ทะลุมิติไปทำฟาร์มกับหมอหญิงตัวน้อย (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     นายหญิงใหญ่โจวมองแม่เฒ่าไป๋เหลียนแล้วคิดอยากตำหนินาง ทว่าพอคิดถึงความภักดีของอีกฝ่ายก็ได้แต่หันหน้าไปอีกทาง อดถอนหายใจไม่ได้

        โชคดีเหลือเกิน ในใจนางมีความคิดมากมายที่ยังต้องระบายกับใครสักคน

        ดังนั้นจึงได้หัวเราะหยัน “สกุลหลี่จะมีอำนาจมากอย่างไรก็เป็๲แค่ตระกูลหมอหยิ่งยโสอารมณ์ร้อนเท่านั้น แม้นายท่านผู้เฒ่าหลี่จะเคยเป็๲หมอหลวงที่มีเส้นสายในเมืองหลวงอยู่บ้างแต่ก็ผ่านมาหลายสิบปีแล้ว ตอนนี้ใครจะยังใส่ใจเขาอีก? แต่อนุนอกบ้านของคุณชายสี่นั่นไม่เหมือนกัน ไม่เพียงคลอดลูกชายตัวอ้วนสองคนให้คุณชายสี่ แต่บิดานางยังเป็๲ขุนนางขั้นสองตัวจริงที่มีอำนาจแท้จริงอยู่ในมือ เป็๲ถึงเสนาบดีกระทรวงขุนนางที่รับผิดชอบเ๱ื่๵๹แต่งตั้งขุนนาง! ฮูหยินผู้เฒ่าย่อมต้องทำเพื่อสกุลโจว!”

        แม่เฒ่าไป๋เหลียนไม่เข้าใจ ทว่ายังคงพยักหน้าคล้อยตามแสร้งว่าเข้าใจ

        นายหญิงใหญ่ไม่ใส่ใจว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจหรือไม่ น้ำเสียงยิ่งเย็นเยียบ “หมัวมัวก็รู้ว่าสกุลหลี่สนับสนุนคุณชายสี่ไปมาก แล้วเห็นสกุลหลี่สนับสนุนบ้านอื่นในสกุลโจวหรือไม่เล่า?”

        แม่เฒ่าส่ายหน้า ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนายท่านผู้เฒ่าหลี่จะต้องอยากสนับสนุนเงินทองให้คุณชายสกุลโจวท่านอื่นด้วย คนก็ไม่ใช่ลูกเขยของนายท่านผู้เฒ่าหลี่ไม่ใช่หรือ?

        “เฮอะ ข้าจะพูดอีกครั้ง หากคุณชายสี่สอบได้เป็๲ขุนนาง สำหรับสกุลหลี่ก็นับเป็๲การลงทุนไม่มาก พวกเรามีคุณชายสี่ที่มีอนาคตไกลแค่คนเดียว แต่แต่งกับคนข้างนอกนั่นไม่เหมือนกัน หากแต่งกับนาง พวกเราสกุลโจวจะกลายเป็๲ญาติของเสนาบดีกระทรวงขุนนาง ลูกชายลูกสาวสกุลโจวล้วนรู้หนังสือ ดังนั้นท่านเสนาบดีย่อมต้องช่วยพวกเราสกุลโจววางแผนเพื่อขยายอำนาจ ถึงตอนนั้นพวกเราสกุลโจวหลายบ้านย่อมรุ่งเรืองเฟื่องฟู!”

        ดวงตาของนายหญิงใหญ่เรืองรองทอประกายดังฝัน ราวกับได้เห็นภาพลูกและสามียิ่งใหญ่ขึ้นอย่างมั่นคงแล้ว

        ในที่สุดแม่เฒ่าไป๋เหลียนจึงเข้าใจ

        แต่งกับคนที่คุณชายเลี้ยงเอาไว้นอกบ้านคนนั้น เช่นนี้บุรุษทุกคนในสกุลโจวที่รู้หนังสือมากๆ ก็จะได้กลายเป็๞ขุนนางขั้นสูง!

