เอ่ออ...
ทุกคนที่กำลังจะแยกย้ายกันจากไปพลันได้ยินเสียงพูดประโยคนี้ขึ้น ต่างพากันหันกลับมองมาราวกับถูกผีหลอกในตอนกลางวันอย่างไรอย่างนั้น ต่างกะพริบตากันปริบๆ มองดูเย่ชิงหานว่าพูดเพ้อออกมาเพราะฤทธิ์ของเหล้าหรืออย่างไร? หรือว่าเกิดไข้ขึ้นสูงพูดจามั่วซั่วออกมา? แต่เมื่อมองเห็นสีหน้าที่จริงจังของเย่ชิงหานทุกคนพลันเข้าใจได้ในทันทีว่าเขาพูดออกมาอย่างมีสติเต็มร้อย
“ไอ้เด็กเวรเ้าพูดอะไรออกมา?” เย่ชิงหนิวั้แ่ที่เยว่ชิงเฉิงประกาศผลการคัดเลือกออกมาเขาก็ยิ้มปากไม่หุบอยู่ตลอด เมื่อสักครู่ยังหันไปหัวเราะฮ่าๆ กับผู้าุโสูงสุดของตระกูลเฟิงและตระกูลฮวาอยู่หยกๆ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ชิงหานดวงตาทั้งสองพลันปูดโปนขึ้นมาราวกับจะทะลุออกมาจากเบ้า ร้องะโออกมาด้วยความเ็ปและโมโห
“เ้า...” เยว่ชิงเฉิงเมื่อได้ยินใบหน้าแดงขึ้นด้วยความอับอาย เย่ชิงหานขึ้นมารำกระบี่ในวันนี้ทำให้นางคิดว่าการกระทำต่างๆ เมื่อก่อนของเย่ชิงหานเป็แค่สิ่งที่เขาเสแสร้งแกล้งทำเพื่อแสร้งปล่อยเพื่อจับ วันนี้ที่เขาออกมาแสดงก็เพราะชอบตนเอง ดังนั้นหลังจากได้รับการส่งกระแสเสียงจากท่านหัวหน้าตระกูลนางจึงไม่สนใจต่อศักดิ์ศรีของหญิงสาวลุกยืนขึ้นในทันที แล้วพูดสิ่งที่น่าเขินอายนั้นออกมาและเพื่อเป็การสร้างความประทับใจให้เย่ชิงหานมากยิ่งขึ้น ใครจะไปคาดคิดว่าตอนนี้เวลานี้เย่ชิงหานกลับฉายฉากละครเดียวกันกับเย่เตาที่ปฏิเสธเยว่เอียนเอ๋อร์ในตอนนั้น แล้วอย่างนี้จะให้นางทนกับการถูกทำร้ายจิตใจเช่นนี้ได้อย่างไร...
“หืม?” เยว่จีได้ยินคำพูดที่จริงจังของเย่ชิงหานทำให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อสิบหน้าปีก่อนที่เย่เตาปฏิเสธเยว่เอียนเอ๋อร์ มีพ่อเป็อย่างไรมีลูกเป็อย่างนั้นจริงๆ ผู้หญิงของตระกูลเยว่เกิดมาก็ติดค้างคนของตระกูลเย่แล้วรึอย่างไรกัน? นางลอบทอดถอดใจออกมาเบาๆ ครุ่นคิดชั่วครู่แล้วเอ่ยขึ้น “จะว่าไปก็ถูก เป็ข้าที่สะเพร่าเอง เพียงแต่ไม่ทราบว่าทำไมคุณชายหานถึงได้ปฏิเสธ? แม่นางชิงเฉิงดีไม่พอ? หรือว่าคุณชายหานไม่ชอบนาง?”
