วันเดียวกัน…
13:00น.
ภัตตาคารAA
ชั้น อาหาร
เอริ ฐิติมน….
พรึบ
“สวัสดีค่ะ…คุณท่าน…”ฉันที่เดินเข้ามาภายในห้องอาหารหรูของภัตตาคารโรมแรมหรูแห่งนี้ได้แล้วก็ยกมือไหว้ผู้หญิงสวยสง่างามที่ใส่แว่นตาดำนั่งอยู่หัวโต๊ะทันทีด้วยความเคารพ ฉันแอบใเล็กน้อยที่คุณหญิงนฤมิตรโทรหาฉันแล้วบอกให้ฉันรีบมาพบท่านที่โรงแรมหรูย่านใจกลางเมืองแห่งนี้
“เชิญนั่ง”คุณหญิงนฤมิตรไม่ได้ยกมือรับไหว้ฉันแต่ท่านกลับผายมือชี้ไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับท่าน
“ขอบคุณค่ะ”ฉันเอ่ยขอบคุณท่านไปพลางค่อยๆเดินไปลากเก้าอี้อย่างแ่เบาและเบามือที่สุดเพื่อไม่ให้มันเกิดเสียงดังเพราะเป็เก้าอี้ไม้น่ะ
พรึบ
“เธอคงรู้….ว่าอะไรทำให้ฉันบอกให้เธอมาหาฉันในวันนี้…”คุณหญิงนฤมิตรเอ่ยเปิดบทสนทนาขึ้นทันทีที่ก้นของฉันแตะเบาะนั่งบนเก้าอี้ไม้สัก ฉันก็เม้มปากเป็เส้นตรงก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับั์สีดำของคุณหญิงนฤมิตรที่ตอนนี้ท่านได้ถอดเเว่นตากันแดดสีดำราคาแพงออกจากโครงหน้าของท่านแล้ว
“ดิฉันพอจะทราบอยู่บ้างค่ะ….”
“หึ….ก็ดีฉันจะได้ไม่ต้องพูดอ้อมค้อม…”คุณหญิงว่าพลางจ้องมองมาที่ฉันด้วยแววตาเกลียดชังอย่างเปิดเผย ซึ่งฉันก็ทำได้เพียงแค่หลบสายตาและเอามือกุมกันไว้แน่น แสดงว่าขุนศึกไปพูดเื่แต่งงานกับคุณแม่ของเขาแล้วแน่ๆไม่อย่างงั้น คุณหญิงไม่มีทางอยากเจอฉันแน่นอน เพราะท่านเกลียดขี้หน้าฉันจะตายไป
“ค่ะ….”ฉันขานรับคุณหญิงเสียงแ่เบา
“ไม่ต้องสั่งอะไรมาหรอกเนอะ….เพราะเปลืองเงิน”คุณหญิงนฤมิตรเอ่ยเสียงเข้ม
“ดิฉันทานมาแล้วค่ะ…”ฉันตอบคุณหญิงไปพลางก้มหน้าลงต่ำกลืนน้ำลายที่เหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบาก
“หึ….”คุณหญิงนฤมิตรหัวเราะในลำคอ
“ฉันมีข้อเสนอดีๆมายื่นให้เธอ….”และท่านก็เอ่ยขึ้น ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าท่านเพื่อจะรอฟังข้อเสนอของท่านอย่างรอลุ้น
“ฉันรู้เื่ของเธอกับขุนศึกมาโดยตลอด….และก็รู้ว่าเธอจ้องจะจับลูกชายของฉันมาั้แ่แรกอยู่แล้ว…เพื่อหวังสบาย”
“เพราะไม่อย่างงั้น….ผู้หญิงแบบเธอจะทนนิสัยเ้าชู้ของขุนศึกได้ยังไง”
“จริงไหม?”คุณหญิงนฤมิตรเลิกคิ้วมองหน้าฉันด้วยสายตาสมเพชและดูถูก ฉันไม่ได้หวังจะจับขุนศึก ฉันรักเขาจริงๆแต่ต่อให้ฉันพูดไป คุณหญิงก็คงจะไม่ฟังอยู่ดี เพราะท่านไม่ชอบฉันั้แ่แรกอยู่แล้ว พูดอะไรไปหรือทำอะไรก็คงจะไม่ถูกใจท่านอยู่ดี
