ตอนแรกถังชิงหรูก็ไม่เข้าใจความหมายของเขา แต่พอเห็นสีหน้าชอบกลของอีกฝ่ายถึงกระจ่างใจ
สภาพแวดล้อมที่ว่าก็คือข้างห้องที่อยู่ติดกันล้วนมีเสียงชายหญิงกำลังร่วมรักอย่างชัดเจน ทำให้เกิดความคิดฟุ้งซ่านได้ง่าย สตรีทั่วไปหากมาอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้เป็ต้องกระอักกระอ่วนและเขินอาย แต่ถ้าเป็บุรุษมาอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้บ้าง แม้จะเป็สุภาพชนหรือผู้ทรงคุณธรรมก็อาจแปรเปลี่ยนเป็สัตว์ป่าหื่นกระหายได้เหมือนกัน
ทว่าถังชิงหรูหาใช่สตรีทั่วไป หนังเอ็กซ์เร่าร้อนกว่านี้ก็เคยดูมาแล้ว โทรทัศน์ในศตวรรษที่สามสิบเอ็ดกล่าวได้ว่าเหมือนจริงราวกับมีคนสองคนมาแสดงบทรักร้อนฉ่าครางอู้อ้ากันให้ดูต่อหน้า เมื่อมาเทียบกันแล้ว สิ่งนี้จะนับว่าเป็อันใด
หากบุรุษสวมหน้ากากคิดจะใช้วิธีนี้มาทำให้นางอับอาย เห็นทีว่าคงจะต้องผิดหวัง ต่อให้เรียกชายหญิงเ่าั้มาประกอบกามกิจต่อหน้า นางยังไม่นำพา แน่นอนว่าหากเปลี่ยนให้นางมาเป็นักแสดงนำฝ่ายหญิง สถานการณ์ย่อมต่างกันไป ดังนั้นครั้งที่เสี่ยวอีแกล้งให้นางััเฉินิ นางถึงตื่นเต้นมากดังฝูงฉ่าวหนีหม่า[1]นับหมื่นตัววิ่งผ่าน ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกอยากจับเสี่ยวอีอัปเกรดใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด
พูดถึงเสี่ยวอี นานแล้วที่ไม่ได้ยินเสียงของเขา คงไม่ใช่ว่าพลังงานหมดเกลี้ยงจนไม่อาจเปิดระบบได้อีกแล้วหรอกนะ
นางไม่ต้องให้เสี่ยวอีช่วยเหลือ แค่อยากให้มันคุยเป็เพื่อนบ้าง อย่างอื่นนางไม่เคยสนใจ ด้วยทักษะด้านการแพทย์ของตนเองตอนนี้ แม้ไม่มีเสี่ยวอีคอยช่วยเหลือก็สามารถรับมือได้ไม่มีปัญหา
ในสายตาของถังชิงหรู เสี่ยวอีหาใช่เป็เพียงแค่ระบบ แต่เป็เหมือนญาติเหมือนสหายคนสำคัญ นางมาจากศตวรรษที่สามสิบเอ็ด เสี่ยวอีเป็สิ่งเดียวที่พิสูจน์ได้ว่าตนเองมาจากโลกอนาคต
"อุ๊ย..." พอถังชิงหรูหันกลับมา ก็เห็นบุรุษสวมหน้าเคลื่อนตัวเข้ามาชิดมากจนเกือบชนกันอยู่รอมร่อ จึงรีบถอยไปด้านหลัง
ชายหนุ่มเสยผม ก่อนเอนกายไปบนเตียง เอ่ยเสียงเรียบ "เมื่อครู่เ้าคิดถึงชิ่งอ๋องอยู่รึ"
ถังชิงหรูหัวเราะเบาๆ "ตาข้างไหนของท่านเห็นว่าข้ากำลังคิดถึงเขา บุรุษใต้หล้านี้มีมากมายนัก ไฉนข้าต้องนึกถึงเขาแค่คนเดียว นึกถึงท่านมิได้หรือ"
