หร่านซวี่จืออยากจะรัวหมัดใส่เ้าบ้าหัวสุนัขเฉินหนาน ให้ตายเถอะ เมื่อวานกล้าจับเขากดกับผนังห้องแล้วจัดการเขา ทำเอาขาของเขาถึงกับเส้นเอ็นยึด
พอฟ้ายังไม่ทันสาง หร่านซวี่จือก็รู้สึกว่ามีคนขุดเขาขึ้นมาจากผ้าห่ม
“ลุกขึ้น ออกไปกับฉัน”
หร่านซวี่จือขมวดคิ้ว แสงจ้าทำให้ไม่สบายตา เขาจึงซุกศีรษะเข้าไปใต้ผ้าห่ม “ไม่ไป! ”
เฉินหนานกำลังผูก้เน็กไท เมื่อหันหลังก็เห็นหร่านซวี่จือที่กำลังแกล้งทำเป็ไก่ตาย พลันยกมุมปากขึ้นยิ้ม
หร่านซวี่จือเข้าสู่ห้วงความฝันด้วยความสะลึมสะลือ จู่ๆ ก็มีคนล้วงเขาขึ้นมา จนสะดุ้งใตื่น
เฉินหนานขมวดคิ้วพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมา โยนไปที่ข้างกายหร่านซวี่จือ “เร็วๆ หน่อย”
หร่านซวี่จือจึงสวมเสื้อผ้าด้วยความจำยอม ผ่านไปชั่วครู่ถึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้เื่หนึ่ง
เฉินหนานจะพาเขาออกไปหรือ???
ครั้งนี้ไม่ใช่แค่มีอะไรกันงั้นหรือ???
เยี่ยม!!!
เฉินหนานไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ คนตรงหน้าก็ดีใจขึ้นมา เขาจึงเกิดความสงสัย หลังจากนั้นก็เรียกเลขาของตนเองเข้ามาช่วยจัดการเก็บข้าวของ
ตอนนี้น่าจะยังไม่ถึงเจ็ดโมง ฟ้าจึงยังสว่างไม่มาก เปลือกตาสองข้างของหร่านซวี่จือเริ่มปิด พอขึ้นรถก็อยากนอน
เฉินหนานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ฉันออกมาแล้ว”
เขาปรายตามองหร่านซวี่จือที่กำลังสัปหงก “รู้แล้ว ฉันใกล้จะถึงแล้ว”
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถยนต์ก็มาจอดอยู่ที่โรงพยาบาลที่ถูกตกแต่งอย่างมีระดับ หร่านซวี่จือขยี้ตาและรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจ
มาทำอะไรที่โรงพยาบาล?
จากนั้นก็มีพยาบาลคนหนึ่งเดินมาแล้วพาพวกเขาขึ้นตึก หลังจากเข้าห้องทำงานก็เห็นชายสวมแว่นกรอบสีทองพร้อมกับเสื้อกาวน์สีขาวตัวใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องทำงาน
เขาเผยรอยยิ้มอ่อนโยนเป็อย่างมากพร้อมกับเอ่ยทักทายหร่านซวี่จือก่อน “สวัสดีครับ”
หร่านซวี่จือแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ก้มศีรษะรับคำทักทายไว้
เฉินหนานนั่งบนโซฟาด้านหลังแล้วหยิบชาที่เลขาเสิร์ฟให้ขึ้นมาดื่ม จากนั้นเขาก็เอ่ยอย่างเบื่อหน่าย “เริ่มได้”
“เร็วขนาดนี้เลยหรือครับ? ” หมอคนนั้นหน่ายใจ “ผมยังไม่ทันได้คุยกับเขาเลย”
“ไม่มีอะไรน่าคุย” เฉินหนานตอบ
หร่านซวี่จือมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มหัวไปหมด
“แล้วคุณจะอยู่ทำอะไรที่นี่ครับ? ”
เฉินหนานชะงักเล็กน้อย “ฉันอยากดู”
“คุณชายใหญ่ คุณอย่าเพิ่มปัญหาเลย ออกไปเถอะครับ” หมอลุกขึ้นยืนแล้วส่งแขก