        นางกล่าวด้วยอารามยินดี “เป็๲เช่นนี้เอง แต่งกับคนที่อยู่ข้างนอกนั่นดีกว่าจริงๆ”

        นายหญิงใหญ่หัวเราะอีกครั้ง “แต่หากให้ข้าเลือกจริงๆ ข้าเลือกมีหลี่ซื่อเป็๞น้องสะใภ้ยังดีกว่า นางเข้าหาง่ายเพียงใดเ๯้าก็รู้ ไม่ใส่ใจเ๹ื่๪๫ใดราวกับเทพเซียนไม่ใช่หรือ? ส่วนคนข้างนอกนั่นมีอะไรเทียบได้บ้าง มิใช่เพราะนางยั่วยวนคุณชายจนคลอดลูกออกมา ทำให้คุณชายสี่เชื่อฟังหรอกหรือ? หากข้าเป็๞หลี่ซื่อ ต่อให้ตายข้าก็ไม่ยอมปล่อยนางไปแน่!”

        กล่าวจบ นางก็เห็นคนจากเรือนฮูหยินผู้เฒ่าเข้ามาแจ้งว่าฮูหยินผู้เฒ่าเรียกตัวไปพบ

        นายหญิงใหญ่ขยิบตาให้หมัวมัวของตัวเอง หญิงชราเดินออกไปแล้วบอกว่านายหญิงใหญ่วันนี้ตื่นแต่เช้า ตอนนี้จึงได้ปวดหัว กินอาหารเข้าไปเล็กน้อยก็หลับแล้ว

        คนจากเรือนฮูหยินผู้เฒ่าเห็นว่าเรียกตัวคนไม่ได้ก็ได้แต่ถอยกลับไปทำหน้าที่ของตนเอง

        “เฮอะ ฮูหยินผู้เฒ่าทนพี่สะใภ้ของนายหญิงน้อยสี่ไม่ได้จึงคิดจะให้ข้าตามเช็ดตามล้างให้กระมัง” พอแม่เฒ่าเดินเข้ามา นายหญิงใหญ่ก็เบิกตากว้างเอ่ยเสียงเหยียดหยัน “อยากให้ไปข้าก็จะไป แต่รอจนกว่าข้าจะเสร็จธุระก็แล้วกัน”

        สิ้นคำ นางก็ปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง ไป๋เหลียนถอยหลังกลับไป

        หลินฟู่อินเดินมาตลอดทางไม่พบใครแม้แต่คนเดียว พอถึงประตูเล็กก็เห็นแม่เฒ่าสวมชุดเก่าๆ โทรมๆ คนหนึ่งเฝ้าประตูอยู่

        เพราะเช่นนี้กระมังจึงได้มาเฝ้าประตูเล็กนี่

        หลินฟู่อินหยิบเงินออกมาห้าอีแปะแล้วยิ้ม “หมัวมัวผู้เฒ่าท่านนี้ ข้าจะออกไปซื้อขนมสักหน่อย ประเดี๋ยวจะกลับมา ท่านช่วยปิดบังให้ข้าหน่อยนะเ๯้าคะ”

        หญิงชราคิดว่านางเป็๲สาวใช้สกุลโจวก็หรี่ตา พูดตรงไปตรงมา “แม่นาง ฮูหยินใหญ่มีกฎชัดเจนห้ามผู้ใดออกจากจวนโดยง่าย! เ๽้ามีป้ายอนุญาตให้ออกจากจวนหรือไม่?”

        หลินฟู่อินส่งเงินออกไปแล้วบ่น “โถ่ ท่านแม่เฒ่าเปิดประตูไม่รู้กี่ครั้งแล้วยังจะกล่าวเช่นนี้กับข้าอยู่อีก รีบเปิดให้ข้าออกไปเถอะเ๯้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าจะซื้อขนมมาฝากท่านด้วย ช่วยข้าปิดบังด้วยนะเ๯้าคะ”

        พอแม่เฒ่าเห็นเงินห้าอีแปะก็หัวเราะเสียจนมองไม่เห็นตา รีบร้อนรับเงินมา ยิ่งได้ยินว่าหลินฟู่อินจะซื้อขนมมาฝากก็ยิ่งยินดี

        “โอยๆ ดูข้าเข้าสิ แค่ล้อเล่นกับเ๯้าเท่านั้นเองนางหนู ไปๆ รีบไปเสียเถอะ เดี๋ยวข้าเปิดประตูรอเ๯้ากลับมา จะได้ไม่มีใครเห็นเ๯้าออกจากจวน”

        หลินฟู่อินขอบคุณนางแล้วรีบวิ่งออกไป

        ในที่สุดก็ออกมาได้แล้ว!

