เย่เฟิงซ่อนตัวอยู่กลางพงหญ้าใต้ทางลาดชัน เขาพยายามควบคุมลมหายใจให้เป็ปกติเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกพบ ขณะเดียวกันก็เริ่มดูดซับพลังฟ้าดินของหญ้าเจียหลานหลิงที่อยู่ในมือ
โชคดีที่เขาขยายเส้นลมปราณอยู่ตลอด มิฉะนั้นด้วยขนาดเส้นลมปราณตอนเพิ่งมาถึงโลกนี้ คงไม่สามารถรับพลังฟ้าดินทั้งหมดจากหญ้าเจียหลานหลิงได้
พลังชี่ในร่างของเขาเริ่มเดือดพล่าน คลื่นพลังฟ้าดินเข้าไปยังจุดขอบเขตบ่มเพาะกลายเป็พลังชี่และกระจายสู่แกนกลางของเส้นลมปราณทั่วทั้งร่าง ทำให้ระดับพลังลมปราณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
อีกฝั่งหนึ่ง เสียงฝีเท้าของชายหญิงก็หยุดลง ดูเหมือนพวกเขาจะหยุดอยู่ข้างกายจูไป่เหนี่ยว จากนั้นบทสนทนาก็ดังขึ้น
“ตู้เจวียน ฉันอยากถามแค่คำถามเดียว ทำไม...” จูไป่เหนี่ยวไม่ขยับตัว เขาเพียงค่อยๆ เค้นเสียงถามผู้หญิงที่ตนรัก
“ก็ไม่ทำไมหรอก” เสียงไพเราะของหญิงสาวดังขึ้น ทว่าน้ำเสียงแฝงความเหยียดหยาม “อาศัยเงินแค่สิบล้านแล้วยังอยากให้ฉันไปกับนาย นี่ไม่ใช่ความคิดเพ้อเจ้อเหรอ? ยิ่งกว่านั้นหัวใจของฉันเป็ของจวิ้นหลงมานานแล้ว ที่ผ่านมาฉันก็แค่หลอกใช้นายเท่านั้นแหละ”
“ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะเบิกบานดังขึ้น เ้าของเสียงคือชายหนุ่มรูปงามนามว่าจวิ้นหลง น้ำเสียงของเขาราวกับสุภาพบุรุษคนหนึ่ง ทว่าคำพูดกลับทำให้ผู้ฟังเดือดดาล “ไม่เลวเลยจริงๆ นายอุตส่าห์เค้นสมองหาทางขโมยของในสุสาน เงินทั้งหมดที่ให้ตู้เจวียนคงจะมากกว่าสี่สิบล้านด้วยซ้ำ ถึงสุดท้ายทั้งหมดนั่นจะกลายเป็ทรัพยากรในการฝึกฝนของฉันก็เถอะ ไม่ใช่ว่าฉันควรจะขอบคุณนายหรอกเหรอจูไป่เหนี่ยว?”
“หึ อย่ามัวพูดจาไร้สาระอยู่เลย... นายนี่สมกับที่เป็คนของสำนักอิ่นเซียนจริงๆ หน้าซื่อใจคด...” จูไป่เหนี่ยวเอ่ยอย่างยากลำบาก เขาไม่รู้สึกถึงความเ็ปทางร่างกายเลย หากแต่ทุกข์ทรมานใจ ถึงเขาตายก็ตายตาไม่หลับ
“ช่างมันเถอะ เงินแค่สี่สิบกว่าล้านไม่อยู่ในสายตาของฉันหรอก” ชายหนุ่มเหยียดยิ้ม “ถ้าไม่ใช่เพราะหญ้าหลิงซี ฉันก็คร้านจะสนใจนายด้วยซ้ำ เพียงเพราะหญ้าต้นเดียวนายจำเป็ต้องทิ้งชีวิตตัวเองเลยเหรอ? มันไม่คุ้มกันเลยนะ”
“ต่อให้ฉันตายก็ไม่มีทางส่งของล้ำค่าอย่างพลังฟ้าดินให้คนหน้าเนื้อใจเสืออย่างนายหรอก!” ขณะพูด จูไป่เหนี่ยวก็หวั่นไหวขึ้นมา “แค่ก... ตู้เจวียน เธออย่าไปเชื่อมัน... ไอ้เด็กนี่แค่อยากดูดซับพลังจากหญ้าหลิงซีเท่านั้น มันจะตัดใจขายทิ้งแล้วหนีไปกับเธอได้ยังไง...”
