บรรยากาศในโถงพระราชวังยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียด เสียงะโด่าทอและสาปแช่งจากบรรพบุรุษแห่งราชวงศ์เพลิง์หลายคนดังขึ้นไปทั่วโถงพระราชวัง เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังและโกรธแค้นต่อหลี่หวง พวกเขาทั้งหมดต่างชอบและชื่นชมหลี่เฉินไม่ใช่เพียงเพราะความเกี่ยวพันในสายเืเท่านั้น แต่เพราะหลี่เฉินได้มอบยาสำหรับยืดอายุขัยให้พวกเขา ยาที่ช่วยยืดเวลาชีวิตของพวกเขาออกไปได้
พวกบรรพบุรุษเหล่านี้เต็มไปด้วยความชิงชังที่ต่อหลี่หวงเมื่อเห็นหลี่เฉินถูกทรมานอย่างโเี้ แต่ทว่าเสียงสาปแช่งของพวกเขาไม่สามารถส่งไปถึงหลี่หวงได้ หลี่หวงไม่ได้ใส่ใจและเพียงแค่ยิ้มออกมาเล็กน้อยเท่านั้น
ทันใดนั้น หลี่หวงค่อยๆ คุกเข่าลงกับพื้นและเริ่มวาดอะไรบางอย่าง รูปแบบที่เขาวาดบนพื้นนั้นเป็สัญลักษณ์ที่ดูน่าหวาดกลัว ประกอบไปด้วยวงกลมซ้อนทับกัน มีจุดอยู่ทั้งหมด 8 จุดที่กระจายตัวอยู่รอบวงกลมหลักการวาดนั้นดูมีพลังและความสยดสยองแผ่ออกมาจากสัญลักษณ์นั้น
เมื่อหลี่หวงวาดเสร็จแล้ว เขามองดูผลงานของตัวเองด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ ก่อนที่จะออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เ็า
"เอาพวกมันไปวางไว้ที่จุดต่างๆ ของวงกลมซะ"
สิ้นเสียงคำสั่ง หน่วยลับเงาทมิฬก็ปรากฏตัวขึ้นจากความมืด พวกเขาเริ่มลากร่างของบรรพบุรุษแต่ละคนไปยังจุดต่างๆ ของวงกลมที่หลี่หวงวาดไว้ เสียงะโก้องขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด
"ไอ้เด็กเวร! เ้าอย่ากล้าทำแบบนี้กับพวกเรา!" หนึ่งในบรรพบุรุษะโออกมาด้วยความโกรธและความหวาดกลัว
"ข้าเป็บรรพบุรุษของเ้า! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!" อีกคนพูดขึ้นเสียงดังด้วยความสิ้นหวัง
"ข้าคือคนที่อุ้มเ้าไว้เมื่อเ้ายังเป็ทารกไง! เ้าควรตอบแทนความเมตตานั้นด้วยการเคารพข้าสิ! ไอ้เด็กนรกส่งมาเกิดเอ๊ย!" เสียงของบรรพบุรุษอีกคนดังขึ้นอย่างเร่งรีบ
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะกล่าวอะไร หลี่หวงก็ยังคงนิ่งเฉย เขาไม่สนใจเสียงของพวกมันแม้แต่น้อย ขณะที่บรรพบุรุษเ่าั้ถูกลากไปประจำตำแหน่งที่วงกลม
เมื่อทุกคนเข้าประจำตำแหน่ง หลี่หวงยิ้มเ็า ดวงตาของเขาเปล่งประกายแห่งความโเี้
"ตัดซะ"
สิ้นเสียงคำสั่งจากหลี่หวง เงาทมิฬทั้งหมดที่ยืนอยู่รอบ ๆ ไม่รอช้า พวกเขาใช้ดาบอันคมกริบของตนเองตัดหัวบรรพบุรุษทั้งแปดคนในทันที เสียงดาบตัดผ่านอากาศตามด้วยเสียงหัวที่หลุดออกจากบ่าดังขึ้นอย่างน่าสยดสยอง ร่างของบรรพบุรุษเ่าั้ล้มลงกับพื้นโดยไร้การควบคุม เืสาดกระจายไปทั่วบริเวณ สร้างความใให้กับทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่
อี้เหลย มองภาพตรงหน้านางด้วยความหวาดกลัวพร้อมน้ำที่เริ่มไหลริน นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เห็นความโหดร้ายและเยือกเย็นเช่นนี้ นางเริ่มรู้สึกถึงความสิ้นหวังที่แทรกซึมเข้ามาในใจอย่างต่อเนื่อง สายตาของนางจับจ้องไปที่หลี่หวง ที่กำลังยิ้มอย่างเ็าอยู่กลางวงกลมที่เต็มไปด้วยเื
"รวมเื แย่งร่าง" หลี่หวงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและทรงพลัง
