หุ่นไม้ที่เอาไว้ซ้อมมวยพวกนี้ใช้ฝึกความสมดุลของร่างกายเวลาออกหมัด เห็นฉินหลางเดินมาหยุดอยู่หน้าหุ่นไม้ ทุกคนต่างก็คิดว่าเขาจะเข้าไปต่อยสักชุด แต่คิดไม่ถึงว่าฉินหลางกลับมาหยุดอยู่หน้าหุ่นไม้เฉยๆ ในขณะที่ทุกคนกำลังงงอยู่นั้น จู่ๆ ฉินหลางก็เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ได้ยินเพียงเสียง ‘ปึง’ ดังขึ้น พร้อมกับพื้นปูนใต้เท้าฉินหลางที่แข็งแรงมากๆ กลายเป็รอยแตก และยุบลงไปเป็รอยเท้าลึกประมาณ 3-4 นิ้ว
“ดี!” ผู้คนที่มุงดูอยู่ใร้องออกมาเป็เสียงเดียวกัน แต่ทุกคนต่างก็รู้ว่าที่น่าใจริงๆ ยังอยู่ข้างหลัง ดังนั้นพูดว่าดีแล้วทุกคนก็เงียบ แล้วรอดูฝีมือของฉินหลางด้วยความตื่นเต้น
ปึงๆ! ปึงๆๆ!
ฉินหลางลงมือแล้วจริงๆ ด้วย แต่เขาไม่ได้ใช้กำปั้น เขาใช้ฝ่ามือแทน! มีดตั๊กแตน!
คนจำนวนมากคิดว่าฝ่ามือรุนแรงไม่เท่ากำปั้น สำหรับคนทั่วไปแล้วเป็อย่างนั้นจริง แต่สำหรับผู้ฝึกวรยุทธ์ที่แท้จริงกลับไม่เสมอไป เพราะไม่ว่าจะเป็ฝ่ามือ หลังมือ นิ้วมือหรือกรงเล็บ ทุกกระบวนท่า ทุกๆ การโจมตีล้วนมีพละกำลัง และความรุนแรงมหาศาลซ่อนอยู่ ถ้าไม่อย่างนั้นคนจีนคงไม่ต้องคิดค้นวรยุทธ์ออกมาหลากหลายรูปแบบขนาดนี้แล้ว คิดค้นแค่กำปั้นอย่างเดียวไม่ดีกว่าเหรอ ฝ่ามือมีดของฉินหลาง ถึงแม้มือจะเป็เนื้อ แต่ความรู้สึกที่ให้นั้น กลับรุนแรงยิ่งกว่ามีดจริงๆ ซะอีก เพราะฝ่ามือมีดของฉินหลางฟันลงไปบนท่อนหุ่นไม้หนาๆ หุ่นไม้ก็ะเิ หรือขาดออกจากกันทันที ทุกคนต่างก็รู้สึกได้ถึงความรุนแรงของมัน
ทุกครั้งที่ฝ่ามือมีดฟันลงไป หุ่นไม้ก็จะะเิหนึ่งครั้ง เสียงดังสนั่นบวกกับท่อนไม้ที่บินว่อน ทำให้คนมองตื่นเต้นมากจริงๆ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างก็ตกตะลึงกับการแสดงของฉินหลาง
เมื่อก่อนเคยเห็นเพียงคนที่เอาฝ่ามือฟันท่อนไม้หรือแผ่นไม้ แต่เมื่อมาเห็นการแสดงของฉินหลางแล้ว ที่เคยเห็นมาก่อนก็กลายเป็การแสดงของเด็กเล็กมาเจอกับการแสดงของผู้ใหญ่ คนจำนวนมากเริ่มคำนวณ ว่าถ้าฝ่ามือมีดของฉินหลางฟันลงบนตัวคน ขนาดกระดูกยังถูกฟันก็หักเลยรึเปล่า?
ผ่านไปเพียงชั่วครู่ หุ่นไม้ทั้ง 30 ต้นถูกฉินหลางฟันจนแตก หักจนหมดแล้ว ในขณะที่หุ่นไม้ตัวสุดท้ายะเิออกนั้น ฉินหลางมาถึงข้างกระสอบทรายแล้ว จู่ๆ ขวาของฉินหลางก็ยกขึ้นแล้วเหวี่ยงออกไปราวกับพายุ รวดเร็วราวสายฟ้า ฟาดลงบนกระสอบทรายอย่างรุนแรง
ปึง!
