Chapter 8
คนตัวสูงกดรีโมตที่อยู่ในมือเมื่อเดินมาถึงบริเวณประตูรั้วเหล็กขนาดใหญ่ ก่อนที่ประตูรั้วจะเลื่อนเปิดอัตโนมัติ และเป็ในตอนนี้ที่เรียวเห็นเพื่อนสนิทยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าบ้าน
“ขับรถเข้ามาจอดในบ้านกูดิ”
“ไม่เป็ไร จอดข้างนอกแหละ”
“ตามใจ”
เฮียสาวเท้าเข้ามาในบ้าน ก่อนจะกวาดสายตามองที่สวนหน้าบ้าน “น้องแสนดียังไม่มาเหรอ?”
“มาแล้ว วันนี้เขาไม่อยากนั่งเล่นที่สวนหน้าบ้าน พี่เลี้ยงก็เลยพาไปนั่งเล่นที่สวนหลังบ้านแทน”
“อ๋อ...งั้นกูขอไปหาน้องแสนดีก่อนนะ”
คนตัวสูงน้อยกว่าเขาเตรียมสาวเท้าเดินทันทีที่พูดจบ เหมือนว่าหัวใจของเพื่อนสนิทจะจดจ่ออยู่แต่กับหลานของเขา เรียวจึงเอื้อมมือไปรั้งแขนอีกฝ่ายไว้ก่อน
“เฮ้ย เดี๋ยวดิ”
“...”
“อะไรอะ? ...มาถึงก็ร้องหาแสนดีเลย”
“...”
“แล้วคนดีอย่างกูอะมึงไม่สนใจบ้างเหรอ?”
โดน...
กูว่าครั้งนี้หยอดโดนใจมึงชัวร์ ๆ
คนที่โดนโยนคำถามใส่กะพริบตาปริบ ๆ ขณะสบตากัน แล้วจู่ ๆ เฮียก็หลบสายตาเขา ก่อนเอ่ยเสียงแ่เบา แต่ว่าเรียวได้ยินชัดเจน
“อะ อะไรของมึงเนี่ยยย...”
เพื่อนสนิทพูดแล้วก็รีบสาวเท้าเดินไปทางสวนหลังบ้านด้วยความรวดเร็ว เรียวหัวเราะในลำคอเบา ๆ พลางมองคนที่เสียอาการเดินดุ่ม ๆ หายไปทางสวนหลังบ้าน ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินตามอีกฝ่ายไป
และภาพที่เขาได้เห็นคือการที่เฮียแอบไปยืนอยู่ด้านหลังของหลานสาวเขา ก่อนจะสะกิดไหล่ของเด็กน้อยวัยหกขวบที่นั่งเล่นตุ๊กตาอยู่บนผ้าปูสีชมพู และเมื่อแสนดีหันมาเจอเฮีย เ้าตัวก็ฉีกยิ้มกว้างแล้วรีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับอ้าแขนรออ้อมกอดจากอีกฝ่าย
“พี่เฮีย~”
“ฮึบ!” เฮียอุ้มเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่สวมชุดเ้าหญิงสีชมพูขึ้นมา ก่อนเอ่ย “พี่เฮียคิดถึงน้องแสนดีจังเลยค่ะ”
“แสนดีก็คิดถึงพี่เฮียม้ากมากเลยค่ะ” เ้าหญิงตัวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนจะวาดแขนทั้งสองข้างโอบกอดคนที่เธอเรียกว่า ‘พี่’ ทั้ง ๆ ที่ควรเรียกว่า ‘อา’ เหมือนอย่างที่เรียกเขา นั่นก็เพราะเฮียบอกว่ายังไม่อยากแก่
“รักกันอยู่แค่สองคน ลืมอาเรียวเลยนะคะ แสนดี”
เ้าของชื่อ ‘แสนดี’ ที่อาอย่างเขาเป็คนตั้งให้หันมามอง ก่อนเอ่ย “แสนดีหายคิดถึงอาเรียวแล้วค่ะ”
“แบบนี้ก็ได้เหรอคะ แสนดี?”
“...”
“ตอนที่หนูยังไม่รู้ว่าพี่เฮียจะมา หนูยังบอกว่าคิดถึงอาเรียวมาก ๆ อยู่เลยนี่คะ”
“แสนดีเปลี่ยนใจแล้วค่ะ”
“เรียว คุณอย่าพยายามเลย คุณต้องยอมรับว่าแสนดีรักผมมากกว่า”
เรียวหลุดหัวเราะออกมาขณะสบตากับเพื่อนสนิท นั่นไม่ใช่เพราะเ้าตัวเรียกแทนตัวเขาว่า ‘คุณ’ และเรียกแทนตัวเองว่า ‘ผม’ เพราะปกติเฮียจะไม่พูดจาหยาบคายต่อหน้าแสนดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เขาหัวเราะก็คือ...
