บทที่10 เราจะใช้สิ่งเหล่านี้กับผู้คนที่นี่
ภายในคือห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ดูล้ำสมัยแม้กระทั่งสำหรับยุคของเธอเอง มีแท่นควบคุมที่มีสัญลักษณ์แปลกประหลาด มีแผนที่สามมิติของดาวเคราะห์ต่างๆ และมีตู้กระจกจำนวนมากที่บรรจุวัตถุหลากหลายรูปแบบ
"นี่มัน...ช่างเหลือเชื่อ" ดร.ฉินกล่าว "เทคโนโลยีเหล่านี้บางอย่างดูก้าวหน้ากว่ายุคของฉันด้วยซ้ำ"
"ใช่" เหยาตอบ "ฉันกำลังดาวน์โหลดข้อมูลจากระบบหลักของที่นี่ ดูเหมือนว่านักพรตเหล่านี้พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขามาจากอารยธรรมที่ล่มสลายไปแล้ว หลายพันปีก่อนที่โลกนี้จะเข้าสู่ยุคที่คุณอยู่"
ขณะที่เหยาดาวน์โหลดข้อมูล ภาพสามมิติของเมืองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนแท่นกลางห้อง เป็เมืองที่สร้างด้วยวัสดุคล้ายคริสตัลและโลหะสีทอง มีต้นไม้และสวนลอยอยู่ระหว่างอาคาร และมีระบบขนส่งที่ใช้พลังงานบางอย่างที่ไม่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิง
"เมืองเฟิงเย่า..." เหยาอ่านข้อมูลที่ปรากฏ "เมืองแห่งนกฟีนิกซ์และคืนพระจันทร์ เมืองหลวงของอาณาจักรโบราณที่ล่มสลายไปเมื่อสองพันปีก่อน"
"และนักพรตเหล่านี้้าสร้างมันขึ้นมาใหม่?" ดร.ฉินถาม
"ใช่" เหยาตอบ "พวกเขารวบรวมความรู้และทรัพยากรทั้งหมดเอาไว้ในลูกแก้วนี้ เพื่อวันหนึ่งจะได้สร้างอาณาจักรของพวกเขาขึ้นมาใหม่ แต่พวกเขาเสียชีวิตก่อน โดยยังไม่ได้ถ่ายทอดความรู้นี้ให้ใครต่อ"
ดร.ฉินมองไปรอบๆ ห้อง เห็นอุปกรณ์มากมายที่ดูเหมือนจะใช้สร้างอาคาร สร้างถนน สร้างระบบน้ำและพลังงาน
"ในมิตินี้ มีทุกสิ่งที่จำเป็ต้องใช้ในการสร้างเมืองทั้งเมือง" เหยาอธิบาย "เมล็ดพันธุ์พืชพิเศษ พิมพ์เขียวอาคาร เทคโนโลยีการสร้างวัสดุ ระบบจัดการน้ำและพลังงาน แม้กระทั่งเทคโนโลยีการรักษาโรคที่ล้ำสมัย"
"เราสามารถนำสิ่งเหล่านี้ออกไปใช้ได้ไหม?" ดร.ฉินถาม ดวงตาเป็ประกายด้วยความหวัง
"เราสามารถนำบางส่วนได้" เหยาตอบ "แต่จำเป็ต้องมีการควบคุมลูกแก้วอย่างถูกวิธี ฉันกำลังศึกษาวิธีการนั้นอยู่"
ขณะที่พวกเขากำลังสำรวจมิติภายในลูกแก้ว เหยาก็พบคันโยกใหญ่ในห้องด้านใน มีสัญลักษณ์โบราณกำกับอยู่
"นี่คือกุญแจควบคุม" เหยาบอก "ถ้าเราดึงคันโยกนี้ จะเป็การเปิดใช้งานลูกแก้วอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้เราสามารถนำวัตถุจากในนี้ออกไปใช้ในโลกภายนอกได้"
ดร.ฉินลังเลเล็กน้อย "อันตรายไหม?"