หร่านซวี่จือนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนุ่ม เมื่อเห็นเฉินหนานออกไป เขาก็เริ่มกระวนกระวายใจแล้วเอ่ยถามหมอ “คุณครับ พวกคุณกำลังจะทำอะไรกับผม? ”
“ไม่มีอะไร” หมอคนนั้นยิ้ม “ก็แค่เื่เล็กน้อยน่ะครับ คุณไม่ต้องตื่นเต้นไป”
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม ฉันคิดว่าไม่น่าใช่เื่เล็กน้อยแน่”
ระบบ: “คุณรันปราดเปรื่องครับ”
หร่านซวี่จือคาดเดาได้ไม่ผิด เนื่องจากหมอคนนี้เป็หมอด้านจิตวิทยา เขามาเพื่อสะกดจิตหร่านซวี่จือ
เฉินหนานรู้สึกว่าตัวหร่านซวี่จือนั้นมีสิ่งที่น่าสงสัยเต็มไปหมดจึงอยากอาศัยการสะกดจิตมาทำความเข้าใจความคิดที่แท้จริงในใจของเขา อีกอย่าง ปิงโหยวจี้ที่หร่านซวี่จือเคยเอ่ยถึงก็ยังคงเป็ปมในใจของเฉินหนานอยู่
เพราะความช่วยเหลือของระบบ หร่านซวี่จือจึงไม่ได้ตื่นเต้นมากนักและเขาก็ยังให้ความร่วมมือกับหมอจิตยาคนนั้นเป็อย่างดี
การสะกดจิตดำเนินไปเป็เวลานาน น่าจะประมาณสองชั่วโมง ขณะที่หร่านซวี่จือเดินออกมาจากห้อง ศีรษะของเขายังคงเบลออยู่
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม ฉันไม่ได้เปิดเผยเื่สถานะอะไรไปใช่ไหม? ”
ระบบ: “ไม่มีครับ แต่คุณพูดเื่ไร้สาระมากมายเลย”
หร่านซวี่จือ: “…”
เลขามาช่วยจัดการหาห้องพักให้หร่านซวี่จือเพื่อพักผ่อน จากนั้นเฉินหนานก็เดินไปห้องทำงานของหมอ
“เป็อย่างไรบ้าง? ”
หมอเปิดบันทึกในคอมพิวเตอร์ของตนเอง ท่าทางของเขาดูหนักใจเล็กน้อย “คุณชายเฉิน ผมขอถามตามตรงนะครับ คนคนนี้ คุณไปหาตัวมาจากที่ไหนครับ”
เฉินหนานพิงบนโซฟาแล้วขมวดคิ้ว “หาเจอในโรงแรม มีอะไร? ”
“เมื่อครู่ผมเชื่อมโยงโลกที่เขาบอกเล่ามาก็พบปัญหาอยู่เื่หนึ่งครับ” หมอหยิบปากกาขึ้นมาแล้วชี้ไปที่หน้าข้อมูล “ในโลกของเขา ความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณนั้นสนิทสนมกันมาก ระยะเวลาที่รู้จักกันมาก็ค่อนข้างยาวนาน น่าจะสามารถย้อนไปถึงหลายปีก่อน”
“อีกอย่าง เขายังมีเื่เคียดแค้นอะไรบางอย่างกับคุณ ผมคิดว่า บางทีคุณอาจจะเคยทำเื่อะไรที่เขาไม่ชอบใจในอดีต”
เฉินหนานใช้นิ้วเคาะที่พิงแขนบนโซฟา ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร
“คุณชายเฉิน ความทรงจำหลายปีของคุณที่หายไป ตอนนี้ยังหากลับมาไม่ได้ อีกฝ่ายก็คอยตามหาเบาะแสของคุณ คุณแน่ใจนะว่าความทรงจำของคุณตอนที่ฟื้นขึ้นมานั้นถูกต้อง? ไม่ใช่กับดักที่อีกฝ่ายวางไว้? ”
“แต่ว่า ผลการทดสอบจิตวิทยาของฟู่หลิงก็เชื่อมต่อกัน” เฉินหนานเอ่ย
“จริงด้วยครับ” หมอรู้สึกปวดหัว “ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้? ”