หน้าตาขี้อวดของมันนั่นแหละ
มันกำลังทำหน้าตาอวดว่า...มันได้รับความรักจากแสนดีมากกว่า
แต่ก็...น่ารักดี
“ยอม”
“อ้าว...ทำไมครั้งนี้คุณยอมง่ายจัง?”
“เพราะผมไม่อยากเอาชนะคุณแล้วไง”
เฮียหัวเราะน้อย ๆ พลางส่ายหน้า ก่อนจะหันไปมองน้องแสนดีที่อยู่ในอ้อมกอด “แสนดีโตขึ้นเยอะเลยนะคะเนี่ย”
“แสนดีกินเก่งค่ะ แสนดีเลยโตเร็ว”
และประโยคคำพูดของเด็กน้อยช่างพูดก็ทำให้เพื่อนสนิทหัวเราะออกมา เฮียคงรู้สึกมันเขี้ยวเด็กน้อยแก้มแดงถึงได้กดจมูกหอมแก้มไปหนึ่งทีแล้วก็เริ่มระดมหอมแก้มทั้งสองข้างสลับกันอีกหลายครั้งจนแสนดีเริ่มหัวเราะคิกคัก
มันไม่แปลกที่เพื่อนสนิทกับหลานสาวของเขาจะสนิทกัน เพราะเฮียเล่นกับแสนดีมาั้แ่เ้าตัวอายุได้เพียงไม่กี่เดือน และทุกครั้งที่แม่ของแสนดีซึ่งเป็ลูกพี่ลูกน้องของเขาพาเ้าตัวมาเที่ยวบ้านในวันหยุด ถ้าเฮียพอมีเวลาว่างก็จะแวะมาเล่นกับแสนดีเสมอ
“ไหน แสนดีกำลังเล่นอะไรกับพี่เขาอยู่คะ ขอพี่เฮียเล่นมั่งได้ไหมเอ่ย?”
“แสนดีกำลังเล่นแป้งโดกับพี่น้อยหน่าอยู่ค่ะ เล่นได้ค่ะ แสนดีจะแบ่งให้พี่เฮียเล่นด้วยค่ะ”
“โอเคเลย”
เฮียค่อย ๆ ปล่อยแสนดีลงบนผ้าปูสีชมพูเหมือนเดิม ก่อนเ้าตัวจะทิ้งตัวนั่งลงตาม เมื่อพี่เลี้ยงเห็นว่าแสนดีมีเพื่อนเล่นแล้ว เธอจึงค่อย ๆ ลุกออกไปจากผ้าปู เรียวยังคงยืนมองเพื่อนสนิทกับหลานสาวนั่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน แล้วเขาก็คิดขึ้นมาว่า...
กูเคยคิดนะ...
ว่าวันหนึ่งจะแต่งงานกับผู้หญิงที่รักสักคน
แล้วก็จะรีบมีเ้าตัวเล็กมาเติมเต็มครอบครัวของเรา
แต่ในวันหนึ่ง...
วันที่กูรักมึงจนหมดหัวใจไปแล้ว
กูขอแค่มีมึง...
แค่มึงคนเดียวเลย เฮีย
นั่นก็คือครอบครัวที่สมบูรณ์แบบของกูแล้ว
“อ้าว เฮีย มาแล้วเหรอจ๊ะ?”
“สวัสดีครับ เจ้ณิ”
“จ้า...สวัสดีจ้ะ”
เรียวหันมองลูกพี่ลูกน้องที่เป็ญาติทางฝั่งพ่อ ความจริงแสนดีควรจะเรียกเขาว่า ‘อากู๋’ ตามประสาคนไทยเชื้อสายจีน แต่เพราะพ่อของแสนดีเป็คนไทยที่ไม่ได้มีเชื้อสายจีน และส่วนมากหลานสาวจะอยู่กับทางฝั่งพ่อมากกว่า แสนดีจึงติดเรียกเขาว่า ‘อา’ ตามที่พ่อของเธอสอนมาั้แ่แรก แม้ว่า่หลังพ่อของแสนดีจะพยายามสอนให้เรียกว่า ‘อากู๋’ แต่ด้วยความเคยชิน หลานสาวเลยเรียกเขาว่า ‘อา’ มากกว่า แล้วเจ้ณิก็เลือกจะปล่อยผ่านกับเื่นี้ เธอไม่ได้วางกฎเกณฑ์ให้ลูกมากนัก
เรียวคิดว่านั่นเป็เื่ที่ดี เพราะนอกจากแสนดีจะได้อิสระทางความคิดแล้ว หากมองให้ลึกลงไปในความสัมพันธ์ของคู่รัก เราจะเห็นว่าทั้งคู่พยายามปรับเข้าหากัน และเปิดรับความแตกต่างของครอบครัวอีกฝ่าย ซึ่งนั่นเป็การเคารพซึ่งกันและกันของคู่รัก
“เฮียมาถึงนานแล้วเหรอ?”