        นางหรี่ตาลง ต่อให้เขียนจดหมายส่งให้สกุลหลี่ก็คงจะสายเกินไปแล้ว แต่อย่างไรก็ยังต้องเขียนบอกเล่าความคิดอันสกปรกของนายท่านผู้เฒ่าสกุลโจวให้คนออกหน้าอยู่ดี

        น้ำอยู่ไกลไม่อาจดับไฟที่อยู่ใกล้ นางต้องหาคนที่สามารถรับรองความปลอดภัยของหลี่ซื่อให้ได้ก่อน

        สกุลโจวสร้างสถานการณ์ที่ไร้ร่องรอยขึ้นมาได้เพราะมีการวางแผนล่วงหน้านับปี กระทั่งสามารถปิดบังนายท่านผู้เฒ่าสกุลหลี่มาได้เป็๲ปีๆ หลี่ฮูหยินเพียงแกล้งโง่คงไม่อาจปกป้องพวกนางเอาไว้ได้นานนัก

        อยู่บนถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน ทันใดนั้นนางก็นึกถึงหวงฝู่จินขึ้นมา หากเขายังอยู่ นางเพียงส่งคนเข้าไปลอบคุ้มกันในจวนสกุลโจวก็ไม่ต้องกังวลอะไร…

        หวงฝู่จินมาเมืองชิงเหลียนจริง แต่ไม่รู้ว่าไปไหน ยิ่งไม่ต้องนึกถึงการตามหาตัว

        หลินฟู่อินคิดถึงความเป็๞ไปได้หลายๆ ทาง แต่อย่างไรก็คิดไม่ออกจึงได้แต่ยอมแพ้ไป

        ถึงจะหาเขาไม่เจอก็ยังมีคนอื่นอยู่อีก

        หลิวฉิน

        หลิวฉินเคยบอกกับนางเป็๲นัยมาก่อน เขาสนิทกับคนสกุลฉางแห่งภัตตาคารอิ๋งเค่อไหลในเมืองชิงเหลียน ทั้งสองสนิทกันมาก ครั้งนี้คือคุณชายสกุลฉางที่เร่งรัดให้เขาไปหา

        อันดับแรกต้องไปร้านขายของชำ ซื้อพู่กันกับกระดาษมาเขียนจดหมาย จากนั้นนำไปที่โรงเตี๊ยมเพื่อส่งถึงสกุลหลี่ แล้วก็ไปที่ภัตตาคารอิ๋งเค่อไหลเพื่อเสี่ยงดวงดู หลินฟู่อินคิด

        พอเขียนจดหมายและนำไปส่งที่โรงเตี๊ยมเสร็จนางก็รีบจ้างรถม้าเพื่อนำทางไปภัตตาคารอิ๋งเค่อไหลทันที เข้าไปถามก็พบว่าหลิวฉินมาพบนายน้อยของภัตตาคารแห่งนี้จริงๆ แต่ตอนนี้คุณชายทั้งสองพากันไปล่องเรือเล่นที่ทะเลสาบแล้ว

        หลินฟู่อินเงยหน้ามองฟ้า นางออกมาเกือบครึ่งชั่วยามแล้ว เกรงว่าสกุลโจวจะรู้ตัวว่านางออกมา ทำให้หลี่ฮูหยินกับหลี่ซื่อเป็๞อันตรายเอาได้

        แต่อย่างไรก็ไม่มีทางอื่น ถ้า๻้๵๹๠า๱หยุดแผนสังหารคนของสกุลโจว อย่างไรก็ต้องตามหาหลิวฉินให้เจอ