บุรุษสวมหน้ากากเลิกคิ้ว แน่นอนว่าสีหน้าเช่นนี้ย่อมถูกซ่อนเร้นอยู่ภายใต้หน้ากากที่ถังชิงหรูมิอาจได้ยล หาไม่แล้วนางคงได้เห็นรอยยิ้มวาบผ่านดวงหน้าของเขา
"นับว่าเ้ายังมีสายตาอยู่บ้าง" บุรุษสวมหน้ากากกล่าวเสียงเรียบ "เฟิ่งหยาง นามของข้า"
"แซ่เฟิ่ง... คนใช้สกุลนี้มีน้อยมาก แต่ดูเหมือนว่าบางแคว้นที่อยู่ใกล้เคียงจะมีมากอยู่" ถังชิงหรูยกมือเท้าคาง พึมพำเสียงเบา
"นั่นเป็เพราะว่าความรู้ของเ้ายังตื้นเขินนัก มีน้อยไม่ได้หมายความว่าไม่มีเสียหน่อย" เฟิ่งหยางเอ่ยเสียงเบา "มานี่ ข้ารู้สึกปวดเมื่อยตรงนี้ เ้ามานวดให้หน่อย"
ถังชิงหรูเดินเข้าไปอย่างไม่เต็มใจ นางถลึงตาใส่หลังของเฟิ่งหยางอย่างหงุดหงิด พลางเงื้อมือกำหมัดทำท่าปานจะทุบตีเขา
"ลองขยับมือไม้ส่งเดชอีกที ข้าจะจัดการเ้าเสีย" เฟิ่งหยางกล่าวเรียบๆ
ด้วยเหตุนี้ถังชิงหรูจึงยอมนวดให้เฟิ่งหยางแต่โดยดี ไม่กล้าทำตามอำเภอใจอีก นางนวดอยู่ครู่ใหญ่จนเขาผล็อยหลับไปอย่างสงบ
นางมองบุรุษสวมหน้ากากตรงหน้า ท่าทางลังเล เก้ๆ กังๆ ท้ายที่สุดก็เอื้อมมือเข้าไป ยามมือน้อยของนางััถูกหน้ากาก เฟิ่งหยางก็ลืมตาขึ้น ดวงเนตรที่จดจ้องกำจายรังสีสังหารแฝงแววเหยียดหยัน
ถังชิงหรูทำตาปริบๆ อย่างไร้เดียงสา กล่าวว่า "ข้าก็แค่สงสัย หากข้าอำพรางใบหน้าเช่นนี้ทั้งวัน ท่านจะไม่นึกอยากรู้อยากเห็นบ้างเลยหรือ"
เฟิ่งหยางคว้ามือเล็กที่เตรียมจะหดกลับไป ก่อนถอดหน้ากากของตนเองอย่างช้าๆ
ถังชิงหรูกลืนน้ำลายด้วยความตื่นเต้น มองหน้ากากเลื่อนออกจากใบหน้าของเขาตาไม่กะพริบ แต่ชั่วขณะที่มันกำลังจะถูกดึงออกเผยให้เห็นรูปโฉมที่แท้จริง นางกลับหลับตาร้องะโว่า "ช่างเหอะ ไม่ดูแล้วก็ได้"
"ทำไมเล่า" เฟิ่งหยางมองใบหน้านางด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"หากท่านอัปลักษณ์เกินไป ข้ากลัวว่าจะฝันร้าย แต่ถ้าหล่อเหลาเกินไป เดี๋ยวข้าก็เก็บไปเพ้อฝัน สรุปแล้วไม่ว่าจะฝันดีหรือฝันร้ายล้วนไม่เข้าท่าทั้งสิ้น ดังนั้นอย่าดูดีกว่า ปล่อยให้มันเป็ความลับต่อไปเถอะ" ถังชิงหรูทำสีหน้าราวกับเห็นมัจจุราชมายืนอยู่หน้าประตู
ท่าทางของถังชิงหรูยามนี้ คนที่ไม่รู้อาจนึกว่านางซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อแผ่นดินเสียเหลือเกิน เฟิ่งหยางซึ่งขุ่นเคืองอยู่ในตอนแรก ยังนึกขันกับท่าทางของนางจนเปลี่ยนกลับมาอารมณ์ดี
เขาลุกขึ้น เป่าลมใส่ใบหน้าของถังชิงหรู
นางหลับตาปี๋ มุ่นคิ้วขมวดเอ่ยว่า "ท่านสวมหน้ากากหรือยัง"
