ที่รู้สึกผิดหวังไม่ได้มีเพียงเฟิงซื่อ แต่หลินฟู่อินเองก็เช่นกัน
นางเคยคิดว่าหลินต้าเหอคงจะมั่นคงขึ้นบ้างหลังจากที่มีบุตรชาย ถ้าเพื่อผลประโยชน์ของหลินซานหลาง อย่างน้อยเขาก็ควรจะยืนหยัดขึ้นมาบ้างมิใช่หรือ?
แต่นางก็เข้าใจในสิ่งที่หลินต้าเหอพยายามสื่อ หากปู่หลินดึงดันจะให้หลินต้าหลางไปเรียนแทนหลินซานหลางจริงๆ เขาก็คงมิอาจขัดขืนอะไรได้…
“ป้าสอง ลุงสองกล่าวถูกแล้ว และเพราะอย่างนั้นข้าจึงมาบอกพวกท่านก่อน เพราะยังไงข้าก็อยากให้พี่ซานหลางที่ดูมีแววมากกว่าเป็คนได้ไปเรียน ดังนั้นข้าจะไม่ยอมเปลี่ยนจุดยืน ต่อให้ปู่เข้ามายุ่งข้าก็จะไม่เปลี่ยน ที่เหลือก็ขึ้นกับพวกท่านแล้ว ขอเพียงพวกท่านไม่ยอม ฝั่งบ้านใหญ่ก็ไม่อาจทำอะไรได้” หลินฟู่อินกล่าวชัดเจน
เฟิงซื่อเองก็ไม่สนใจหลินต้าเหอแล้วเช่นกัน นางขมวดคิ้วมองหลินฟู่อิน “ฟู่อิน ไม่ต้องห่วง ข้าก็ไม่ยอมแน่! ซานหลางเป็ลูกของพวกข้าบ้านสอง อาเฟินและอาฟางรวมถึงเ้าต่างก็คงจะแต่งออกไปในภายหลัง ดังนั้นเขาจึงเป็คนเดียวที่พวกข้าจะพึ่งพาได้”
หลินฟู่อินได้ยินก็โล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย โชคดีที่เฟิงซื่อเป็คนรู้ว่าอะไรควรไม่ควร
“เข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าขอกลับก่อน ข้ากลัวว่าพวกบ้านใหญ่จะรู้ว่าข้าออกจากบ้านมา” หลินฟู่อินคิดหลายๆ เื่แล้ว จิตต่อสู้อันแรงกล้าพลันปรากฏขึ้นในสายตา แล้วจึงรีบกล่าวกับเฟิงซื่อ “ป้าสอง ท่านก็รีบไปเรียกพวกพี่อาเฟินกลับมาเพื่ออธิบายด้วยจะดีกว่า”
เฟิงซื่อพยักหน้าเห็นด้วย
หลินฟู่อินมุ่งหน้ากลับบ้าน แล้วจึงเห็นว่าพวกบ้านใหญ่ยังไม่มากัน
นางเสียบกุญแจเปิดประตู แล้วทันทีที่ประตูเปิดออก แม่นมฉินและย่าหลี่ก็เดินมาทันที
“ฟู่อิน เ้าไปไหนมาหรือ!?” ย่าหลี่ขมวดคิ้วถามเมื่อเห็นว่าหลินฟู่อินมีสีหน้าดูไม่ดีนัก “เกิดอะไรขึ้นกัน?”
