“โหดร้ายเกินไปแล้ว!”
หลินเนี่ยนขมวดคิ้วกล่าว และวิหคั์สีฟ้าก็บินกลับเข้ามาในร่างของนาง
ไม่นานน้ำแข็งรอบด้านก็เริ่มละลายจนกลายเป็แอ่งน้ำ
“ิญญายุทธ์ของเ้า ทะลวงระดับนภาแล้วกระมัง!?”
ถังเหล่ยจ้องหลินเนี่ยนพลางถามออกมา
ตอนนี้หลินเนี่ยนไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร ิญญายุทธ์ในร่างของนางทะลวงระดับนภาแล้วจริงๆ
หลินเนี่ยนเข้าใจว่าิญญายุทธ์ระดับนภาหมายความว่าอะไร อวิ๋นเมิ่งเคยอธิบายเื่พลังแฝงและความหายากของระดับิญญายุทธ์ให้นางฟัง
ิญญายุทธ์ทะลวงระดับนภาเป็เื่ดี แต่หลินเนี่ยนยังคงไม่รู้ว่าทำไมนางถึงทะลวงระดับได้
“เหมือนจะใช่ แต่มันเกี่ยวอะไรกับเ้าด้วย!?”
“เ้า...!”
นางทำให้ถังเหล่ยโมโหจนขบฟัน เขาถึงขนาดเอาของเหลวเลี้ยงิญญาที่แสนล้ำค่ามอบให้อีกฝ่ายดูดซับ และทำให้ิญญายุทธ์ของนางทะลวงระดับนภา แต่นางกลับไม่สำนึกบุญคุณแม้แต่นิด ยังกล้าถามอีกว่าเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?
‘สาวน้อย ทำดีไม่ได้สิ่งตอบแทนเลยหรือ ถ้าไม่มีข้า ิญญายุทธ์ของเ้าจะทะลวงระดับนภาได้รึไง?’
ถังเหล่ยบ่นพึมพำในใจ เมื่อนางคิดได้เท่านี้ก็รู้สึกเจ็บใจ เขาต้องเสียของเหลวเลี้ยงิญญาอายุหนึ่งปีให้นางเชียวนะ
“ตอนนี้พวกเราควรไปที่ไหนดี?”
แม้จะสังหารเฮยเซียจื่อไปแล้ว แต่ในใจของหลินเนี่ยนยังคงหวาดกลัว ถึงไม่รู้ว่าทำไมิญญายุทธ์ของตัวเองถึงทะลวงระดับนภาได้ แต่คิดว่าไม่มากก็น้อยที่ต้องเกี่ยวกับอัญมณีสีทองที่ถังเหล่ยมอบให้นางเม็ดนั้นแน่ เพียงแต่พอสาวน้อยนึกถึงเื่ที่เจอกับเขาครั้งแรก นางก็อยากโต้เถียงกับเขาอยู่บ้าง
“กลับเมืองอวิ๋นหลิว ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของตระกูลถังเป็อย่างไรบ้าง ข้าเป็ห่วงนัก”
ถังเหล่ยไม่ได้เถียงหลินเนี่ยนต่อ ยามนี้อันตรายยังไม่คลี่คลาย ในตระกูลถังอาจจะยังต่อสู้กันอยู่
หลินเนี่ยนพยักหน้า กลับไปเมืองอวิ๋นหลิวตอนนี้เป็ทางเลือกที่ดีที่สุด หากอาจารย์ของนางกำจัดเฮยฉานฉู่ไปแล้ว นางอาจจะรอพวกเขาอยู่ที่ตระกูลถัง
ในขณะที่ทั้งสองคนเตรียมตัวจะจากไป ถังเหล่ยก็ััถึงอันตรายจากข้างหลัง
“หลบเร็ว!”
ถังเหล่ยะโเสียงลั่น งูหลามั์สีม่วงเขียวตัวหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านหลัง มันอ้าปากกว้างหวังจะกลืนถังเหล่ยกับหลินเนี่ยนเข้าไปพร้อมกัน
ใน่คับขันนี้หลินเนี่ยนไม่อาจเรียกิญญายุทธ์ออกมาได้ทัน นางจึงทำได้เพียงมองงูหลามั์พุ่งเข้ามา
ถังเหล่ยจับแขนหลินเนี่ยนเอาไว้ แล้วเหวี่ยงนางออกไปอีกครั้ง
หลินเนี่ยนปลิวไปด้านหลัง นางหนีจากปากใหญ่ั์นั่นมาได้ แต่ถังเหล่ยกลับถูกกลืนกินต่อหน้าต่อตา
“ถังเหล่ย!”
