เ้าพนักงานที่เปิดประกาศเร่งฝีเท้าออกไป นายอำเภอหลี่จึงค่อยจัดเสื้อคลุมยาวไปต้อนรับข้าหลวงใหญ่อย่างไม่เร่งรีบ
กุนซือรู้สึกว่าใต้เท้าของตนน่าสงสัยว่าจะจงใจถ่วงเวลา นายอำเภอหลี่ถลึงตาใส่
“ไร้สาระ หากข้าไปพบข้าหลวงใหญ่ด้วยรูปลักษณ์ไม่เรียบร้อยจะถือเป็การล่วงเกินพลานุภาพ์!”
เฮอะ!
ท่านต้องอาบน้ำรมกำยานสักรอบแล้วค่อยออกไปพบใต้เท้าท่านนั้นด้วยหรือไม่?
ชัดเจนว่าจงใจถ่วงเวลาแล้วยังไม่อนุญาตให้คนพูด… กุนซือมีความเห็นในใจแต่มิอาจเอ่ยได้เช่นนี้ สรุปแล้วก็ไม่ได้เร่งนายอำเภอหลี่ ติดตามใต้เท้าผู้มีมนุษยธรรมย่อมดีกว่าติดตามใต้เท้าผู้ไร้ความรู้สึกมากนัก นายอำเภอหลี่มีใจสงสารต่อเฉิงชิง ยิ่งปฏิบัติต่อคนข้างกายดีกว่าด้วย
รายชื่อสุดท้ายของการสอบระดับอำเภอถูกติดออกไปแล้ว คนที่มาดูรายชื่อแน่นขนัดจนเป็ก้อน
ผู้ที่ได้อันดับหนึ่งย่อมเป็เฉิงชิงตามคาด สหายร่วมเรียนห้องเรียนติงเก้าหลายคนต่างประมือด้วยความดีใจ
“ท่านนายอำเภอช่างเที่ยงตรงนัก!”
“ใต้เท้าหลี่มีวิสัยทัศน์ความรู้ยอดเยี่ยม”
“ผลการสอบนี้ก็ไม่เสียแรงที่พวกเราช่วยให้เฉิงชิงเข้าร่วมการสอบระดับอำเภอได้”
และก็มีบางคนที่รู้สึกอิจฉาในใจ
ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอของปีนี้ถูกเด็กอายุสิบสี่ปีผู้หนึ่งคว้าไป เหตุใดช่องว่างระหว่างคนถึงกว้างถึงเพียงนี้?
“ได้ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอไปก็ไร้ประโยชน์ รอหนังสือตัดสินของราชสำนักลงมา คุณวุฒิบนตัวของเฉิงชิงก็จะต้องถูกถอดถอน!”
ผู้ที่เอ่ยถ้อยคำอิจฉาได้รับสายตาโกรธขึ้งของกลุ่มคนจากสถานศึกษาหนานอี๋โดยพร้อมเพรียงกัน
ศิษย์ของสถานศึกษาหนานอี๋และผู้เข้าสอบคนอื่นๆ ย่อมแบ่งออกเป็สองฝ่าย กล่าวได้ว่าผู้เข้าสอบทุกคนที่เข้าร่วมการสอบระดับอำเภอล้วนเคยได้ลิ้มลองการสอบเข้าสถานศึกษาหนานอี๋ มีคนส่วนน้อยที่สอบเข้าสถานศึกษาหนานอี๋ได้แล้วก็มีอาจารย์และการสอนที่ดียิ่งขึ้น คนส่วนใหญ่สอบเข้าสถานศึกษาหนานอี๋ไม่ได้จึงได้แต่ศึกษาในโรงศึกษาเล็กๆ แห่งอื่น
่หลายปีนี้ศิษย์ของสถานศึกษาหนานอี๋กวาดอันดับการสอบระดับอำเภอ ทุกปีผู้เข้าสอบที่สอบผ่านการสอบระดับอำเภอ มีแปดส่วนที่อยู่สถานศึกษาหนานอี๋ ที่เหลืออีกสองส่วนถึงค่อยให้ผู้เข้าสอบอื่นคว้าไป…ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้เข้าสอบที่ไม่ได้อยู่สถานศึกษาจะไม่มีความเกลียดชังหลายส่วนต่อผู้เข้าสอบของสถานศึกษาได้อย่างไร
ปกติจับจุดอ่อนไม่ได้ ปีนี้เฉิงชิงได้ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอไปจึงกลายเป็จุดอ่อนที่จัดเตรียมไว้แล้ว
มีอะไรไม่น่าดีใจล่ะ?
