ช่วยเลือกให้ฉันแล้วสองก้อน?
เป่าเจียเหลือบสายตามองไปยังก้อนหินทั้งสี่ก้อนที่ถูกหลินลั่วหรานวางเอาไว้ที่ข้างเท้าของตนเองโดยที่ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี ช่างมันเถอะ หนึ่งพันแลกกับความสุขเล็กน้อยก็คงไม่เป็ไร เมื่อคิดได้ดังนี้ ก็หยิบเงินกว่าสองพันหยวนออกมาจากกระเป๋าหนังเพื่อจะจ่ายในส่วนของหลินลั่วหรานด้วย
แต่หลินลั่วหรานกลับเอาแต่ยิ้มและไม่ได้รับเงินจากเธอไปแต่อย่างใด
เป่าเจียได้แต่สบถออกมาด้วยความหงุดหงิดเธอที่เข้าใจหลินลั่วหรานดี ทำได้เพียงแค่เก็บเงินลงไปตามเดิม
หลังจากนั้นหลินลั่วหรานก็วิ่งตรงไปหาพ่อค้าจางเพื่อจัดการโอนเงินให้เสร็จสรรพ เป่าเจียมองไปยังก้อนหินขนาดลูกแตงโมที่ข้างเท้าของตัวเอง ก่อนจะรู้สึกช่วยไม่ได้ขึ้นมา
“ตาดีนี่สาวสวยเลือกมาแต่ก้อนที่กลมสวยเชียวนะ!” พ่อค้าจางมองไปยังเหล่าก้อนหินที่ถูกหลินลั่วหรานเลือกออกมาพร้อมกับแสดงความเห็นแบบเป็กลางออกมา
ผู้คนต่างพากันยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูไม่ได้หัวเราะเยาะแต่อย่างใด เป็สาวสวยก็มีข้อดีแบบนี้ล่ะ
แก้มทั้งสองของหลินลั่วหรานเปล่งสีขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะรีบวิ่งไปหาเป่าเจีย
“พวกเราผ่ากันที่นี่เถอะกลับไปก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”
เป่าเจียกลอกตาไปรอบๆสงสัยว่าวันนี้จะต้องขายขี้หน้าไปพร้อมกับเพื่อนรักเสียแล้ว ก้อนหยกราคาห้าร้อยมันจะผ่าอะไรออกมาได้กันนะ แม้จะคิดแบบนั้นแต่เป่าเจียก็ยังคงช่วยหลินลั่วหรานเคลื่อนย้ายหินเ่าั้อยู่ดี
หลินลั่วหรานรู้สึกว่า่นี้เธอมีแรงมากขึ้นพอสมควรเธอถือก้อนแร่เอาไว้ข้างละหนึ่งก้อน โดยไม่ได้รู้สึกหนักอะไรมากมายนักเป่าเจียที่สะพายกระเป๋าเอาไว้ข้างหนึ่งก็เหลือมือเพียงข้างเดียวในการประคองก้อนแร่เอาไว้เช่นกัน
คุณนายซุยที่อยู่ด้านหน้าเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้น “ไอ๊หยาพวกผู้ชายตัวใหญ่พวกนี้ ยังยืนมองปล่อยให้สาวน้อยตัวเล็กๆทั้งสองแบกก้อนหินได้อยู่อีก!” เธอพูดถึงก้อนหินที่ยังคงเหลือวางทิ้งไว้อีกหนึ่งก้อนของเป่าเจียนั่นเองคำพูดของเธอทำเอาผู้ชายที่ยืนอยู่รอบบริเวณถึงกับเหงื่อตก
ตรงที่ขายก้อนแร่มีอุปกรณ์ตัดอยู่หลินลั่วหรานวางก้อนหินทั้งสองของตัวเองลงก่อนจะรู้สึกว่าถึงคุณนายซุยจะรูปร่างอวบอ้วน ผิวพรรณคล้ำดำหากแต่ก็เป็คนใจดีคนหนึ่ง
เป่าเจียส่งรอยยิ้มแทนคำขอบคุณให้แก่คุณนายซุยกิจการของคุณนายซุยนั้นใหญ่โต เธอคงไม่คิดจะหาเศษหาเลยอะไรกับผู้หญิงบ้านๆอย่างพวกเธอสองคน เพราะแบบนั้นแน่นอนว่าเธอคงจะตั้งใจช่วยด้วยจิตใจบริสุทธิ์
ผู้คนต่างโดนคำพูดของคุณนายซุยทำเอารู้สึกผิดจึงเรียกร้องให้พ่อค้าจางมาช่วยจัดการก้อนแร่นี้ให้กับสาวน้อยทั้งสอง
หลินลั่วหรานเข้าใจก้อนแร่ที่ตัวเองเลือกมาดีมันคือก้อนหินขนาดเท่าลูกแตงโมก้อนหนึ่ง หากหัวหน้าจางผ่ากลางแบ่งครึ่งมันนั่นคงจะไม่ต้องเหลืออะไรกันแล้ว
ในระหว่างที่เธอกำลังจะเข้าไปคุยกับพ่อค้าจางหลิ่วเจิงก็เดินออกมาจากห้องปฏิบัติการ เมื่อเห็นว่าพวกเธอยืนล้อมกันอยู่จึงส่งสายตามองมา “ยังอยู่กันอีกเหรอ?”