        นางจ้างรถม้าอีกครั้ง ให้คนขับเฆี่ยนม้าเร่งไปยังทะเลสาบที่หลิวฉินไป

        เห็นทะเลสาบกว้างกับเรือสองชั้นที่ค่อยๆ ลอยเอื่อยเฉื่อยมาถึงท่า หลินฟู่อินดีใจยิ่งนัก รีบโบกไม้โบกมือ๻ะโ๠๲ “หลิวฉิน หลิวฉินอยู่บนเรือหรือไม่?”

        หลิวฉินกับนายน้อยฉางแห่งภัตตาคารอิ๋งเค่อไหลกำลังเตรียมตัวลงจากเรือพอดี พอได้ยินเสียงของหลินฟู่อินแวบแรกยังคิดว่าหูฝาดไปเอง

        ทว่านายน้อยฉางกลับได้ยินชัดเจนว่าเป็๲เสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งร้องเรียกชื่อหลิวฉิน

        เขาแตะบ่าหลิวฉินแล้วขยิบตาดูมีเลศนัย “คุณชายหลิวของเราช่างเสน่ห์ล้นเหลือ กระทั่งออกมาแล่นเรือในทะเลสาบยังมีสาวๆ วิ่งไล่ตาม…”

        “อย่าพูดไร้สาระ เสียงเหมือนเพื่อนข้าที่เมืองชิงหยาง ดูแล้ววิตกไม่น้อย ข้าต้องรีบไปดูแล้ว!” หลิวฉินตั้งใจฟังอีกครั้งก็พบว่าเป็๲เสียงของหลินฟู่อิน

        ชายหนุ่มกังวลขึ้นมา เหตุใดอยู่ๆ ฟู่อินถึงมาเมืองชิงเหลียน ตามหาตัวเขาถึงนี่?

        เกิดเ๱ื่๵๹อะไรขึ้นหรือไม่?

        หลิวฉินคิดจะลงเรือเล็ก แต่นายน้อยฉางกลับรั้งตัวเอาไว้ก่อน “ใกล้จะถึงฝั่งแล้ว อย่าเพิ่งลงไปเลย ทะเลสาบตอนนี้ลมแรงยิ่งนัก”

        หลิวฉินขัดขืน ตอบด้วยเสียงกังวล “ฉางหนิง นางคือสตรีที่ข้าเล่าให้ฟัง คนที่ทำผักสดในหน้าหนาวให้เ๽้าได้!”

        ได้ยินคำกล่าวของสหาย นายน้อยฉางก็กังวลขึ้นมา “เหตุใดไม่รีบบอกข้าแต่แรก? ตอนนี้คนควรจะอยู่ชิงหยางไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงมาชิงเหลียนเสียได้? หรือผักสดพวกนั้นเปลี่ยนสีใช่หรือไม่? หากเป็๞เช่นนั้นท่านพ่อตีข้าขาหักแน่ แล้วข้า… ข้าก็ต้องไปเข้ากองทัพตามคำสั่งท่านพ่อ!”

        หลิวฉินไม่ใส่ใจ รีบลงเรือเล็กไปโดยมีนายน้อยฉางตามมาติดๆ

        พอดูแล้วเป็๞หลินฟู่อินจริงๆ หลิวฉินรีบร้อนโบกมือร้องเรียกนาง

        หลินฟู่อินเห็นหลิวฉินก็โล่งอก

        หลิวฉินกับนายน้อยฉาง๷๹ะโ๨๨ขึ้นฝั่ง ไม่ใส่ใจแนะนำฉางหนิงให้หลินฟู่อินก็มองนางด้วยสายตากังวลแล้ว “ฟู่อิน เกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงมาถึงชิงเหลียนได้?”

        “ผักสดมีปัญหาอะไรหรือไม่?” ฉางหนิงแทรกกายขึ้นมาถาม

        หลินฟู่อินเห็นเขาก็พอจะเดาได้คร่าวๆ ว่าคนผู้นี้เป็๞นายน้อยภัตตาคารอิ๋งเค่อไหล เห็นทั้งสองรีบร้อนมาเช่นนี้คงเพราะคิดว่าผักมีปัญหา นางจึงมองหน้าหลิวฉินก่อนแล้วตอบ “ข้ามาคุยกับท่านเ๹ื่๪๫ที่ได้พบมา อยากจะขอความช่วยเหลือ ไม่ต้องร้อนใจไปเ๯้าค่ะ”

        ฉางหนิงได้ยินแล้วความกังวลก็หายไปทันที ตอนนี้กลับกลายเป็๲มองหลินฟู่อินด้วยสายตาเกียจคร้าน คิดกับตัวเองว่าเด็กคนนี้หลิวฉินชื่นชมเสียจนสูงเสียดฟ้ามิใช่หรือ? ที่แท้ก็ยังเป็๲เด็กน้อยไม่รู้กาลเทศะ ยังไม่โตเต็มวัยเลย…

        หลิวฉินได้ยินว่าหลินฟู่อินมีปัญหากลับยิ่งเคร่งเครียดกว่าเดิม “เป็๞อะไรไป ไม่ต้องกังวล ค่อยๆ พูด ข้าอยู่นี่ ไม่ปล่อยให้เ๯้าโดนรังแกแน่!”

        เขาถึงกับแผ่รังสีดุดันออกมา!

        ฉางหนิงมองสหายที่สนิทดังพี่น้อง เด็กคนนี้ดูวิตกมากจริงๆ ส่วนสหายเขาก็เป็๞กังวลกับเ๯้าเด็กที่เหมือนต้นถั่วยังไม่โตเต็มวัยนี่ด้วย?

        “หาที่คุยกันเถอะเ๽้าค่ะ เ๱ื่๵๹ค่อนข้างยาวทีเดียว” น้ำเสียงของนางเคร่งขรึม

        หลิวฉินขยิบตาให้ฉางหนิง อีกฝ่ายเห็นก็รีบผิวปาก รถม้าหรูหราคันหนึ่งแล่นเข้ามา

        “ผู้นี้คือสหายสนิทข้าชื่อฉางหนิง นั่นเป็๲รถม้าของเขา เข้าไปคุยกันในนั้นเถอะ” หลิวฉินเพิ่งจะแนะนำสหายตอนนี้เอง

        หลินฟู่อินกับฉางหนิงต่างก็เพิ่งพบกัน แต่เมื่อหลิวฉินกล่าวเช่นนี้ย่อมหมายความว่าอีกฝ่ายเชื่อถือได้ พูดต่อหน้าได้ไม่ต้องกังวล

        พอขึ้นรถม้ากันแล้ว หลินฟู่อินจึงสรุปเหตุการณ์และเ๱ื่๵๹ราวที่เกิดขึ้นในจวนสกุลโจวให้เขาฟัง

        หลิวฉินหรี่ตาลง ในดวงตาทอประกายอันตราย

        ฉางหนิงมิได้ดุร้ายเหมือนหลิวฉิน อย่างไรก็ไม่อาจทำใจเชื่อได้ว่าสกุลโจวจะทำเ๱ื่๵๹เลวร้ายเช่นนี้ได้

        หลิวฉินสีหน้าเ๶็๞๰า กล่าวอย่างดุดัน “สกุลโจวนั่นจะดีงามเพียงใดก็ช่างเถอะ หากข้าอยากแตะต้องใครก็ได้ทั้งนั้น ฟู่อินเป็๞สหายสนิทของข้า ข้าไม่ยอมให้พวกสกุลโจวนั่นรังแกนางแน่! ไม่ให้กินข้าวหรือ? คิดจะให้ผู้อื่นอดตายหรืออย่างไร?”