“ขุนศึกขอเธอแต่งงานสินะ….งั้นคงจะหมายความว่าเขาคงจะหยุดแค่เธอ…?”คุณหญิงเอ่ยต่อทันทีที่ฉันเอาแต่เม้มริมฝีปากเป็เส้นตรงและไม่ได้ตอบคำถามของเธอไป เธอจ้องฉันตาเขม่นพลางยกยิ้มที่มุมปากขึ้นผิดกับฉันที่มองจ้องท่านด้วยแววตาสั่นไหว
“ดิฉันไม่ทราบค่ะ….ว่าท่านประธานจะหยุดที่ดิฉันไหม”ฉันตอบคุณหญิงนฤมิตรไปตามความจริง นั้นทำให้ท่านมองหน้าฉันตาขวางอย่างไม่พอใจ ท่านคงจะคิดว่าฉันยอกย้อนท่านสินะ
“หึ….ขุนศึกไม่มีทางหยุดที่ผู้หญิงอย่างเธอ…”
“เธอรู้ตัวบ้างไหมว่าเธอไม่มีอะไรเหมาะสมและคู่ควรกับลูกชายของฉันเลย….”
“เด็กกำพร้าพ่อแม่อย่างเธอ….น่าจะไปคบพวกระดับรากหญ้าเดียวกันนะ…”คำพูดของคุณหญิงนฤมิตรช่างจี้จุดของฉันตรงคำที่ว่าระดับพวกรากหญ้า เพราะเธอไม่ใช่แค่ดูถูกเหยียดหยามฉันแค่คนเดียว แต่เธอกำลังดูถูกคุณพ่อและคุณแม่ของฉันด้วย ตอนนี้นำ้ตาของฉันกำลังเอ่อคลอหัวใจเจ็บจี๊ดด้วยความโกรธในใจ
“ถ้าฉันจะยื่นข้อเสนอเป็เงินให้เธอ….เธอคงจะไม่รับ….เพราะเธอคงจะได้จากลูกชายของฉันไปไม่น้อยแล้ว….”
“ค่ะ….”ฉันตอบคุณหญิงไป เธอก็เบะปากใส่ฉันอย่างสมเพช ฉันก็คงทำได้เพียงแค่กำหมัดแน่นด้วยความเจ็บแค้นในใจเพราะทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คนระดับรากหญ้าอย่างฉันจะไปทำอะไรคุณหญิงที่อยู่สูงส่งและมีอิทธิพลมากแถมร่ำรวยมหาศาลได้ล่ะจริงไหม
“งั้นเธอ้าอะไร…?”คุณหญิงถามฉันเสียงเข้ม
“้าอะไร….หมายความว่ายังไงคะ?”ฉันขมวดคิ้วมองหน้าคุณหญิงอย่างสงสัย เธอก็ยกยิ้มที่มุมปากให้ฉัน
“คนที่ฉลาดแบบเธอ….อย่ามาทำแกล้งโง่ไม่เข้าใจที่ฉันพูดหน่อยเลย…”
“ค่ะ….ถ้าคุณหญิงพูดไปในทางที่ดิฉันคิด….”ฉันเอ่ยบกคุณหญิงไป ที่จริงฉันก็พอจะเข้าใจว่าท่าน้าให้ฉันออกไปจากชีวิตของขุนศึก
“ดิฉันคงจะตอบคุณหญิงไปว่า…ดิฉันจะไม่มีทางออกไปจากชีวิตลูกชายของคุณหญิงค่ะ”ฉันตอบเธอไปพลางทำน้ำเสียงและเเววตามั่นคงและมุ่งมั่น
“แกกล้ามากนะ!”คุณหญิงนฤมิตรตวาดเสียงดังพลางจ้องฉันเขม่นอย่างไม่พอใจ ฉันก็ก้มศีรษะลงเล็กน้อย
“ดิฉันไม่บังอาจหรอกค่ะ….เพียงแต่ดิฉันแค่ออกไปจากชีวิตของท่านประธานไม่ได้…เพราะท่านประธานยังคง้าดิฉันอยู่ค่ะ…”ฉันตอบคุณหญิงไปตามความจริง เธอก็มองหน้าฉันด้วยแววตาดุดันและไม่พอใจฉันยิ่งกว่าเดิม
“้าเธอเหรอ….ในสถานะไหนล่ะ?”คุณหญิงเอ่ยออกมาพลางกระตุกยิ้มอย่างเยาะเย้ยฉัน
“เลขาหรือนางบำเรอ?”คุณหญิงเอ่ยตัวเลือกออกมาเพื่อบีบบังคับให้ฉันตอบท่าน ฉันก็คลี่ยิ้มบางๆสู้กับผู้หญิงใจร้ายคนนี้