เป่าเจียเหลือบมองเขาเล็กน้อย “ฉันกับหลินลั่วหรานกำลังหั่นหินเล่นกันอยู่น่ะ” เธอไม่ค่อยอยากจะพูดนักว่า กำลังจะมาเปิดแร่
แต่หลินลั่วหรานไม่ได้สนใจอะไรมากนักเมื่อมองเห็นหลิ่วเจิงกำลังเดินเข้ามา เธอก็พูดออกมาด้วยความรื่นเริง “คุณหลิ่วไม่ทราบว่าคุณรับซื้อแร่หยกไหมคะ?”
หลิ่วเจิงยังไม่ทันได้พูดอะไรไอลี่กับหลี่อันผิงก็เดินตามติดออกมา
ไอลี่เองก็มาเปิดแร่เหมือนกัน่นี้ราคาแร่หยกกำลังพุ่งขึ้นสูง หากจะซื้อหยกโดยตรง หลายๆ บริษัทเองก็รับไม่ไหวที่สำคัญไปกว่านั้นคือหาซื้อไม่ได้ แม้การพนันหยกจะมีปัจจัยไม่แน่นอนมากมาย แต่ก็เป็ทางที่บริษัทอัญมณีหลายๆที่เลือกใช้แก้ปัญหา ครั้งนี้ฝูหม่านโหลวเองก็สั่งก้อนแร่ไปแล้วหนึ่งล็อตแต่วันนี้เธอกลับยังไม่เจอหยกเลยแม้แต่น้อย เงินกว่าสิบล้านเสียไปโดยไม่ได้อะไรเป็ใครก็โมโหกันทั้งนั้น
และยิ่งเมื่อเห็นผู้หญิงโกโรโกโสอย่างหลินลั่วหรานและคนที่ฉีกหน้าเธอกลางสาธารณชนอย่างฉินเป่าเจียอารมณ์โมโหร้อนของเธอก็ยิ่งปะทุออกมา!
“ก้อนหินราคาสองแสนสี่ด้านในยังเป็สีขาวไปทั่วทั้งก้อน แล้วหินราคาห้าร้อยมันจะไปเจอหยกได้ยังไง? เธอคิดว่าหยกเป็ของไร้ราคาเหมือนกับดินโคลนบ้านเกิดของเธอ ที่หาได้ที่ไหนก็ได้หรือไง?”
ไอลี่ยกมุมปากของเธอขึ้น อย่างยิ่งยโส
หลินลั่วหรานไม่ได้ตอบกลับอะไรแต่คำพูดนี้กลับทำให้พ่อค้าจางรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา แม้ว่าใครๆต่างก็รู้กันว่าก้อนหินราคาห้าร้อย ตัดออกมาแล้วก็แค่เพื่อความสนุกเท่านั้นแต่การที่ไอลี่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่ากำลังบอกว่าก้อนแร่ของเขานั้นคุณภาพแย่อย่างนั้นเหรอ? ก้อนแร่ของพ่อค้าจางรอบนี้เปอร์เซ็นต์การเจอหยกไม่ได้สูงนักยิ่งพอมีคนมาพูดแบบนี้ จึงรู้สึกไม่พอใจเท่าไร
แม้ว่าฝู่หม่านโหลวจะเป็ธุรกิจใหญ่โตแต่ผู้คนที่อยู่ที่นี่ต่างก็เป็คนทำงานด้านอัญมณีและก็ถือได้ว่าเป็คู่แข่งกันทั้งนั้น แถมไม่ต้องมองสีหน้าของไอลี่ในใจผู้คนส่วนมากต่างก็ไม่ได้ชอบใจกับคำพูดเชือดเฉือนของเธอนัก
ทุกคนต่างคิดไปในทางเดียวกันทั้งนั้นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หันมาทางเป่าเจียและหลินลั่วหรานอย่างไม่รู้ตัว
“สาวสวย วันนี้ยังสนุกไม่พอเลยหากไอ้เ้าหินราคาห้าร้อยนี่ตัดออกมาแล้วเจอหยกจริง จะขายให้ฉันได้ไหม?”