"มีความเสี่ยง" เหยายอมรับ "แต่นี่อาจเป็กุญแจสำคัญในการช่วยคุณกลับสู่โลกของคุณ และอาจช่วยเราในการเผชิญหน้ากับภัยอันตรายที่รออยู่ข้างหน้า"
ดร.ฉินสูดหายใจลึก "งั้นเราทำมันเลย ดึงคันโยกซะ"
เหยาควบคุมให้มือของซูอวิ๋นฮวาในมิตินั้นดึงคันโยกลง มีเสียงกลไกดังกังวานไปทั่วห้อง แสงสีฟ้าสว่างจ้าพุ่งขึ้นจากพื้น ล้อมรอบร่างของเธอ
ในโลกจริง ลูกแก้วในมือของซูอวิ๋นฮวาเริ่มขยายตัว ส่องแสงสว่างจ้าไปทั่วถ้ำ ก่อนจะหดตัวลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็แหวนคริสตัลสีฟ้าสวมอยู่บนนิ้วของเธอ
ซูอวิ๋นฮวากะพริบตาถี่ ๆ จิตใจของเธอกลับมาสู่ร่างในถ้ำอีกครั้ง เธอมองดูแหวนบนนิ้วของตัวเองด้วยความประหลาดใจ
"เหยา นี่มัน...เกิดอะไรขึ้น?"
"ลูกแก้วถูกเปลี่ยนสภาพเป็กุญแจมิติ" เหยาอธิบาย "ตอนนี้มันอยู่ในรูปของแหวน ซึ่งคุณสามารถเรียกใช้มันได้ง่ายขึ้น คุณสามารถสื่อสารกับมิติภายในได้ตลอดเวลา และสามารถดึงวัตถุในมิตินั้นออกมาใช้ได้ตาม้า"
"ทั้งหมดเลยเหรอ?" ดร.ฉินถาม น้ำเสียงตื่นเต้น
"ไม่ใช่ทั้งหมดในคราวเดียว" เหยาตอบ "มีข้อจำกัดด้านพลังงาน แต่เราสามารถเลือกสิ่งที่จำเป็ได้ เช่น อาวุธป้องกันตัว ยารักษาโรค หรือเครื่องมือช่วยในการเดินทาง"
ซูอวิ๋นฮวายิ้มออกมา นี่เป็การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับั้แ่เธอมาอยู่ในโลกนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยเธอเอาชีวิตรอดเท่านั้น แต่ยังอาจเป็กุญแจสำคัญในการกลับบ้านของเธอด้วย
"ดร.ฉิน" เหยากล่าว "มีสิ่งหนึ่งที่ฉันค้นพบจากมิติในลูกแก้ว... ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางข้ามกาลเวลา และการแลกเปลี่ยนจิติญญา มันอาจเป็คำอธิบายว่าทำไมคุณถึงมาอยู่ในร่างของซูอวิ๋นฮวา"
ดร.ฉินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถาม "คุณหมายความว่า... มีวิธีกลับไปยังโลกของฉันจริงๆ เหรอ?"
"เป็ไปได้" เหยาตอบ "แต่เราต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ในตอนนี้ เราควรออกจากถ้ำนี้และตามหาต้าหวังกับว่านเจินก่อน"
ซูอวิ๋นฮวาพยักหน้า แล้วลุกขึ้นยืน เธอมองดูแหวนบนนิ้วของตัวเองอีกครั้ง รู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายใน การเดินทางของเธอในโลกนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริง...
