ท้องฟ้าเริ่มมืดลง เสียงประทัดเริ่มดังเป็ระยะจากทุกที่ทั่วเมืองอวี้อัน ดอกไม้ไฟส่องระยิบระยับบนท้องฟ้า
ในจวนแม่ทัพฮวาเวย หลังจากที่เตรียมข้าวของต่างๆ สำหรับไหว้บรรพบุรุษผู้เสียสละแล้ว นางเว่ยในฐานะฟูเหรินก็รอรับประทานมื้อค่ำส่งท้ายปีพร้อมกับทุกคนในตระกูลหลิน
บนโต๊ะกลมขนาดใหญ่มีฟูเหรินเว่ย บุตรชายหลินเหลียง บุตรสาวหลินเสี่ยวฉี อนุภรรยาคนที่สองนางซ่ง บุตรชายหลินเค่อ บุตรสาวหลินเสี่ยวหนาน อนุภรรยาคนที่สามนางเฉินและบุตรสาวหลินเสี่ยวก่วนที่นั่งร่วมโต๊ะ
เหล่าสาวใช้กำลังเสิร์ฟอาหารรสเลิศลงบนโต๊ะ
ถึงแม้ในสมัยก่อน เหล่าอนุภรรยาจะไม่ได้รับสิทธิ์ให้ร่วมโต๊ะอาหาร
แต่ในเมืองอวี้อันมีประเพณีที่เปิดกว้าง กฎระเบียบเ่าั้ไม่ได้ถูกใช้มานานแล้ว ยิ่งเป็เทศกาลส่งท้ายปีใหม่เช่นนี้ ทุกคนควรอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาถึงจะถูกต้อง
บนโต๊ะอาหาร นอกจากหลินเหลียงที่มีท่าทีหงุดหงิดไม่พอใจ คนอื่นๆ ยังคงถือว่าเป็ระเบียบเรียบร้อยดี
“ไอหยา เหมือนจะขาดใครไปนะเ้าคะ” หลังนางซ่งมองไปรอบโต๊ะ จึงหันไปถามนางเว่ยคล้ายเตือนสติ “คุณชายน้อยยังไม่มานี่เ้าคะ”
“บุคคลที่นำพาลางไม่ดีเช่นนั้น หากมาร่วมโต๊ะอาหารคงราวกับว่ากำลังดูิ่บรรพบุรุษ” นางเว่ยนั่งตัวตรงและมีท่าทีสงบ
“ถึงจะพูดอย่างนั้น อย่างไรก็ขึ้นชื่อว่าเป็คนในตระกูลหลิน อีกไม่นานคุณชายน้อยจะเข้าวัง ทำไมถึงยังเป็คนที่มีลางร้ายอยู่อีกเล่าเ้าคะ”เื่ที่ทำให้นางเว่ยไม่สบอารมณ์ได้ นางซ่งไม่มีทางปล่อยผ่านไปเด็ดขาด
“ฮึ” นางเว่ยสบถออกมาเล็กน้อย “จะได้เป็ชายาของท่านอ๋องหรือไม่ นั่นยังไม่แน่นอน เ้าก็อย่าเพิ่งรีบประจบประแจงเกาะแข้งเกาะขาเลย” นางเว่ยไม่ได้รู้สึกเหมือนกำลังถูกบีบคั้น นางเหลือบมองไปทางนางซ่งด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
ไม่นานมานี้ มีคนมาแจ้งกับนางว่าหลินหร่านออกไปจากจวนแล้ว
ั้แ่ที่นางเว่ยรู้ว่าหลินหร่านพาผู้ชายเข้ามาที่เรือนชุนอวี่ นางก็สั่งให้คนคอยติดตามหลินหร่านอยู่ตลอด ถึงได้รู้ว่าที่หลินหร่านออกไปจากจวนทุกวันก็เพื่อไปเจอกับคนคนหนึ่ง ตอนแรกก็ไม่อยากเชื่อ แต่ก็มีคนยืนยันว่าเห็นหลินหร่านโอบกอดกับชายคนหนึ่งอยู่ในตรอกเยียนฮวาหลิ่ว
ดังนั้น นางเว่ยจึงเชื่อว่าหลินหร่านต้องมีความสัมพันธ์ลับกับคนนอก
ตามที่นางเว่ยคาดการณ์ หากวันนี้หลินหร่านไม่กลับมา พรุ่งนี้นางจะพาคนไปจับให้ได้คาหนังคาเขา
เมื่อถึงเวลานั้น คนทำผิดจะต้องถูกลงโทษ ดูสิว่าจะรักษาตำแหน่งพระชายาของเทพเ้าแห่งาเอาไว้ได้อีกหรือไม่
นางซ่งคิดว่า นางเว่ยต้องคิดที่จะทำเื่ไร้ประโยชน์อีกแน่ นางได้แต่จ้องมองโดยไม่เอ่ยอะไรต่อ
นางเฉินนั่งอยู่ข้างๆ ก็ได้แต่รับฟัง สำหรับเื่ในจวนแล้ว นางไม่มีสิทธิ์มีเสียง
เมื่อมีคนอย่างนางเว่ยคอยกดขี่เยี่ยงนี้ เหล่าลูกๆ ต่างก็ยังพากันอยู่ในระเบียบ
.........
