บทที่ 84 ระดับความรู้สึกดีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หวงเซิงเหม่ยกัดปากก้มมองเย่จื่อเฉินที่เล่นโทรศัพท์อยู่ ก็เกิดโมโหขึ้นมา เธอเพิ่งจะ…
เมื่อครู่เธอว่าจะถามประโยคนั้น
แต่เขากลับให้เธอรอ แล้วหนีไปเล่นวีแชท?
แต่เย่จื่อเฉินไม่ได้สนใจเธอมากขนาดนั้น พอเปิดวีแชทได้เขาก็เห็นว่าเป็นาจาที่ทักมาหาเขา
องค์ชายสามนาจา : เฮ้
องค์ชายสามนาจา : เ้าตอบสิ เฮ้
เย่จื่อเฉินมองดูโปรไฟล์หน้าตาน่ารักขององค์ชายสาม จินตนาการได้เลยว่าสีหน้าของเขาในตอนนี้มันน่ารักมากแค่ไหน
เย่จื่อเฉิน : องค์ชายสามทักมาหาเซียนผู้น้อยมีเื่อะไร
เย่จื่อเฉินตอบกลับไปด้วยถ้อยคำหยั่งเชิง
องค์ชายสามนาจา : เ้าแจกอั่งเปาในกลุ่ม ตอนที่ข้ากำลังสังหารัอยู่ใช่ไหม อย่าคิดจะโกหกข้า พวกพี่สาวนางฟ้าลูกท้อบอกข้าหมดแล้ว
รูปโปรไฟล์น่ารักเข้ากันดีกับน้ำเสียงน่ารักนี้ เย่จื่อเฉินกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
เย่จื่อเฉิน : เซียนผู้น้อยแจกอั่งเปาจริงๆ
องค์ชายสามนาจา : ถ้าอย่างนั้นเ้าต้องชดเชยให้ข้า ข้าก็อยากดื่มของพวกนั้นเหมือนกัน ข้าไม่ให้เ้าเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ ข้าแลกเปลี่ยนกับเ้าได้
แลกเปลี่ยน
ดวงตาของเย่จื่อเฉินเป็ประกายทันที
ถึงแม้ว่าองค์ชายสามนาจาจะน่ารัก แต่เขาก็ไม่ได้เป็สองรองใครใน์เลย ถ้าเขา้าแลกเปลี่ยนสิ่งของ มันต้องไม่ใช่สิ่งของด้อยค่าแน่นอน
เย่จื่อเฉิน : องค์ชายสามก็พูดเกินไป แค่อั่งเปาเองข้าชดเชยให้ก็ได้
เมื่อเห็นว่าบนโต๊ะของหวงเซิงเหม่ยมีนมเปรี้ยวที่ยังไม่ได้เปิดวางอยู่พอดี เขาจึงหยิบมาสแกนส่งไปให้
“เย่จื่อเฉิน…”
หวงเซิงเหม่ยเบิกตาโพลงมองภาพนั้นอย่างตกตะลึง
“เวรเอ๊ย! เื่ใหญ่แล้ว”
เย่จื่อเฉินแอบตบต้นขาตัวเอง
เมื่อครู่นี้เขาก็เอาแต่สนใจอยู่กับการชดเชยอั่งเปาให้กับนาจา จึงลืมไปเลยว่าในห้องยังมีคนที่ไม่รู้เื่อยู่ด้วย
เมื่อเห็นสีหน้าของหวงเซิงเหม่ย เย่จื่อเฉินก็รู้เลยว่าเธอต้องเห็นทั้งหมดแล้วแน่นอน
ต้องทำให้เธอกลายเป็พวกเดียวกับเขา
นี่เป็ความคิดเดียวในใจของเย่จื่อเฉิน
“อย่าใ เดี๋ยวผมอธิบายให้ฟัง”
นับว่าเย่จื่อเฉินก็ตกอยู่ในความเสี่ยงด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะพูดยังไง หวงเซิงเหม่ยก็เดินบนเส้นทางเดียวกับเขาแล้ว
ถ้าอธิบายแล้วไม่เข้าใจ ก็จัดการเก็บเสียเลย
ส่วนหลังจากนี้จะอธิบายกับผู้หญิงคนอื่นที่อยู่ข้างกายยังไง ก็ค่อยว่ากัน
เมื่อเลื่อนสายตากลับมาที่หน้าจอวีแชท องค์ชายสามนาจาก็กดรับอั่งเปาไปแล้ว
องค์ชายสามนาจา : นมเปรี้ยวนี่คืออะไร อันที่ให้พี่สาวนางฟ้าลูกท้อครั้งก่อนมันไม่ใช่อันนี้นี่
องค์ชายสามผู้น่ารักไม่เข้าใจ
เย่จื่อเฉิน : องค์ชายสามอาจจะไม่รู้ นี่เป็ของดีกว่าอันที่ส่งไปให้พวกเขาอีกนะ ถ้าขายหมดแล้วต้องใช้ตั้ง 400 วิทยายุทธในการแลกหนึ่งขวด ของพวกเขาแค่ 300 วิทยายุทธเอง
องค์ชายสามนาจา : อ๋อ~
ดูเหมือนว่าองค์ชายสามไม่ได้สนใจกับคำพูดของเย่จื่อเมื่อครู่สักเท่าไร
ผ่านไปไม่นาน เย่จื่อเฉินก็ได้รับการแจ้งเตือน
ระดับความสัมพันธ์ของคุณกับองค์ชายนาจาเพิ่มขึ้น 50 ระดับความสนิทปัจจุบันอยู่ที่ 150
องค์ชายสามนาจา : ว้าว อร่อยจัง เ้าไม่ได้โกหกข้าจริงๆ ด้วย เ้าดีกับข้าขนาดนี้ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่สามารถเอาเปรียบเ้าได้
ติ๊ง!