ทหารของแม่ทัพโจวหลี่ยังคงแตกตื่น จนทหารนายหนึ่งพูดขึ้น "ท่านแม่ทัพ พวกเรารีบออกไปจากป่านี้ก่อนเถอะ ตอนนี้ทั้งม้าและทหารต่างขวัญเสียกันทั้งหมดแล้ว" เขารายงานขณะที่ทหารบางส่วนเริ่มรวมตัวกันได้แล้ว
แม่ทัพโจวหลี่โกรธจนหน้าแดงก่ำ ร่างสูงใหญ่ของแม่ทัพผู้เกรียงไกระโลงจากหลังม้าก่อนจะะโออกมาเสียงดังลั่นป่า
"ข้าจะต้องเด็ดหัวเ้าให้ได้ นางเด็กปีศาจ!" เสียงคำรามดังลั่นอย่างน่าเกรงขาม รอยแผลเป็บนใบหน้าของเขาปูดโปนขึ้นด้วยความโกรธแค้น
โจวหลี่กวาดตามองไปรอบๆ ป่าที่ยังวุ่นวายด้วยสัตว์ป่าที่แตกตื่น ทหารของเขาบางคนยังคงพยายามควบคุมม้าที่ใ บางคนเริ่มรวบรวมอาวุธที่ตกหล่นในความโกลาหล บางคนกำลังปฐมพยาบาลเพื่อนทหารที่าเ็
ทหารนายหนึ่งขี่ม้าเข้ามารายงาน น้ำเสียงร้อนรน "ท่านแม่ทัพ เรารวบรวมทหารได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น อีกครึ่งหนึ่งกระจัดกระจายไปในป่า บางส่วนาเ็ ไม่สามารถเดินทางต่อได้"
โจวหลี่กัดฟันกรอด มือกำด้ามดาบแน่น ตาจ้องมองไปยังควันไฟที่ยังคงลอยอยู่เหนือยอดไม้ และผืนป่าที่เงียบลงแล้ว แต่ยังมีร่องรอยของความโกลาหลที่เพิ่งผ่านไป
"นางเด็กนั่น..." เขาพึมพำเสียงต่ำ "วิชาปีศาจอันใดที่สามารถควบคุมสัตว์ป่าได้ทั้งป่า? แม้แต่เสือร้ายยังหวาดกลัวจนวิ่งหนี"
"ท่านแม่ทัพ" ทหารอีกนายเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง "บางทีนางอาจมีวิชาอาคมที่สืบทอดมาจากตระกูลซู ข้าได้ยินมาว่าในอดีต ตระกูลซูเคยเชี่ยวชาญวิชาซ่อนเร้นและควบคุมสัตว์ป่า"
โจวหลี่หรี่ตาลง "มิน่าล่ะใต้เท้าเซินอวี้ จึงสนใจตระกูลซูมากเป็พิเศษ... บัดนี้ข้าเริ่มเข้าใจแล้ว นางไม่ใช่เด็กธรรมดา"
เขาหันไปสั่งทหารนายที่รายงาน "รวบรวมกำลังพล จัดขบวนใหม่ ดูแลผู้าเ็ แต่อย่าทิ้งใครไว้ในป่านี้"
ทหารผงกศีรษะรับคำสั่ง ก่อนจะรีบไปจัดการตามที่ได้รับมอบหมาย
โจวหลี่ขึ้นคร่อมม้าของเขาอีกครั้ง เขามองไปยังทิศทางที่เขาส่งทหารสิบนายไปที่หมู่บ้านเหวินชุน
"มันไม่ใช่เื่บังเอิญ..." เขาพึมพำ "นางเด็กนั่นตั้งใจเบี่ยงเบนความสนใจของเรา"
"ท่านแม่ทัพ พวกเราจะทำอย่างไรต่อ?" ทหารนายหนึ่งถาม
โจวหลี่นิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจ "สั่งถอยทหารกลับเมืองเจียงหลิง ข้าต้องรายงานใต้เท้าเซินอวี้ ตระกูลซูพวกมันไม่ธรรมดาจริง ๆ ในเมื่อนางเจตนาดึงความสนใจของเรามาที่นี่ แสดงว่าพวกมันต้องมุ่งหน้าไปทางอื่น"
"ขอรับ!" ทหารพยักหน้ารับคำสั่ง
โจวหลี่สะบัดบังเหียน หันหน้าม้ากลับไปยังเมืองเจียงหลิง "ออกเดินทาง!
