สิ้นเดือนสองจวนสิ้นเดือนสาม อิ้งหลีเข้าร่วมการสอบขุนนางในเมืองเทียนซู เว่ยซูหานและหลินชวนรีบเร่งไปเมืองหนานฮั่น
อิ้งหลีไม่ต้องกังวลกับทางนี้ ในฐานะที่เป็คนมีพร์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้ ไม่ว่าจะอย่างไรอนาคตอันรุ่งเรืองก็อยู่เพียงเอื้อม
ส่วนทางเมืองหนานฮั่น แม้ว่าเว่ยซูหานจะไม่บอกว่าสถานการณ์ในเมืองหนานฮั่นตอนนี้เป็อย่างไร แต่เหยียนชิงเชื่อว่าตราบใดที่เว่ยซูหานมีปัญหา เขาจะจัดการได้เป็อย่างดี และคนที่ฮ่องเต้ส่งไปกำลังอยู่ระหว่างเดินทาง จะไม่เกิดเื่ใหญ่ขึ้นแน่นอน
ความหนาวเย็นในฤดูใบไม้ผลิค่อย ๆ ลดลง เหยียนชิงยืนเอามือไพล่หลังอยู่ในลานบ้าน เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาดอกไม้ใบหญ้าบริเวณรอบๆ ต่างก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา ทั้งที่มีเื่มากมายแต่อารมณ์ของเขากลับไม่หนักอึ้งเลย
เป็เวลากว่าครึ่งปีแล้วที่เขากลับมาเกิดใหม่ ั้แ่เริ่มต้นเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและตื่นตระหนก เขากังวลว่าเขาจะไม่สามารถดูแลครอบครัวได้ดี ไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของครอบครัวได้ จนถึงตอนนี้ทุกอย่างเป็ไปอย่างราบรื่น เขาค่อยๆคุ้นเคยกับการปล่อยวางความวิตกกังวลและเพลิดเพลินชีวิตปัจจุบัน หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของเขาแตกต่างจากชาติที่แล้ว ยิ่งมีตัวแปรมากเท่าไรผลลัพธ์ก็จะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
แน่นอนว่าเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือเว่ยชูหานอยู่ที่นี่ แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกจะทำลายความกล้าหาญของบุตรชาย แต่เขาคิดว่ามันยอดเยี่ยมมากที่เขาได้แต่อีกฝ่ายเป็ภรรยา
“คุณชาย คุณชายรองส่งจดหมายด่วนมาให้เ้าค่ะ”
เฉินเซียงเอ่ยตามมาด้านหลังอย่างนอบน้อม แล้วยื่นจดหมายหนึ่งฉบับให้
“หือ?” เหยียนชิงหันหลังกลับและยื่นมือออกไปรับ “ไม่ใช่ว่าเพิ่งได้รับจดหมายเมื่อวันก่อนนี้เองหรือ?”
เฉินเซียงยิ้มตอบ
“เ้าค่ะ บางทีคุณชายรองอาจลืมอะไรก็ได้”
เหยียนชิงเปิดจดหมายด้วยรอยยิ้มและอ่านมันอย่างละเอียด ไม่นานสีหน้าของเหยียนชิงก็ดูเคร่งขรึม
“เอ่อ มันเป็ไปได้อย่างไร...”
เฉินเซียงถามอย่างสงสัย “คุณชาย เป็อะไรไป?”
เหยียนชิงขมวดคิ้ว หลังจากยืนยันอีกครั้งก็ตอบกลับไป
“พี่รองบอกว่าหยางเหิงกลายเป็หัวหน้าขันที และเขายังได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้”
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เขาจึงไม่เป็ฝ่ายติดต่อไปหาหยางเหิงั้แ่เขากลับมาจากเมืองหลวง แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีเื่สำคัญเกิดขึ้น
เฉินเซียงก็ประหลาดใจเช่นกัน “ใต้เท้าหยาง? คือคนที่มาที่จวนเราตอนกลางฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมานี้หรือไม่?”
“ใช่” เหยียนชิงพยักหน้า “พี่รองคงได้เจอกับหยางเหิงที่มาแจ้งข่าวก่อนวันสอบขุนนางถึงรู้เื่นี้”
นี่เป็เหตุผลที่อิ้งหลีส่งจดหมายด่วนมา
เฉินเซียงคิดสักครู่และพยักหน้า
“นี่เป็เื่ดี ถึงอย่างไรเขาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเรา วันหน้าคุณชายจะทำเื่อะไรก็สะดวกขึ้นมาก... แค่ให้หัวหน้าขันทีผู้นั้นดูแล”
เหยียนชิงเหลือบมองนางพลางกระซิบว่า
“หวางไห่เฉียวอดีตขันทีที่เสียชีวิตเมื่อกลางฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว พี่รองบอกว่าหยางกงกงบอกว่าหวางไห่เฉียวถูกลอบสังหารจริง ๆ แต่ฮ่องเต้สั่งให้แจ้งประชาชนว่าเขาเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ”
“กลางฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว...” เฉินเซียงพูดเสียงต่ำ หลังจากนั้นก็พูดด้วยความประหลาดใจ “หรือว่าเื่ที่เกิดขึ้นในคราวที่แล้วเป็การตายของหวางกงกง?”
