เจิ้งหยวนสบสายตาของคุณพ่อ เส้นประสาทพลันชาวาบ เธอรีบแสดงความคิดเห็น “ฉันจะตอบตกลงเขาค่ะ”
คิ้วของเจิ้งเฉวียนกังถึงคลายลง
ครั้นกินข้าวเสร็จ เจิ้งหยวนก็กลับห้องไปเขียนจดหมายตอบเฝิงเจี้ยนเหวิน เธอคุ้ยหาปากกาหมึกซึมในกระเป๋าหนังสือของเจิ้งเจวียน ความจริงแล้วปากกาด้ามนี้เคยเป็ของเธอมาก่อน ซึ่งได้มาจากพี่สะใภ้ ตอนนั้นเธอดีใจอยู่นานทีเดียว ปากกาหมึกซึมนับเป็สัญลักษณ์ของฐานะทางสังคมในยุคสมัยนี้ ทั้งราคายังแพงหูฉี่ hero 100 [1] ด้ามหนึ่งตั้งยี่สิบกว่าหยวน และต้องมีคูปองอุตสาหกรรมถึงจะซื้อได้ คุณหม่าซานลี่ [2] เคยเล่าเื่ตลกเกี่ยวกับปากกาหมึกซึมเื่หนึ่งไว้ว่า ‘หากใครเหน็บปากกาหมึกซึมด้ามเดียว แสดงว่าเขาเป็นักเรียนชั้นประถม หากเหน็บปากกาหมึกซึมสองด้าม แสดงว่าเขาเป็นักเรียนมัธยม หากเหน็บปากกาสามด้าม เขาต้องเป็นักศึกษาแน่ งั้นเหน็บปากกาสี่ด้ามเล่า? บ๊ะ เขาคงเป็คนซ่อมปากกาแล้ว’ เสียดสีที่คนยุคสมัยนี้นำปากกาหมึกซึมเป็สัญลักษณ์ประจำตัว
มีน้ำหมึกเหลืออยู่ในปากกาหมึกซึม เธอหากระดาษเขียนจดหมายมา แล้วเริ่มเขียนลงบนหน้ากระดาษโดยจั่วหัวว่า สหายเฝิงเจี้ยนเหวิน สวัสดี
และนำจดหมายที่เฝิงเจี้ยนเหวินส่งมาเป็แบบ ลอกทั้งสำนวนภาษาอะไรต่อมิอะไรลงไปทั้งดุ้นต่อ เธอเขียนว่า คุณเข้าร่วมเป็ทหาร เสียสละชีวิต หลั่งเืเนื้อเพื่อประเทศชาติ ฉันรู้สึกเคารพเลื่อมใสอย่างยิ่ง ดังนั้น ฉันจึงยินดีเป็ช้างเท้าหลังที่แข็งแกร่งมั่นคง คลอดบุตรชาย อบรมสั่งสอนบุตรสาวและดูแลบ้านให้แก่คุณโดยไม่พร่ำบ่นแม้เพียงครึ่งคำ
พร้อมลงนามท้ายจดหมายว่าเจิ้งหยวน
หลังเขียนจดหมายฉบับนี้เสร็จ เจิ้งหยวนพลันตระหนักได้ว่าความรู้สึกนึกคิดของตนยกระดับขึ้นแล้ว เธอกวาดตามองจดหมาย แม้จำนวนตัวอักษรค่อนข้างน้อย แต่สะกดไม่ผิดเลยสักคำ มิหนำซ้ำลายมือยังสะอาดสะอ้าน เป็ระเบียบเรียบร้อย ตัวหนังสือสง่างาม รูปร่างเพรียวบาง มีน้ำหนักดูทรงพลัง เมื่อเทียบกับลายมือเละตุ้มเป๊ะของเฝิงเจี้ยนเหวินแล้ว เป็ศิลปะการเขียนลายมือชัดๆ ! ชาติก่อนเธออารมณ์ร้อน ต้องสูญเสียหลายอย่างไปไม่รู้ตั้งเท่าไร ต่อมาจึงฝึกคัดลายมือเพื่อขัดเกลานิสัยตนเองโดยเฉพาะ จนผ่านไปนับสิบปี ก็เขียนสวยขึ้นมาเอง มีคำกล่าวว่าลายมือสื่อตัวตนผู้เขียน เจิ้งหยวนเชื่อว่าเพียงตัวอักษรเหล่านี้ก็สามารถสร้างความประทับใจที่ดีให้เฝิงเจี้ยนเหวินได้
