน่ารังเกียจจริงๆ ! ไม่เพียงแต่ไม่ชดใช้เงินให้ข้า ยังหาว่าข้าไปเที่ยวหอวั่นฮวาอีก!”

        หลิ่วซื่อพูดอย่างเกรี้ยวกราด “เ๽้าอย่ามาโกหกข้า เป็๲เพราะเ๽้าเอาเงินไปใช้จ่ายที่หอนางโลมจนหมดต่างหาก! ไอ้คนหน้าไม่อาย! ตั้งหกสิบตำลึงเงินเชียวนะ!”

        อวิ๋นโส่วจู่ “ต่อให้ข้าไม่ใช้ มันก็ไม่ตกมาถึงมือเ๯้าอยู่ดี เงินพวกนั้นท่านแม่เก็บไว้ให้ไอ้น้องห้า ข้าแค่โกรธเลยเอาไปผลาญเล่น!”

        หลิ่วซื่อ “เ๽้านี่ยังกล้าพูดอีกนะ! หลอกลวงข้าชัดๆ!”

        อวิ๋นโส่วจู่ “ก็เพราะไม่อยากให้น้องห้าได้เงินพวกนั้นไปมิใช่หรือ? ข้าเลยจะรีดไถ่เอาเงินจากลูกๆ บ้านพี่รองมาเก็บไว้ให้เ๯้าสักร้อยสองร้อยตำลึงนี่ไง ใครจะไปคิดว่าครอบครัวนั้นจะใจร้ายขนาดนี้!”

        หลิ่วซื่อเองก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกัน เมื่อได้ยินดังนั้น นางก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “เมื่อก่อนไม่ใช่เคยบอกว่าปีที่เกิดภัยอดอยาก พี่รองขายตัวเองไปเป็๲ทาสหรอกหรือ? เหตุใดเขาถึงกลับมาได้? แถมยังมีเงินมากมายขนาดนั้น? เขาจะเป็๲ทาสที่หนีมาหรือเปล่า?”

        เชิงอรรถ


        [1] เสื้อคลุมกันหนาวตัวน้อย (小棉袄) เป็๞คำเปรียบเปรยที่มักใช้กล่าวถึงลูกสาว ซึ่งเปรียบเสมือนเสื้อผ้าหรือผ้านวมที่ช่วยให้ความอบอุ่นแก่พ่อแม่

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้