ท่ามกลางสายตาของฝูงชนหญิงสาวรูปร่างอ้อนแอ้นใส่หมวกเบสบอลและผ้าปิดปากคนหนึ่งเดินไปยังด้านหน้าของฝูงชน
“เธอคือเหอโม่ นักศึกษาใหม่ปีหนึ่ง” นักศึกษาใหม่ปีหนึ่งของคณะแพทย์แผนปัจจุบันคนหนึ่งพูดยิ้มๆ “เธอมีหมวกเยอะมากเลยล่ะ แต่ว่าพวกเราไม่เคยเห็นเธอเอาผ้าปิดปากลงมาก่อนไม่รู้หน้าตาเป็ไง”
“รูปร่างไม่แย่เลย!” กัวไฮว่มองเหอโม่แวบหนึ่งแล้วพูดยิ้มๆ
“ถ้านายชนะฉัน ฉันจะกราบนายเป็อาจารย์แล้วก็เรียนการแพทย์แผนโบราณฉันว่านี่คงเป็ความหวังของนายเลยใช่ไหมล่ะ” เหอโม่มองกัวไฮว่พร้อมกับพูดขึ้น
“มามหาลัยอู่เฉิงรอบนี้ไม่เสียเที่ยวนะเนี่ยอย่างน้อยก็ได้รับสาวสวยมาเป็ศิษย์” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ชนะแล้วค่อยว่ากันเถอะ” เหอโม่พูดเบาๆ “ท่านคณบดีคะ ผู้ป่วยจะผ่าตัดตรงนี้เลยเหรอคะสภาพตรงนี้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่”
“ไปผ่าตัดในห้องผ่าตัดอาคารหมอเทพเถอะ” หวงฮั่นหลินพูดยิ้มๆถ้าแพ้ละก็ เื่อาคารหมอเทพน่ะเื่เล็กน้อย แต่ว่าถ้าตนแพ้ให้นักเรียนแบบนี้ถือเป็ความเสียหายอันมหาศาลของตน
“เสี่ยวไฮว่ ต้องหาห้องผ่าตัดให้เธอด้วยหรือเปล่า” หลิวเฉินกังเห็นว่ากัวไฮว่ไม่รีบไม่ร้อนก็ถามยิ้มๆ
“เขาเป็หมอแผนปัจจุบัน ใช้ของยิ่งใหญ่ไฮโซ แต่พวกเราเป็แค่รากหญ้าไม่ต้องใช้ห้องผ่าตัดหรอก อยู่ที่นี่แหละ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “หัวหน้าหลิวครับ บนรถคุณน่าจะมีเอกซเรย์นะครับช่วยถ่ายเอกซเรย์ให้ผู้ป่วยก่อนเถอะ แล้วรอให้ผมรักษาเนื้องอกให้ผู้ป่วยเสร็จคุณค่อยเอามาเปรียบเทียบ คณบดีหวงจะได้ไม่พูดซี้ซั้ว”
หลิวชิงเจิงพยักหน้า จากนั้นก็เอกซเรย์ให้ผู้ป่วยเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่เลวเลยและบทสนทนาของเด็กหนุ่มกับเมื่อสักครู่นี้ทำให้เขารู้สึกกินใจ
“หมอหลิว ให้เด็กนี่รักษาผมจริงๆ เหรอ” ขั้นตอนอื่นๆได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ทว่าผู้ป่วยไม่ทำเสียแล้ว ในตัวผมมีเนื้องอกแล้วทางโรงพยาบาลของพวกคุณก็บอกว่าทางคณะแพทย์จะทำการรักษาให้ฟรีผมหลงเชื่อถึงได้มาที่นี่ สุดท้ายก็ให้เด็กนี่มารักษาให้ คุณจะให้ผมวางใจได้ยังไง
“จากอายุของคุณแล้วเนี่ยผมเรียกคุณว่าลุงได้เลยนะเนื้องอกลุงนี่หนักมากนะครับ ผมไม่ทราบว่าลุงรู้หรือเปล่า” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ก็คือเนื้องอกลุงเนี่ยเป็ของเสียถ้ารักษาไม่ทันเวลาก็จะกลายเป็มะเร็งได้”
“ฉันรู้ ทางโรงพยาบาลบอกฉันแล้วว่าให้ฉันตัดออกั้แ่แรกแล้วก็ตัดออกให้หมดด้วย ไม่งั้นอาจจะงอกมาใหม่ได้อีก” ชายอายุราวสี่สิบปีพูดเบาๆ