ขบวนทหารที่เหลืออยู่ค่อยๆ จัดแถวใหม่ ม้าบางตัวยังคงส่งเสียงร้องด้วยความหวาดระแวง แต่ก็เริ่มสงบลงเมื่อห่างจากจุดเกิดเหตุวุ่นวาย โจวหลี่ยังคงมองกลับไปที่ป่าลึก ใบหน้าเต็มไปด้วยความแค้นและความอาฆาต
"นี่เป็เพียงการเริ่มต้นเท่านั้น เด็กน้อย" เขาพึมพำ ก่อนจะสะบัดบังเหียนอีกครั้ง ควบม้านำขบวนออกไป
ไกลออกไปในป่าลึกบนเนินหิน ซูอวิ๋นฮวายืนมองการจากไปของขบวนทหาร แสงในแหวนคริสตัลบนนิ้วของเธอเริ่มอ่อนลง ลมอ่อนๆ พัดผ่านเส้นผมสีดำของเธอ ดวงตาที่เคยสงบนิ่งบัดนี้เปี่ยมไปด้วยความหวังใหม่
"เหยา" เธอกล่าวเบาๆ "เราจะทำอย่างไรต่อ?"
"เราต้องหาต้าหวังและว่านเจิน" เหยาตอบในความคิดของเธอ "และเราต้องไปให้ถึงกองคาราวานก่อนที่ทหารของโจวหลี่จะทำอะไรคนของพ่อเฒ่าอี๋"
ซูอวิ๋นฮวาพยักหน้า เธอหมุนแหวนครั้งหนึ่ง แสงสีฟ้าอ่อนเรืองออกมาชั่วขณะ ก่อนจะดับลง เธอเริ่มเดินออกจากป่าลึก มุ่งหน้าไปทางกองคาราวาน ด้วยพลังและความลับใหม่ที่อยู่เคียงข้างเธอ
ซูอวิ๋นฮวาเดินผ่านแนวป่าที่โล่งขึ้น ธาตุไม้ทั่วบริเวณให้ความรู้สึกเขียวขจี สดชื่น ต่างจากความวุ่นวายและอันตรายที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอหยุดพักที่ริมลำธารเล็กๆ เพื่อดื่มน้ำและล้างหน้า ภาพใบหน้าของเด็กหญิงวัย 12 ปีสะท้อนในผิวน้ำใส ดวงตาคู่นั้นแม้จะดูอ่อนเยาว์ แต่กลับแฝงไว้ด้วยความคิดของหญิงสาววัย 28 ปีจากโลกอนาคต
"เหยา ั้แ่ฉันเดินทางมาถึงที่นี่จะห้าวันแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าเราอยู่ในยุคสมัยไหน" ดร.ฉินพิจารณาใบหน้าของตนในสายน้ำ "และอีกอย่าง ช่วยตรวจสอบให้ฉันรู้ทีว่าตระกูลซูของฉัน... หรือของเด็กคนนี้ เป็ใครในแคว้นนี้"
"ฉันกำลังประมวลผลข้อมูลจากความทรงจำของซูอวิ๋นฮวาและข้อมูลที่ได้จากลูกแก้ว" เหยาตอบ
แสงสีฟ้าวาบขึ้นจากแหวนบนนิ้วของซูอวิ๋นฮวา ก่อนที่ภาพสามมิติจะปรากฏขึ้นเหนือผิวน้ำ แสดงแผนที่โบราณของดินแดนกว้างใหญ่
"ที่นี่คือแคว้นฉู่ ปกครองโดยราชวงศ์เหรินจง ปีที่ 17 ในรัชสมัยฮ่องเต้เหรินหลงฉิน" เหยาอธิบาย ภาพเคลื่อนไหวแสดงแผนที่เขตปกครองต่างๆ
"เราอยู่ในเขตเมืองเจียงหลิง ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของแคว้น เป็เมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการทหารของแคว้นฉู่ เนื่องจากตั้งอยู่ริมแม่น้ำฉางเจียง"
ภาพเปลี่ยนเป็ชายชุดขุนนางสีน้ำเงินเข้ม ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาเฉียบคม
"ผู้ปกครองเมืองก็คือใต้เท้าเซินอวี้ อายุ 42 ปี ดำรงตำแหน่งมา 5 ปี เขาเป็ผู้ทรงอำนาจมากคนในแคว้นฉู่ แต่มีชื่อเสียงในเื่ความโเี้และทะเยอทะยาน"
ซูอวิ๋นฮวาขมวดคิ้ว "แล้วทำไมเขาถึงสนใจฉัน... หรือว่าสนใจซูอวิ๋นฮวา?"