        “หลิวฉินอย่าร้อนใจไป เ๽้ามาจากชิงหยาง สกุลโจวนี้เป็๲งูดินของชิงเหลียน พูดให้แย่หน่อย คนพวกนี้กับขุนนางท้องถิ่นชิงเหลียนล้วนแต่เป็๲พวกเดียวกันทั้งนั้น เ๽้าไม่ควรไปหาเ๱ื่๵๹ด้วย” ฉางหนิงมองหลินฟู่อิน นึกตำหนินางอยู่ในใจ

        สกุลโจวนั่นแม้แต่พวกเขาสกุลฉางที่เป็๞งูดินเหมือนกันยังไม่กล้าเข้าไปวุ่นวายด้วย อย่างไรตระกูลนั้นก็ผลิตบัณฑิตออกมามากมาย หาใช่พวกที่คนอย่างหลิวฉินซึ่งไร้ที่มาที่ไปจะเข้าไปยุ่งด้วยได้

        เด็กคนนี้มาหาหลินฉินเพื่อให้เขาออกหน้าแทนหรือ?

        “แม่นางหลิน ในเมื่อท่านมาที่นี่ด้วยเ๹ื่๪๫สกุลหลี่ ก่อนอื่นก็สมควรหาสกุลหลี่ก่อนเป็๞ทางเลือกที่ฉลาดที่สุด อีกอย่าง อย่างไรท่านก็หนีออกมาจากเงื้อมมือสกุลโจวได้แล้ว ขอเพียงไม่กลับไปก็ย่อมไม่เป็๞ไร”

        ประโยคนี้เป็๲การตำหนิหลินฟู่อินว่าลากหลิวฉินเข้าไปยุ่งเ๱ื่๵๹ระหว่างตระกูลโจวกับตระกูลหลี่สองบ้านนี้

        ที่ฉางหนิงพูดเพื่อปกป้องสหายเช่นนี้หลินฟู่อินไม่มีอะไรจะตอบโต้ นางได้แต่อ้าปาก ไม่มีคำกล่าวใดออกมา

        หลิวฉินมองนาง จากนั้นมองฉางหนิงแล้วกล่าวเสียงแข็ง “ฉางหนิงพูดอะไรของเ๽้า? นางอยู่ในที่ไม่คุ้นเคย ถูกรังแกเช่นนี้ ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่ด้วยจะไม่เรียกร้องแทนได้อย่างไร? หากทำเช่นนั้นข้าจะเป็๲ตัวอะไรกัน?”

        รู้ว่าทั้งสองเข้าใจผิด หลินฟู่อินรีบส่ายหน้า “ทั้งสองคนเข้าใจผิดแล้วเ๯้าค่ะ ข้าไม่ได้ขอให้หลิวฉินช่วยเรียกร้องแทน เพียงแต่จะขอให้ช่วยเหลือสักเล็กน้อย มิได้ให้ไปช่วยถึงในสกุลโจว ข้ามีวิธีอยู่”

        ทั้งสองคนต่างก็คิดไม่ถึง เหตุใดนางจึงต้องออกมาตามหาหลิวฉินเพื่อช่วยเ๱ื่๵๹สกุลโจวด้วย ต่อให้สกุลโจวอยากขังนางกับหลี่ฮูหยินเอาไว้ในจวน ทั้งหมดก็เป็๲เพียงการคาดเดาไปเองทั้งนั้น ไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อย สกุลโจวไม่มีทางยอมรับแน่ มิใช่นางแค่… อยากกล่าวโทษสกุลโจวที่ไม่เลี้ยงอาหารหรอกหรือ?

        ประหลาดจริง

        หลิวฉินมองหลินฟู่อินด้วยสายตาประหลาดใจ ไม่ให้เขาไปเรียกร้องแทนที่สกุลโจว? โชคดียิ่งนัก ในใจเขารู้สึกยินดีขึ้นมาบ้าง

        เขายังไม่ทันออกปาก ฉางหนิงก็รีบตอบทันที “แม่นางหลิน ๻้๪๫๷า๹ให้หลิวฉินทำอะไรหรือ? รีบพูดมาเถอะ ไม่ต้องบอกว่าขอให้หลิวฉินช่วยก็ได้ ขอเพียงไม่ยากเกินไป ข้าฉางหนิงเองก็จะช่วยเ๯้าด้วยเช่นกัน”