“งั้นลุงน่าจะเคยได้ยินนะครับว่ายิ่งตัดเนื้องอกออกยิ่งเสี่ยงถ้าตัดไม่หมดก็จะงอกมาอีกเยอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“พ่อหนุ่ม มีอะไรเธอก็พูดมาตรงๆ เถอะอันที่จริงตอนแรกฉันไม่คิดจะรักษาโรคนี้ด้วยซ้ำ ที่บ้านฉันไม่มีเงินในครอบครัวมีแต่คนแก่กับเด็ก ถ้าจ่ายเงินผ่าตัดไปบ้านเราก็เจ๊งพอดี” ชายวัยกลางคนพูดเบาๆ
“ผมเข้าใจที่ลุงกังวลนะครับ เอาอย่างนี้ ผมจะช่วยลุงรักษาเนื้องอกถ้าสำเร็จก็วินกันทั้งสองฝ่าย แล้วลุงก็ตั้งใจทำงาน หาเลี้ยงครอบครัวผมเองก็ให้งานลุงได้ ถ้าลุงอยากจะมาทำกับผม” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ถ้าไม่สำเร็จอย่างที่ลุงคิดเอาไว้ ผมจะชดใช้ค่าเสียหายให้หนึ่งล้านเงินนี่พอที่จะให้ลุงไปผ่าตัดใหม่ ถ้าลุงอยากทำงาน ก็มาหาผมได้ เป็ไงครับ”
“พ่อหนุ่ม ถ้าเธอพูดแบบนี้ เธอจะทำยังไงก็ตามใจเลย ถ้าเธอทำให้ฉันรอดได้ฉันก็จะไม่หือไม่อืออะไรทั้งสิ้น” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นหนึ่งล้าน มีเงินหนึ่งล้านเื่ที่ลูกจะเข้าเรียน เื่ที่แม่ป่วยจากนี้ไปเมียเขาจะไม่ต้องทำงานขายิญญาอีกแล้วขายตัวเองไปแล้วก็ได้เงินมาหนึ่งล้านตอนนี้เหล่าฟ่านถึงขั้นรอให้เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้รักษาตนเองผิดพลาดแล้วให้เงินเขามาหนึ่งล้าน
“รักษาเนื้องอกลุงไม่ยากเลย ลุงไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เพื่อนๆทุกคนก็ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ เดี๋ยวรอดูอยู่ข้างๆ ก็พอแล้วฉันจะบรรยายพลางรักษาเนื้องอกผู้ป่วยท่านนี้เอง”
นักศึกษาคณะแพทย์แผนปัจจุบันกับแพทย์แผนจีนต่างก็ตะลึงอึ้งไปเด็กหนุ่มที่ยังเด็กกว่าพวกเขาไม่กี่ปีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้กำลังรักษาเนื้องอกอยู่ แล้วก็ให้พวกเขามุงอยู่รายล้อม
“คณบดีหลิว ไปเอายามาตามตำรับนี้นะครับ แล้วก็ต้มน้ำสามถ้วยแล้วเดี๋ยวให้คนส่งมาให้” กัวไฮว่หยิบกระดาษและปากกาออกมาจากตัวจากนั้นก็เขียนไปสองแผ่นแล้วยื่นแผ่นหนึ่งให้หลิวเฉินกัง
“เย่าซือคนสวย เธอช่วยไปเอายามาตามตำรับยานี่หน่อยสิ” กัวไฮว่ยื่นกระดาษอีกแผ่นให้หลินเย่าซือ หลิวเย่าซือรับกระดาษมาเธอผงกศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังห้องยาจีน
“เหลิ่งซวงคนสวย ถ้าเธออยากจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าฉันรักษาเนื้องอกในครั้งนี้ยังไงล่ะก็มาเป็ลูกมือฉันสิ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆส่วนอวี้เอ๋อร์มองกัวไฮว่หน้าถอดสี เวลาพี่รักษา้าลูกมือั้แ่เมื่อไหร่กันเห็นชัดๆ ว่าจะแต๊ะอั๋งคนอื่นเขา