“ผู้าุโเย่ชิงหนิว เื่นี้เป็เื่ส่วนตัวของชิงหาน หวังว่าท่านคงไม่ยื่นมือเข้ามายุ่ง!” เย่ชิงหานประสานมือหันไปทางเย่ชิงหนิวแล้วกล่าวออกมาอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ จากนั้นมองไปยังเยว่ชิงเฉิงอย่างรู้สึกละอายใจ แล้วหันมาทางเยว่จี “ผุ้าุโเยว่จี ชิงหานไม่ได้ตั้งใจที่จะลบหลู่เกียรติของตระกูลเยว่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่นางชิงเฉิงนั้นเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน สมกับคำว่าสุดยอดสาวงามแห่งแผ่นดิน เพียงแต่...เย่ชิงหานมีภรรยาที่ยังไม่ได้แต่งคนหนึ่ง! ดังนั้นต้องขอประทานโทษด้วยที่ข้าไม่สามารถรับปากได้”
ในขณะที่พูด เย่ชิงหานถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง แหงนหน้ามองไปยังท้องฟ้าทางด้านทิศใต้ราวกับว่าสามารถมองผ่านดวงดาราบนท้องฟ้าเห็นถึงหญิงสาวร่างกายบอบบางคนหนึ่งในชุดสีขาวกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง
“ไอ้เด็กเวร...เ้ามีเมียั้แ่เมื่อไหร่? พูดมั่ว...” เย่ชิงหนิวได้ยินดังนั้นดวงตายิ่งปูดโปนขึ้นยิ่งกว่าเดิม แต่พอพูดออกไปได้ครึ่งประโยคและมองเห็นสีหน้าที่หงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวของเย่ชิงหาน เขาคล้ายกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงได้หยุดการก่นด่าลงแค่นั้น หลังจากนิ่งเงียบไปสักพักเขาเอามือลูบหัวแล้วพูดออกมา “ถึงแม้เ้าจะแต่งเย่ชิงอวี่เป็ภรรยาเ้าก็ยังสามารถแต่งเยว่ชิงเฉิงได้อีกอยู่ดี...”
เฟิงจื่อและฮวาเฉ่ากลอกตาขาวมองบนออกมา ในทวีปัเพลิงยังไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งและฐานะระดับพวกเขา เอาแค่คนธรรมดาที่มีเงินมากหน่อยใครที่ไหนไม่มีเมียสามอนุภรรยาสี่กันเล่า จะหาข้ออ้างก็หาให้มันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้รึอย่างไร?
“มีภรรยา...ยังไม่ได้แต่ง? เหตุผลเพียงเท่านี้หรอกรึ?” เยว่จีมองเย่ชิงหานอย่างแปลกประหลาด ภายในใจกลับคิดว่า หากเ้าจะปฏิเสธก็หาเหตุผลดีๆ หน่อยเถอะ ทวีปัเพลิงผู้แข็งแกร่งเป็จ้าว บุรุษจะมีเมียสามอนุภรรยาสี่ล้วนเป็เื่ปกติ ดังนั้นนางจึงรีบพูดขึ้น “ไม่เป็ไร ข้าคิดว่าแม่นางชิงเฉิงไม่ถือในเื่นี้ คิดว่าหลังจากที่เ้าแต่งเยว่ชิงเฉิงแล้วนางจะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนากิจการงานต่างๆ ในอนาคตของเ้า และคิดว่าภรรยาที่บ้านของเ้าก็คงเห็นด้วยกับเื่นี้ ข้าพูดถูกใช่ไหมผู้าุโเย่ชิงหนิว!”