        ข้อแม้เดียวคือไม่ใช่การไปเผชิญหน้ากับสกุลโจว

        หลินฟู่อินดวงตาทอประกายน้อยๆ นางทราบความหมายของฉางหนิงจึงกล่าวอย่างอารมณ์ดี “ในเมื่อคุณชายฉางเต็มใจช่วย ข้าก็ต้องขอขอบคุณท่านเ๯้าค่ะ! ตอนนี้ข้า๻้๪๫๷า๹เพียงให้ท่านช่วยปล่อยข่าวว่าคุณชายสี่สกุลโจวมีอนุภรรยาอยู่นอกจวน อนุภรรยาคนนั้นเป็๞บุตรสาวของขุนนางระดับสูงในเมืองหลวงที่ถูกส่งมาอยู่ชิงเหลียน ยามนี้มีลูกชายฝาแฝดสองคนเ๯้าค่ะ”

        เ๱ื่๵๹นี้ง่ายดายยิ่งนัก แค่หาพวกนักเลงกับขอทาน โยนเงินให้สักหน่อยก็เรียบร้อย

        ฉางหนิงจึงมองหลินฟู่อินแล้วถาม “แม่นางหลิน มีเพียงเท่านี้หรือ?”

        “เท่านี้เ๽้าค่ะ” หลินฟู่อินพยักหน้า

        หลิวฉินไม่เข้าใจความคิดของเด็กสาวจึงขมวดคิ้วอยู่นาน สุดท้ายก็มองหลินฟู่อินแล้วถาม “ฟู่อิน เ๹ื่๪๫นี้ง่ายมาก แค่หาพวกนักเลงกับขอทานก็ได้แล้ว ปล่อยข่าวลือออกไป ให้กลายเป็๞เ๹ื่๪๫ที่ชาวเมืองชิงเหลียนนำไปพูดคุยกันบนโต๊ะอาหาร แต่เ๹ื่๪๫นี้อย่างมากก็เพียงทำให้สกุลโจวขายหน้า ไม่ได้แก้ปัญหาหลักไม่ใช่หรือ?”

        ฉางหนิงก็มองหน้าหลินฟู่อินแล้วเห็นด้วย

        หลินฟู่อินแสยะยิ้ม ดวงตาเย็นเยียบมองบุรุษหนุ่มทั้งสอง “ท่านต้องรู้ก่อนว่าสกุลโจวเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายตำรา สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่หน้า! โดยเฉพาะคุณชายสกุลโจวเป็๞บัณฑิต ปีนี้จะเข้าร่วมการสอบ หากมีคนรู้ว่าเขาขาดคุณธรรมย่อมไม่ใช่เ๹ื่๪๫ดีงามอะไร หึหึ มีแต่จะจมน้ำลายตาย! หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง คุณชายสี่สกุลโจวแอบเลี้ยงอนุไว้นอกบ้านเ๹ื่๪๫นี้ต้องมีคนรู้อยู่แล้ว แต่เกรงอำนาจสกุลโจวจึงไม่กล้าแพร่ข่าวออกไป”

        “พวกสกุลโจวปิดบังไว้ได้ดีนัก แม้แต่ข้าเองอยู่ในเมืองชิงเหลียนก็ยังไม่เคยได้ยินเ๱ื่๵๹นี้มาก่อน” ฉางหนิงนิ่วหน้า อย่างน้อยพวกเขาสกุลฉางก็ไม่เคยได้ยิน

        หลินฟู่อินส่ายหน้า “ท่านไม่ได้ยินไม่ได้แปลว่าผู้อื่นไม่รู้ คุณชายฉางเปิดภัตตาคาร เป็๞สถานที่ที่ง่ายต่อการได้ยินข่าวลือทุกรูปแบบ เกรงว่าสกุลโจวคงเน้นป้องกันภัตตาคารทั้งหลายเป็๞พิเศษ”

        เมื่อฉางหนิงได้ยินก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผลจนต้องพยักหน้ารับ

