เฉินเฟิงไม่สนใจเสียงซุบซิบนินทาหรือสายตาเคลือบแคลงของผู้คน
พวกเขาหัวเราะเยาะ เพราะคิดว่าเขาโง่ แต่เขากลับหัวเราะเยาะทุกคนกลับ เพราะพวกเขาต่างหากที่โง่!
เฉินเฟิงทำการชำระเงินห้าล้านหยวนทันทีเมื่อเขาชนะการประมูล และแล้วกรรมสิทธิ์การพัฒนาโครงการทั้งหมดของที่ดินแปลงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดห้าตารางกิโลเมตรแถบชานเมืองโม๋ตูก็ตกเป็ของเขาอย่างเป็ทางการ
โครงการนี้มอบหมายโดยสำนักงานที่ดิน เป้าหมายโครงการคือสร้างอาคารชุดเพื่อเป็เขตแดนของเมือง โดยมีระยะเวลาครึ่งปีเป็เส้นตาย
โครงการแบ่งเขตระหว่างชนบทและตัวเมือง!
พื้นที่แปลงสี่เหลี่ยมจัตุรัสห้าตารางกิโลเมตรนั้น เป็พื้นที่แคบยาวที่แปลกมาก ราวกับว่าสามารถโอบล้อมชานเมืองทั้งหมดไว้ได้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครประมูลโครงการนี้
ขนาดสำนักงานกับปี้ตี้กรุ๊ปเองยังจงใจขายสิทธิ์การพัฒนาถึงครึ่ง
มาตอนนี้ลูกเศรษฐีไม่เอาอ่าวอย่างเฉินเฟิงกลับเต็มใจจ่ายเงินห้าล้านหยวน ทั้งสำนักงานที่ดินและปี้ตี้กรุ๊ปต่างรู้สึกยินดีเป็อย่างยิ่งที่เฉินเฟิงขอซื้อสิทธิ์การพัฒนาทั้งหมดไป
หากเฉินเฟิงพัฒนาไม่สำเร็จ อย่างแรกเขาคงไม่กล้าเสนอหน้ามาสำนักงานที่ดินอีกต่อไป
สอง เงินห้าล้านหยวนของเขาจะสูญเปล่า กลายเป็คนขาดทุนย่อยยับ!
เมื่อเฉินเฟิงเห็นพ่อลูกสกุลฮูหัวเราะเยาะเขาอย่างโจ่งแจ้ง เขาจึงโบกสัญญาในมือ พร้อมท้าทายด้วยน้ำเสียงเ็า
"กล้าพนันกับผมไหม พวกคุณจะไม่สามารถพัฒนาโครงการตึกคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ได้ แต่โครงการขยะที่ไม่มีใครเห็นค่าของผมนี่ ผมจะขายดีภายในหกเดือนนับจากนี้!" แม้เสียงของเฉินเฟิงจะไม่ดังมาก แต่ประธานบริษัทอสังหาฯ ในงานต่างได้ยินชัดเจน
ทันใดนั้นพวกเขาก็หัวเราะอีกครั้ง หัวเราะเฉินเฟิงผู้ไม่รู้จักประเมินตน เพราะโครงการอาคารวิทยาการคอมพิวเตอร์นั้นถูกบริษัทอสังหาของตระกูลฮูประมูลไป อีกทั้งยังเป็การประมูลในนามรองผู้อำนวยการมหาวิทยาลัย ทั้งหมดทั้งมวลแทบเป็ไปไม่ได้เลยที่จะไม่ประสบความสำเร็จ
แม้แต่ประธานปี้ตี้อย่างจางอวี่เลี่ยงยังไม่อยากเชื่อในเื่ที่ได้ยิน เขาเดินเข้าร่วมวงด้วยความสงสัยเกี่ยวกับคำท้าทายของเฉินเฟิง
เขาค่อนข้างสนใจการเดิมพันของเฉินเฟิง
พวกเขาหยุดหัวเราะเมื่อเห็นจางอวี่เลี่ยงเดินเข้ามาใกล้ และยืนรอฟังคำตำหนิติเตียนจากผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการคนนี้ว่า เขาจะสั่งสอนเฉินเฟิงยังไง
แต่สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงคือ จางอวี่เลี่ยงกลับพูดกับเฉินเฟิงด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"พ่อหนุ่ม คิดยังไงกับโครงการที่เพิ่งประมูลได้เมื่อสักครู่? รู้ใช่ไหมว่าแม้แต่ปี้ตี้กรุ๊ปของฉัน หรือสำนักงานที่ดินยังไม่มั่นใจว่าจะพัฒนาโครงการนี้ให้ดีได้ นั่นเป็เหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงนำสิทธิ์การพัฒนาครึ่งหนึ่งออกมาประมูล ซึ่งมันต่างจากโครงการอื่นๆ ที่ทุกคนแย่งชิงกัน อย่างมากที่สุด พวกเราก็นำสิทธิ์การพัฒนาออกมาประมูลแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์นะ!"
เฉินเฟิงยิ้มอ่อน
"ประธานจาง เหมือนว่าคุณไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของผมมาก่อน ตอนนี้ผมเป็ผู้ถือหุ้นลำดับที่สองของเฉียนต๋ากรุ๊ปกับปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ป ผมมีหุ้นของทั้งสองบริษัทถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์
ผมคิดว่าปี้ตี้กรุ๊ปของคุณเองก็มีอนาคตสดใสมากเช่นกัน ดังนั้นผม้าใช้หุ้นทั้งหมดของสองบริษัทที่ผมมีอยู่เดิมพันกับหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของปี้ตี้กรุ๊ป
ภายใน 20 ปีนี้ ผมจะทำให้ปี้ตี้กรุ๊ปมีสินทรัพย์สุทธิหนึ่งล้านล้านหยวน ถ้าผมทำไม่ได้ ผมจะยกหุ้นทั้งหมดให้คุณ แต่ถ้าผมทำได้ ปี้ตี้กรุ๊ปของคุณต้องยกหุ้นให้ผมยี่สิบเปอร์เซ็นต์
หลังจากเซ็นสัญญาการพนันแล้ว คุณต้องให้หุ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ แก่ผมทันที หลังจากนั้นค่อยๆ เพิ่มขึ้นปีละหนึ่งเปอร์เซ็นต์
เมื่อครบยี่สิบเปอร์เซ็นต์ หรือก็คือ 20 ปี ถึงเวลานั้นถ้าผมแพ้ ผมจะคืนหุ้นทั้งหมดรวมกับหุ้นเฉียนต๋ากรุ๊ปและปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ปให้คุณตามที่ว่ามา แต่ถ้าผมชนะ หุ้นนั่นจะเป็ของผมอย่างเป็ทางการ!"
พูดได้ว่าคำพูดของเฉินเฟิงตอนนี้ เป็การโยนหินก้อนใหญ่ลงแม่น้ำที่เกิดเป็คลื่นนับพันเสียแล้ว
ผู้คนรอบข้างเงียบกริบด้วยความตกตะลึง กลายเป็ว่าชายหนุ่มคนนี้คือผู้ถือหุ้นของบริษัทอสังหาฯ ขนาดใหญ่ถึงสองแห่ง เช้าวันนี้ทั้งเฉียนต๋ากรุ๊ปและปี้หลงเยี่ยนกรุ๊ปประกาศอย่างพร้อมเพรียงกันว่าบริษัทมีผู้ถือหุ้นคนใหม่ ข้อมูลมีเพียงว่าผู้ถือหุ้นรายนี้อายุน้อย ไม่รู้ที่มาที่ไป และมีนามสกุลว่า เฉิน