เยว่ชิงเฉิงเดิมทีทั้งอับอายทั้งโกรธ ต่อพอเห็นว่าเย่ชิงหานไม่น่าจะพูดโกหก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสีหน้าและอาการที่เขาแหงนหน้ามองไปยังบนท้องฟ้าอย่างเศร้าสลดเสียใจ มันะเืไปถึงจิตใจส่วนที่บอบบางของนางทำให้ไม่สามารถโกรธได้อีกต่อไป แต่เปลี่ยนเป็ตั้งตารอคำอธิบายจากเขาแทน
เย่ชิงหานมองดูทุกคนที่จ้องมองมายังเขาอย่างตาเป็มัน เขารู้ว่าหากวันนี้ไม่ให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลเขาคงไม่สามารถเดินออกไปจากเกาะแห่งทะเลสาบแห่งความเงียบสงบนี้ได้อย่างแน่นอน เขาเริ่มเลื่อมใสศรัทธาเย่เตาผู้เป็บิดาขึ้นมาจริงๆ หลังจากที่ปฏิเสธเยว่เอียนเอ๋อร์แล้วเขาออกไปจากเกาะแห่งนี้ได้อย่างไร? เอามือลูบจมูกไปมาครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นจึงแหงนหน้าขึ้นมามองเยว่ชิงเฉิงและเยว่จีแล้วพูดขึ้น
“ผู้าุโเยว่จี แม่นางชิงเฉิง ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าจะอธิบายอย่างไรดี...คือเื่เป็อย่างนี้ เป็เพราะข้าภรรยาของข้าคนนั้นเกือบต้องตาย ถึงตอนนี้ยังนอนเป็เ้าหญิงนิทรารอคอยข้านำของล้ำค่าหายากไปรักษา หญิงที่เป็ที่รักของข้ายังตกอยู่ในสภาพจมดิ่งสู่การหลับใหล...เ้าคิดว่าข้ายังจะมีกะจิตกะใจไปแต่งภรรยาอีกคน? มีกะจิตกะใจมาพูดเื่รักๆ ใคร่ๆ? ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นข้าและแม่นางชิงเฉิงไม่ได้รู้จักคุ้นเคยกัน หรืออาจจะพูดได้ว่าไม่มีความผูกพันอะไรกันเลยด้วยซ้ำ ข้าไม่คุ้นเคยกับนิสัยของนาง นางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับข้า แล้วมาอยู่ด้วยกันแบบรีบร้อนแบบนี้สำหรับพวกเราแล้วมันไม่ยุติธรรม การแต่งงานที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรักมันไม่มีความสุขไปได้หรอก”
คำพูดของเย่ชิงหานทำเอาทุกคนอึ้งไปตามๆ กัน มองดูสีหน้าจริงจังของเย่ชิงหานกับเย่ชิงหนิวที่ก้มหน้าถอนหายใจออกมา ทุกคนเริ่มเชื่อว่าเย่ชิงหานมีภรรยาที่ยังไม่แต่งยังนอนเป็เ้าหญิงนิทราอยู่จริงๆ และเลื่อมใสศรัทธาต่อความยึดมั่นในความรู้สึกของเขา ส่วนประโยคท้ายๆ ของเขาทำให้เหล่าคุณชายทั้งหลายยกนิ้วให้ภายในใจอย่างพร้อมเพรียงกัน
ความรู้สึก? ความรัก? ของสิ่งนี้มีอยู่จริงรึ? ในความคิดของบุรุษในทวีปัเพลิง ความรู้สึกและความรักล้วนสร้างมันขึ้นมาจากบนเตียงทั้งนั้น เยว่ชิงเฉิงที่งดงามถึงเพียงนี้เมื่อขึ้นเตียงบุรุษคนไหนจะไม่ทะนุถนอมราวกับสมบัติล้ำค่า? ความรักแค่ลงมือบรรเลงก็เกิดขึ้นมาแล้วมิใช่รึ?
คำพูดแปลกประหลาดของเย่ชิงหาน เยว่จีและเยว่ชิงเฉิงที่ได้ยินกลับเป็ไปอีกความหมายหนึ่ง มองดูดวงตาที่ลึกล้ำของเย่ชิงหาน ััได้ถึงความรู้สึกที่ออกมาจากหัวใจของผู้ชายตัวน้อยคนนี้ เยว่ชิงเฉิงที่มีความชื่นชมเย่ชิงหานอยู่แต่เดิม ในตอนนี้จิตใจของสาวน้อยของนางได้กลายเป็ความรู้สึกหวั่นไหวที่เกิดขึ้นมาภายในใจ
เยว่จีมองเย่ชิงหานอย่างพอใจด้วยสายตาราวกับแม่ยายที่มองลูกเขย ชายคนนี้เพื่อหญิงผู้เป็ที่รักแล้วถึงกับปฏิเสธยอดสาวงามอย่างเยว่ชิงเฉิงได้ อุปนิสัยใจคอน่าเคารพนับถือยิ่งนัก สำหรับความรักความรู้สึกของพวกนี้นางคิดมาตลอดว่า ขอเพียงสาวงามของตระกูลเยว่แต่งออกไปใจของผู้ชายล้วนอยู่บนฝ่ามือของพวกนาง ทั้งวิชาสะกดจิตให้ลุ่มหลงและวิธีการมัดใจชายที่เยว่ชิงเฉิงเรียนรู้มาั้แ่เด็ก นางเชื่ออย่างสุดใจว่าไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะไม่สยบอยู่แทบชายกระโปรงของนาง
“เป็อย่างนั้นหรอกรึ...ข้าคิดว่าถึงจะเป็อย่างนั้นมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เ้าคิดว่าอย่างนี้ดีไหมเล่า...?” เยว่จีคิดอยู่ชั่วครู่จึงพูดออกมาอย่างประนีประนอม “เ้าอยากช่วยภรรยาเ้าพวกข้าก็ไม่ขัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลเยว่จะช่วยอย่างสุดกำลังเพื่อให้เ้าทำให้สำเร็จตามเป้าหมาย แต่...เ้าต้องรับปากข้า ให้โอกาสชิงเฉิงสักครั้ง ให้โอกาสตระกูลเยว่สักครั้ง พวกเ้าสองคนอยู่ร่วมกันเรียนรู้กันสักพัก เมื่อภรรยาของเ้ารักษาหายแล้วและพวกเ้าเข้ากันได้ดี จากนั้นพวกเ้าค่อยแต่งงานกันตกลงไหม?”