“ก็อาจจะเป็ทั้งสองอย่างค่ะ”ฉันเอ่ยออกมาพลางทำสีหน้าระรื่นเพื่อเป็การบอกคุณหญิงว่าฉันยอมรับในสิ่งนั้นที่คุณหญิงพยายามยัดเหยียดมันให้ฉัน นั่นยิ่งทำให้คุณหญิงนฤมิตรมองหน้าฉันอย่างไม่พอใจฉันมากกว่าเดิม เพราะการที่ฉันตอบแบบนี้เท่ากับว่าฉันเหนือกว่าท่าน เพราะฉันเต็มใจที่จะเป็
“หึ….งั้นแสดงว่ายังไงๆเธอก็จะไม่มีวันที่จะออกไปจากชีวิตลูกชายของฉันได้สินะ…?”คุณหญิงนฤมิตรเปลี่ยนสีหน้าไม่พอใจเป็ยิ้มระรื่นขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าฉัน เมื่อท่านเอ่ยประโยคที่ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกกังวลใจกับแววตาคู่คมกริบคู่นี้ของท่านเป็อย่างมาก แววตาอำมหิต
“ค่ะ….”ฉันตอบท่านไปเสียงหนักแน่นอย่างใจดีสู้เสือน่ะ
“งั้นเธอลองฟังข้อเสนอข้อนี้ของฉันก่อน….รับรอง…เธออาจจะเปลี่ยนใจก็ได้^_^”คุณหญิงแสยะยิ้มขึ้นมาทันทีที่ท่านเอ่ยจบ ฉันก็มองหน้าท่านอย่างวิตกและหวาดๆเพราะรอยยิ้มและน้ำเสียงเยือกเย็นไร้ความปราณีของผู้หญิงคนนี้ช่างดูน่ากลัวเป็อย่างมาก
“ฉันจะยกตำแหน่งประธานบริษัทKAให้เป็ของไอ้จอมพลและปลดขุนศึกออกจากตำแหน่งประธานบริษัท…โดยไม่ให้ตำแหน่งอะไรขุนศึกเลย….แม้แต่มรดกสักแดงเดียวของฉัน.....ฉันก็จะไม่ให้ขุนศึก”คุณหญิงนฤมิตรเอ่ยเสียงเข้มออกมาแววตาของท่านดูจริงจังและมันทำให้ฉันรู้ว่าเธอคนนี้เอาจริงอย่างที่ท่านพูดแน่นอน
“คุณท่านทำแบบนั้นไม่ได้นะคะ!”ฉันะโออกไปอย่างใ คุณหญิงก็ยิ้มเยาะขึ้นมาทันทีที่เห็นอาการตื่นตระหนกของฉัน
“ทำไม?”คุณหญิงเอ่ยถามฉันกลับมาเมื่อข้อเสนออันนี้ของท่านใช้ได้ผลกับฉัน เพราะมันทำให้สีหน้าของฉันซีดลงและร้อนรนใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่
“เพราะบริษัทKAเป็บริษัทที่ดิฉันและท่านประธานก่อตั้งมาด้วยน้ำพักน้ำแรง…ของเราทั้งคู่"ฉันเอ่ยบอกคุณหญิงไปเสียงแ่เบาตามความจริง เพราะบริษัทนี้ฉันกับขุนศึกช่วยกันก่อตั้งมาเมื่อห้าปีก่อน จนตอนนี้มันได้ใหญ่โตและมีชื่อเสียงทำให้ขุนศึกได้รับตำแหน่ง นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ประสบความสำเร็จด้วยอายุที่ยังน้อยและฉันก็รักบริษัทนี้มาก เพราะฉันล้มลุกคลุกคลานมากับมัน
“แต่บริษัทKAเป็บริษัทลูกของบริษัทSMที่เป็บริษัทแม่ของฉัน…”คุณหญิงเอ่ยต่อ ฉันก็มองหน้าเธอแววตาสั่นไหว บริษัทKAเป็บริษัทที่อยู่ในเครือลูกของบริษัทSMที่เป็บริษัทแม่ใหญ่ที่คุณหญิงก่อตั้งมา แต่บริษัทSMทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าเหมือนบริษัทKA
