ซูจิ้งเถียนหยุดสักพักนี่จึงพูดประโยคสุดท้ายที่มีเหตุผลถูกต้องทั้งวาทะเต็มไปด้วยสัจธรรมประโยคหนึ่งออกมา“ขอนายหญิงอัครมหาเสนาบดีเดินทางโดยสวัสดิภาพเถิดเ้าค่ะ”
หมากละครล้มล้างญาติผู้กระทำผิดเพื่อผดุงความเป็ธรรมที่ดีชุดหนึ่งแทบทำให้ผู้คนเปิดหูเปิดตาแล้ว
ซูเฟยซื่อหรี่ตาเล็กน้อยต้องบอกว่าครั้งนี้ซูจิ้งเถียนทำได้ดีมาก กระทั่งนางยังคิดไม่ถึง
เพียงสงสารนางแซ่หลี่ดวงตาเบิกกว้าง ดูเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยินอย่างสิ้นเชิง
ไม่เป็ไปไม่ได้ ลูกสาวสุดที่รักของนางทำแบบนี้กับนางได้อย่างไร?
นางต้องได้ยินผิดไปแน่ต้องใช่แน่ๆ
“ท่านพ่อถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของข้ากับภรรยาของอัครมหาเสนาบดีได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ให้ข้าดูนางตายก็โหดร้ายเกินไปบ้างจริงๆ ข้าขอตัวออกไปก่อนเ้าค่ะ” เพื่อหลีกเลี่ยงเื่ของนางแซ่หลี่มาพัวพันถึงนางอีกซูจิ้งเถียนยังคงตัดสินใจรีบจากไปอย่างรวดเร็ว
แหย่ไม่ได้นางยังซ่อนตัวไม่ได้หรือ?
ซูเต๋อเหยียนพยักหน้าอย่างเงียบๆปฏิกิริยาตอบสนองของซูจิ้งเถียนเมื่อครู่เขายังพอใจมากดังนั้นในใจลดความรังเกียจต่อซูจิ้งเถียนไปไม่น้อย
มาถึงเวลาแบบนี้ถ้าซูจิ้งเถียนยังไม่รู้กาลเทศะวิงวอนขอร้องให้ช่วยนางแซ่หลี่ถ้าเช่นนั้นเขาก็ไม่คิดอยากได้ลูกสาวคนนี้อีกแล้ว
เห็นซูเต๋อเหยียนไม่ได้มีความตั้งใจโยงใยถึงนางซูจิ้งเถียนโล่งใจรีบถอนตัวออกไปทันที
เก็บขุนเขาเขียวขจีไว้ได้มิกังวลไม่มีฟืนเผา ครั้งนี้นางแซ่หลี่ถึงคราแล้ว เป็นางเองไม่มีความสามารถโทษคนอื่นไม่ได้
“เถียนเอ๋อร์...”ซูจิ้งเถียนจากไปโดยไม่หันกลับ ทำลายความหวังสุดท้ายของนางแซ่หลี่อย่างถึงที่สุดนางร้องคร่ำครวญออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ราวกับเป็การร้องเรียกครั้งสุดท้าย
นางแซ่หลี่หลับตาลงอย่างสิ้นหวังปล่อยให้น้ำตาล้างแก้มซีดเซียวน่าสลดของนาง
นางสามารถล้มเหลวสามารถเสียสละทั้งตระกูลหลี่ ขอเพียงซูจิ้งโหยวกับซูจิ้งเถียนสามารถไปได้ไกลกว่า
แต่ที่นางคิดไม่ถึงอย่างมหาศาลเป็นางเองได้ทำหลายอย่างขนาดนั้นในที่สุดถึงกับตกอับมีจุดจบในลักษณะที่ฝูงชนทรยศญาติจากไกลแบบนี้
กระทั่งลูกสาวที่อุ้มครรภ์มาสิบเดือนเลี้ยงดูเติบใหญ่อย่างยากลำบากไม่สนนางไปหมดแล้ว นางยังสามารถคาดหวังอะไรได้อีก?