หลินเนี่ยนแผดเสียงสนั่น วิหคสีฟ้าพลันลอยออกมาจากด้านหลัง นางคิดจะช่วยถังเหล่ยออกมาจากปากงูหลาม
ทว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยากสู้กับหลินเนี่ยน หลังจากงูหลามเขมือบถังเหล่ยเข้าไปแล้ว มันก็หันหลังหนีทันที ขนนกสีฟ้าพุ่งไปแทงงูหลาม จนเกล็ดมันร่วงออกมาหลายเกล็ด
แต่งูหลามยังคงสะบัดร่างกายหายเข้าไปในป่าโดยไม่หันกลับมา
หลินเนี่ยนคิดจะไล่ตาม แต่อยู่ๆ ก็มีมีดสายลมนับไม่ถ้วนโจมตีมาจากในป่าเพื่อขวางการไล่ตามของนางเอาไว้
เมื่อหลินเนี่ยนหลบมีดสายลมได้หมด เงาร่างของงูหลามั์ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“เยียนหลิงซาน!”
หลินเนี่ยนกัดฟันพูด คิดไม่ถึงว่าเยียนหลิงซานจะซ่อนอยู่ด้านข้าง เมื่อครู่เขาคิดจะใช้ิญญายุทธ์กลืนกินพวกเขาทั้งคู่ไปด้วยซ้ำ แต่ถังเหล่ยเสียสละตัวเอง ทำให้นางหนีรอดมาจากปากงูหลามได้
หลินเนี่ยนไล่ตามทางที่งูหลามั์หนีไปอย่างไม่ลังเล ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องช่วยถังเหล่ยมาให้ได้!
อีกด้านหนึ่งหลังจากถังเหล่ยถูกงูหลามกินเข้าไปแล้ว เขาก็ไม่ได้ััถึงอันตราย เพียงแต่ในร่างของงูหลามปรากฏปราณแท้ทรงพลังสายหนึ่งปกคลุมเขาเอาไว้
ถังเหล่ยโคจรปราณแท้ แล้วปล่อยหมัดลงไปบนปราณแท้ที่ปกคลุมรอบด้าน แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้
“เยียนหลิงซานจะพาข้าไปที่ไหนกัน?”
ถังเหล่ยรู้ว่านี่เป็ฝีมือของเยียนหลิงซาน เมื่อครู่ชัดเจนว่าเยียนหลิงซานมีโอกาสสังหารเขา แต่อีกฝ่ายกลับจับเขาเอาไว้เท่านั้น แสดงว่าเยียนหลิงซานต้องมีเป้าหมายแน่
ในเมื่อเป็เช่นนี้ถังเหล่ยจึงเตรียมตัวรับมือตามสถานการณ์ รอดูก่อนว่าเยียนหลิงซานจะมาไม้ไหน
ในเทือกเขาสัตว์อสูร งูหลามั์เลื้อยผ่านป่าโดยมีเยียนหลิงซานยืนอยู่บนศีรษะของมัน เขายืนมองต้นไม้รอบด้านเคลื่อนผ่านไปต้นแล้วต้นเล่า ก่อนที่ใบหน้าจะเผยความดีใจจนปิดไม่มิดออกมา
ตอนที่เขาออกตามหาถังเหล่ยเท่าไรก็ไม่เจอและกำลังจะยอมแพ้นั้น เขาก็ััได้ถึงความผันผวนอันทรงพลัง
นั่นคือความผันผวนที่เกิดจากิญญายุทธ์ของหลินเนี่ยนที่ทะลวงระดับนภา จนสภาพแวดล้อมรอบด้านถูกเปลี่ยนแปลงไปทันใด เยียนหลิงซานจึงมุ่งหน้าไป และไม่นานก็เห็นเฮยเซียจื่อสู้กับหลินเนี่ยน
เยียนหลิงซานไม่ได้ลงมือทันที เพราะเขาเห็นว่าหลินเนี่ยนกำลังกดดันเฮยเซียจื่อ แม้กระทั่งเฮยเซียจื่อยังเกือบจะถูกสังหาร
เฮยเซียจื่อผู้นี้โต้เถียงกับเยียนหลิงซานอยู่หลายครั้ง และที่แอบลอบตามมาคราวนี้ คงคิดจะจับถังเหล่ยแน่
เยียนหลิงซานจึงอยากสังหารเฮยเซียจื่อ ถ้าหลินเนี่ยนจัดการมันไม่ได้ เยียนหลิงซานคงต้องลงมือ
แต่หลินเนี่ยนกับถังเหล่ยสังหารเฮยเซียจื่อได้จริงๆ
“คิดไม่ถึงว่าิญญายุทธ์ของเด็กสาวนั่นจะทะลวงระดับนภา แต่เื้ันางอาจมีขั้วอำนาจ หากฆ่านางอาจเกิดเื่ยุ่งยากได้!”