ตู้เจวียนกล่าวขัด “นายคิดผิดแล้ว จวิ้นหลงไม่ใช่คนแบบนั้น พวกเราตกลงกันมานานแล้ว หลังจากขายหญ้าหลิงซีจนได้เงินหลายพันล้าน เราจะไปใช้ชีวิตมั่นคงและปลอดภัยที่ต่างประเทศ ไม่กลับไปสำนักอิ่นเซียนอีก...”
เย่เฟิงที่แอบอยู่ข้างๆ ได้ยินบทสนทนาชัดเจน ในที่สุดเขาก็เข้าใจเื่ราวทั้งหมดมากขึ้น
ดูเหมือนสภาพแวดล้อมในสำนักอิ่นเซียนที่ถ้ำคั่วชางซานคงไม่ดีนักหรือไม่กฎเกณฑ์ก็อาจเข้มงวดหรือโหดร้ายมากเกินไป จนทำให้ตู้เจวียนและหลี่จวิ้นหลงไม่อยากอยู่?
“เธอไร้เดียงสาเกินไปแล้ว...” จูไป่เหนี่ยวฝืนพูดต่อ “อยู่ที่สำนักอิ่นเซียน หลี่จวิ้นหลงเป็ถึงบุตรบุญธรรมของาุโผู้คุมกฎ คนอย่างมันจะยอมทิ้งฐานะนี้เหรอ แล้วเธอ... เธอ...”
“นายพูดจาเหลวไหล!” ตู้เจวียนร้องขัด
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น “ฮ่าๆๆ จูไป่เหนี่ยว นายฉลาดจริงๆ ถูกแล้ว ฉันไม่มีทางปล่อยฐานะนี้ไปหรอก ผู้หญิงโง่อย่างยัยนี่มีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินวันนี้หรอก พวกนายก็จะได้ตายด้วยกันไง ทีนี้นายก็ตายตาหลับแล้วสินะ?”
ระหว่างที่พูดประโยคนี้ก็มีเสียงอาวุธลับตัดผ่านอากาศดังขึ้นหลายครั้ง มีดบินพลันพุ่งใส่ร่างหญิงสาว ตามด้วยเสียงอาวุธปะทะกันดังตามมานับไม่ถ้วน
“อ๊ะ! จวิ้นหลง นาย...” หญิงสาวร้องอย่างน่าเวทนาราวกับได้รับาเ็ ตามด้วยเสียงฝีเท้าชุลมุนวุ่นวาย
จากที่ได้ฟัง เย่เฟิงก็รู้ว่าในสายตาของหลี่จวิ้นหลงมีเพียงหญ้าหลิงซีเท่านั้น ดังนั้นสุดท้ายมันก็ทนไม่ไหวจนต้องกำจัดตู้เจวียนทิ้ง เขาไม่รู้ว่าสถานการณ์จริงๆ เป็อย่างไร แต่ในที่สุดตนก็ดูดซับพลังฟ้าดินจากหญ้าเจียหลานหลิงได้ทั้งหมดแล้ว!
จากการดูดซับพลังเมื่อครู่ เขาได้รับพลังบ่มเพาะถึงสี่ปีเต็ม มันทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า ชายหนุ่มรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่มากขึ้น คลื่นพลังที่แท้จริงกำลังหมุนเวียนทั่วร่างของเขา!
ตอนนี้ความรู้สึกบอกเขาว่าตนสามารถใช้หมัดแปดทิศได้แล้ว เพียงหมัดเดียวก็ต่อยวัวจนลอยได้! ส่วนทักษะย่างก้าวไร้เงา ในที่สุดเขาก็สามารถใช้มันต่อเนื่องได้อย่างน้อยหนึ่งนาที แค่นี้ก็เป็สิ่งรับประกันความปลอดภัยให้เขาแล้ว
หากพูดถึงการใช้พลังที่แท้จริงของกระบี่จากแหวนกระบี่ัโบราณ นั่นยิ่งสามารถใช้งานได้นานขึ้นหลายเท่าตัว
ถึงเวลาที่เขาต้องลงมืแล้ว!
เย่เฟิงใช้ย่างก้าวไร้เงาะโออกไปปรากฏตัวในชั่วพริบตา ทั้งยังปราศจากร่องรอย ก่อนที่เขาจะไถลออกจากเนินลาดชัน ใน่เวลาสั้นๆ ก่อนถึงกลุ่มคนที่พัวพันกันอยู่ มองเพียงแวบเดียวก็สามารถเข้าใจสถานการณ์ที่เป็อยู่ได้ชัดเจน
เดิมหลี่จวิ้นหลงจะจู่โจมตู้เจวียน ส่วนจูไป่เหนี่ยวคาดเดาการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามไว้ก่อนแล้ว จึงดันทุรังใช้ร่างกายของตัวเองขวางมีดบินทั้งสามเล่มเพื่อช่วยผู้หญิงที่รัก มีดสองเล่มโดน่ท้อง ส่วนอีกเล่มโดนไหล่ของเขา
ขณะเดียวกัน เขายังขว้างอาวุธลับไปขวางมีดบินที่เหลืออีกสามเล่มของศัตรูหัวใจหลงได้อย่างแม่นยำ เพียงแต่หลี่จวิ้นหลงสมกับเป็อัจฉริยะของสำนักอิ่นเซียน เขาเรียนรู้กระบวนท่านางฟ้าโปรยดอกไม้จนสามารถนำมาใช้ได้ตั้งนานแล้ว!
