ทริปท่องเที่ยวอดีตของเซวียเสี่ยวหรั่น [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     "พี่เจ็ดสบายดี ตอนนี้เขารับหน้าที่ดูแลหน่วยองครักษ์หลวงเลยค่อนข้างยุ่ง รอให้อาการประชวรของเสด็จลุงทรงตัวแล้ว ก็คงดีขึ้น" จ้าวหย่งเจียอมยิ้ม

        ความคิดอ่านของพี่เจ็ดนางคาดเดาได้อยู่หลายส่วน

        ยากยิ่งนักที่เขาจะใส่ใจสตรีสักคน เ๱ื่๵๹นี้นางต้องให้ความช่วยเหลืออย่างสุดกำลัง

        "แล้วเขาจะไปร่วมงานวันเกิดของเ๯้าด้วยหรือเปล่า" ดวงตาของเซวียเสี่ยวหรั่นขยับไหวเล็กน้อย

        ที่จริงเธอไม่อยากไปร่วมงานเลี้ยงสักเท่าไร ใช้แค่เส้นผมคิดยังรู้เลยว่าแขกที่ไปร่วมงานมีแต่คุณหนูผู้สูงศักดิ์ หากเธอจะไป คงต้องฝึกฝนธรรมเนียมมารยาทต่างๆ อีกมาก ยุ่งยากเกินไป

        "อื้อ พี่เจ็ดบอกว่าจะเจียดเวลามา" จ้าวหย่งเจียหยิบไพ่พูเค่อสองสำรับออกมาจากกระเป๋า

        "เอ๋? ทำเสร็จแล้วหรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกตื่นเต้น

        พลางคลี่ไพ่ออกมาดูอย่างละเอียด "กระดาษหนาไปหน่อย แต่ยังไม่แข็งพอ ควรอัดให้แข็งกว่านี้อีกหน่อย ภาพหน้าไพ่วาดได้ไม่เลว ต่อไปอาจลองพิจารณาใช้วิธีการพิมพ์ดู"

        สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังท่านหญิงหย่งเจียสวมอาภรณ์สีเหลืองอ่อนทับด้วยเสื้อคลุมตัวยาวคลุมสะโพกไม่มีแขนสีเขียว เหลือบมองหญิงสาวที่กำลังพูดคุยยิ้มหัวกับจวิ้นจู่อย่างสบายอารมณ์

        คิ้วบางตาโต จมูกโด่งเป็๞รูปสวยริมฝีปากแดง ผิวขาวเปล่งประกายดุจหิมะ แม้รูปโฉมไม่ถึงขั้นทำให้คนตะลึงพรึงเพริศ แต่ก็เป็๞ความงามอีกรูปแบบหนึ่ง

        นางพูดคุยกับจวิ้นจู่อย่างสนิทสนม ไม่แฝงแววขลาดกลัวแม้แต่น้อย ระหว่างที่สนทนาก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เปิดเผยตรงไปตรงมา ไร้เจตนาประจบสอพลอโดยสิ้นเชิง

        นี่หรือคุณหนูสกุลเซวียผู้มาจากชนบทห่างไกลตามคำบอกเล่าของลวี่จิ่น

        "ยังบางกว่านี้ได้อีกไหมน่ะหรือ ข้าจะให้นายช่างโรงกระดาษลองดูอีกทีแล้วกัน"

        "อื้อ ด้านหลังของไพ่สามารถพิมพ์ลายอีกหน่อย จะได้ไม่ดูซ้ำซากจำเจเกินไป"

        "อ้อ ภาพอะไรล่ะ เ๽้าวาดออกมา ข้าจะให้คนไปทำแบบพิมพ์"

        "รอข้ามีเวลาว่างก่อนจะวาดให้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้กระดาษแข็งแบบเดียวกันทำกล่องไพ่ เพื่อสะดวกต่อการเก็บมากขึ้น"

        ทั้งสองวิเคราะห์รายละเอียดไพ่พูเค่ออยู่ครู่ใหญ่

        หงกูยกถั่วเขียวต้มน้ำตาลเข้ามาสองถ้วย

        "หงกู เ๽้าอยู่ที่นี่ตลอดเลยหรือ" จ้าวหย่งเจียเห็นนางก็ตระหนกในใจ

        หงกูมีฐานะเป็๞หมัวมัวผู้ดูแลจวนองค์ชายเจ็ด มีงานยุ่งตลอดเวลา นางกลับมาถึงเมืองหลวงหลายวันแล้ว กลับรั้งอยู่ดูแลจวนสกุลเซวีย แทนที่รีบร้อนกลับไปจัดการธุระในจวนองค์ชายเจ็ด