เมื่อรวมกับคำใบ้ของเหยียนชิงที่หยางเหิงให้ในตอนนั้น เป็เช่นนี้ไม่ผิดแน่
เหยียนชิงพยักหน้า
“ก็คือครั้งนั้น... อีกอย่างข้าก็คิดว่าเขาคงถูกจิงโม่ฆ่า ภารกิจครั้งนั้นของจิงโม่ก็คือการไปวังเพื่อรอบฆ่าเขา”
ถ้ามีใครฆ่าคนในวังได้ สิ่งเดียวที่เขาคิดได้ก็คือจิงโม่ ชาติก่อนพวกเขานักเจอกันที่วัด จิงโม่ก็ขอให้เขาไปพบที่วัด โดยที่จิงโม่จะปลอมตัวมา เพื่อจะได้มอบยาพิษให้กับเขาได้
อีกอย่างเวลาที่หวางไห่เฉียวถูกลอบสังหารและสถานการณ์ของทุกฝ่ายมันก็ประจวบเหมาะ การทำให้จิงโม่าเ็ได้นั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดา และจะให้รู้ว่าใครเป็คนสังหารไม่ได้
แต่ใครกันล่ะที่สั่งให้จิงโม่ไปฆ่าหวางไห่เฉียว?
การลอบสังหารในพระราชวังไม่ใช่เื่ง่าย ยอดฝีมือในวังก็เหมือนเมฆบนฟ้าเหมือนตาข่ายบนพื้นดิน ถ้าไม่ได้วางแผนอย่างดี อย่าว่าแต่ฆ่าคน หากก้าวเข้าไปในเขตหวงห้ามของพระราชวังอาจถูกจับได้ การจะลอบสังหารให้สำเร็จ ต้องตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ในวังให้มาก รวมถึงที่อยู่ของหวางไห่เฉียว
ในฐานะที่เป็หัวหน้าผู้ดูแลใหญ่ในวังหลวง ส่วนใหญ่แล้ว หวางไห่เฉียวจะอยู่ข้างฮ่องเต้ มีโอกาสน้อยมากที่เขาจะถูกลอบสังหาร เว้นแต่จะมีสถานการณ์พิเศษหรือมีเื่อื่นที่สามารถนำเขาไปที่อื่นได้...
ความคิดของเหยียนชิงหมุนวน เฉินเซียงเองก็ขมวดคิ้ว หลังจากนั้นเป็เวลานานก็ไม่เข้าใจสักที
“ใครกันที่ไม่พอใจขันทีในวัง? ไม่ลังเลที่จะจ้างนักฆ่าเข้าวังมาเพื่อปลิดชีพเขา ในยุทธภพนี้น้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำโคลน หากถูกจับได้มันจะเป็ความผิดที่ใหญ่หลวงมาก”
“ข้าเองก็ไม่รู้”
เหยียนชิงเองก็สงสัยเช่นกัน ต้องรู้ก่อนว่าในวันที่ตระกูลเหยียนประสบเคราะห์กรรมในชาติก่อน หวางไห่เฉียวที่อายุได้หกสิบปี เสียชีวิตด้วยโรคหวัด และเขาก็อยู่ที่บ้านนอกวังของเขา เหตุการณ์ในตอนนี้ ใครกันที่อยากให้เขาตาย?
หรือว่าการเสียชีวิตของหวางไห่เฉียวในชาติก่อนจะมีเงื่อนงำบางอย่าง?
หลังจากเฉินเซียงครุ่นคิดก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“เวลาลอบสังหารหวางกงกงเป็วันเดียวกับที่หญิงคณิกาหอเยียนจือถูกลอบสังหาร ไม่รู้ว่าพวกเขามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่”
“...” เมื่อเหยียนชิงได้ยินเช่นนั้น ในใจก็เริ่มเข้าใจ ชาติที่แล้วเขาไม่ได้ใกล้ชิดกับหอเยียนจือ และหวางไห่เฉียวก็เป็จิ้งจอกเฒ่า เพียงแค่เขาเป็คนข้างกายฮ่องเต้เท่านั้น ในเมื่อไม่ได้ใส่ใจกับเื่อะไรมากย่อมไม่รู้อะไร พอคิดดูอย่างละเอียดเื่นี้ก็เหมือนจะมีความเชื่อมโยงกัน
ในฐานะที่เป็ชายชรารับใช้ฮ่องเต้สองชั่วอายุคน เื่ที่หวางไห่เฉียวรู้ก็น่าจะมีไม่น้อย หากมีการเชื่อมต่อกับกองกำลังนอกวัง การจะรู้จักกับเยว่ฉานก็เป็เื่ที่สมเหตุสมผล พวกเื่มากมารวมตัวกันย่อมไม่ใช่เื่ดี
อีกอย่าง เขาก็จำได้ว่าหวางไห่เฉียวสนิทกับอ๋องิมาก ถ้าหวางไห่เฉียวสนิทกับอ๋องิ แล้วเยว่ฉานเล่า?