ตำหนักเทพเ้าแห่งา
อวี้ฉู่จาวกับหลินหร่านนั่งร่วมโต๊ะอาหาร อาหารทะเลสดมากมายวางอยู่บนโต๊ะ
อวี้ฉู่จาวรู้แล้วว่าหลินหร่านชอบกินปลา กุ้ง พวกอาหารทะเลอีกคนชอบกินมาก
วันก่อนพวกทางทะเลตะวันออกได้ถวายอาหารทะเลมาให้ ฮ่องเต้ฉงเต๋อจึงตอบแทนบุตรชายด้วยการแบ่งอาหารทะเลมาให้ส่วนหนึ่ง
อวี้ฉู่จาวที่นึกขึ้นได้ว่าหลินหร่านชอบกินปลา เขาจึงให้ที่โรงครัวลองจัดอาหารเกี่ยวกับพวกกุ้งมาให้สักหน่อย
ไม่คิดว่าผลสุดท้ายจะกลายเป็อาหารมากมายบนโต๊ะ สำหรับอาหารมื้อนั้น หลินหร่านทำราวกับตนเองเป็ผู้พิทักษ์ปกป้องอาหารทะเลไม่มีผิด
ปกติเมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร หลินหร่านจะกินช้าอยู่แล้ว ไม่ค่อยกล้าขยับตะเกียบเท่าไรนัก ส่วนใหญ่จะเป็อวี้ฉู่จาวที่คีบมาใส่ในถ้วยให้ แต่ครั้งนี้เขาขยับตะเกียบหลายต่อหลายครั้ง แล้วค่อยๆ ชะลอลง
เพราะเป็อาหารที่ชอบทำให้หลินหร่านกินเข้าไปมากมายนัก เขารู้สึกละอายใจขึ้นมา บ่อยครั้งที่อวี้ฉู่จาวคอยมอง หรือท่านอ๋องจะเห็นว่าเขาทำกิริยาไม่เหมาะสมนะ
แต่พูดไปก็มีแต่จะทำให้ทุกคนพากันหัวเราะเยาะ เขาใช้ชีวิตมาแล้วในสองชาติภพ ไม่ว่าจะเป็ในปัจจุบันหรือในอดีต เขายังไม่เคยกินอาหารทะเลสักครั้ง
แม้แต่อาหารทะเลที่แสนจะธรรมดาอย่างกุ้ง สำหรับเขาแล้วมันคืออาหารที่แสนจะหรูหรา
อีกทั้งกุ้งักับหอยเป๋าฮื้อเขาเพียงเคยเห็น บางอย่างแม้แต่ชื่อยังไม่รู้จักเลย
ท่าทีของหลินหร่าน อวี้ฉู่จาวมองเห็นทั้งหมด เขาไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร เพียงแค่จดจำสิ่งที่หลินหร่านชื่นชอบ พร้อมยังเอาใจโดยวางอาหารทะเลทั้งหมดไว้ตรงหน้าอีกคน และยังเตรียมน้ำสำหรับล้างมือไว้ให้อีกด้วย
หลินหร่านไม่เข้าใจว่าท่านอ๋อง้าทำอะไร จึงได้แต่มองท่านอ๋องที่ล้างมือก่อนลงมือแกะเปลือกกุ้ง ปูและกุ้งัให้เขาด้วยมือตนเอง จากนั้นนำเนื้อที่แกะออกมาใส่จานที่อยู่ตรงหน้าเขา
อวี้ฉู่จาวยังคงแกะกุ้งให้หลินหร่านด้วยมือของตนเองต่อไป
หลินหร่านกินไปอย่างมีความสุข
แต่เมื่อเห็นในถ้วยข้าวของตนมีอาหารทะเลมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วมองเห็นในถ้วยของอวี้ฉู่จาวยังคงว่างเปล่า ไม่ได้ลงมือกินอาหารเลย เขาจึงรู้สึกว่าตนเองทำแบบนี้อาจไม่ถูกต้อง
ท่านอ๋องมีตำแหน่งสูงส่ง แต่เขากลับนั่งกินอย่างสบายใจเช่นนี้ได้อย่างไร
“ท่านอ๋อง...พอ...พอแล้วพ่ะย่ะค่ะ ไม่ต้องแกะให้ข้าแล้ว รีบรับประทานตอนที่ยังร้อนๆ ดีกว่า”
พูดแล้วหลินหร่านก็ยิ่งรู้สึกหลงรักอวี้ฉู่จาว เขาใช้ตะเกียบคีบเนื้อกุ้งัในถ้วยของตนเองจิ้มลงบนซอสที่ใช้กินคู่กันเล็กน้อย ก่อนใช้มือข้างซ้ายรองเอาไว้ใต้ปากของท่านอ๋อง
