“ศิษย์พี่ เราให้คนสารเลวนั่นครองสระน้ำจะดีหรือ?”
หญิงสาวสองคนลอยตระหง่านกลางอากาศ แต่ขณะนั้นหญิงธาตุไฟกล่าวขณะหันไปมองเย่เฟิงที่แช่ตัวอยู่ในสระน้ำด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว
“งั้นพวกเราควรทำอย่างไร? คนผู้นี้เก่งเกินไป ขนาดเราสองคนผนึกกำลังก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ทำได้เพียงให้เขาครองสระน้ำชั่วคราว” หญิงธาตุน้ำแข็งกล่าวเช่นนั้นกับอีกฝ่าย
พวกนางสองคนคือนักฆ่าเลื่องชื่อของพันธมิตรชาเซวี่ยมีสมญานามว่า วิไลคู่ไฟน้ำแข็ง ควบคุมพลังทั้งไฟและน้ำแข็ง เมื่อผนึกกำลัง พลังจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ส่วนพันธมิตรชาเซวี่ยคือกลุ่มนักฆ่าที่ใหญ่สุดของแดนชิงอวิ๋น ในนี้ยังมีนักฆ่าระดับสูงที่ฝึกมาโดยเฉพาะ ซึ่งมีประโยคหนึ่งเล่าลือกันในแดนชิงอวิ๋นว่าตราบใดที่มีกำลังทรัพย์เพียงพอ ไม่ว่าภารกิจยากเพียงใดพันธมิตรชาเซวี่ยก็รับทำหมด
แม้กระทั่งผู้มีอำนาจบางคนยังปรากฏในรายชื่อนักฆ่าของพันธมิตรชาเซวี่ย ในนั้นมีชื่อองค์าาหลายคนของเจ็ดอาณาจักรแห่งแดนชิงอวิ๋น
เห็นชัดว่าพันธมิตรชาเซวี่ยเป็กองกำลังที่ทรงอิทธิพลมากเพียงใดในแดนชิงอวิ๋น หลาย ๆ กองกำลังกระทั่งบางอาณาจักรยังไม่กล้ายั่วโมโห หากกล้าล่วงเกินพันธมิตรชาเซวี่ย เช่นนั้นก็อย่าหวังที่จะมีชีวิตที่ดีอีกต่อไป ไม่แน่ว่าสักวันอาจเจอการแก้แค้นของพันธมิตรชาเซวี่ย
ส่วนหญิงสาวสองคนนี้ที่มีสมญานามว่า วิไลคู่ไฟน้ำแข็ง ก็คือนักฆ่ามือดีที่พันธมิตรชาเซวี่ยบ่มเพาะมา ทั้งยังเคยลอบสังหารผู้มีอำนาจมาแล้วหลายราย หนึ่งในนั้นมีชินหวังจากบางอาณาจักรของแดนชิงอวิ๋น ทำให้แดนชิงอวิ๋นเกิดความผันผวนไม่น้อย
ด้านเย่เฟิง เขาสนใจแต่การตระหนักรู้พลังฟ้าดินอันบริสุทธิ์นั่นที่อยู่ในสระน้ำ แต่วิไลคู่ไฟน้ำแข็งยังคงไม่ไปไหน พวกนางสังเกตการณ์เย่เฟิงอยู่ห่าง ๆ
“ศิษย์พี่ดูสิ พลังปราณที่แผ่ออกจากร่างคนคนนี้เหมือนแฝงไปด้วยอำนาจฟ้าดิน ดูเหมือนจะบรรลุขั้นผันแปร่ปลายแล้วด้วย” หญิงธาตุไฟกล่าวเช่นนั้นขณะมองเย่เฟิง
“อำนาจฟ้าดินขั้นผันแปร่ปลาย มันจะเป็ไปได้ยังไง? แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์เทวะอย่างท่านอาจารย์ อำนาจฟ้าดินก็เพิ่งถึงระดับนั้นเอง แต่เขาอยู่แค่ขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 เขาจะทัดเทียมกับท่านอาจารย์ได้อย่างไร?”