“งั้นคงต้องให้เวลาเป็ตัวพิสูจน์แล้วล่ะ” เฉินหนานลุกขึ้นพร้อมกับจัดสูท แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
สถานะในคฤหาสน์ของหร่านซวี่จือนั้นถูกเพิ่มระดับขึ้นอย่างกะทันหันทำให้คนทั้งหมดแทบจะไม่ทันตั้งตัวกัน
ซาจือก็ถูกรับกลับมาแล้ว แม้ว่ามันจะดูผอมโซไปเยอะแต่ก็ยังดูกระปรี้กระเปร่าใช้ได้ทำให้หร่านซวี่จือนั้นดีใจแทบบ้า
“นายดูท่าทางเขาสิ” ชวนอวิ๋นทำท่าหมั่นไส้ “คิดว่าตนเองคือใครกัน? ไม่กี่วันคุณชายเฉินก็เบื่อ ดูสิเขาจะยังได้ใจอย่างไร! ”
“ใช่ ยังอยากมาแข่งกับฟู่หลิงของเรา เขาเพิ่งมาได้นานแค่ไหนเชียว? ” หาวไห่เอ่ยขึ้นด้วย “แต่น่าแปลก ทั้งที่เ้าโฮสต์กระจอกนี่ไม่ได้หน้าตาเหมือนคนคนนั้นสักนิด ไม่มีความคล้ายในตัวเลยแม้แต่นิดเดียว ทำไมคุณชายเฉินถึงเลือกเขานะ? ”
ฟู่หลิงกำลังให้คนใช้แต่งเล็บให้เขาอยู่ เมื่อได้ยินคำสนทนาของสองคนนั้น ท่าทางก็ไม่เปลี่ยนแต่สายตากลับเย็นะเือย่างชัดเจน
ขณะที่เฉินหนานกลับมา หร่านซวี่จือยังคงเล่นกับซาจือที่สวนหลังบ้าน แต่ก่อนเ้าหิมะมักจะกัดหร่านซวี่จือ ไม่รู้ว่าเป็เพราะกลัวซาจือหรืออย่างไร เพราะตอนนี้ไม่กล้ากัดแล้ว เพียงแต่มันยังคงชอบใช้เสื้อผ้าของหร่านซวี่จือมาสีกับฟัน
“คุณชายเฉิน” ฟู่หลิงเดินลงมาจากชั้นสองแล้วเผยรอยยิ้ม
แต่ชื่อที่ออกจากปากของเฉินหนานทำเอาฟู่หลิงแทบจะกัดฟัน “หร่านซวี่จือไปไหนอีกแล้ว? ”
“เขาหรือ ไม่รู้สิ” ฟู่หลิงเอ่ย “คุณชายเฉิน ผลงานหลายวันก่อนหน้านี้ที่คุณบอกฉันวาดเสร็จแล้ว คุณอยากดูไหม? ”
เฉินหนานจำได้ว่าเคยพูดจริงจึงตอบไปว่า “ได้”
หร่านซวี่จือเดินไปในห้องรับแขกก็ไม่เห็นใคร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ยินคนบอกว่าเฉินหนานกลับมาแล้ว นี่มันอะไรกัน?
“นี่ ยังรออยู่อีกหรือ? ” ชวนอวิ๋นเห็นหร่านซวี่จือยืนเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ในห้องรับแขกจึงเยาะเย้ยเขาด้วยน้ำเสียงเ็า “ฉันว่านายกลับไปนอนพักเถอะ วันนี้เกรงว่านายจะไม่ได้เจอคุณชายเฉินแล้วล่ะ? ”
หร่านซวี่จือขมวดคิ้ว “เฉินหนานไปไหนหรือ? ”
ด้านหลังมีคนดึงเขา หร่านซวี่จือหันหลังและเห็นว่าเป็อิงซาง “อาหร่านซวี่จือ คุณชายเฉินมาถึงั้แ่หนึ่งชั่วโมงที่แล้วแล้วล่ะ แต่เมื่อครู่ขึ้นไปชั้นบนกับฟู่หลิงแล้ว ยังไม่ลงมาเลย”
พูดจบ อิงซางก็แอบสังเกตท่าทีของหร่านซวี่จือ
หร่านซวี่จือไม่ได้เผยท่าทีโมโหหรือผิดหวังแต่อย่างใด ทำเอาชวนอวิ๋นกับหาวไห่ถึงกับหมดอารมณ์ “แบบนี้นี่เอง ฉันนึกว่าระหว่างทางเขาเจอเื่อะไรเสียอีก ไม่เป็ไร วันนี้ฉันเองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน”
พูดจบ หร่านซวี่จือก็เปิดประตูห้องตนเองแล้วเดินเข้าไปโดยไม่ส่งเสียงใดๆ