ชาติก่อนอ๋องิชินตรวจสอบขุนนางที่มีความดีความชอบของตระกูลเหยียนอย่างละเอียด เขาเป็หนึ่งในคนที่ได้รับมอบหมายจากเซียนตี้ให้ช่วยเหลือฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน หวังไห่เฉียวเป็ชายชราผู้รับใช้ฮ่องเต้มาสองชั่วอายุคน... เื่นี้จะมีเงื่อนงำอะไรอื่นหรือไม่?
ยิ่งเหยียนชิงคิดเื่นี้มากเท่าไหร่ ราวกับกำลังก้าวเข้าไปในขุมนรกที่มองไม่เห็น รู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อย
เฉินเซียงเห็นสีหน้าของเขาผิดปกติ จึงก้าวเข้าไปเอ่ยถามด้วยความเป็ห่วง “คุณชาย...”
“ไม่ได้เป็อะไร” เหยียนชิงออกมาจากความคิด “ข้าจะตอบจดหมายของพี่รอง ให้เขารักษาตัวให้ดีในเมืองหลวง เื่นี้ยังไม่เกี่ยวกับพวกเราชั่วคราว อย่าเพิ่งไปยุ่งจะดีกว่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็ก่อนเวลาจะมาถึง”
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็ใคร ฆ่าหวังไห่เฉียวและเยว่ฉานเพื่อจุดประสงค์อะไร แม้จะดูไม่เป็ผลดีกับพวกเขาตอนนี้ แต่ก็ยังไม่ได้แย่ขนาดนั้น ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงไม่ว่าเขาจะคาดเดามากแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์ ทำได้แค่รอและดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เฉินเซียง “เ้าค่ะ”
เหยียนชิงถอนหายใจครู่หนึ่งและเอ่ยด้วยเสียงผ่อนคลายเล็กน้อย
“เอาอย่างนี้ไปก่อนเถอะ ข้าจะส่งจดหมายไปที่เมืองหลวงให้หงเย่า ให้นางเตรียมของขวัญแสดงความยินดีให้กับหยางกงกงในนามของข้า เ้าคิดว่าอย่างไร?”
หวางไห่เฉียวตาย หยางเหิงเข้ารับตำแหน่งแทน เช่นนั้นก็ต้องยึดเส้นสายของหยางเหิงเอาไว้
เฉินเซียงตอบรับ
“เช่นนี้ก็ดีเ้าค่ะ หยางกงกงก็เป็คนที่มีความรู้เช่นกัน ทำให้พวกเราสะดวกสบายขึ้นอนาคต นอกจากนี้การที่ความสามารถของเขาได้เป็ที่ยอมรับของฮ่องเต้ก็เกี่ยวข้องกับคุณชายด้วย ั้แ่คุณชายถูกฮ่องเต้เรียกเข้าวัง คนในวังเกรงว่าจะมีเคลื่อนไหว หยางกงกงจิ้งจอกเฒ่าผู้นั้นจะไม่คว้าโอกาสนี้ได้อย่างไร”
หยางเหิงต้องเข้ากับตระกูลเหยียนได้ดีอย่างแน่นอน แต่ก็จำเป็ที่พวกเขาจะเป็ฝ่ายเชื่อมความสัมพันธ์เองในเวลาที่เหมาะสม
เหยียนชิงเอ่ยชมเชย “เ้าพูดถูก”
เฉินเซียงถอยออกไป เหยียนชิงกลับเข้าไปในห้องหนังสือ ครุ่นคิดอย่างจริงจังถึงความทรงจำที่เขาได้ัักับหวางไห่เฉียวเมื่อชาติก่อน แต่เขาพบว่าเขาไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ดูท่า คงทำได้แค่รอจนกว่าเขาจะไปตรวจสอบในภายหลังที่เมืองหลวง
ส่วนจิงโม่ เขาไม่คิดว่าจิงโม่จะบอกเขา กฎหารสังหารของจิงโม่นั้นเขาทำตามอย่างเข้มงวด ดังนั้นจึงไม่ถามดีกว่า