เฟิงจื่อ ฮวาเฉ่าและหลงสุ่ยหลิวมองตากันไปมา ต่างมองเห็นถึงความอิจฉาที่ปรากฏอยู่ภายในดวงตาของกันและกัน เหตุการณ์เช่นนี้พวกเขาเคยพบเจอมาไม่น้อย พวกตระกูลเล็กตระกูลน้อยทั้งหลายที่อยากจะเกี่ยวดองกับพวกเขาต่างก็แสดงท่าทีออกมาดังเช่นที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้
เพียงแต่...ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเยว่กลายเป็ไม่มีราคามูลค่าไปั้แ่เมื่อไหร่? มอบผู้หญิงให้เย่ชิงหานยังกลัวเย่ชิงหานจะไม่เอาถึงกับต้องโอ๋กันขนาดนี้เลย? ไม่เพียงยื่นข้อเสนอดีงามต่างๆ มากมายให้ แถมยังให้สาวงามของตนเองไปปรนนิบัติรับใช้เย่ชิงหาน่ระยะเวลาหนึ่งอีก พูดแบบตรงๆ ก็คือ หากใช้แล้วถูกใจก็เก็บไว้ หากใช้แล้วไม่ถูกใจก็ไม่เป็ไรส่งกลับคืนมาได้...
“น้องเยว่จี ทำอย่างนี้ไม่ดีกระมัง? เฮ้อ...ไอ้เด็กเวรนี่เพราะข้าสอนมาไม่ดีเอง พี่รู้สึกละอายใจจริงๆ!” เย่ชิงหนิวลูบมือไปมาพูดออกมาอย่างรู้สึกไม่ค่อยจะดีนัก แต่รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้ากลับปกปิดไว้ไม่อยู่ ทำเอาผู้าุโจากตระกูลเฟิงและตระกูลฮวาทั้งสองแทบอยากจะกระอักเืออกมา
“อย่างนี้?” เย่ชิงหานก็ลูบมือไปมาเช่นกัน แต่เขารู้สึกเกรงใจจริงๆ และมองไปยังเยว่ชิงเฉิงด้วยความรู้สึกละอายใจ จากนั้นจึงพูดขึ้นอย่างจริงใจ “แบบนี้ไม่ยุติธรรมต่อแม่นางชิงเฉิงเป็อย่างมาก อีกอย่างเย่ชิงหานมีคุณสมบัติใดถึงได้รับการปฏิบัติด้วยดีจากตระกูลเยว่ขนาดนี้?”
เย่ชิงหานพูดจบ เหล่าคุณชายทั้งหลายที่มุงดูอยู่ต่างกลอกตาขาวมองบนออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน เ้าเด็กนี้จะแสดงละครเก่งจนเกินไปแล้ว หรือว่าต้องให้คนทั้งตระกูลเยว่ทั้งหมดคุกเข่าอ้อนวอนขอร้องต่อหน้าเ้าถึงจะยอม? เจอคนที่ว่าไร้ยางอายแล้ว แต่ยังไม่เคยเจอคนที่ไร้ยางอายได้ถึงเพียงนี้! เฟิงจื่อกำหมัดแน่น หากไม่ใช่ว่าผู้าุโสูงสุดอยู่ที่นี่ด้วยเขาคงะโเข้าไปอัดเย่ชิงหานนานแล้ว
อะแฮ่ม! อะแฮ่ม!