“และการจดทะเบียนเป็เ้าของบริษัทก็ยังเป็ชื่อของฉันอยู่…ถึงแม้ขุนศึกจะดำรงตำแหน่งประธานบริษัทอยู่ก็ตาม….และหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นของขุนศึกจะโดนโอนย้ายมาเป็ของฉันทันทีที่ฉันปลดตำแหน่งของขุนศึก..."คุณหญิงเอ่ยต่อด้วยสีหน้าและแววตาที่เหนือกว่าฉัน ฉันคงหมดหนทางแล้วจริงๆ
“คุณท่านจะใช้ข้อนี้มาเป็เครื่องต่อรองให้ดิฉันถอยห่างออกมาจากชีวิตของท่านประธานใช่ไหมคะ?”ทันทีที่คำถามของฉันหลุดออกจากปากของฉัน คุณหญิงนฤมิตรก็ทำสีหน้าพึงพอใจกรีดยิ้มออกมาทันที
“ใช่….แต่ฉันคงจะไม่ใจร้ายกับเธอมากไปหรอกใช่ไหม?....เพราะฉันไม่มีทางเอาลูกหลานพวกขี้ข้าที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างเธอมาเป็ลูกสะใภ้ของฉันเด็ดขาด!!”คุณหญิงนฤมิตรเอ่ยถามฉันพลางยิ้มเยาะอย่างคนที่กำลังสะใจ ฉันโกรธท่านจนตัวสั่นและไม่พอใจท่านเป็อย่างมากที่ลามปามไปถึงป้าบัวของฉัน แต่ถึงยังไงฉันก็ทิ้งขุนศึกไปในตอนนี้ไม่ได้อยู่ดี เพราะโปรเจคของบริษัทยังอยู่อีกหลายโปรเจคที่ยังคงรอฉันให้ไปทำอยู่และถ้าฉันปล่อยให้ขุนศึกบริหารบริษัทKAคนเดียวมีหวังบริษัทล้มละลายแน่
“ค่ะ…แต่ดิฉันก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่ายังไงๆท่านประธานก็ยังคง้าดิฉันอยู่ดี…”
“หึ….ก็ได้…ฉันจะให้เธอทำงานอยู่ที่บริษัทKAเหมือนเดิม…แต่คงจะไม่ใช่ในตำแหน่งเดิม…”
“หมายความว่ายังไงคะ?”ฉันเอ่ยถามคุณหญิงไปอย่างสงสัย เธอก็เบะปากอย่างมีจริตก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มอย่างสบายใจผิดกับฉันที่นั่งไม่ติดเก้าอี้แล้วตอนนี้
“ฉันจะให้เธอได้อยู่ใกล้ๆกับขุนศึกเหมือนเดิม….แต่เธอต้องทำทุกอย่างให้ขุนศึกตอบตกลงแต่งงานกับนามิ…ผู้หญิงที่ดีเพียบพร้อมกับขุนศึกไปหมดซะทุกอย่าง…”
“เพราะฉันมีข้อเสนอให้เธอสองทางเลือกที่ให้เธอเลือก”
“ทางเลือกที่หนึ่ง…ออกไปอยู่ไกลๆจากขุนศึกโดยที่เธอจะไม่ได้ทำงานที่บริษัทKAต่อพูดง่ายๆคือเธอต้องหายออกไปจากชีวิตของเขา…และอย่าเสนอหน้าของเธอมาให้เขาเห็นอีก”
“และทางเลือกที่สอง…คือเธอจะได้อยู่ใกล้ๆขุนศึกต่อและยังคงจะได้ทำงานที่บริษัทKAที่เธอรักนักรักหนาตามเดิม…แต่คือเธอต้องทำทุกอย่างให้ขุนศึกเลิกกับเธอและหันไปแต่งงานกับหนูนามิ…”
“เข้าใจที่ฉันพูดไหม?”