ในเวลานั้นเองมีดบินนับสิบเล่มพุ่งออกมา แม้จูไป่เหนี่ยวพยายามปกป้องคนรัก ทว่าร่างของตู้เจวียนก็ยังโดนมีดสี่ห้าเล่มทำร้ายจนาเ็ โชคยังดีที่ไม่ร้ายแรงถึงชีวิต
“ตู้เจวียนหนีไป... เร็ว!” ทั่วร่างจูไป่เหนี่ยวถูกปกคลุมด้วยเื แม้หญิงอันเป็ที่รักจะทรยศเขา ทว่าชายหนุ่มก็ยังยืนต่อหน้าเธอราวกับกำแพงแข็งแกร่งเพื่อปกป้องเธอ!
ตู้เจวียนใกับการถูกจู่โจมกะทันหันจนไม่สามารถตอบสนองคำพูดนั้นได้ สีหน้าของเธอคล้ายไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้ากลมแม้ไม่ได้ดูสวยเลิศล้ำ แต่ก็ไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่ ทั้งยังมีเอกลักษณ์ด้วยซ้ำ ชุดสีดำของเธอเริ่มมีเืซึม
“ยังจะหนีได้อีกเหรอ?” หลี่จวิ้นหลงแค่นเสียงเ็า เขายืนห่างจากคนทั้งคู่สิบเมตร มีดสั้นนับสิบเล่มในมือพร้อมจะขว้างออกไปอีกครั้ง ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลามาก เมื่อเทียบกับจูไป่เหนี่ยวแล้วยังแข็งแกร่งกว่าหลายเท่า ไม่แปลกที่สามารถดึงดูดให้ตู้เจวียนทุ่มเทเพื่อเขาหมดทั้งใจ
ขณะที่เขาจะลงมือ ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างแล้วรีบหันไปอย่างรวดเร็ว มองบริเวณที่เย่เฟิงปรากฏตัว “นั่นใคร...”
ฉัวะ!
แสงสีแดงเพลิงจากกระบี่สว่างวาบในชั่วพริบตา หลี่จวิ้นหลงไม่ทันเห็นแม้แต่เงาของศัตรู กลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ ราวกับฟ้าหมุนแผ่นดินกลับ สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเขาคือร่างไร้ศีรษะซึ่งยืนเืสาดกระจาย นั่นไม่ใช่ลำตัวของเขาเองหรอกหรือ?
ก่อนจะสิ้นสติ สิ่งสุดท้ายที่เห็นคือชายสวมหน้ากากคนหนึ่งในชุดลำลองสีดำสนิท ใจของเขาพลันนึกถึงอะไรบางอย่าง นี่คือ... โม่จิ่วเกอ!
น่าเสียดายที่ต่อจากนี้ชายหนุ่มต้องจมดิ่งสู่ความมืดมิดไม่สิ้นสุด ไม่มีวันฟื้นคืนอีก
เย่เฟิงเก็บกระบี่ก่อนเงยหน้า การสังหารหลี่จวิ้นหลงในกระบี่เดียวไม่ใช่เื่ยากสำหรับเขา ระดับพลังลมปราณของอีกฝ่ายยังไม่ถึงสิบปีเลยด้วยซ้ำ แถมยังชำนาญเพียงการใช้อาวุธลับ การเสนอหน้ามาอยู่ในที่แจ้งแบบนี้ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นฆ่าทิ้งหรอกเหรอ?
ทักษะย่างก้าวไร้เงารวมกับพลังที่แท้จริงของกระบี่จากแหวนกระบี่ัโบราณนับเป็สิ่งที่ยอดเยี่ยมในการลอบสังหาร!
ตอนนี้เย่เฟิงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วดั่งใจนึก ต่อให้เขาต้องเผชิญหน้ากับหลงหว่านเอ๋อร์อีกครั้งก็สามารถสู้แบบตัวต่อตัวกับอีกฝ่ายได้ นี่เป็ความรู้สึกที่แข็งแกร่งขึ้น!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้