หญิงธาตุน้ำแข็งได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวด้วยความเหลือเชื่อ ในความคิดนาง ด้วยอายุและตบะของเย่เฟิง จึงเป็ไปไม่ได้ที่จะทัดเทียมกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์เทวะ ศิษย์น้องของนางต้องตาฝาดเป็แน่
“หากศิษย์พี่ไม่เชื่อก็ดูเอาเอง” หญิงธาตุไฟกล่าวขึ้น หากไม่เห็นกับตาตัวเอง นางเองก็ไม่มีทางเชื่อ
หญิงธาตุน้ำแข็งได้ยินคำพูดของหญิงธาตุไฟก็ขมวดคิ้วเบา ๆ จากนั้นปลดปล่อยพลังจิต โดยใช้แทนดวงตา ซึ่งวิธีนี้มีประสิทธิภาพดีกว่า นางมองไปที่เย่เฟิงในสระน้ำที่รอบกายเขาถูกหุ้มด้วยแสงหนึ่งชั้น
พลังแห่งอำนาจนั้นทรงอานุภาพมาก เพียงมองแค่ปราดเดียว หญิงธาตุน้ำแข็งก็เผยสีหน้าใแล้ว
“เป็ไปได้ยังไง? อำนาจฟ้าดินของเขาจะทรงพลังเพียงนี้ได้ยังไง?” หญิงธาตุน้ำแข็งอุทานด้วยความเหลือเชื่อ
“ศิษย์พี่ เห็นไหมว่าข้าพูดถูก อำนาจฟ้าดินของเขาถึงขั้นผันแปร่ปลายแล้ว” หญิงธาตุไฟเห็นหญิงธาตุน้ำแข็งใก็กล่าวเช่นนั้นด้วยความได้ใจ
“ไม่ นี่ไม่ใช่ขั้นผันแปร่ปลาย!”
หญิงธาตุน้ำแข็งส่ายหัวปฏิเสธ จู่ ๆ สีหน้าในั้นจางหายไป แต่แทนที่ด้วยสีหน้าจริงจัง
“ท่านหมายความว่าอำนาจที่คนนี้เรียนรู้ไม่ใช่ขั้นผันแปร่ปลายงั้นหรือ?” หญิงธาตุไฟเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“ขั้นกายา อำนาจฟ้าดินที่คนคนนี้เรียนรู้อยู่ขั้นกายาแล้ว!” หญิงธาตุน้ำแข็งกล่าวเสียงสั่นด้วยความใ ขณะมองเงาร่างหล่อเหลาที่อยู่ในสระน้ำนั้น
“อะไรนะ?”
หญิงธาตุไฟได้ยินก็หน้าแข็งทื่อ ก่อนกล่าวต่อว่า “สัตว์ประหลาดชัด ๆ มีเพียงคำเช่นนี้ที่จะอธิบายเขาได้ ผู้ควบคุมอำนาจฟ้าดินขั้นกายาที่อายุไม่ถึง 20 ปี ในแดนชิงอวิ๋นไม่มีคนประเภทนี้แน่นอน ทุกอย่างช่างไม่สมจริงเอาเสียเลย”
หลังจากแน่ใจว่าอำนาจฟ้าดินของเย่เฟิงอยู่ขั้นกายา หญิงทั้งสองก็มองเย่เฟิงเป็สัตว์ประหลาดไปโดนปริยาย
“ไม่... ไม่สิ ตอนที่พันธมิตรชาเซวี่ยรับภารกิจมา ข้าก็ดูข้อมูลของเย่เฟิงมาบ้างแล้ว เขาอยู่ขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 อำนาจฟ้าดินก็อยู่ขั้นกายาเช่นกัน ดูเหมือนว่าตัวตนของคนผู้นี้จะน่าสนใจขึ้นมาแล้ว” หญิงธาตุน้ำแข็งนึกบางอย่างขึ้นมาได้ฉับพลัน จึงกล่าวออกมาเช่นนั้น
“ศิษย์พี่หมายความว่า คนคนนี้ก็คือเย่เฟิงที่พวกเรากำลังตามหางั้นหรือ?” หญิงธาตุไฟถามขึ้น
“ขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 มีอำนาจฟ้าดินขั้นกายา หรือนอกจากเย่เฟิงคนนั้นแล้ว จะยังมีคนที่สองอีกงั้นหรือ?”