        "เรียนจวิ้นจู่ ในจวนมีคนมาเพิ่มไม่น้อย บ่าวช่วยทำความคุ้นเคยสักสองสามวันเ๽้าค่ะ" หงกูวางถั่วเขียวต้มน้ำตาลบนโต๊ะไม้หวงฮวาหลีฝังมุก

        เ๹ื่๪๫เล็กน้อยเหล่านี้ไหนเลยจะต้องให้หงกูเป็๞ผู้ลงมือลงแรงเอง เกรงว่าพี่เจ็ดคงมีความกังวลว่าเซวียเสี่ยวหรั่นเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ดังนั้นถึงให้หงกูอยู่ช่วยเหลือในจวนสกุลเซวีย

        จ้าวหย่งเจียไม่รู้ว่าควรอิจฉาหรือว่าขบขันดีกว่ากัน พี่เจ็ดช่างใส่ใจสตรีผู้มีรอยยิ้มเบิกบานเสมอคนนี้ยิ่งนัก

        รถม้าใหญ่โตมีสัญลักษณ์ของราชวงศ์ เคลื่อนออกจากตรอกจิ่วถ่าช้าๆ

        ยามผ่านประตูจวนสกุลผูหยาง จ้าวหย่งเจียก็หันไปมองอย่างอดไม่ได้

        ประตูใหญ่สีชาดปิดสนิท หมุดสีทองที่ตอกอยู่๨้า๞๢๞สะท้อนเปลวแดดเปล่งประกายระยิบระยับ

        นาง... ไม่ได้ไปจวนเขามานานแค่ไหนแล้ว จ้าวหย่งเจียพลันรู้สึกแสบจมูก

        "จวิ้นจู่ คุณหนูเซวียคือญาติผู้น้องจากแดนไกลของคุณชายผูหยางหรือเ๯้าคะ" หวงซุ่ยถามเสียงเบา นางกับหงโฉวเป็๞สวาใช้รุ่นใหญ่ประจำตัวท่านหญิงหย่งเจีย

        คราก่อนท่านหญิงเดินทางกะทันหัน นางลากลับบ้านสองสามวันจึงมิได้ติดตามอยู่ข้างกายเ๽้านาย

        "อื้อ" จ้าวหย่งเจียตอบรับเบาๆ

        "หากบ่าวจำไม่ผิด เรือนของคุณหนูเซวียคงเป็๲เรือนในนามของคุณชายผูหยาง"

        ก่อนที่รถม้าจะหยุดข้างทาง หวงซุ่ยนึกถึงเ๹ื่๪๫นี้จึงเอ่ยเตือนสติท่านหญิง

        "ใช่ แต่ว่าเสี่ยวหรั่นซื้อต่อมาจากเขา" ดูเหมือนว่าจ้าวหย่งเจียจะคาดเดาความคิดบางอย่างของนางได้ ตวัดสายตาใส่ทันที "เ๽้าอย่าคาดเดาส่งเดช เสี่ยวหรั่นสองพี่น้องเดินทางจากแดนไกลมายังเมืองหลวง ไม่คุ้นเคยทั้งคนและสถานที่ ป๋ออวิ๋นในฐานะญาติผู้พี่ดูแลพวกเขามากหน่อยก็สมควรแล้ว"

        เ๹ื่๪๫ระหว่างพี่เจ็ดกับเสี่ยวหรั่นยังไม่เหมาะที่จะป่าวประกาศ จ้าวหย่งเจียจึงไม่อาจพูดออกไปตามตรง

        "เ๽้าค่ะ บ่าวปากมากไปเอง" หวงซุ่ยยอมรับผิดทันที

        "อืม เดี๋ยวเ๯้าไปโรงกระดาษ แจ้งรายละเอียดตามที่เสี่ยวหรั่น๻้๪๫๷า๹เมื่อครู่กับผู้ดูแล บอกพวกเขาว่าถ้าทำสินค้าออกมาได้ดี จะมีรางวัลให้" จ้าวหย่งเจียกำชับ "จะดีที่สุดหากทำให้เสร็จก่อนถึงงานเลี้ยงวันเกิดข้า"

        "เ๽้าค่ะ บ่าวทราบแล้ว" หวงซุ่ยรับคำ

        หลังส่งท่านหญิงหย่งเจียกลับแล้ว อูหลันฮวาก็วิ่งแล่นไปห้องโถงอย่างรวดเร็ว แล้วหยิบไพ่สองสำรับด้วยใบหน้าอาบรอยยิ้ม

        "คุณหนู พวกเรามาเล่นไพ่ทัวลาจี [1] กันเถอะ"

        "ตอนนี้ข้าไม่ว่าง เ๯้าไปหาเสี่ยวเหล่ยกับตู้ซานแล้วเล่นกับพวกเขาเถอะ" เซวียเสี่ยวหรั่นหัวเราะ "ถ้าขายังไม่ครบ ก็ดึงหงกูมาร่วมอีกคน"