“ผมเพิ่งมาถึงเมื่อกี้เลยครับ”
“อ๋อ...มาถึงก็รีบมาหาแสนดีเลย แล้วแบบนี้จะไม่ให้แสนดีรักได้ยังไง?” พี่สาวพูดพร้อมส่งยิ้มอ่อนโยนให้เฮีย
เฮียไม่ได้ตอบอะไร เ้าตัวทำเพียงแค่ส่งยิ้มกลับไปให้แม่ของแสนดีเท่านั้น ก่อนหญิงสาวที่สวมชุดกระโปรงยาวจะหันมามองเขา
“เรียว”
“ครับ เจ้ณิ”
“พาเฮียเข้าไปไหว้ป๊าม้าของเรียวก่อนปะ เดี๋ยวเจ้ดูแสนดีเอง”
“ครับ” เรียวพยักหน้าตอบรับ ก่อนเอ่ยกับเพื่อนสนิท “เฮีย เข้าไปหาป๊าม้ากัน”
“โอเค...” เฮียเอ่ยตอบรับ แล้วลุกขึ้นยืนทันที แต่ทว่าสายตาอ้อนวอนของเด็กผู้หญิงตัวน้อยทำให้เฮียเอ่ยออกไป “...เดี๋ยวพี่เฮียจะรีบกลับมาเล่นด้วยนะคะ แสนดี”
“ค่ะ พี่เฮียกลับมาเล่นกับแสนดีเร็ว ๆ นะคะ”
“ค่ะ”
พอเฮียเอ่ยตอบกลับไปแล้ว เ้าตัวก็ก้าวเท้ามาหยุดยืนข้าง ๆ เรียว เพื่อนสนิทยืนมองแสนดีนั่งเล่นกับผู้เป็แม่อยู่เพียงไม่นาน ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้เขาเป็เชิงชวน เราสองคนจึงเดินออกมาจากบริเวณนั้นด้วยกัน
ระหว่างทางเดินไปยังหน้าบ้านหลังใหญ่มีแต่ความเงียบสงบ เรียวไม่รู้ว่าเป็เพราะสายลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านมาหรือเพราะมีเฮียเดินอยู่ข้างกายถึงทำให้รู้สึกสบายใจเป็พิเศษ แต่เขาเดาว่าเป็เพราะมีเฮียอยู่ข้าง ๆ กันมากกว่า
“ไอ้เรียว”
เ้าของชื่อหันมองตามเสียงเรียก แล้วก็เห็นดวงตาเรียวรีที่จ้องมองกันั้แ่เมื่อไรก็ไม่รู้ “ว่าไง?”
“มึงอยากมีลูกไหมวะ?”
เรียวคิดว่า...ถ้าเป็แต่ก่อน คำถามนี้คงทำให้คิดหนักน่าดู แต่พอคำถามนี้ถูกยกขึ้นมาถามในเวลาที่ถูกต้องแบบนี้ มันจึงไม่ใช่เื่น่าหนักใจอะไร “แต่ก่อนก็เคยคิดอยากมีอยู่...”
“...”
“อยากมีลูกสาวน่ารัก ๆ แบบแสนดี”
“...”
“แต่พอมาถึงตอนนี้แล้ว...กูก็คิดว่าคงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่เรารักใครสักคนจริง ๆ หรอก”
“...”
เรียวก้าวเท้าช้าลง พลางสบสายตากับเพื่อนสนิท “ถ้าเรารักใครสักคนมาก ๆ แล้วเขาก็รักเรามากเหมือนกัน”
“...”
“ต่อให้เราจะไม่ได้มีลูกด้วยกัน แล้วเราต้องอยู่กับเขาแค่สองคนไปตลอดชีวิต”
“...”