"ส่วนเกี่ยวกับตระกูลซู..." เหยาแสดงภาพ คฤหาสน์ขนาดใหญ่กับสวนที่รายล้อมด้วยต้นหลิวและสระบัว "ตระกูลซูเป็หนึ่งในตระกูลเก่าของแคว้นฉู่ มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี เดิมเป็ตระกูลของแม่ทัพใหญ่ในสมัยราชวงศ์ก่อน ต่อมากลายเป็พ่อค้าและเ้าของที่ดิน"
ภาพเปลี่ยนเป็ชายวัยกลางคนในชุดขุนนางสีม่วง
"บิดาของซูอวิ๋นฮวาคือ ซูหม่าเก๋อ ดำรงตำแหน่งขุนนางฝ่ายพลเรือนระดับ 4 เป็ที่ปรึกษาด้านการคลังของเมืองเจียงหลิง แต่เมื่อเดือนก่อน ทั้งเขาและภรรยาถูกลอบสังหารระหว่างเดินทางกลับจากเมืองหลวง"
ซูอวิ๋นฮวารู้สึกเจ็บแปลบในอก ความทรงจำของเด็กหญิงบางส่วนปะทุขึ้นในใจเธอ ภาพของบิดามารดาที่รักเธอยิ่ง
"เกี่ยวกับความขัดแย้งของตระกูลซู..." เหยาชะงักเล็กน้อย "ข้อมูลในความทรงจำของซูอวิ๋นฮวายังไม่ชัดเจน คุณต้องสอบถาม ต้าหวังกับว่านเจิน คนทั้งสองคือบ่าวในเรือนตระกูลซู"
"พวกต้องเขารู้เื่การตายของพ่อแม่ฉัน... ของซูอวิ๋นฮวา?"
“ไม่ซิ...!คืนนั้นในรถม้าตอนที่ฉันตื่นขึ้น ท่านพ่อและท่านแม่ของอวิ๋นฮวาพวกเขายังอยู่ในรถม้าที่กำลังถูกไล่ล่าอยู่เลยจากนั้น...จากนั้น!” ดร.ฉินพยายามนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น
“จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป และมารู้สึกตัวอีกทีก็ฉันก็อยู่บนหลังของต้าหวังแล้ว”
"จิติญญาของคุณเข้ามาแทนที่ของซูอวิ๋นฮวาดั้งเดิมในวินาทีนั้น"ดร.ฉินพยักหน้าเหยาชะงักเล็กน้อย "และนั่นเป็เหตุผลที่แม่ทัพโจวหลี่ตามล่าพวกเรา?"
"เื่นี้ต้าหวัง เขาเป็คนของท่านซูหม่าเก๋อ และว่านเจินภรรยาของเขาและอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น คุณต้องสอบถามจากคนทั้งสอง"
“เหยา เช่นนั้นเรารีบเดินทางกันดีกว่า ถ้าขบวนทหารของมาทัพโจวหลี่ถึงขบวนพ่อเฒ่าอี๋ก่อนคงไม่ดีแน่” ซูอวิ๋นฮวาลุกขึ้นยืนอย่างคล่องแคล่ว พลังงานในชิปอิมมอร์ทัลทำให้เธอนั้นทั้งเดินและวิ่งได้อย่างรวดเร็ว...!!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้