"ยัง" เฟิ่งหยางตอบเสียงเรียบ
ถังชิงหรูเอื้อมมือไปหาเฟิ่งหยาง คลำถูกใบหน้าของเขา ไม่มีหน้าหน้ากากอยู่จริงๆ
"ท่านสวมมันก่อนสิ" ถังชิงหรูกล่าวอย่างหัวเสีย
"เ้าอยากดูมิใช่หรือ คุณชายเยี่ยงข้าก็ยอมให้เ้าดูแล้วไง" เฟิ่งหยางยกมุมปาก ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้ม
ถังชิงหรูส่ายหน้า แค่นเสียงหึ "ท่านอยากให้ข้าดู ข้าต้องดูด้วยหรือ ตอนนี้ข้าไม่สนใจท่านแล้ว"
"งั้นรึ?" เฟิ่งหยางจับมือของนางไว้ ก่อนลูบไปบนฝ่ามืออย่างแ่เบา เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนยิ่ง "แต่ข้า... ชักสนใจเ้าแล้วสิ"
ถังชิงหรูขนลุกซู่ตัวสั่นสะท้าน คิดจะรั้งมือกลับ แต่นางยิ่งดิ้นรน เฟิ่งหยางก็ยิ่งจับแน่นขึ้น
นางนึกเสียใจภายหลังเสียแล้ว เมื่อครู่จะอยากเห็นใบหน้าหมอนี่ไปทำไม นางเคยเตือนตนเองไม่ต่ำกว่าหนึ่งหน แมวเก้าชีวิตยังม้วยมรณาได้เพราะความอยากรู้อยากเห็น ไฉนนางถึงคุมความคิดซุกซนของตัวเองไม่ได้ หากวันนี้เห็นใบหน้าเขาแล้ว ก็อย่าหวังว่าจะรอดพ้นจากเงื้อมมือคนผู้นี้ไปได้อีกเลย ดังนั้นนางไม่อยากเห็นแล้วจริงๆ ต่อให้เป็ชายงามอันดับหนึ่งในใต้หล้าก็ไม่อยากมอง
"คะ... คุณชายเฟิ่ง เมื่อครู่ข้าน้อยไร้มารยาทเกินไป ท่านอย่าได้ถือสาหาสตรีไม่รู้ความอย่างข้าเลย ถึงสวมหน้ากากก็ยังหล่อเหลาขนาดนี้ ท่านสวมไว้เถอะนะ" ถังชิงหรูผลักรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า
"แต่ว่า สวมไว้มันอุดอู้ไม่ระบายอากาศ อีกอย่างหากมีคนปลอมตัวเป็ข้า เ้าจะรู้ได้อย่างไร มิสู้มองหน้าข้าให้ชัดดีกว่า แบบนี้เ้าถึงจะแยกแยะได้อย่างถูกต้อง" เฟิ่งหยางเป่าลมใส่ใบหูของนาง
ถังชิงหรูรู้สึกเหมือนย้ายหินมาทุ่มใส่เท้าของตนเองอย่างจัง นางฟุบหน้าไปบนเตียงด้วยความรู้สึกจนใจอย่างยิ่ง หลับตาก็ถือว่าไม่เห็นแล้ว
เฟิ่งหยางเห็นนางทำท่าราวกับเห็นผี ก็แกล้งใช้นิ้วแหย่หูบ้าง บีบจมูกนางบ้าง เดี๋ยวหยิกแก้มของนางเล่น หยอกเย้าอยู่ด้านข้างอย่างเพลิดเพลิน
ถังชิงหรูลอบสาบานในใจ ต่อไปจะไม่หาเื่ใส่ตัวเช่นนี้อีกแล้ว อัญเชิญเทพยดาง่ายกว่าส่งกลับมากนัก เหมือนเช่นนางเพลานี้ที่ขี่หลังเสือแล้วหาทางลงไม่ได้ ต้องลำบากตนเองทั้งกายใจ
"เ้าไม่อยากเห็นจริงรึ" เฟิ่งหยางเห็นว่าเล่นมามากพอแล้ว จึงสวมหน้ากากกลับเข้าไป "เอาล่ะ ลืมตาได้ ข้าสวมหน้ากากแล้ว"