บัดนี้ได้ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอไปแล้ว เมื่อผ่านไปสักพักแล้วก็ต้องถูกถอดถอนคุณวุฒิ ให้เฉิงชิงได้ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอนี้ไป ช่างเป็การสูญเปล่าเสียจริง!
ดูรายชื่ออันเดียว ผู้เข้าสอบทั้งสองกลุ่มยังแสดงถึงความโกรธเกรี้ยว ปะทะคารมอยู่ใต้รายชื่อ
ผู้ที่เอ่ยถ้อยคำอิจฉาก็ไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้ต่อหน้ากลุ่มคนของสถานศึกษาได้ ยิ่งเอ่ยก็ยิ่งคะนอง
“ผู้อื่นกลัวตระกูลเฉิงแต่ข้าไม่กลัว หากไม่ใช่อิทธิพลของตระกูลเฉิง เ้าเมืองอวี๋ก็คงไม่อนุญาตให้เฉิงชิงผู้เป็บุตรชายของขุนนางต้องโทษผู้หนึ่งเข้าร่วมการสอบระดับอำเภอหรอก!”
โจวเหิงยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธ ตำหนิอีกฝ่ายจากกลุ่มคน “ราชสำนักยังไม่มีหนังสือตัดสิน บุตรชายของขุนนางต้องโทษที่เ้ากล่าวถึงนั่นเรียกผู้ใดกัน? ความเที่ยงตรงของเ้าเมืองอวี๋พอมาถึงปากเ้าแล้วก็กลายเป็การยอมจำนนให้แก่ตระกูลเฉิง เ้าก็แค่สอบเข้าสถานศึกษาหนานอี๋ไม่ได้ถึงได้เอ่ยเช่นนี้ หากสอบเข้าได้ล่ะก็เกรงว่าจะเป็แค่คนหน้าเหมือนกัน!”
“เห็นได้ชัดว่าตัวเ้าเองสอบสู้เฉิงชิงไม่ได้ การสอบระดับอำเภอห้าสนาม เ้าได้อันดับที่เท่าไหร่?”
“มิผิด เฉิงชิงคือผู้ที่นายอำเภอหลี่แต่งตั้ง เ้ากล้าที่จะไปที่ว่าการอำเภอกับพวกเรา เผชิญหน้ากับใต้เท้านายอำเภอไหมเล่า!”