ทันใดนั้น เืของบรรพบุรุษที่ถูกสังหารก็เริ่มไหลรวมกันอย่างช้า ๆ ไหลไปหาหลี่เฉินที่นอนอยู่ท่ามกลางความเ็ป เืสีแดงสดไหลผ่านพื้นหินและแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของหลี่เฉินที่เต็มไปด้วยาแและน้ำตาแห่งความเ็ป
ในเวลาเดียวกัน เืเ่าั้ก็เริ่มปกคลุมร่างของหลี่เฉิน ร่างกายของเขาดูเหมือนจะถูกห่อหุ้มด้วยชั้นบาง ๆ ของเืที่ไหลไปรวมกัน หลังจากนั้นไม่นานมันก็ได้กลายเป็หยดเืขนาดั์ครอบคลุมตัวหลี่เฉินเอาไว้
หลี่เฉินที่นอนจมอยู่ในหยดเืนั้นร่างกายของเขากระตุกอย่างรุนแรงและหลังจากนั้นร่างกายของเขาเริ่มบวมเปล่งขึ้นเรื่อย ๆ จากผลของเืและพลังิญญาที่ไหลเวียนเข้ามาผสมกัน เสียงกรีดร้องด้วยความเ็ปดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนในใจของหลี่เฉิน ทุกคนในห้องโถงต่างจับตามองเหตุการณ์นี้ด้วยความสะพรึงกลัว
ร่างของหลี่เฉินเริ่มบิดเบี้ยว ิัของเขาขยายตัวขึ้นจนถึงจุดที่มันไม่สามารถทนรับความกดดันได้อีกต่อไป
"ตูม!"
หลี่หวงยิ้มบาง ๆ พร้อมพึมพำเบา ๆ “ล้มเหลวอย่างงั้นเหรอ...แต่ก็ไม่เสียหายอะไร”
บรรพบุรุษที่ยังมีชีวิตรอดและอี้เหลยที่ถูกดาบเงาแทงอยู่จ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวที่ยากจะอธิบาย พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมโชคชะตาถึงนำพาพวกเขามาเจอกับปีศาจร้ายเช่นนี้ได้ ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาอาจจะทำผิดในชาติก่อน หรือว่าชีวิตนี้พวกเขาทำสิ่งเลวร้ายอันใดไว้ ทำไมจึงต้องเผชิญกับความโหดร้ายที่ไม่สิ้นสุดของปีศาจตัวนี้ด้วย
อี้เหลยที่ยังถูกตรึงไว้ด้วยดาบเงานั้น น้ำตาของนาง ไหลออกมาไม่ขาดสาย นางมองไปยังศิษย์น้องของนางที่ถูกฆ่าจนไม่เหลือแม้แต่ซาก นางหวาดกลัวจนจบความหวังใด ๆ ที่เคยมีได้หายไปหมดแล้ว สายตาของนางมองไปทางหลี่หวงอีกครั้ง และสบตาเข้ากับดวงตาสีแดงฉานที่เต็มไปด้วยความเ็า ดวงตาสีแดงของเขาและเืที่เปรอะไปทั่วใบหน้า ทำให้หลี่หวงดูเหมือนปีศาจที่มาจากฝันร้ายของนางเลย นางรู้สึกอยากตาย นางไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้วแม้แต่วินาทีเดียว
ทันใดนั้น เสียงของหลี่หวงก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบอันน่ากลัว“เริ่มการทดลองต่อไปได้”
หลี่หวงพูดต่อ “ลดวงกลมเหลือแค่สี่วงพอ”
คำพูดของหลี่หวงทำให้บรรพบุรุษที่ยังรอดชีวิตอยู่รู้สึกยินดี พวกเขาคิดว่าการลดจำนวนวงกลมอาจจะหมายถึงโอกาสที่พวกเขาจะรอดไปได้ แต่ทันใดนั้นเอง ความหวังนั้นก็ถูกทำลายเมื่อพวกเขาลองนับจำนวนคนที่ยังเหลืออยู่ บรรพบุรุษที่เหลืออยู่ในตอนนี้มีเพียงแค่สี่คนพอดี
อี้เหลยที่ยังถูกตรึงอยู่ก็ใเช่นกัน นางพยายามดิ้นหนีอย่างสุดชีวิต แต่หน่วยลับเงาทมิฬไม่สนใจการดิ้นรนของนาง พวกเขาลากตัวนางไปยังวงกลมทันที เสียงกรีดร้องอ้อนวอนของนางดังก้องไปทั่วห้องโถง
“ได้โปรด...ได้โปรดปล่อยข้าไป...” อี้เหลยร้องไห้อย่างหมดหวัง ขณะที่เงาทมิฬพานางไปวางในตำแหน่งที่หลี่หวงสั่ง
และเสียงร้องไห้ของนางก็ค่อย ๆ เบาลงไปในอากาศ จนกระทั่งทุกอย่างกลับเข้าสู่ความเงียบงัน เสียงสุดท้ายของนางก็ค่อย ๆ เลือนลับหายไปตลอดกาล