อั่งเปาซองหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอทันที
เย่จื่อเฉินกดรับอั่งเปา
เศษลูกแก้วิญญา ×1
เศษลูกแก้วิญญาอีกแล้ว
ถ้าลองนับดู ตอนนี้ในมือของเขาก็มีเศษลูกแก้วิญญาอยู่ทั้งหมดสี่อันแล้ว
องค์ชายสามนาจา : ข้าได้ยินพี่สาวนางฟ้าลูกท้อพูดว่าเ้าแย่งเศษลูกแก้วิญญาไปได้สามอันแล้ว บังเอิญว่านี่เป็เศษลูกแก้วิญญาที่ข้าเจอในถ้ำตอนไปสังหารัพอดีก็เลยส่งให้เ้า จะบอกให้นะเศษลูกแก้วิญญาเป็สมบัติวิเศษโบราณ ถ้าเ้ารวบรวมได้ครบหนึ่งลูกเ้าก็จะสามารถอยู่บน์ได้
ซึ้งใจจริงๆ
สิ่งของสำคัญขนาดนี้ก็ยังให้เขาได้ แต่ว่า...
แล้วยังไง
ต่อให้เอาชิ้นนี้มาให้เขา เขาก็ยังขาดอีกสองชิ้นอยู่ดี
ตอนที่แย่งชิ้นส่วนมาได้ เย่จื่อเฉินก็ได้ไปหาในเถาเป่ามาแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงาของเศษลูกแก้วิญญาด้วยซ้ำ
บางทีเศษลูกแก้วิญญาอาจจะเป็ของมีค่าที่ทำให้เซียนทุกตนเกิดความโลภก็ได้ แต่ถ้ารวมได้ไม่ครบก็ไม่เกิดประโยชน์อยู่ดีไม่ใช่เหรอ?
เย่จื่อเฉิน : ขอบคุณองค์ชายสามมาก
ไม่ว่ายังไง องค์ชายสามก็มีเจตนาดี หลังจากกล่าวขอบคุณไปแล้ว องค์ชายสามก็ส่งสติกเกอร์หน้ายิ้มมาก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
“เมื่อกี้ดูเหมือนว่าคุณกำลังคุยกับเทพนาจาอยู่?”
หวงเซิงเหม่ยลองถามหยั่งเชิง
จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าวันนี้วิธีการตื่นนอนอาจจะไม่ค่อยปกติ ถึงได้เจอแต่เื่อะไรก็ไม่รู้
อยู่ดีๆ นมเปรี้ยวบนโต๊ะก็หายไป แถมยังเห็นคนคุยกับเทพนาจาอีก
“เย่จื่อเฉิน ทำยังไงดี ดูเหมือนว่าเธอจะรู้แล้ว”
ในตอนนั้นเองหลิวฉิงก็ได้เอ่ยขึ้นมา เย่จื่อเฉินเลียริมฝีปากก่อนเอาโทรศัพท์วางบนโต๊ะของหวงเซิงเหม่ย
“ดูสิ”
“ได้เหรอ?”
ถึงแม้ว่าหวงเซิงเหม่ยจะพูดออกไปแบบนั้น แต่มือกลับลูบโทรศัพท์อย่างควบคุมไม่ได้
เธออยากรู้มากจริงๆ อยากรู้ว่านมเปรี้ยวขวดนั้นมันหายไปได้ยังไง
แถมเทพนาจาอะไรนั่นอีก มันคืออะไรกันแน่
เมื่อโทรศัพท์อยู่ในมือ เธอก็เห็นว่าคนที่เย่จื่อเฉินเพิ่งคุยด้วยเมื่อครู่นี้คือเทพนาจาจริงๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขายังมีกลุ่มแชทอีกด้วย และชื่อคนในกลุ่มก็เป็ชื่อของเทพเซียนจริงๆ
“ห้ามบอกใครเื่ที่หมอรู้เห็นวันนี้ เข้าใจไหม?”