“มันก็ไม่ใช่เื่น่าเศร้าอะไร เพราะเราก็มีกันและกันไง”
“…”
“เราเป็ครอบครัวที่มีกันแค่สองคนก็ได้...” เรียวหยุดฝีเท้า ก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในแววตาของเพื่อนสนิท “...กูยินดีเลย”
“...”
“แล้วมึงล่ะ...อยากมีลูกไหม?”
“กู...” เฮียเอ่ยเสียงแ่ขณะสบตากัน ก่อนเอ่ยต่อ “...กูชอบเด็กมากนะ”
“...”
“แต่ก็ไม่จำเป็ว่าต้องมีลูกอะ”
“...”
“ขอแค่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคนรักจนถึงบั้นปลายของชีวิตก็พอ”
เรียวเผยรอยยิ้มในแบบที่ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักได้ง่าย ๆ ก่อนเอ่ย “งั้นเราก็คงคิดเหมือนกัน”
เป็ตอนนี้ที่คนตัวสูงน้อยกว่ารีบละสายตาออกจากเขา แล้วก็รีบสาวเท้าเดินนำไปโดยไม่บอกไม่กล่าว เรียวหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะเดินตามเพื่อนสนิทไป
แต่ถึงแม้ว่าเฮียจะเดินนำไปก่อน แต่เราก็เดินเข้าบ้านพร้อมกัน เพราะเ้าตัวหยุดยืนรอเขาที่ประตูหน้าบ้าน และเมื่อเราสองคนก้าวเท้าเข้ามาในตัวบ้าน เรียวก็เห็นแม่ อาม่า และน้องสาว นั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น
“ม้า อาม่า ณรินทร์...” เรียวเอ่ยเรียกทั้งสามสาว ก่อนพยักพเยิดหน้ามาทางเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างกาย “เฮียมาแล้ว”
“สวัสดีครับ ม้า อาม่า”
“อ้าว เฮีย มาแล้วเหรอ?”
“ครับ”
“มา ๆ มานี่ มานั่งดูซีรีส์กับอาม่าเร็ว”
“ซีรีส์กำลังสนุกเลยค่ะ มาดูด้วยกันนะคะพี่เฮีย” น้องสาวเอ่ย
“ครับ ๆ”
อีน้ำแดงที่เป็ขวัญใจของบ้านเขารีบเดินไปนั่งลงบนโซฟาหนังข้าง ๆ อาม่า ส่วนเรียวที่เป็เ้าบ้านอยู่แล้วก็สาวเท้าเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้หนังตัวใหญ่ที่อยู่ฝั่งซ้ายของโซฟา
เขามองสามสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มนั่งจดจ่ออยู่แต่กับจอโทรทัศน์ เฮียที่เพิ่งมาร่วมดูซีรีส์เอียงใบหน้าเข้าไปใกล้อาม่าเล็กน้อยเพื่อฟังเื่ราวของซีรีส์ที่ดำเนินไปก่อนหน้านี้แล้ว อาม่าเล่าให้เ้าตัวฟังพลางชี้นิ้วไปทางจอโทรทัศน์
“สองคนนี้น่ะเป็เพื่อนกันมานานแล้ว”
“อ่า ๆ ครับ”
“คนหนึ่งแอบชอบเพื่อนตัวเอง แต่อีกคนยังไม่ค่อยรู้ใจตัวเอง”
“พวกเราก็รอลุ้นอยู่ค่ะว่าจะสารภาพรักกันตอนไหน ลุ้นมาหลายอีพีแล้ว” ณรินทร์เอ่ย
“ม้าว่าอีกสักพักแหละ...อีกคนยังดูไม่ค่อยมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเลย แต่ก็เหมือนจะชอบ ๆ แล้วแหละ”
เรียวหัวเราะเบา ๆ ในลำคอขณะยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดทับบนขาอีกข้าง ก่อนจะกอดอกมองทุกคนที่กำลังให้ความสนใจกับซีรีส์ ‘แอบรักเพื่อน’ ที่โคตรตรงกับชีวิตจริงของเขา
“รินทร์ว่า...คนที่รู้ใจตัวเองก่อนแล้วคงอึดอัดใจน่าดูเลยนะคะ เพราะต้องเก็บความรู้สึกไว้คนเดียวแบบนั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาว เรียวก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนเอ่ย “อือ...อึดอัดพอตัวเลยแหละ”
ประโยคคำพูดนั้นทำให้ดวงตาทุกคู่ที่เคยจ้องมองจอโทรทัศน์หันมามองเขาเป็ตาเดียว เรียวเผยรอยยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปมองจอโทรทัศน์บ้าง
“มึงรู้ได้ไงไอ้เรียว? ...มึงเคยแอบรักเพื่อนด้วยเหรอ?”