เม็ดทรายกระจายไปทั่ว!
กระสอบทรายสองชั้นถูกฉินหลางเตะทีเดียวก็ะเิแล้ว!
ในขณะที่ตอนนี้การแสดงของฉินหลางจบลงแล้ว
ผ่านไปสักพัก กว่าเสียงปรบมือจะดังขั้น ไม่ใช่เพียงฮานซานฉางกับพวกกระทิงเท่านั้นที่ยืนอึ้งเพราะฝีมือของฉินหลาง ขนาดซีเจิ้งเหว่ยและครูฝึกคนอื่นๆ ก็ถูกฝีมือของฉินหลางสะกดไว้เหมือนกัน ฝ่ามือมีดของฉินหลาง แข็งแกร่งและรุนแรงไร้ผู้เทียมทาน! และเตะสุดท้าย ก็คล่องแคล่วจนมองแทบไม่ทัน ที่สำคัญที่สุดคือขนาดครูฝึกยังมองไม่ทันเห็นเลยว่าฉินหลางเตะอย่างไร!
“พี่น้องทุกคนไม่ต้องอิจฉาหรอก วรยุทธ์มาจากการฝึกซ้อมทั้งนั้น ขอแค่พวกนายตั้งใจฝึกซ้อม ก็จะต้องเก่งมากขึ้นแน่ๆ!” ฉินหลางรู้ว่าหลังจากแสดงฝีมือให้ทุกคนเห็นแล้ว ลูกน้องพวกนี้ของฮานซานฉางและกระทิง ต่อไปไม่มีใครจะสงสัยในความสามารถของเขาอีกแล้ว และต่อไปถ้าเจอเขา จะต้องอ่อนน้อมถ่อมตนแน่ เพราะคนพวกนี้เข้าใจแล้วว่า ฉินหลางไม่ได้มีแค่ตำแหน่งเท่านั้น เขามีความสามารถมากกว่าด้วย!
จากนั้นฉินหลางก็พาฮานซานฉางกับกระทิงไปประชุม
ครูฝึกที่อยู่ข้างๆ ซีเจิ้งเหว่ยกระซิบบอกซีเจิ้งเหว่ยว่า “นี่! วรยุทธ์ของเ้าเด็กคนนี้ เขาฝึกยังไง? ไม่เหมือนคนแล้ว ต่อให้เป็หม่าเจินหย่งก็ยังมีวรยุทธ์สูงไม่เท่าเขาเลย ฉันว่าในหน่วยของพวกเรา คนที่จะสู้กับเ้าเด็กนี่ด้วยมือเปล่าได้ มีไม่ถึงสิบคนแน่นอน!”
“ใช่! มีเพียง ‘เย่คนคลั่ง’ พวกคลั่งแบบเหนืุ์เท่านั้น ที่จะสามารถสู้กับเ้าเด็กคนนี้!” ครูฝึกอีกคนพูดเสริม
ซีเจิ้งเหว่ยพยักหน้า “เย่คนคลั่งชนะเขาได้จริงๆ เพียงแต่พวกนายอย่าลืมว่าเย่คนคลั่งโตกว่าฉินหลางตั้งหลายปี รอให้เ้าเด็กนี่อายุเท่าเย่คนคลั่ง น่าจะคลั่งยิ่งกว่าเย่คนคลั่งอีก!”