ดวงตาของหญิงธาตุน้ำแข็งสั่นไหวชั่วขณะ แม้นางไม่กล้าเชื่อในการคาดเดานี้ของตน แต่ความจริงก็อยู่ตรงหน้านางแล้ว นางจำต้องเชื่อการคาดเดานี้
“วูบ!”
ขณะนั้นมีลมปราณอันแกร่งกล้าแผ่กระจายมาทางนี้ ก่อนจะตรึงร่างของหญิงทั้งสอง ทำให้พวกนางใเล็กน้อย
“ใครน่ะ?” หญิงธาตุน้ำแข็งกล่าวขณะมองไปรอบ ๆ
“มัวทำอะไรอยู่ที่นี่ แล้วเหตุใดพวกเ้าสองคนไม่ไปตามหาเย่เฟิง หรือไม่อยากทำภารกิจนี้แล้ว?”
เมื่อสิ้นเสียงของหญิงธาตุน้ำแข็งก็มีเสียงเ็าดังออกมา พร้อมกับไอเย็นอันหนาวเหน็บปกคลุมไปทั่วฟ้าจนกระทั่งมีเกล็ดหิมะตกโปรยปรายลงมา ทำพื้นผิวของสระน้ำแข็งตัว
นาทีต่อมาหญิงทั้งสองเห็นเงาร่างชุดขาวปรากฏตัวใกล้ ๆ พวกนาง เงาร่างนี้มีอายุ 25-26 ปี ไอเย็นรายล้อมร่างกาย ดวงตาสีฟ้าของเขายังฉายแววเฉียบคม ผิวพรรณของเขาก็ขาวผ่องอย่างยิ่งราวกับไม่ได้มาจากโลกนี้ก็ไม่ปาน
ชายผู้นี้มีหน้าตาหล่อเหลา แต่กลับดูดุดันและก้าวร้าว ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้เขา
“หานิ!” หญิงทั้งสองเห็นชายผู้นี้ก็อุทานจนเรียกขานชื่อออกมา พร้อมดวงตาฉายแววหวาดหวั่น
หานิคืออัจฉริยะอันดับหนึ่งในรุ่นเยาว์ของพันธมิตรชาเซวี่ย ทั้งยังมีฐานะสูงส่ง หานินั้นเชี่ยวชาญพลังน้ำแข็ง อำนาจน้ำแข็งของเขาก็บรรลุขั้นกายา่ต้นแล้ว ส่วนตบะอยู่ขั้นยุทธ์แท้สูงสุด และเหลืออีกก้าวก็จะบรรลุขั้นยุทธ์เทวะ
เขาคืออัจฉริยะชั้นยอดอย่างแท้จริง แม้กระทั่งในด้านพลัง หานิก็ยังโดดเด่นกว่าสี่อัจฉริยะบุรุษแห่งแดนชิงอวิ๋น
อย่างไรก็ตามพันธมิตรชาเซวี่ยเป็องค์กรลับที่อยู่ในความมืด ทำเื่ชั่วช้าในที่ลับตาคน ดังนั้นคนของพันธมิตรชาเซวี่ยจึงไม่ปรากฏตัวในการประลองใหญ่ ๆ ของแดนชิงอวิ๋น
แต่ขณะที่ผู้คนจัดอันดับอัจฉริยะ ทางพันธมิตรชาเซวี่ยก็มีการจัดอันดับอัจฉริยะเช่นเดียวกัน ดังนั้นอัจฉริยะผู้โดดเด่นอย่างหานิจึงไม่เคยถูกเลือกเข้าสี่อัจฉริยะบุรุษ กระทั่งนอกจากคนของพันธมิตรชาเซวี่ยแล้ว ในแดนชิงอวิ๋นก็มีน้อยคนนักที่จะรู้ถึงการมีอยู่ของหานิ
พันธมิตรชาเซวี่ยเป็องค์กรลับอย่างแท้จริง เครือข่ายในแดนชิงอวิ๋นก็ยังกว้างขวาง ซึ่งมีอยู่ทั่วทุกมุมของแดนชิงอวิ๋น ถึงขนาดมีข่าวลือออกมาว่า จริง ๆ แล้วพันธมิตรชาเซวี่ยเป็องค์กรนอกแดนที่มีสาขาหลักอยู่นอกแดนชิงอวิ๋น พลังอำนาจจึงไม่ใช่สิ่งที่ชาวแดนชิงอวิ๋นจะจินตนาการได้