ถังชิงหรูไม่เชื่อ นางลูบคลำใบหน้าของเขาอีกครั้ง พอััความเยียบเย็นของหน้ากาก ถึงยอมลืมตา
เฟิ่งหยางชี้ไปที่นิ้วมือของนาง "นี่เ้าทำอันใด"
พอถังชิงหรูก้มลงมองก็เห็นนิ้วของตนเองแตะอยู่บนริมฝีปากของเฟิ่งหยาง แทบจะเข้าไปในปากของเขาอยู่รอมร่อ มิน่าเล่าถึงรู้สึกอุ่นๆ ชื้นๆ นางรีบชักมือกลับ เอ่ยด้วยความเก้อเขิน "ขออภัยด้วย ข้าไม่ทันระวัง"
"สตรี... ข้าหิวแล้ว" เฟิ่งหยางกล่าว "ไปทำอะไรมาให้กินหน่อยสิ"
"ข้ามีชื่อ" ถังชิงหรูนิ่วหน้า ั์ตาฉายแววประท้วง "สิ่งที่ข้าเกลียดนักก็คือถูกผู้อื่นเรียกว่าสตรี ใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย แต่ละคนล้วนมีชื่อแซ่ หากทุกคนล้วนถูกเรียกว่าสตรีหมด เช่นนั้นก็ไม่ให้เกียรติกันเกินไป"
"แต่เ้าก็เป็สตรีมิใช่หรือ" เฟิ่งหยางกอดอก
"แน่นอนสิ" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ "แค่นี้ยังต้องสงสัยด้วยหรือ หากมองไม่ออกดวงตาของท่านคงมีปัญหาแล้วล่ะ ควรต้องควักออกมาล้างให้สะอาด"
"คุณชายเยี่ยงข้าย่อมมองออกว่าเ้าเป็สตรี แม้ว่าส่วนที่ควรอวบก็ไม่อวบ ส่วนที่ควรผอมก็ไม่ผอม แต่เป็สตรีมิผิดแน่ ดวงตาของข้าปรกติดี ดังนั้นข้าเรียกเ้าแบบนี้จึงถูกต้องแล้ว แม้เ้าจะรู้สึกว่าไม่เป็การให้เกียรติ แล้วข้าจำเป็ต้องให้เกียรติด้วยหรือ"
ถังชิงหรูค่อนขอดในใจ ขอต่อยหน้าคนปากโสโครกให้เละไปเลยได้หรือไม่
ถ้าไม่ถูกเ้าบัดซบนี่ฝังหนอนกู่ในร่างกาย นางไหนเลยจะกล้ำกลืนฝืนทนอยู่อย่างนี้ ไอ้คนสารเลวสมควรตายเอ๊ย ไม่รู้ว่ามารดาเบ่งออกมาได้อย่างไร สมควรถูกหมกถังส้วมตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด
ถังชิงหรูก่นด่าสาปแช่งในใจอยู่นาน นางตบอกเบาๆ ให้ความคิดด้านตรรกะเหตุผลทำงาน ความเดือดดาลในอกถึงสลายลงไปบ้าง
"ท่านกล่าวไม่ผิด" ถังชิงหรูคลี่ยิ้มบนใบหน้า "เมื่อเป็เช่นนี้ ต่อไปข้าจะเรียกท่านว่าบุรุษบ้างก็ดีเหมือนกัน"
เฟิ่งหยางเลื่อนตัวเข้ามาประชิด หน้ากากพยัคฆ์ประหนึ่งจะคำรามใส่ ทว่านางกลับรู้สึกว่าบุรุษที่ซ่อนเร้นอยู่ใต้นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าหน้ากากภายนอก
บุรุษผู้นี้จะต้องอัปลักษณ์อย่างไร้ที่เปรียบเป็แน่ ดังนั้นถึงต้องใช้หน้ากากปกปิดใบหน้าของตนเองไว้ ถังชิงหรูยิ้มเยาะอยู่เงียบๆ
"ก็ได้" เฟิ่งหยางตอบตกลงอย่างใจกว้าง
ถังชิงหรูตะลึงงัน "ข้าเรียกท่านว่าบุรุษ ท่านคิดว่าได้รึ?"