เย่ชิงหนิวกระแอมออกมารัวๆ ยักคิ้วหลิ่วตาให้เย่ชิงหานไม่หยุด แต่เย่ชิงหานกลับเฉยๆ ไม่แสดงอาการใดๆ ทำให้โกรธเป็ฟืนเป็ไฟกระทืบเท้าอยู่ไม่หยุด
“ข้า...” เยว่ชิงเฉิงมองดูดวงตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจปราศจากสิ่งแอบแฝงใดๆ เจือปนของเย่ชิงหาน ทำให้เกิดความอบอุ่นขึ้นในใจ รู้สึกได้ว่าเย่ชิงหานไม่ได้กำลังแสดงหรือเสแสร้งแกล้งทำ นางถูกฝึกให้ปรนนิบัติรับใช้เอาอกเอาใจบุรุษมาั้แ่เด็ก ถูกฝึกให้รู้จักการพิจารณาคำพูดและสังเกตสีหน้าของผู้คน นางรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เย่ชิงหานพูดออกมาล้วนออกมาจากภายในใจของเขาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้อารมณ์ของนางคือ...ถ้าหากเย่ชิงหานจะสามารถแสดงละครได้อย่างล้ำเลิศถึงเพียงนี้ นางก็ยินยอมที่จะถูกหลอก ดังนั้น นางกัดริมฝีปากแล้วพูดออกมาพร้อมทั้งใบหน้าที่แดงด้วยเสียงแ่เบา “ข้า...ยินดี!”
“เอ่ออ...!” เย่ชิงหานก้มหน้าลงอย่างอับจนปัญญา สาวงามดีต่อเขาเช่นนี้เขาคงจะไม่สามารถทำเป็ไร้จิตใจได้อีกต่อไป เงื่อนไขที่ดีงามถึงเพียงนี้หากเขายังจะปฏิเสธอีกละก็ คงได้ถูกผู้คนทั่วทั้งงานรุมประชาทัณฑ์จนกลายเป็เนื้อบดไปแน่ๆ หลังจากที่นิ่งเงียบไปสักพัก เขาไม่สนใจต่อสายตาอำมหิตของทุกคนที่มองมา เอามือลูบคางแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “ข้าไม่เข้าใจ แม้ว่าข้าจะเป็บุคคลที่โดดเด่นในทุกๆ ด้าน แต่คงไม่ถึงกับให้ตระกูลเยว่ต้องปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้? บอกเหตุผลแก่ข้าได้ไหม?”
เหล่าคุณชายทั้งหลายกลอกตาขาวมองบนกันอย่างพร้อมเพรียงอีกครั้ง ไร้ยางอาย ไร้ยางอายอย่างถึงที่สุด ช่างกล้าพูดออกมาได้! แต่ว่าพวกเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าแท้จริงแล้วเพราะเหตุใดหรืออะไร ทำไมตระกูลเยว่ถึงได้ให้ความสำคัญกับเย่ชิงหานถึงเพียงนี้?
“ในส่วนนี้ต้องขออภัยที่ข้าต้องปิดไว้เป็ความลับก่อน ต่อไปเ้าจะรู้เอง!” เยว่จีและเยว่ชิงเฉิงมองตากันอมยิ้มแล้วพูดขึ้น จากนั้นนางยิ้มออกมาอีกครั้งมองด้วยตาหยาดเยิ้มเขยิบเข้ามาใกล้เย่ชิงหานอย่างเอาอกเอาใจแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงแ่เบา “เื่ฝากตัวขอเป็ศิษย์เมื่อสักครู่ เ้าพิจารณาไปถึงไหนแล้ว?”
‘แน่นอนว่าเ้าสำคัญต่อตระกูลเยว่เป็อย่างมากที่สุด!’ เยว่ชิงเฉิงก็ยิ้มขึ้นและพูดขึ้นภายในใจตนเอง มองดูเยว่จีที่ราวกับเด็กน้อยเขยิบเข้าไปใกล้เย่ชิงหาน นางยิ่งยิ้มอย่างมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะเดียวกันดอกท้อบนศีรษะของนางพลันเบ่งบานขึ้นอย่างสวยสดงดงามไม่ต่างจากรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของนาง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้