เสี่ยซุยยกยิ้ม ใบหน้าของเต็มไปด้วยรอยย่นในเวลาแบบนี้มองดูแล้วน่ารักดีเหมือนกัน หลินลั่วหรานที่กำลังดูถูกตัวเองเมื่อเห็นว่ามีคนกำลังพูดช่วยเธอก็มองเขาเปลี่ยนไปในทันที
“ฉันสกุลหลินเพื่อนของฉันเป่าเจีย พวกคุณน่าจะรู้จักกันนะ” เมื่อโดนเรียกว่า “สาวสวย” มาโดยตลอดหลินลั่วหรานจึงกล่าวแนะนำตัวเอง
เสี่ยซุยพยักหน้ารับ “รู้จักสิ รู้จัก ดีไซเนอร์ดังอย่างดีไซเนอร์ฉินใครจะไม่รู้จัก ถูกไหมที่รัก?” ไอลี่เพิ่งจะพูดออกมาว่าหินราคาห้าร้อยไม่มีทางเจอหยกได้แน่แต่เสี่ยซุยกลับพูดว่าจะซื้อแร่หยกที่ถูกตัดออกมาเสียแบบนั้นไม่เพียงแต่ช่วยแก้สถานการณ์ให้หลินลั่วหราน แต่ยังถามความเห็นของภรรยาตัวเองด้วย
คุณนายซุยมองค้อนเขาเล็กน้อย ทุกคนจึงพากันยิ้มออกเห็นได้ชัดว่าเวลาพนันหยกก็เป็เื่ของการพนันหยกแต่เวลาอื่นกลับใจดีและเป็มิตรมาก
ไอลี่ยังมีคำพูดที่อยากจะพูดอีกมากแต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครสนใจเธอแม้แต่น้อยเธอจึงบีบแขนของหลี่อันผิงจนแขนของเขาเกือบช้ำ ก่อนจะพูดต่อออกมาด้วยความโมโห “พวกเราอยู่ดูกันหน่อยดีกว่าถ้าเงินห้าร้อยสามารถเจอหยกได้จริงสงสัยว่าหลังจากนี้คุณหลินคงจะได้เป็มือแห่งเทพของวงการหยกแล้วล่ะ!”
เทพสามารถแยกแยะหยกได้ด้วยหรือนี่มันหลอกด่ากันชัดๆ แต่ในตอนนี้หลินลั่วหรานี้เีจะต่อล้อต่อเถียงกับเธออย่างไรความจริงมันก็ชัดเจนกว่าคำพูดอยู่ดีเอาหยกมาวางต่อหน้าเธอแล้วค่อยพูดก็ยังไม่สาย
“คุณหลินไม่ทราบว่าหินสองก้อนนี้จะตัดหรือจะขัดดี?”
“แน่นอนว่าต้องตัดค่ะเดี๋ยวฉันบอกว่าตัดตรงไหน แล้วพ่อค้าจางก็ช่วยตัดให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?” หลินลั่วหรานแสดงท่าทางประหลาดใจเหมือนเด็กๆก่อนจะหยิบปากกาที่คุณนายซุยส่งมาให้ เพื่อใช้ในการขีดเส้นแบ่งลงบน “แตงโมหิน” เป็อัตราส่วนสองในสาม
พ่อค้าจางตอบตกลงก่อนจะจัดการตัดลงบนเส้นที่หลินลั่วหรานกำหนดอย่างแม่นยำ
“ครืดๆ...” ใบมีดที่อยู่บนก้อนแร่ ส่งเสียงดังเสียดหูขึ้นมาก่อนที่ฝุ่นของก้อนหินจะกระจายคละคลุ้งไปทั่ว
จากที่ตอนแรกก็ไม่ได้มีใครคาดหวังอะไรกับก้อนหินราคาห้าร้อยนักพูดกันตามตรงแล้ว ยืนมองสองสาวสวยตรงนี้ยังดีกว่า! แต่หลังจากได้ยินคำพูดถากถางของไอลี่ผู้คนต่างก็หวังให้หินของหลินลั่วหรานก้อนนี้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น หากเจอหยกขึ้นมาจะได้เป็การตบหน้าของคุณหนูแห่งฝูหม่านโหลวคนนี้สักที
คนที่เป็เ้าของก้อนหินอย่างหลินลั่วหรานก็รู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อย ไม่ว่าผู้คนจะอยากให้เจอหรือไม่เจอหยก มันก็เป็เื่ของหลังจากนี้อยู่ดี
เมื่อเสียงดังของการตัดหยุดลงก้อนแร่ถูกแบ่งออกเป็สองส่วนผู้คนทั่วทั้งบริเวณต่างพากันมองไปยังฝั่งก้อนที่ใหญ่กว่าตามความเคยชิน ขาวสนิทหินก้อนนี้มันไม่มีทางเจอหยกได้อยู่แล้ว!
ผู้คนต่างก็รู้กันทั้งนั้นว่าไม่ควรจะคาดหวังอะไรแต่ไม่รู้ทำไมเวลานี้พวกเขากลับพากันผิดหวัง
มีเพียงไอลี่เท่านั้นที่ฉีกยิ้มออกมา “คนจนไม่ได้ตลกหรอกนะแต่การฝันกลางวันว่าจะสามารถรวยขึ้นมาได้ในพริบตาต่างหาก ที่น่าตลก”
หลินลั่วหรานยังไม่ทันได้พูดอะไรพ่อค้าจางก็เงยหน้าขึ้นมาพูดเสียก่อน “คุณไอไม่ควรจะพูดมั่วๆ นะครับหินของคุณหลินก้อนนี้...เจอหยกแล้ว!”
เห็นกันอยู่ว่าเป็สีขาวทั่วทั้งก้อนแต่ทำไมพ่อค้าจางถึงบอกว่าเจอแล้วกันล่ะ?