กล้ากับผีสิ
แม้แต่คุณวุฒิซิ่วไฉก็ไม่มี พบขุนนางแล้วต้องคุกเข่า เพียงใต้เท้านายอำเภอกวาดสายตามองแข้งขาก็อ่อนแรงแล้ว ได้แต่กล้าคุยโวไปอย่างนั้นเอง ศิษย์ธรรมดาที่เมื่ออยู่ต่อหน้าขุนนางแล้วไม่กระวนกระวายล้วนเคยเห็นโลกกว้างมาแล้วทั้งนั้น
คนสองกลุ่มทะเลาะกันใต้อยู่รายชื่อเพราะเฉิงชิง ส่วนเ้าหน้าที่แจ้งข่าวก็มาถึงยังตรอกหยางหลิ่วแล้ว แจ้งข่าวน่ายินดีให้แก่ครอบครัวเฉิงชิงอย่างยินดีปรีดา
เดิมบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอผู้หนึ่งไม่ควรได้รับความสนใจมากขนาดนี้ ผู้ใดให้สถานการณ์ของเฉิงชิงพิเศษกว่าคนอื่นเล่า
ผู้อื่นเป็บัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอก็ช่างเถิด แต่ดันเป็เฉิงชิง นี่ไม่ง่ายเลย ถูกกักบริเวณนานขนาดนี้ ยังไม่กระทบต่อการแสดงความสามารถในการสอบระดับอำเภอ บรรดาเพื่อนบ้านที่ตรอกหยางหลิ่วล้วนยื่นคอมามองดู บางคนยังนำประทัดไปวางไว้ที่ประตูทางเข้าของบ้านเฉิงชิง เ้าพนักงานที่เฝ้าดูก็เพียงทำทีไล่ไปพอเป็พิธี ถูกบรรดาเพื่อนบ้านทำให้เปิดเผยข้อเท็จจริงอย่างรวดเร็ว
ดูแล้ววันนี้จะแตกต่างกัน ทุกคนสามารถพูดคุยกับครอบครัวเฉิงชิงได้แล้วหรือ?
มาออกันอยู่ตรงประตู มีคนผู้หนึ่งถามนางหลิ่วว่าสอนบุตรชายอย่างไร
“ปีที่แล้วเ้าหนุ่มเฉิงเพิ่งจะเริ่มท่องสี่ตำราเอง ปีนี้ก็ได้ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอแล้ว เก่งกาจเกินไปแล้ว!”
ั์ตานางหลิ่วเป็ประกายวาววับ
นางจะสามารถสอนบุตรชายได้อย่างไรกัน เด็กคนนี้มีความมุ่งมั่นแน่วแน่เป็พิเศษ ปีนี้ก็ได้ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วกลับมาแล้ว เผชิญความลำบากมามากน้อยเพียงใด หลั่งหยาดเหงื่อมากน้อยแค่ไหน คนนอกไม่มีทางจินตนาการได้!
อา ์ ราชสำนักรีบส่งหนังสือตัดสินมาเร็วๆ เถิด ไม่ต้องทรมานพวกนางทั้งครอบครัวแล้ว
นางหลิ่วน้ำตาคลอหน่วย แต่มุมปากก็แต่งแต้มรอยยิ้มไปดูเฉิงชิง
ใบหน้าเล็กซีดเหลืองของเฉิงชิงราวกับเคลือบด้วยแสงสว่างหนึ่งชั้น ทั้งตัวเบิกบานอย่างเห็นได้ชัด
ความคิดของนางหลิ่วในยามนี้ ครึ่งหนึ่งร้องทุกข์ขอความเป็ธรรมให้แก่สามี ส่วนอีกครึ่งหนึ่งกลับเพื่ออนาคตของเฉิงชิง——บัดนี้ดูแล้วในการสอบเข้ารับราชการ เฉิงชิงมีความเพียรพยายามทั้งยังมีพร์ ในเมื่อปัจจัยต่างๆ ทำให้เฉิงชิงเดินบนเส้นทางแห่งการสอบเข้ารับราชการแล้ว หากต้องถูกปลดคุณวุฒิกลางทาง ก็ถือว่าไม่ยุติธรรมต่อเฉิงชิงเกินไปแล้ว!