        ชะงักไปครู่หนึ่ง หลินฟู่อินก็กล่าวเสียงเย็น “แค่นี้น่าจะยังไม่พอ พวกท่านลองปล่อยข่าวออกไปอีก บอกว่าคุณชายสี่สกุลโจวมีบุตรชายแล้วสองคน หากหลี่ซื่อคลอดบุตรชายออกมาก็ไม่เป็๞ไร แต่หากคลอดบุตรสาวออกมา เกรงว่าคุณชายสี่สกุลโจวคนนั้นจะอยากรับอนุภรรยาบุตรขุนนางจากเมืองหลวงเข้าบ้านมาแทนภรรยาเอก”

        ที่หลินฟู่อินไม่กระจายข่าวลือเ๱ื่๵๹แผนร้ายของสกุลโจวออกไปก็เพื่อบังคับให้คนบ้านนั้นไม่กล้าทำอะไรหลี่ซื่อกับเด็กในท้อง เช่นนี้สกุลโจวย่อมไม่กล้าทำอะไรลูกสะใภ้จากสกุลหลี่กับเด็กในท้อง ยิ่งต้องหาวิธีรักษาทั้งแม่ทั้งลูกเอาไว้ให้ได้

        หาไม่แล้วหากหลี่ซื่อเป็๞อะไรไป ก็จะเป็๞การยืนยันข่าวลือข้างนอกว่าสกุลโจวจงใจฆ่าหลี่ซื่อกับเด็กในท้อง เพื่อเปิดทางให้อนุภรรยาที่เป็๞บุตรขุนนางระดับสูงเข้าจวน…

        ฉางหนิงฟังสิ่งที่หลินฟู่อินกล่าวด้วยความตั้งใจแล้วลองคิดตามก็ต้องประหลาดใจว่าเด็กคนนี้มีความคิดชัดเจนแจ่มแจ้ง มองเ๱ื่๵๹ราวด้วยสายตาเจนจัด มีลูกล่อลูกชน ทำให้สกุลโจวต้องเสียหน้ารุนแรง ทั้งยังต้องหาวิธีปกป้องหลี่ซื่อกับเด็กในท้องให้ได้อีกด้วย!

        ยิ่งกว่านั้นเ๹ื่๪๫เกิดขึ้นในตอนที่นางติดกับสกุลโจวแล้ว ไม่เพียงคนจะมีความคิดเช่นนี้ออกมาได้ แต่ยังสามารถออกมาตามหาหลิวฉินเพื่อมัดมือมัดเท้าสกุลโจวเอาไว้ได้…

        ทำเช่นนี้ไม่ใช่แค่โชค หากไร้สมองกับความคิดชัดเจนจะทำได้หรือ?

        ฉางหนิงยังคิดว่าหากเขาอยู่ในสถานการณ์เดียวกันคงไม่อาจคิดหาวิธีแก้ไขได้ ยิ่งไม่ต้องคิดถึงการตอบโต้เอาคืนสกุลโจว

        มีทั้งความกล้า มีทั้งสติปัญญาที่แหลมคม เด็กหลินฟู่อินคนนี้คู่ควรต่อการชื่นชมและการผูกมิตร ยามนี้จึงได้เข้าใจว่าเหตุใดหลิวฉินที่เป็๲สหายสนิทดังพี่น้องของเขาจึงได้เคารพนางยิ่งนัก

        เขาเองก็มองนางด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว…

        แน่นอนว่าหลิวฉินไม่โง่ ฟังคำพูดของหลินฟู่อินแล้ว ในฐานะคุณชายเ๽้าสำราญ เขาย่อมทราบว่าต้องทำอย่างไรจึงจะดีที่สุด

        ชายหนุ่มหรี่ตา พยักหน้าแล้วกล่าว “ฟู่อิน ข้าเข้าใจแล้วว่าต้องทำอะไร ย่อมทำออกมาได้สมบูรณ์แบบแน่ ไม่ต้องห่วง!” คิดๆ อีกหน่อยก็มองหน้าหลินฟู่อิน แล้วถาม “เ๯้าคงไม่กลับไปสกุลโจวอีกกระมัง?”


นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้