เรียวหันกลับไปมองเพื่อนสนิท ก่อนเอ่ย “ความลับ”
“เดี๋ยวนี้หัดมีความลับกับกูเหรอ?”
“ใช่ค่ะ เฮียเรียวเคยแอบรักเพื่อนด้วยเหรอคะ?”
เรียวหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ เพราะน้องสาวกับเพื่อนสนิทดูสงสัยมาก เขาอยากจะบอกทุกคนใจจะขาดว่า ‘รักเฮีย’ แต่เรียวคิดว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
“เรียว”
เรียวหันไปมองตามเสียงเรียกที่ดังมาจากประตูทางเข้า แล้วเขาก็เห็นพ่อของตัวเองโผล่หน้าเข้ามาทางประตูห้องนั่งเล่น หลังจากที่ท่านหมกตัวอยู่ในห้องทำงานั้แ่เช้าแล้ว
“ครับ ป๊า”
“ว่างไหม? ป๊าอยากคุยเื่รีสอร์ตที่ภูเก็ตด้วยหน่อย”
“อ๋อ ได้ครับ”
เขาเอ่ยรับคำ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เพราะเพื่อนสนิทยังจ้องมองกันอยู่ เรียวจึงยักคิ้วให้เพื่อนสนิทหนึ่งที แล้วสาวเท้าออกมาจากห้องนั่งเล่น แต่ทว่าระหว่างเดินออกมาจากบริเวณนั้น เรียวก็ได้ยินบทสนทนาของทุกคนที่พยายามพูดอย่างแ่เบา
“ม้ากับอาม่ารู้ไหมครับว่าเรียวแอบชอบใคร?”
“อาม่าไม่เคยเห็นเรียวจะชอบใครเลย”
“ม้าว่า...เราปล่อยเขาไปก่อนเถอะ เดี๋ยวเขาพร้อมแล้วก็บอกพวกเราเองแหละ”
คนตัวสูงที่เดินพ้นออกมาจากประตูห้องนั่งเล่นส่ายหน้าพลางหัวเราะในลำคอเบา ๆ เรียวกำลังคิดว่า...
จริง ๆ ก็พร้อมจะบอกทุกคนแล้ว
แต่ขอแค่รอให้เฮียรู้ใจตัวเองอีกสักหน่อย...
#รักแท้ของผมคือคุณ
“แสนดีเอาเต้าหู้ไหมคะ? เดี๋ยวพี่เฮียตักให้ค่ะ”
“ไม่เอาค่ะ แสนดีอยากกินไก่ทอดมากกว่า”
“แสนดี หนูมานั่งกับม้าดีกว่าค่ะ อย่าไปกวนพี่เฮียเลย”
“ไม่เป็ไรครับเจ้ณิ แสนดีไม่ได้กวนเลย”
เฮียเอ่ยแบบนั้นกับพี่สาวของเขา ก่อนจะใช้ช้อนตักไก่ทอดชิ้นเล็ก ๆ มาใส่จานของแสนดี เรียวมองหลานรักที่นั่งคั่นตรงกลางระหว่างเขากับเพื่อนสนิท แสนดีเงยหน้ามองอาอย่างเขาพลางทำตา ‘ปิ๊ง’ ให้ เ้าตัวมักจะอ้อนด้วยการทำตาปิ๊ง ๆ เสมอ เรียวหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วโน้มหน้าลงไปจุ๊บหน้าผากของหลานสาว
“อ้อนใหญ่เลย กลัวอาเรียวจะให้ย้ายกลับไปนั่งกับหม่าม้าเหรอคะ?”