“มันก็จริง!” คนอื่นๆ ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
ในขณะที่พวกซีเจิ้งเหว่ยกำลังวิเคราะห์ความสามารถของฉินหลางอยู่นั้น ฉินหลางกับฮานซานฉาง และกระทิงก็เริ่มหารือกันแล้วว่าจะจัดการกับพวกแก๊งชิงหวนที่เหลือยังไง
“พี่ฉิน ก่อนหน้านี้ผมก็บอกแล้ว ในเมื่อพี่ฆ่าชิงเฮ่อหยุนพ่อลูกไปแล้ว พวกเราก็ควรจะรีบลงมือ รับ่กิจการของแก๊งชิงหวนเลย ก็สิ้นเื่แล้วไม่ใช่เหรอ? ลงมือตอนนี้ มันสายเกินไปรึเปล่า?” กระทิงถามขึ้น
“แก๊งชิงหวนไม่ได้มีแค่ชิงเฮ่อหยุนคนเดียวซะหน่อย ต่อให้ชิงเฮ่อหยุนตายแล้ว หัวหน้ากลุ่มต่างๆ ในแก๊งชิงหวน ก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ แล้วอีกอย่างอิทธิพลของแก๊งชิงหวนครอบคลุมหลายพื้นที่ ตอนนั้นพวกเรากำลังรวบรวมพื้นที่ในเมืองเซี่ยหยางอยู่ จะทำทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ยังไง?” ฮานซานฉางแจกแจง
ฉินหลางพยักหน้า ดูแล้วฮานซานฉางมีสมองมากกว่ากระทิง จากนั้นฉินหลางรับคำของฮานซานฉางพลางพูดต่อว่า “อาฉางพูดถูก ตอนนั้นเรายังมีกำลังมากพอ แต่ถ้าเราลงมือตอนนี้ละก็ เราจะมีโอกาสชนะมากกว่าเยอะเลย เพราะหลังจากชิงเฮ่อหยุนตายไปแล้ว แก๊งชิงหวนก็ขาดผู้นำ สองสามวันมานี้หัวหน้ากลุ่มต่างๆ ในแก๊งชิงหวนทะเลาะกันเอง เพื่อแย่งกันเป็หัวหน้าแก๊ง การทะเลาะกันเองภายในทำให้พวกมันอ่อนแอลงมาก และที่สำคัญความแค้นได้ก่อตัวแล้ว คนในแก๊งไม่มีทางสามัคคีเหมือนเดิมอีกแล้ว ดังนั้นเราลงมือเวลานี้เป็เวลาที่เหมาะสมที่สุด”
“พวกนายต้องจำไว้ ว่าพวกเราทำเพื่อรับ่กิจการของแก๊งชิงหวน ไม่ได้ทำเพื่อให้เป็ข่าวใหญ่โต ครั้งนี้พวกเราจะต้องทำให้ดีกว่าครั้งที่จัดการจางสางเลี๋ยง!”
“พี่ฉินบอกอะไร พวกเราทำตามก็พอ!” กระทิงพยักหน้าพลางกล่าว
“งั้นก็ดี อาฉางนายกับกระทิง พาคนทั้งหมดของพวกเราไปอำเภอหนานผิง จำไว้ ว่าพี่น้องทั้งหมดนะ! แล้วที่สำคัญ คนที่ไปถึงก่อน ห้ามเคลื่อนไหวก่อนเด็ดขาด ถ้าใครก่อความวุ่นวาย ได้เจอดีกันแน่!” ฉินหลางสั่งการ
แก๊งชิงหวนกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ในอำเภอหนานผิง ถ้าจะตัดรากถอนโคน นี่เป็สิ่งที่นายกเทศมนตรีเมืองเซี่ยหยางทุกรุ่นไม่เคยมีใครจัดการแก๊งชิงหวนได้เลย เพราะมันคลอบคลุมหลายพื้นที่เกินไป ถ้าไม่ระวังก็จะทำให้ตัวเองหมดอนาคตไปด้วย ฉินหลางอยากจะตัดรากถอนโคนแก๊งชิงหวนก็ไม่ใช่เื่ง่ายเช่นเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงจะใช้วิธีเขียนเสือให้วัวกลัว เชือดไก่ให้ลิงดู อำเภอหนานผิงเป็ฐานอำนาจของแก๊งชิงหวน และเป็ที่ที่แก๊งชิงหวนแข็งแกร่งมากที่สุดด้วย ขอแค่ฉินหลางยึดอำเภอหนานผิงได้แล้ว อำเภออื่นก็จะไม่กล้าสร้างเื่อีก
เพียงแต่ก่อนไปฉินหลางตระหนักได้ว่าตัวเองขาดเรียนมากเกินไปแล้ว ควรจะโทรไปลากับเถารั่วเซี่ยงก่อน!
ฉินหลางไม่จำเป็ต้องลากับซุนปอก็ได้ แต่เขาจำเป็ที่จะต้องลากับเถารั่วเซียง ไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ ที่สร้างมาด้วยความยากลำบาก ก็จะกลับไปเป็เหมือนเดิมอีก
ดังนั้นฉินหลางจึงโทรไปหาเถารั่วเซียง หลังจากที่เธอรับสาย เขาก็เสียใจทันที เพราะว่าทันทีที่เธอรับสาย ก็ได้ยินเสียงเถารั่วเซียงตวาดด้วยความโมโหทันที “ฉินหลางที่สมควรตาย! นายไปตายที่ไหนอีกแล้ว—”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้