“เอาผ้าแพรขาวมา”นางแซ่หลี่พูดคำเหล่านี้ออกมาอย่างช้าๆ ใจท้อแท้อยากตาย
ซูจิ้งเถียนยังไม่ได้ไปไกลได้ยินวาจานี้ของนางแซ่หลี่ อดไม่ได้ที่จะใช้มือคว้าจับหน้าอกไว้แล้ว
ท่านแม่อย่าโทษลูกจิตใจโหดร้าย ถ้าเมื่อครู่ข้าไม่ทำแบบนั้นก็ต้องตายไปด้วยกันกับท่านแล้ว
แต่ท่านวางใจความแค้นนี้ข้าต้องช่วยท่านชำระแน่นอน
ข้าต้องใช้ศีรษะบนลำคอของซูเฟยซื่อมาเซ่นไหว้ท่านแน่นอน
คิดจบซูจิ้งเถียนจึงกัดฟันแล้วเดินจากไป
ส่วนซูเฟยซื่อได้เห็นแบบนี้ก็ถอนหายใจด้วยหันหลังเดินจากไปเช่นกัน
ที่แท้นี่เป็ละครสนุกที่อวี้เสวียนจีอยากให้นางดูยอดเยี่ยมจริงๆ
มีแต่คนที่ใกล้ชิดที่สุดเท่านั้นจึงสามารถโจมตีใส่จุดที่ร้ายแรงถึงขั้นชีวิตที่สุดแก่เ้าไม่ว่าเป็ใคร ต่างเป็เช่นนี้
“คุณหนูจะให้ซูจิ้งเถียนหนีพ้นภัยพิบัตินี้ไปได้หรือเ้าคะ”ซางจื่อกล่าวอย่างค่อนข้างเสียดายบ้างดูเหมือนคิดไม่ถึงว่าในที่สุดซูจิ้งเถียนถึงกับสละรถศึกปกป้องขุนพล
“ไม่เป็ไรนางแซ่หลี่ตายแล้ว ตระกูลหลี่ตกต่ำซูเต๋อเหยียนไม่ถือเอานางเป็สมบัติล้ำค่าในใจเหมือนก่อนหน้านี้ด้วยต่อให้ซูจิ้งเถียนมีชีวิต ก็ไม่มีตัวหมากมาต่อสู้กับข้าแล้ว”ซูเฟยซื่อกล่าวอย่างเ็า
สองคนเพิ่งกลับไปที่สวนปี้หวินได้ไม่นานซูเต๋อเหยียนก็มาแล้ว
ซูเฟยซื่อสงสัยในใจแต่รีบก้าวไปข้างหน้าทักทาย “เฟยซื่อน้อมคารวะท่านพ่อไม่ทราบว่าท่านพ่อมาด้วยเื่ใดเ้าคะ?”
“หรือว่าไม่มีอะไรก็มาไม่ได้หรือ?” ซูเต๋อเหยียนยิ้มพลางเดินเข้าไปนั่งในที่ประธาน
ไม่รู้ว่าทำไมเขายิ้มอยู่ชัดๆ แต่ซูเฟยซื่อกลับรู้สึกว่าในคำพูดของเขาเย็นเฉียบราวกับว่ามีเจตนาเป็อื่น
“วาจานี้ของท่านพ่อหนักหน่วงเกินไปแล้วท่านสามารถมาได้ ลูกดีใจไม่ทัน เพียงแต่เมื่อเร็วๆ นี้เกิดเหตุมากมายในจวนอัครมหาเสนาบดี แม่ใหญ่... ข้ากลัวว่าท่านพ่อมีเื่ยุ่งมากเกินไปจึงได้ถามมากความแบบนี้เ้าค่ะ”ซูเฟยซื่อกล่าวด้วยความชาญฉลาดน่ารัก
เมื่อได้ยินคำว่านางแซ่หลี่ในดวงตาของซูเต๋อเหยียนฉายแววเกลียดชังออกมาทันทีไม่มีมิตรภาพฉันสามีภรรยารักกันสักนิด “ั้แ่บัดนี้เป็ต้นไปอย่าพูดถึงนางอีกนางแทบเป็จุดมลทินแปดเปื้อนจวนอัครมหาเสนาบดีของเราข้าได้ให้คนเอาศพนางโยนออกไปเลี้ยงสุนัขแล้ว”
“เลี้ยงสุนัข?” ซูเฟยซื่อร้องะโออกมาด้วยความใดูเหมือนกลัวมาก
กลัวเป็เท็จแต่ใกลับเป็จริง
ไม่ได้เป็ครอบครัวเดียวกันไม่ได้เข้าประตูบ้านเดียวกันในจวนอัครมหาเสนาบดีนี้ แต่ละคนๆ ยิ่งอำมหิตโเี้มากขึ้น
ดูไปแล้ววันข้างหน้านางจะก่อการให้จวนอัครมหาเสนาบดีล่มสลายยังยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น
“ปฏิกิริยาของเฟยซื้อนี่หมายถึงอะไร? หรือเ้าคิดว่าพ่อทำแบบนี้ผิดหรือ?” ตาทั้งสองของซูเต๋อเหยียนจ้องซูเฟยซื่อไว้นิ่งราวกับคิดเห็นอะไรบางอย่างออกมาในตัวนาง
ในใจซูเฟยซื่อแอบสั่นสะท้านทันทีดูไปจุดประสงค์ของซูเต๋อเหยียนมาหานางครั้งนี้ไม่ธรรมดา จะเป็อะไรกัน?