ซึ่งเธอทายถูก หลังเฝิงเจี้ยนเหวินได้รับจดหมายของเธอ เพียงกวาดสายตามองตัวอักษรแวบแรก ก็พลันประทับใจในความเป็ปัญญาชนของคู่หมั้น เมื่อเห็นลายมือนั้นแข็งแกร่งทว่านุ่มนวล เหมือนแฝงความหยิ่งทะนงตัวไม่ยอมศิโรราบไว้ เดาได้ว่าคงเป็เด็กผู้หญิงนิสัยเด็ดเดี่ยวคนหนึ่ง เดิมทีเขาไม่สนับสนุนการแต่งงานครานี้ ด้วยคิดว่าแม่สาวสกุลเจิ้งยังเป็เด็กน้อยไม่รู้ประสา แต่งมาให้เขาพะเน้าพะนอเล่นหรือ? แต่คุณพ่อคุณแม่คิดว่าเขาอายุมากเกินไป ลูกของน้องชายอายุหลายขวบปีแล้ว เขาไม่แต่งภรรยาอีกจะได้มีลูกตอนอายุเท่าไร?ดังนั้นจึงกำหนดวันแต่งงานกับสกุลเจิ้งโดยไม่สนคำทัดทานของเขาสักนิด
เขาเขียนจดหมายด้วยความคิดที่ว่า ‘อีกฝ่ายสมัครใจเขาจะแต่ง อีกฝ่ายไม่สมัครใจเขาก็ไม่แต่ง ซึ่งไม่แต่งจะดีที่สุด’ เลยใช้ภาษาไม่ค่อยดีนัก แต่พอเห็นตัวอักษรเหล่านี้ เขาพลันรู้สึกขึ้นมาว่าจดหมายฉบับนั้นไม่ให้เกียรติเด็กสาวสกุลเจิ้งเอาเสียเลย อย่างน้อยภาษาที่เขาใช้ควรจะนุ่มนวลหน่อย โชดดีจริงๆ ที่สาวน้อยไม่ถือสา ทั้งยังยินดีแต่งงานกับเขา
เขาจำรูปร่างหน้าตาเด็กสาวได้ไม่ชัดเจนแล้ว เมื่อก่อนเจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง ตอนพบเด็กสาวก็อายุยังน้อย ไม่รู้โตมาเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ได้ยินคุณแม่บอกเป็ผู้หญิงที่สวยมากจนร่ำลือกันไปสามบ้านแปดบ้าน ไม่รู้คุณแม่จงใจหลอกเขาเพื่อเกลี้ยกล่อมเขาแต่งงานหรือเปล่า… เมื่อนึกถึงตรงนี้ ใจพลันตื่นเต้นขึ้นมาเสียได้
เชิงอรรถ
[1] hero 100 หมายถึง ชื่อรุ่นยี่ห้อปากกาของแบรนด์ Shanghai Hero Pen Company หรือเรียนสั้นๆ ว่า hero ซึ่งเป็แบรนด์ปากกาจากประเทศจีนรายหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1931 โดยรุ่น hero 100 เป็ปากกาแบบ Hooded Nib ที่นักสะสมปากกาทั่วโลกให้การยอมรับ
[2] หม่าซานลี่ หมายถึง นักแสดงตลกรูปแบบทอล์กโชว์ของจีน ซึ่งมีชื่อเสียงจนได้รับการขนานนามว่าเป็ปรมาจารย์ด้านการแสดงจำอวด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้