เช่นนั้นก็อย่าได้ให้ความหวัง เมื่อให้ความหวังแล้ว่ชิงไปอีก นับเป็ความโหดร้ายอย่างแท้จริง
เฉิงชิงยิ้มพลางกุมมือของนางหลิ่ว “ท่านแม่ ขอเพียงตัวพวกเราไม่ถอดใจ ชีวิตต้องดีขึ้นแน่ขอรับ”
การสอบระดับอำเภอในเดือนสอง เดือนสี่ก็จะเป็การสอบระดับเมือง บัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอเป็เพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น บัดนี้เดือนสามแล้ว เฉิงชิงยังต้องเตรียมพร้อมสำหรับการสอบระดับเมืองต่อ
เด็กบ้านใครสอบได้ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอก็ต้องฉลองสักรอบ บ้านเฉิงชิงเองก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่สถานการณ์พิเศษของบ้านนางไม่อาจเชิญเพื่อนบ้านมาเลี้ยงข้าวเย็นได้ บรรดาเพื่อนบ้านเองก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่ละคนนำสิ่งของมาวางไว้ที่หน้าประตูบ้านเฉิงชิงแล้วหนีไป เ้าหน้าที่อยากจะไล่ตามก็ตามไม่ทัน
สิ่งของเหล่านี้จะส่งเข้าไปได้อย่างไร?
ครอบครัวเฉิงชิงยังไม่อาจติดต่อกับคนนอก หากในบรรดาสิ่งของที่เพื่อนบ้านส่งให้มีข้อความอะไรปะปนไป เ้าพนักงานก็ยากที่จะแก้ตัวต่อเ้าเมืองอวี๋ได้
ระหว่างที่กำลังลำบากใจ นางหลี่ของบ้านห้าเองก็นำของขวัญแสดงความยินดีมาให้แล้ว
เฉิงชิงได้ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอแล้ว นางหลี่เองก็นั่งไม่ติด นายท่านห้ากล่าวอยู่เสมอว่าให้หลีกเลี่ยงความน่าสงสัย นางหลี่ฟังสองคำนี้จนหงุดหงิดแล้ว
เพิ่งมาถึงตรอกหยางหลิ่วก็พบกับเศรษฐีเฒ่าเหอโดยบังเอิญ
เศรษฐีเฒ่าเหอพร้อมทั้งหลานสาวเหอหว่านก็มาแสดงความยินดีกับเฉิงชิงด้วย
เมื่อมาถึงวัยของนางหลี่และเศรษฐีเฒ่าเหอก็ไม่สนใจเส้นแบ่งระหว่างชายหญิงอะไรแล้ว ในเมื่อทั้งสองฝ่ายบังเอิญพบกันก็พูดคุยกันตามสบาย ห่วงใยเฉิงชิงด้วยกัน
สุดท้ายเ้าหน้าที่ผู้ดูแลไม่อาจทนแรงกดดันได้ เปิดประตูใหญ่แล้วให้เฉิงชิงมารับคำการแสดงความยินดีของทุกคนต่อหน้า
ใบหน้ารูปไข่ของเหอหว่านแดงก่ำ ลอบมองเฉิงชิง
ยามงานชุมนุมวรรณกรรมกลางสารทฤดูเคยเห็นหน้าเฉิงชิงครั้งหนึ่ง ยามนั้นรูปร่างเตี้ย คนก็ไม่เจริญตา วันนี้มองดูอีกที คนก็ดูเหมือนว่าจะสูงขึ้นหน่อยแล้ว?