"แน่นอน แม้ว่าการเป็บุรุษของเ้าจะดูเสียเปรียบอยู่บ้าง แต่หากเ้าอยากจะตามตอแยข้าให้ได้ ข้าก็จำต้องฝืนใจรับเ้าไว้ เ้าเรียกข้าว่าบุรุษหนึ่งคำ ข้าก็จะตอบรับเ้าหนึ่งคำ" เฟิ่งหยางเอ่ยพลางยิ้มร้าย "หากเ้าคิดจะทำสิ่งใด ข้าก็จะร่วมด้วย ตราบใดที่การสู้รบยังไม่จบสิ้น คุณชายเยี่ยงข้าก็จะสู้อยู่เคียงข้างเ้าจนกระทั่งศึกใหญ่ครั้งสุดท้าย"
ถังชิงหรูลูบแขนที่ขนลุกชันจนเป็ตุ่มหนังไก่ ทำราวกับรังเกียจเดียดฉันท์เป็นักหนา
"ต่อให้ข้าแต่งไม่ออก ก็ไม่ให้ท่านมาเป็บุรุษของตนเองหรอก" ถังชิงหรูตอกกลับไปหนึ่งประโยคโดยไม่ลังเล "ท่านหิวมิใช่หรือ ข้าจะไปทำอะไรมาให้กิน แบบนี้ถึงจะอุดปากท่านได้"
"กล่าวได้ไม่ผิด แต่หากอยากจะอุดปากคุณชายเยี่ยงข้า ที่จริงไม่ต้องใช้อาหาร ใช้ปากของเ้าก็ได้" เฟิ่งหยางแค่นเสียงเยาะ
"ข้าอยากใช้ส้นเท้ามากกว่า" ถังชิงหรูขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กล่าวจบก็สาวเท้าก้าวใหญ่ออกไปจากห้อง นางเกรงว่าหากอยู่ต่อไป คงได้เหวี่ยงหมัดใส่ใครบางคนอย่างเหลืออด
เฟิ่งหยางเห็นเงาหลังของถังชิงหรูเลือนลับไป แววตาก็จมดิ่ง สีหน้าภายใต้หน้ากากเผยแววเยาะหยัน
"เด็กๆ หาตัวเฉินิให้พบ อยู่ต้องพบคน ตายต้องเห็นศพ" เฟิ่งหยางเอ่ย
"ขอรับ" คนผู้หนึ่งปรากฏตัวออกมาจากที่ลับ หลังรับคำสั่ง ก็ทะยานออกไปทางหน้าต่าง
เฟิ่งหยางมองออกไปด้านนอก กล่าวเสียงเยาะ "เฉินิ เ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก สตรีผู้นั้นอยู่ในมือข้าแล้ว ข้าไม่เชื่อว่าเ้าจะไม่โผล่หัวออกมา ต่อให้หาไม่พบ เ้าก็ต้องส่งตัวเองมาถึงที่อยู่ดี"
--------------------------------------------------------------------------------
[1] ฉ่าวหนีหม่าคือตัวอัลปากา เป็สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอยู่ในวงศ์เดียวกับอูฐ มีลำคอยาวขนนุ่มเหมือนขนแกะ อยู่เป็ฝูงมักอยู่ในแถบที่ราบสูง