เด็กน้อยไม่ได้ตอบอะไร แสนดีเอาแต่ส่งยิ้มกว้างให้เขา เพราะเธอคงรู้ดีว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นแน่ ก่อนที่หลานสาวจะหยิบช้อนตักข้าวใส่ปากตัวเอง
เรียวเหลือบมองจานข้าวของเพื่อนสนิทที่ยังไม่พร่องไปสักนิด เพราะเ้าตัวมัวแต่ดูแลแสนดีอยู่ เขาจึงเอื้อมมือไปตักอาหารมาใส่จานให้เพื่อนสนิท
“คุณกินเถอะ เดี๋ยวผมดูแสนดีเอง”
เฮียพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนเอ่ย “อือ”
เพื่อนสนิทก้มหน้ากินข้าวไปได้ไม่นานก็ต้องเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เพราะทุกคนเริ่มชวนเ้าตัวคุย
“่นี้กิจการที่บ้านเป็ยังไงบ้าง เฮีย?” พ่อเอ่ยถาม
เฮียที่กำลังเคี้ยวตุ้ย ๆ รีบกลืนอาหารลงคอ ก่อนเอ่ย “ดีเลยครับป๊า มีลูกค้าใหม่มาใช้บริการเยอะเลยครับ”
“ดี ๆ”
“ตอนนี้ป๊าผมก็เลยต้องรับพนักงานเพิ่มครับ เพราะที่มีอยู่เริ่มดูแลได้ไม่ทั่วถึงแล้ว”
“อ๋อ...ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกป๊าได้นะ”
“ขอบคุณครับป๊า”
“แสดงว่า่นี้เฮียก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลยสิ” แม่เอ่ยถามบ้าง
“่เช้าถึงเย็นจะไม่ค่อยว่างเลยครับม้า...แต่ว่าสปอร์ตคลับจะปิดทุกวันอาทิตย์ ผมเลยพอมีเวลาพักอยู่ครับ”
“อ๋อ...ยังดีที่มีวันพักผ่อนบ้าง”
“งั้นเฮียมากินข้าวบ้านอาม่าทุกวันอาทิตย์ดีไหม?”
“ม้า...เขาก็ต้องอยู่กับครอบครัวเขาบ้างสิ” พ่อเอ่ย
เฮียหัวเราะเบา ๆ ก่อนเอ่ย “ถ้าเฮียพอมีเวลาว่างอย่างวันนี้ เดี๋ยวเฮียจะมาหาอาม่าอีกนะครับ”
“ดี ๆ อาม่าจะได้ไม่เหงา”
“ถ้าเฮียมาบ่อย ๆ ก็ดีเลย แสนดีจะได้มีเพื่อนเล่นด้วย” แม่ของแสนดีพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“แล้ว่นี้พ่อของแสนดีทำงานยุ่งเลยเหรอ?” พ่อถามขึ้น
“ค่ะ พี่ไม้ต้องไปคุมโรงงานใหม่ทุกวันเลยค่ะ เพราะอะไร ๆ ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง”
พอเฮียเห็นว่าบทสนทนาบนโต๊ะอาหารเริ่มไม่เกี่ยวข้องกับเ้าตัวแล้ว เพื่อนสนิทก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ เรียวเลยเอื้อมมือไปตักปลาผัดขึ้นฉ่ายของโปรดของเ้าตัวให้ ทันทีที่เนื้อปลาชิ้นโตถูกวางลงบนจาน เฮียก็เอ่ยด้วยเสียงแ่เบา
“ขอบใจจ้ะ”
เรียวหลุดหัวเราะในลำคอเบา ๆ พลางคิดว่า ‘มึงแม่งโคตรน่าจับมาหอมแก้มให้ช้ำเลยว่ะ’ และในขณะที่แอบมองเพื่อนสนิทอยู่ เ้าตัวก็หันมาสบตากับเขา คนที่เคี้ยวอาหารตุ้ย ๆ เริ่มเคี้ยวช้าลง พอเรียวเห็นแบบนั้นจึงเอ่ยขึ้น...
“มีแต่ของโปรดของคุณทั้งนั้น”
“...”
“กินเยอะ ๆ”
“อือ...แล้วคุณไม่กินหรือไง?”
“เดี๋ยวกิน คุณไม่ต้องห่วงผมหรอก”
“คุณจะกินอะไร? เดี๋ยวผมตักให้”
เรียวส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนเอ่ย “เดี๋ยวผมตักเอง คุณกินไปเถอะ”
เฮียพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อ เรียวเผยรอยยิ้มบาง ๆ อย่างอิ่มเอมใจขณะมองอีกฝ่าย แล้วเขาก็คิดว่า...
ใครจะไปเชื่อว่า...
การที่เห็นคนที่รักกินอิ่ม นอนหลับ และไม่เป็ทุกข์
เื่แค่นี้จะทำให้เรารู้สึกมีความสุขได้
แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...
เพราะตอนนี้ที่เห็นเฮียกินได้เยอะ ๆ นอนหลับสบาย และยิ้มหัวเราะได้
มันทำให้มีความสุขได้จริง ๆ
TBC
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้