ใบหน้าก็ยังคงเป็ใบหน้านั้น แต่ให้ความรู้สึกไม่เหมือนกับยามงานชุมนุมวรรณกรรมกลางสารทฤดูแล้ว
ยามช่วยเฉิงชิงให้เข้าร่วมการสอบระดับอำเภอ เหอหว่านก็คิดไม่ถึงว่าเฉิงชิงจะสามารถได้ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วได้ ผลลัพธ์เช่นนี้ดียิ่งนัก แสดงให้เห็นชัดว่าแววตาของท่านปู่นั้นดียิ่ง มองคนไม่ผิด
เมื่อแม่นางน้อยหน้าตาน่ารักแอบมองตนเอง เฉิงชิงก็ยิ้มให้อีกฝ่าย ใบหน้าของเหอหว่านแดงก่ำไปถึงใบหูแล้ว
เฮ้ แม่นางน้อยของแคว้นเว่ยช่างขี้อายเสียจริง เฉิงชิงเองก็ไม่กล้าหยอกล้อแล้ว ประพฤติตัวดีรับความห่วงใหญ่ของนางหลี่และเศรษฐีเฒ่าเหอที่วนเวียนมา ล้วนแล้วแต่เป็ผู้ที่รักและปกป้องนางอย่างจริงใจ เฉิงชิงบังเกิดความเคารพภายในใจ
บรรยากาศกลมเกลียวอย่างมาก จนเมื่อเกี้ยวที่นางจูแห่งบ้านรองนั่งเคียงข้างมากับบุตรชายเฉิงจือซวี่มาถึงยังตรอกหยางหลิ่ว บรรยากาศก็เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา
นางจูมีสีหน้าไม่ยินดี เฉิงจือซวี่กลับมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า กล่าวถ้อยคำให้กำลังใจเฉิงชิงให้หมั่นเพียรต่อไป
นางหลี่ปิดปากไม่เอ่ยคำ ไม่สนใจแม่ลูกคู่นี้โดยสิ้นเชิง
ถึงแม้เฉิงจือซวี่บัดนี้จะเป็ขุนนางขั้นสี่อย่างแท้จริง แต่นางหลี่ก็ดูถูกอีกฝ่ายอย่างมาก——เหตุใดนางจูแม่ลูกจึงมายังตรอกหยางหลิ่ว ไม่มีผู้ใดเข้าใจอย่างชัดแจ้งไปกว่านางหลี่แล้ว! คนครอบครัวนั้นที่ถูกจับส่งไปที่ว่าการอำเภอ สุดท้ายแล้วสารภาพเื่บ้านรองออกมา นายอำเภอหลี่แจ้งนายท่านห้าเฉิงแล้ว นายท่านห้าอยู่ที่บ้านโกรธจนไฟลุก
นางจูร้อนใจแล้วสินะ ถึงได้โผล่หน้ามายังตรอกหยางหลิ่ว
โผล่หน้าก็โผล่หน้าเถอะ ทำท่าทางไร้ความรู้สึกและไม่ยินยอมให้ผู้ใดดูกัน?
เฉิงชิงเองก็ไม่ตอบรับ
ทุกคนล้วนเป็คนในเหตุการณ์ กล่าวอย่างไม่จริงใจมีผู้ใดที่ทำไม่ได้บ้าง
นางจูอดกลั้นจนทนไม่ไหว ในใจมีความคิดชั่วร้ายไม่ขาด ภูมิใจในตัวเองไปเถอะ รอหนังสือตัดสินของราชสำนักลงมา ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอก็ล้วนเสียเปล่าแล้ว เนรเทศไปพันลี้ถึงจะเป็จุดจบของเ้าเดรัจฉานน้อย สตรีทั้งครอบครัวถูกส่งเข้าหอคณิกา มีชะตาชีวิตเป็นางคณิกา! รอถึงยามนั้น คอยดูว่าบ้านห้าจะทำหน้าอย่างไร…
์ราวกับตอบรับความคิดชั่วร้ายของฮูหยินผู้เฒ่าจู เ้าพนักงานเปิดทาง เกี้ยวหลายหลังค่อยๆ เข้ามาใกล้ เ้าเมืองอวี๋และนายอำเภอหลี่ลงเกี้ยวก่อน เ้าพนักงานที่เปิดประตูให้เฉิงชิงใจนแข้งขาอ่อน ไหนเลยจะรู้ว่าเ้าเมืองอวี๋กลับไม่โกรธ เพียงตีสีหน้าเคร่งขรึม
“เฉิงชิงอยู่ที่ไหน? เร่งจุดธูปเตรียมโต๊ะ คุกเข่ารับราชโองการเถิด!”