เยียนหลิงซานอยากได้ิญญายุทธ์ระดับนภาในร่างของหลินเนี่ยนมาก แต่หลินเนี่ยนที่อายุยังน้อยกลับบ่มเพาะมาถึงระดับผู้ทรงยุทธ์ขั้นที่หกได้ นี่หาใช่อะไรที่คนในตระกูลเล็กธรรมดาๆ จะฟูมฟักขึ้นมาได้
ดังนั้นเป้าหมายหลักของเยียนหลิงซานยังคงเป็ถังเหล่ย ตอนเขาโจมตีก็คิดไม่ถึงว่าถังเหล่ยจะเสียสละตัวเองเพื่อช่วยหลินเนี่ยน
หลังจากจับตัวได้แล้ว เยียนหลิงซานก็ขี่งูหลามจากไปทันที เป้าหมายของเขาสำเร็จแล้ว
เยียนหลิงซานพาถังเหล่ยเข้าไปในส่วนลึกของเทือกเขาสัตว์อสูร ยิ่งเข้าไปลึกสัตว์อสูรในนั้นยิ่งระดับสูง เล่ากันว่ามีสัตว์อสูรที่กลายร่างเป็มนุษย์อยู่ด้วย อย่างน้อยสัตว์อสูรเช่นนั้นก็เป็สัตว์อสูรที่เทียบเท่าได้กับระดับราชันยุทธ์
แต่เยียนหลิงซานไม่อยากให้หลินเนี่ยนไล่ตามมา ด้านหน้าเริ่มมีสัตว์อสูรระดับสี่ปรากฏออกมาเป็ครั้งคราว ให้พวกมันกันไม่ให้นางตามมาได้เป็พอ
งูหลามเลื้อยมาหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดมันก็หยุดลงที่ถ้ำแห่งหนึ่ง
เมื่อวางสมุนไพรขับไล่สัตว์อสูรไว้ที่ปากถ้ำแล้ว เยียนหลิงซานก็พาถังเหล่ยเข้าไปในถ้ำ
รอบกายถังเหล่ยถูกปราณแท้พลังยุทธ์ปกคลุมเอาไว้ ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจทำลายมันได้ เขาจึงเลิกดิ้นรน แล้วคอยดูว่าเยียนหลิงซานคิดจะมาไม้ไหน
ภายใต้การสังเกตของถังเหล่ย เยียนหลิงซานหยิบหนังสัตว์ออกมาจากในแหวนมิติ
จากนั้นเขาก็ใส่ปราณแท้พลังยุทธ์เข้าไป บนหนังสัตว์มีค่ายกลซับซ้อนอันหนึ่งสว่างขึ้นมา ค่ายกลขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะปกคลุมถ้ำเอาไว้ทั้งหมด
‘ค่ายกลป้องกันระดับสาม เยียนหลิงซานทุ่มเทขนาดนี้เชียวหรือ!’
ถังเหล่ยรู้จักค่ายกลนี้อยู่แล้ว
หนังสัตว์ที่เยียนหลิงซานเอาออกมาเมื่อครู่ไม่ใช่หนังสัตว์ธรรมดา แต่เป็หนังสัตว์อสูรระดับสาม ในหนังสัตว์อสูรมีค่ายกลที่นักค่ายกลสร้างเอาไว้
เพียงใส่ปราณแท้พลังยุทธ์เข้าไปก็กระตุ้นค่ายกลได้ ค่ายกลแบบพกพาเช่นนี้มีให้เห็นบ่อยครั้ง แต่ต่อให้เป็ค่ายกลระดับสามอันหนึ่ง สำหรับยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์แล้วมูลค่าของมันนับว่าไม่ธรรมดาเลย
ดูท่าเยียนหลิงซานจะไม่อยากให้ใครรบกวน ต่อให้หลินเนี่ยนพบพวกเขาจริงๆ แต่คิดจะทำลายค่ายกลป้องกันระดับสาม ก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
“เ้าหนู ทำให้ข้าใช้ค่ายกลป้องกันได้ นับว่าเ้าได้ตายอย่างสมเกียรติแล้ว!”
เมื่อเยียนหลิงซานวางค่ายกลเสร็จ ก็หันหน้าไปกล่าวกับถังเหล่ยด้วยน้ำเสียงอำมหิต
“เพื่อฆ่าข้า ทำไมต้องเสียเวลาขนาดนี้ด้วย!?”
ถังเหล่ยกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“ฆ่าเ้าหรือ? ไม่ๆๆ ข้าจะฆ่าเ้าลงได้อย่างไร? สิ่งที่ข้า้าไม่ใช่ชีวิตของเ้า แต่ข้า้าิญญายุทธ์ของเ้า!”