แม่นมฉินก็มองหลินฟู่อินด้วยความไม่สบายใจ
“พี่ซานหลางได้รับอนุญาตให้ไปเรียนที่โรงเรียนในเมืองแล้ว แต่พี่ต้าหลางรู้เข้า จึงน่าจะมีปัญหาตามมาอีก” หลินฟู่อินหรี่ตากล่าวพลางเดินไปหาเ้าตัวน้อยทั้งสอง ทั้งสองตื่นอยู่ ั์ตาทั้งสี่นั้นมองหลินฟู่อินอย่างน่ารักน่าชังจนหลินฟู่อินเผลอยิ้มออกมา สายตาอ่อนโยนลงเล็กน้อย “ย่าหลี่ แม่นมฉิน รอข้าก่อนนะ ข้าว่าบ้านใหญ่คงมาทำเื่น่ารำคาญอีกแน่นอน เพราะอย่างนั้นช่วยดูเด็กๆ ให้ข้าทีนะเ้าคะ”
ย่าหลี่ขมวดคิ้วมองหลินฟู่อิน แล้วถาม “นี่เป็เื่ใหญ่ เป็เื่เล็กๆ ก็จริงแต่เป็เื่ใหญ่สำหรับบ้านใหญ่ พวกนั้นต้องมาสร้างเื่ให้เ้าแน่ เ้าจะรับมือไหวหรือ?”
“ไหวเ้าค่ะท่านย่า ท่านสบายใจได้เลย! ข้าไม่ให้พวกนั้นมาสร้างปัญหาให้เด็กๆ หรือมารกสายตาพวกท่านแน่” หลินฟู่อินยิ้มสดใส ย่าหลี่จึงโล่งอก
“ถ้าเช่นนั้นแล้ว วันนี้ข้าจะพาเด็กๆ และแม่นมฉินไปบ้านข้าก่อน แล้วข้าจะให้คนที่บ้านเก่าข้าช่วยจับตาดูการเคลื่อนไหวของบ้านใหญ่ให้ หากมีปัญหาอะไร ข้าจะมาทันที!” ย่าหลี่อธิบาย
“ให้พวกบ้านสองไปด้วยสิเ้าคะ แม้ข้าเพิ่งจะมาได้ไม่นาน แต่ข้าก็ได้ยินมาว่าเื่บางเื่ก็รับมือยาก” แม่นมฉินกล่าวขึ้นมาหลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
หลินฟู่อินเห็นทั้งสองเป็ห่วงนางเช่นนี้ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา
“สบายใจได้เ้าค่ะ ข้ารับมือไหว”
ย่าหลี่และแม่นมฉินฝากความหวังไว้กับหลินฟู่อิน บ้านเก่ามีคนอยู่มากนัก
หลินฟู่อินกำลังปัดฝุ่นบนที่นอนอยู่ในตอนที่นางได้ยินเสียงจากประตูหน้าบ้าน แล้วจึงนิ่วหน้า
เคาะประตูแรงขนาดนี้ จ้าวซื่อสินะ
กะแล้วว่าต้องมา
เมื่อเห็นว่าประตูยังถูกเคาะไม่หยุด หลินฟู่อินจึงหรี่ตาลง
นางมิได้กล่าวสิ่งใด เพียงเดินตรงไปยังประตูแล้วผลักมันให้เปิด
“โอ๊ย…”
ประตูเปิดออกอย่างแรงพร้อมจ้าวซื่อที่พุ่งเข้ามา หลินฟู่อินจึงเบี่ยงกายหลบ
และเพราะไม่มีอะไรมารับ จ้าวซื่อจึงพุ่งลงพื้นไปทั้งอย่างนั้น ถั่วตากแห้งที่อยู่ตามพื้นเข้าปากไปเป็คำ...
“โอ๊ย!...” เพราะถั่วปากอ้านั่นแข็งเกินไป ฟันบางซี่ของจ้าวซื่อจึงหัก “ฟันข้า…”
สภาพนั่นสร้างเสียงหัวเราะให้หลินฟู่อิน
หลินต้าหลางที่อยู่ข้างหลังจ้าวซื่อจึงมีสีหน้าขึ้งเคียด
“หลินฟู่อิน เ้าจงใจสินะ!” หลินต้าหลางทนเห็นสภาพน่าสมเพชของจ้าวซื่อไม่ไหวจึงพยายามช่วย และมองหลินฟู่อินอย่างเดือดดาล
“ไม่เลย พี่ต้าหลางคิดผิดแล้ว เพราะข้าได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบเช่นนั้น ข้าจึงรีบมาเปิดประตูรับ ใครจะไปรู้กันว่าท่านป้าจะรีบพุ่งเข้ามาเช่นนี้?” หลินฟู่อินยกมือทาบอก ราวกับกำลังประหลาดใจ “โชคดีที่ข้าหลบทัน มิเช่นนั้นท่านป้าคงได้ชนข้าจนข้าตายอย่างดูไม่ได้ไปแล้ว!”