กัวไฮว่ถอดเสื้อตัวบนของเหล่าฟ่านออกในมือของเขาไม่รู้ว่ามีเข็มขนาดสั้นยาวไม่เท่ากันอยู่ั้แ่เมื่อไหร่
“ที่เซลล์เนื้องอกแพร่ไปได้เนี่ยขึ้นอยู่ที่สารอาหาร ดูฉันฝังเข็มดีๆ นะเดี๋ยวคุณตั้งสติดีๆ นะครับ” ในขณะที่พูดกัวไฮว่ก็ลงมือฝังเข็มเจ็ดเล่มไปบนตัวของเหล่าฟ่าน เหลิ่งซวงมองตำแหน่งของเข็มทั้งเจ็ดแล้วก็เริ่มงุนงงจากนั้นสีหน้าก็เต็มไปด้วยความยินดี
“นี่แค่ก้าวแรก สารอาหารของเซลล์เนื้องอกถูกตัดขาดแล้วต่อไปเซลล์เนื้องอกก็จะค่อยๆ หายไปถึงแม้จะไม่ผ่าตัด แต่ว่านานมากกว่าจะหายไปกระบวนการก็ทรมานมากด้วย” ตอนที่กัวไฮว่อธิบายให้เหลิ่งซวงฟังอยู่นั้นหลิวเย่าซือก็จัดยาเสร็จและนำกลับมาพอดี
“ให้เซลล์เนื้องอกได้ดูดซึมยาหน่อย ให้พวกมันละลายเหลือศูนย์จากนั้นก็ค่อยๆ จัดการพวกมัน” กัวไฮว่พูดยิ้มๆเขายื่นมือไปหยิบผงยาที่ทำมาเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ฝังเข็มไปบนตัวเหล่าฟ่านอีกครั้งจากนั้นก็ผสมผงยาเข้ากับน้ำ จากนั้นก็นำเข้าไปในกายของเหล่าฟ่านตามเข็มที่ฝัง
“เหล่าฟ่าน รู้สึกไม่สบายท้องนิดหน่อยใช่ไหม เดี๋ยวก็จะดีขึ้นแล้วล่ะไม่ต้องกังวลไปหรอก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ซือซือคนสวย เธอก็ไม่ต้องกังวลนะ ถึงในยาที่ให้เธอไปเอามาจะมียาพิษอยู่แต่วิธีใช้พิษดับพิษก็มีมาั้แ่โบราณแล้ว”
กัวไฮว่มองยาที่ซึมเข้าไปในร่างกายเหล่าฟ่านทีละหยดๆก็ยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อยสิ่งที่บรรพบุรุษเหลือทิ้งไว้ให้จะไปแพ้การแพทย์แผนปัจจุบันที่พัฒนาเป็หลายร้อยปีได้ยังไงกัน
“เหล่าฟ่าน ใส่เสื้อเถอะ ออกจากประตูนี่แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงนั้นมีห้องน้ำอยู่ไปจัดการเื่ส่วนตัวเถอะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เย่าซือคนสวย น่าจะต้มยาเสร็จแล้วล่ะ เธอไปเอามาหน่อยสิ”
หลิวเย่าซือผงกศีรษะเล็กน้อยจากนั้นเธอก็หมุนตัววิ่งไปยังสถานที่ต้มยา
“กัวไฮว่ พูดตามตรงนะ จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่เชื่อเลยว่านายจะรักษาผู้ป่วยเนื้องอกให้หายดีได้เพราะว่านายเด็กมากเลย ถึงฉันจะแก่กว่านายไม่กี่ปีแต่นับั้แ่ที่ฉันได้ัักับการแพทย์แผนโบราณ ฉันก็รู้ว่าฉันมีพร์ธรรมดาๆแต่ฉันไม่คิดเลยว่านายจะเก่งกว่าฉันอีก” เหลิ่งซวงมองกัวไฮว่พร้อมกับพูดยิ้มๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้