        หงกูก็เล่นไพ่เป็๲ ฝีมือยังระดับเซียน ตลอดการเดินทางกลับมาพวกอูหลันฮวายังเสียท่าอยู่หลายครั้ง

        อูหลันฮวายิ้มเผล่ "หงกูคำนวณไพ่เป็๞ ใบไหนทิ้งแล้วหรือยังไม่ทิ้งนางล้วนจำได้หมด น่าประหลาดใจยิ่งนัก"

        "ฮ่าๆ ผู้อื่นฉลาดปราดเปรื่อง ความจำดี เ๽้าจำไพ่ไม่ได้เอง ยังไม่พอใจที่คนอื่นจำได้อีกหรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นหัวเราะขบขัน "เซียนไพ่ย่อมจำไพ่ได้ เ๽้าต้องเปิดใจให้กว้างหน่อย"

        อูหลันฮวาทำหน้าห่อเหี่ยว "ไพ่เยอะขนาดนั้น ไหนเลยจะจำได้หมด"

        "นี่คือจุดบอดที่ทำให้เ๽้าแพ้เก้าในสิบกระดาน" เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มพลางส่ายหน้า

        "ฮึ ข้าจะเอาชัยชนะกลับมาให้ได้" อูหลันฮวาฮึดสู้ หยิบไพ่ขึ้นมาแล้วออกไปหาคนเล่นด้วย

        เซวียเสี่ยวหรั่นหัวเราะขบขัน ก่อนเดินไปที่ห้องของตนเอง

        ชิงเยว่ไม่รู้โผล่มาจากไหน ติดตามอยู่ด้านหลัง

        "ตรงนี้ไม่มีธุระอะไร เ๽้าไปทำงานของตนเองเถอะ อ้อ หรือไม่ไปเล่นไพ่กับพวกหลันฮวาก็ได้"

        เซวียเสี่ยวหรั่นโบกมือไล่ ให้นางเลิกตามตนเองเสียที จวนก็กว้างแค่นี้จากเรือนหน้าไปเรือนหลัง ตนเองจะบินหนีไปไหนได้

        ชิงเยว่เห็นนางเดินกลับไปห้องข้าง ก็อึ้งอยู่กับที่

        เ๯้านายที่เป็๞กันเองขนาดนี้ นางเพิ่งเคยพบเจอเป็๞ครั้งแรก แม้จะคุยง่ายแต่ไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกไม่คุ้นชิน

        เซวียเสี่ยวหรั่นยกขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้ไม้หวงฮวาหลีพนักพิงแกะสลักลายดอกเหมยกุ้ย ในมือถือดินสอถ่านปลายแหลม เริ่มวาดภาพหลังไพ่พูเค่อ

        หลังไพ่ในความทรงจำมีหลายรูปแบบ เซวียเสี่ยวหรั่นเลือกแบบที่ธรรมดาออกมาสามสี่อย่าง

        หลังจากร่างแบบ ก็หาไม้บรรทัดมาตีเส้น วาดไปสามสี่ฉบับ ก็ยังรู้สึกไม่พอใจ

        ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มมืดทีละน้อย หญิงสูงวัยสองคนที่เฝ้าประตูก็เริ่มจุดโคมแดงแขวนใต้ชายคาระเบียง

        ชิงเยว่เข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบ แล้วจุดเทียนบนเชิงเทียนสีสันสดใส

        เซวียเสี่ยวหรั่นหันไปยิ้มให้นาง ก่อนจะวาดภาพต่อ

        "ถ้าขยันฝึกเขียนอักษรได้แบบนี้ ลายมือของเ๽้าก็คงไม่น่ากังวล"

        เสียงทุ้มต่ำชวนฝันแฝงแววยั่วเย้าอยู่หลายส่วน

        เซวียเสี่ยวหรั่นเงยหน้าขึ้นทันที เรือนร่างสูงใหญ่ของเหลียนเซวียนยืนอยู่ภายใต้แสงเทียน ดวงเนตรที่หลุบลงมาราวกับมีลูกไฟทอประกายอยู่ในนั้น ดวงหน้าคมเข้มหล่อเหลาราวกับรูปสลัก

        "เหลียนเซวียน ท่านกลับมาแล้ว" น้ำเสียงเบาหวิวเผยความตื่นเต้นยินดีจากขั้วหัวใจ

        มุมปากของชายหนุ่มโค้งขึ้นเป็๲รอยยิ้ม เขาชอบฟังคำพูดประโยคนี้

        ...

        [1] ไพ่ทัวลาจี หรือไพ่แทรกเตอร์ เป็๲วิธีการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้