นอกจากนี้แม้พันธมิตรชาเซวี่ยจะเป็องค์กรหนึ่ง แต่ผู้คนภายในนั้นกลับแตกแยกไม่สามัคคี การขัดแย้งจึงไม่ใช่เื่แปลก เพราะพวกเขาเข้าร่วมพันธมิตรชาเซวี่ยก็เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น
หากไม่มีผลประโยชน์ พันธมิตรชาเซวี่ยคงไม่อยู่มาถึงทุกวันนี้
เช่นเดียวกับหานิที่เผชิญหน้ากับวิไลคู่ไฟน้ำแข็งด้วยท่าทีไม่เป็มิตร ซึ่งเขาชื่นชมความงามของพวกนางมาตลอด แต่ถูกพวกนางต่อต้านอย่างรุนแรง สุดท้ายแล้วเขาจึงจบลงด้วยความล้มเหลว
“ข้าเอง ดูเหมือนว่าเ้าสองคนจะสวยขึ้นนะ!”
หานิกวาดตามองเรือนร่างของหญิงทั้งสองด้วยสายตาเหิมเกริม โดยเฉพาะบริเวณหน้าอกของหญิงธาตุไฟที่ปรากฏวับ ๆ แวม ๆ สายตาของเขาจึงอยู่บริเวณนั้นเป็เวลานาน
“เ้ามาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ?”
หญิงธาตุน้ำแข็งเห็นสายตาของหานิก็เผยสีหน้ารังเกียจ
“เบื้องบนกลัวว่าพวกเ้าจะทำภารกิจไม่สำเร็จ จึงส่งข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเ้าสองคนอีกแรง!” หานิกล่าวพลางยิ้มให้กับทั้งสอง
“ภารกิจของข้าสองคน คุณชายหานไม่จำเป็ต้องเหนื่อย เ้ากลับไปที่สาขาหลักเถอะ” หญิงธาตุน้ำแข็งกล่าวเช่นนั้น โดยไล่หานิกลับไป หากให้หานิอยู่ที่นี่ต่อ เขาคงต้องทำมิดีมิร้ายกับพวกนางอย่างแน่นอน
“ข้าจะไปหรือไม่ก็ไม่ใช่คนอย่างเ้ามาสั่งได้ เว้นแต่ว่า...” หานิกล่าวเสียงเย็นขณะมองเนินอกของหญิงธาตุน้ำแข็งที่ปรากฏวับ ๆ แวม ๆ
“เว้นแต่อะไร?” หญิงธาตุน้ำแข็งถาม
“เว้นแต่ว่าพวกเ้าสองคนจะปรนนิบัติให้ข้าสบายใจ ขณะที่วางแผนพวกเราก็สนุกในสระน้ำแห่งนี้” หานิกล่าวอย่างกำเริบเสิบสาน แต่ในระหว่างที่กล่าวเช่นนั้น ร่างเขาก็ค่อย ๆ ลอยไปทางหญิงสาวทั้งสองคน
“ไร้ยางอาย!”
หญิงธาตุน้ำแข็งได้ยินเช่นนั้นก็ขึ้นเสียงใส่หานิด้วยโทสะ
“ข้าไร้ยางอายงั้นหรือ ในเมื่อเ้าหาว่าข้าไร้ยางอาย เช่นนั้นวันนี้ข้าจะทำตัวไร้ยางอายกับพวกเ้าสองคน!”
หานิเผยรอยยิ้มเย็นเยือก จากนั้นไอเย็นแผ่ออกจากร่างเขาอย่างฉับพลัน ก่อนจะมีกรงเล็บใหญ่พุ่งไปที่หญิงธาตุน้ำแข็ง!