นางก้มศีรษะลงต่ำแกล้งทำเป็หวาดกลัว “นี่...แม่ใหญ่สมควรได้รับโทษเข้าใจว่าท่านพ่อต้องโกรธจัดมากแล้วจึงทำแบบนี้ออกมาเ้าค่ะ”
ใน่เวลาแบบนี้นางไม่สามารถทำตัวฉลาดเกินไป ทั้งไม่สามารถแสดงไร้น้ำใจมากเกินไปมิฉะนั้นซูเต๋อเหยียนจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ต้องเกิดความสงสัยในตัวนางขึ้นแน่
ซูเต๋อเหยียนหรี่ตาดูเหมือนมองปฏิกิริยาของนางออกมาไม่ชัด จึงเข้าประเด็นหลักซะเลย“นางถึงกับกล้าวางแผนทำร้ายเ้า เลี้ยงสุนัขนับว่าเมตตาแล้ว กล่าวไปแล้วทุกสิ่งนี้เป็ความผิดของพ่อ ถ้าพ่อไม่ได้ลำเอียงรักเ้านังสารเลวนั่นไหนเลยจะลงมือเหี้ยมโหดต่อเ้า แต่โชคดีที่เ้ามีเทพเ้าพิทักษ์ไว้ไม่เพียงแต่ทุกครั้งสามารถเปลี่ยนเื่ร้ายให้กลายเป็เื่ดียังมีท่านอ๋องให้ความช่วยเหลือ ความจริงขณะที่เ้ายังอายุน้อยพ่อยังเคยห่วงใยเ้ามาก่อนเพราะวิสัยเ้าขวัญอ่อน ขลาดเขลาอ่อนแอแต่ตอนนี้นับว่าสามารถวางใจได้แล้ว”
วาจารอบหนึ่งกล่าวจนแทบน่าฟัง
ซูเต๋อเหยียนรักลำเอียงเข้าข้างนาง? ถ้าซูเต๋อเหยียนรักลำเอียงเข้าข้างนางจริงนางแซ่หลี่ก็ไม่มีขวัญหมีแบบนี้แล้ว!
แต่วาจารอบนี้ที่ซูเต๋อเหยียนคิดแสดงออกเป็ประเด็นหลักไม่ใช่เื่นี้แต่เป็คำพูดไม่กี่ประโยคในตอนสุดท้ายนั่น
ดูไปแล้วซูเต๋อเหยียนเริ่มสงสัยนางแล้ว
ก็ใช่นางแซ่หลี่ทำร้ายนางซ้ำๆ นับครั้งไม่ถ้วนไม่สำเร็จ ยังมีอวี้เสวียนจีลงมือช่วยซูเต๋อเหยียนไม่เกิดความสงสัยก็เป็คนโง่แล้ว
แต่นางควรตอบอย่างไรจึงสามารถขจัดความสงสัยที่ซูเต๋อเหยียนมีต่อนางได้?
ถ้าปฏิเสธปากแข็งว่าทุกสิ่งนี้ต่างเป็เื่บังเอิญซูเต๋อเหยียนย่อมไม่ยอมเชื่อแน่ๆ
แต่นางไม่สามารถยอมรับความสัมพันธ์ของนางกับอวี้เสวียนจีได้อย่างเด็ดขาดนี่...
หัวใจของซูเฟยซื่อสะท้านไปคราหนึ่งก็คุกเข่าลงอย่างแรงต่อซูเต๋อเหยียน “ลูกทราบว่าปิดบังท่านพ่อไว้ไม่ได้ยังขอท่านพ่อลงโทษเ้าค่ะ”
เดิมซูเต๋อเหยียนเป็เพียงสงสัยแต่ไม่คิดว่าซูเฟยซื่อจะยอมรับได้อย่างง่ายดายแบบนี้ อดที่จะตะลึงงันไม่ได้เป็เวลานานจึงแกล้งทำเป็ได้สติกลับมาทำราวไม่รู้เื่“วาจานี้ของเ้าหมายถึงอะไร?”
“มารดาของเฟยซื่อเสียชีวิตแต่เนิ่นๆทั้งเป็เพียงกำเนิดจากอนุคนหนึ่งั้แ่เด็กต้องพึ่งลมหายใจของแม่ใหญ่ใช้ชีวิตให้อยู่รอดเดิมคิดว่าขอเพียงเฟยซื่อเชื่อฟังเล็กน้อย หวานอมขมกลืนใช้ท่าทีอดทนยอมตามแรงบีบคั้นบ้าง วันเวลาทุกข์ยากก็จะสิ้นสุด ใจคนทำด้วยเนื้อ ต่อให้แม่ใหญ่ไม่อาจดีต่อหนูเหมือนต่อน้องสี่แบบนั้นอย่างน้อยไม่ควรปล่อยให้หนูถูกคนรังแกตามใจชอบได้ แต่เวลายิ่งนานเข้าหนูก็ยิ่งไม่วางความหวังของหนูไว้บนร่างแม่ใหญ่ทว่าคิดพึ่งพาความเพียรพยายามของตนเองชิงเอาฟ้าดินผืนหนึ่งออกมาในจวนอัครมหาเสนาบดีกลับคิดไม่ถึงว่าด้วยเหตุนี้ทำให้แม่ใหญ่โกรธเคืองยังประสบเคราะห์ร้ายหลายครั้ง...”ซูเฟยซื่อกล่าวพลางทั่วหน้าเต็มไปด้วยแววยืนหยัดอดทนอย่างลางๆ
แกล้งทำเป็โง่ไม่อาจหลบพ้นแน่นอนยังคงใช้จริงเท็จคละกันคนละครึ่งไม่ดีกว่าหรือ ให้ซูเต๋อเหยียนไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างได้ชัดเจน