“ตกลงเธอจะเลือกข้อไหน…?”คุณหญิงนฤมิตรเอ่ยเสียงเข้ม ฉันก็มองหน้าท่านเพราะถ้าฉันเลือกข้อที่หนึ่ง ขุนศึกไม่มีทางบริหารงานที่บริษัทคนเดียวได้แน่เพราะเขายังไม่มีความรู้และความเข้าใจมากพอเหมือนฉัน และถ้าขาดฉันไป บริษัทKAจะต้องขาดทุนหลายพันล้านเผลอๆขุนศึกอาจจะถึงขั้นโดนฟ้องล้มละลายเพราะผู้นำขาดศักยภาพและขาดความเป็ผู้นำขาดความรู้ก็ได้ ฉันจะต้องเลือกข้อสองถึงแม้คนที่เ็ปที่สุด ก็คงจะเป็แค่ฉันเอง
“ดิฉันขอเลือกข้อที่สองค่ะ…”ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคุณหญิงนฤมิตรที่ท่านเองก็มองฉันอยู่ก่อนแล้วและฉันตอบท่านไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและแววตาที่จริงจังว่าฉันได้เลือกจุดยืนของตัวเองแล้ว
“หึ….ก็ดี…และอย่าลืมหน้าที่ของตัวเองด้วยก็แล้วกัน…”
“และคุณหญิงจะให้ดิฉันย้ายไปทำตำแหน่งไหนคะ?”
“หึ….คนต่ำระดับรากหญ้าแบบเธอ…ก็สมควรที่จะได้ไปอยู่กับคนที่ต่ำรากหญ้าเหมือนกัน”คุณหญิงเอ่ยพลางหยุดเว้น่และกระตุกรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นมา ทำให้ฉันรู้สึกโกรธและไม่พอใจท่านเล็กน้อยแต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีื
“ไปอยู่กับไอ้จอมพล!”คุณหญิงเอ่ยตวาดเสียงดังแววตาของท่านสื่อว่าท่านเกลียดคุณจอมพลมาก เพราะเท่าที่ฉันรู้มาคุณท่านชายสามีของคุณหญิงนฤมิตรรักคุณแม่ของคุณจอมพลมากกว่าตัวคุณหญิงเอง ก่อนที่ท่านชายจะเสียท่านก็ไปอยู่กับคุณแม่ของคุณจอมพลและสิ้นใจจากไปอย่างสงบด้วยโรคประจำตัวของท่านเอง
“ออกไปได้แล้ว!!”คุณหญิงเอ่ยไล่ฉันเสียงดัง
“ค่ะ…สวัสดีค่ะ”ฉันจึงยกมือขึ้นไหว้ลาท่านแต่ท่านก็ไม่ยอมรับไหว้ฉัน ฉันจึงก้มศีรษะลงและยกมือหยิบกระเป๋าเดินออกมาจากห้องอาหารของโรงแรมระดับห้าดาวแห่งนี้ ถ้าฉันไม่กลัวว่าขุนศึกจะบริหารบริษัทไม่ได้นะฉันคงจะไม่มีทางเลือกทางที่สองเด็ดขาด….เพราะฉันเองเป็ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากจะแต่งงานกับผู้ชายธรรมดาๆที่รักฉัน….และฉันก็รักเขาแค่นั้นเอง…