“นี่เ้า” จ้าวซื่อคำราม ใบหน้าตึงเครียด “หลินฟู่อิน เ้าจงใจทำร้ายข้า…”
หลินฟู่อินเดินออกไปทักทายปู่หลินและอู๋ซื่อ ปู่หลินเพียงส่งเสียง “อืม” เบาๆ ส่วนอู๋ซื่อมองหลินฟู่อินอย่างรังเกียจ แต่เพราะปู่หลินอยู่ข้างๆ นางจึงมิกล้ากล่าวอะไรมาก
หลินฟู่อินเหลือบมองจ้าวซื่อแล้วตอบ “ป้าใหญ่บอกว่าข้าอยากฆ่าท่านหรือ? แต่ข้าจะไปรู้ได้เช่นไรว่าท่านเป็คนเคาะประตู? โทษตัวเองที่เคาะแรงเกินไปเสียเถอะ”
ไม่ทันที่จ้าวซื่อจะได้ปฏิเสธ หลินฟู่อินก็เปลี่ยนเป็ใบหน้ายิ้มแย้มเพื่อหันไปมองปู่หลิน “ท่านปู่ พาท่านย่า ลุง ป้า และพี่ต้าหลางมาบ้านข้าทำไมหรือ?”
จ้าวซื่อพยายามกระแนะกระแหน “มาก็ไม่เห็นอะไรเลยนี่? หรือเ้าไม่พอใจที่ย่าเ้ามาเยี่ยมถึงบ้านกัน?”
หลินฟู่อินตอบรับด้วยรอยยิ้ม “ย่าและปู่ไม่ค่อยมาบ้านข้าบ่อยนักั้แ่ที่แม่ข้าจากไป แหม ข้าละดีใจจริงๆ”
มันช่างย้อนแย้ง ใช่ ปู่หลินเองก็เข้าใจดี สีหน้าเขาจึงยิ่งหมองมัว
อีกทั้งครั้งนี้พวกเขายังมาด้วยเื่ของหลินต้าหลาง ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินคำพูดของหลินฟู่อิน เขาจึงยิ่งมั่นใจ
หากเลือกได้ เขาก็ไม่อยากเป็ศัตรูกับเด็กนี่เลยจริงๆ
แล้วปู่หลินจึงเดินเข้าไปในห้องโถงด้วยสองมือที่ไขว้หลังและใบหน้าที่ดุดัน ก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นั่งผู้าุโ โดยมีหลินฟู่อินมารินชาให้แล้วยืนอยู่ด้านข้างปู่หลิน
ปู่หลินมองถ้วยชาเครื่องเคลือบสีฟ้าขาวใหม่เอี่ยมในมืออยู่ครู่หนึ่ง เด็กนี่นับวันยิ่งผูกพันธ์กับบ้านสองมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะกลายเป็ครอบครัวใหญ่แล้ว ทั้งยังสามารถซื้อหาชุดชาเช่นนี้ได้…
แก้วของอู๋ซื่อเองก็ใหม่เอี่ยม นางมีชีวิตมาหลายปีแล้ว แต่นางไม่เคยเห็นชาชั้นยอดเช่นนี้มาก่อนเลย นางจึงจิบชาอันหอมอบอวลไปอึกหนึ่ง กลิ่นนั้นหอมหวาน รสชาตินุ่มละมุนลิ้น เหนือชั้นกว่าที่ดื่มกันในหมู่บ้านมากนัก
“ฟู่อินร่ำรวยเสียจริง ถึงกับสามารถดื่มชาชั้นเลิศเช่นนี้ได้!” จ้าวซื่อกล่าวออกมาอย่างเริงร่าหลังจิบชาไปอึกหนึ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้