ในตอนนี้ หลินหร่านเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาใช้ตะเกียบของตนเองคีบอาหารให้ นั่นเป็วิธีที่แสดงถึงความไม่เคารพอย่างยิ่ง เขารีบดึงตะเกียบกลับมา แต่ก็ไม่ไวเท่าปากของอวี้ฉู่จาวที่อ้าปากกินกุ้งัเข้าไปเป็ที่เรียบร้อย
ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจหรือไม่ เพราะอวี้ฉู่จาวยังกัดปลายตะเกียบอีกด้วย
หลังจากเคี้ยวเสร็จถึงกล่าวขึ้น “อืม ไม่เลว แบบนี้รสชาติของกุ้งัยิ่งเลิศรสเข้าไปอีก” อวี้ฉู่จาวยกยิ้มมุมปาก ใบหน้าแสนจะอ่อนโยนแลดูจริงจังในเวลาเดียวกัน
หลินหร่านมองตะเกียบในมือของตนเอง เขาอยากลองชิมความ ‘เลิศรส’ ที่ท่านอ๋องบอกแต่ไม่กล้าลงมือ
อาหารมื้อนี้ หลินหร่านไม่รู้ว่าเขาจะกินมันอย่างไรดี ทั้งๆ ที่ตัวเขากับท่านอ๋องไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่เขากลับรู้สึกหน้าร้อนไปหมด
และถึงแม้จะกินอิ่มมากแล้ว แต่หัวใจเขาทำงานเยอะเสียขนาดนี้ กินไปจึงเหนื่อยที่ใจไปด้วย
หลังรับประทานมื้อค่ำเสร็จก็จวนจะใกล้ถึงเวลาแล้ว อวี้ฉู่จาวจูงมือหลินหร่านไปเดินชมในตำหนักเป็การย่อยอาหารไปในตัว
มีติงหร่วนกับลุงตงเดินตามอยู่ด้านหลังไม่ห่าง
“นั่นคือพระชายาในอนาคตของพวกเราอย่างนั้นหรือ”
ลุงตงขมวดคิ้วถามระหว่างมองไปยังหลินหร่านที่ถูกอวี้ฉู่จาวจูงมือเดินอยู่ตรงหน้า
“ใช่ขอรับ” ติงหร่วนตอบกลับ
“ตอนที่ข้าพาเ้ามา เ้าถูกส่งไปที่ตระกูลหลินหรือ”
“ขอรับ ท่านอ๋องมอบหมายเป็พิเศษให้ข้าไปดูแลคุณชายน้อย”
หลังจากฟังที่ติงหร่วนพูด ลุงตงยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้น
ท่านอ๋องทรงคิดอะไรอยู่ แล้วท่านอ๋องไปรู้จักคุณชายน้อยผู้นี้ั้แ่เมื่อไร เพราะมองออกเลยว่าตอนนี้ ท่านอ๋องให้ใจคุณชายผู้นี้ไปแล้ว
“ท่านอ๋องทรงคิดอะไรอยู่กันนะ” ลุงตงครุ่นคิด เผยข้อสงสัยออกมา
ติงหร่วนมองไปทางท่านอ๋องกับคุณชายน้อยของตนที่อยู่ไม่ไกลนัก แล้วเอ่ยออกมา “ไม่แปลกหรอกขอรับ คุณชายน้อยล้ำค่าเหนือสิ่งอื่นใด ท่านอ๋องมีสายตาแหลมคมพบเจอสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ไม่แปลกเลยสักนิดขอรับ”
ติงหร่วนไม่ได้หันมาสังเกตเลยว่าลุงตงได้ยินสิ่งที่เขาพูดชัดเจน พร้อมจดจำคำพูดเขา
พระชายาตัวน้อยผู้นี้เป็คนดีขนาดนั้นเชียวหรือ เื่นั้นเขาคงต้องรอดูว่าคนผู้นี้เหมาะสมกับที่ท่านอ๋องของเขาต้องเอาตำแหน่งมาแลกหรือไม่
เบื้องหน้าในศาลากลางน้ำ ไม่รู้ว่าทั้งคู่ทำอะไรกัน เพราะเมื่อหันมาอีกทีก็โอบกอดประทับจูบกันเสียแล้ว
-------------------------------