เย่จื่อเฉินเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าหวงเซิงเหม่ย ปลายจมูกของเขาแทบจะชนกับปลายจมูกของเธอ
หน้าของหวงเซิงเหม่ยก็เห่อแดงขึ้นมา หัวใจเต้นตึกตัก
ติ๊ง!
ระดับความรู้สึกดีของคุณกับหวงเซิงเหม่ยเพิ่มขึ้น 50 ระดับความรู้สึกดีปัจจุบันคือ 60
ติ๊ง!
ระดับความรู้สึกดีของคุณกับหวงเซิงเหม่ยเพิ่มขึ้น 50 ระดับความรู้สึกดีปัจจุบันคือ 110
ติ๊ง!
ระบบแจ้งเตือนระดับความรู้สึกดีทั้งหมดเจ็ดครั้ง จนระดับความรู้สึกดีของทั้งคู่เพิ่มขึ้นถึง 490 ถึงได้หยุดลง
“ฉันจะไม่บอกใครแน่นอน”
ในดวงตาคู่สวยของหวงเซิงเหม่ยเต็มไปด้วยความแน่วแน่ ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่เข้าใจว่ามันคือเื่อะไรก็ตาม
แต่การที่เย่จื่อเฉินเอาโทรศัพท์ให้เธอดูก็แปลว่าเขาเชื่อใจเธอ เธอจะทำร้ายความเชื่อใจที่เขามีต่อเธอไม่ได้
“เด็กดี”
เอื้อมมือไปลูบผมของหวงเซิงเหม่ย แต่หลิวฉิงที่ลอยอยู่ด้านข้างกลับเบ้ปากพูด
“ไร้ยางอาย ลามก หน้าไม่อาย”
เย่จื่อเฉินไม่ได้สนใจถ้อยคำถากถางของแม่นมตนนี้ เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าการกระทำแบบนี้มันไม่ค่อยดี แต่เขาก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
ถ้าเปิดเผยความลับออกไป อย่าว่าแต่คนเลย เทพไท่ไป๋จินซิงนั่นจะปล่อยเขาไปหรือเปล่าก็ไม่อาจรู้ได้
ส่วนเื่ความรัก ค่อยเป็ค่อยไปก็แล้วกัน
ยุคสมัยนี้ส่วนใหญ่เขาก็ขึ้นรถก่อนค่อยซื้อตั๋วกันทั้งนั้น (ประมาณว่าอยู่ก่อนแต่ง)
ส่วนเขายังไม่ได้ขึ้นรถเลย ค่อยๆ ซื้อตั๋วเพิ่มไปก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อน
“เอ่อ เมื่อกี้ในโทรศัพท์นายมีคนที่ชื่อว่าขุนพล์เทียนเผิงมาขอเพิ่มเพื่อนนาย”
หวงเซิงเหม่ยชี้ไปยังโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วแล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะยกขานั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้
จริงๆ ด้วย ขุนพล์มาขอเพิ่มเพื่อนเขาแล้ว
แต่ว่ารูปโปรไฟล์นี่ต้องขอแขวะหน่อยเถอะนะ เกราะสีทองน่าเกรงขามมาเชียว
แบบนี้มันไม่เหมือนกับตือโป๊ยก่ายในความทรงจำของเขาสักนิด
ช่างมันเถอะ เขาไม่สนใจหรอก ส่วนมากคนในอินเทอร์เน็ตก็ใช้โปรไฟล์ปลอมกันทั้งนั้นแหละ ใครกำหนดขอบเขตว่าไม่ให้คนบน์ใช้กันล่ะ
แล้วอีกอย่าง บางทีขุนพล์อาจจะใช้โปรแกรมแต่งรูปก็ได้
กดรับเพื่อน
มองระดับความสนิมของคนทั้งคู่เป็อันดับแรก
100
เพื่อน
ดูท่าว่าระดับความสนิทของฝ่ายที่ขอเพิ่มเพื่อนก่อนจะอยู่ที่ระดับเพื่อนเป็ระดับต่ำสุด จะมีก็แต่ยี่หนึงจินกุนที่ต่างออกไป แถมยังทำให้เขากลายเป็พี่น้องร่วมสาบานอีก
เย่จื่อเฉิน : ?
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน เย่จื่อเฉินจึงทำได้แค่ลองส่งเครื่องหมายคำถามไปยั่งเชิงดู
ขุนพล์เทียนเผิง : ท่านเง็กเซียน ในที่สุดท่านก็รับข้าเป็เพื่อนสักที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้