เมื่อได้ยินกูเฟยเยี่ยนพรรณนาถึงส่วนสูง เสื้อผ้าอาภรณ์ ดวงตา ทรงผม และลักษณะดาบของตนเอง ใบหน้าที่หล่อเหลาของจวินจิ่วเฉินที่เดิมทีก็เ็าอยู่แล้ว ในตอนนี้กลับเ็าขึ้นมากกว่าเดิมหลายส่วน
เขายังคงสวมใส่หน้ากากสีเงิน ทว่าเปลี่ยนชุดเป็ชุดจิ้นจวงสีดำแล้ว ร่างสูงตรงตั้งตระหง่านหลบซ่อนด้านหลังพุ่มไม้ แต่ยังหลงเหลือความสง่างามและทรงเกียรติเอาไว้อยู่
เขาระงับอารมณ์และวาจา คอยฟังกูเฟยเยี่ยนที่พูดคุยโขมงโฉงเฉงไม่หยุดพร้อมกับมองดูนาง สายตาเ็าของเขาทอดมองไปตามใบหน้าเล็กของนางขึ้นๆ ลงๆ ค่อยๆ พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนประหนึ่งว่ากำลังพิจารณาเหยื่อของตนเอง
คืนที่ผ่านมาเขาไร้ซึ่งอารมณ์ที่จะจ้องมองนาง ในวันนี้พบนางที่นี่อีกครั้ง ในที่สุดก็ได้เห็นหน้าตาของสตรีที่ทั้งวางยาพิษเขา ทั้งเตะเขาได้อย่างชัดเจนแล้วว่าเป็เช่นไร
นางเรียกได้ว่าเป็หญิงสาวที่ไม่ปะแป้งประทินโฉม มีความดื้อรั้น เพียงแต่ผอมเกินไปราวกับเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
นางไม่เพียงแต่มีความสามารถในการหลบหนีไปจากเงื้อมมือของเขาเท่านั้น ยังกล้านำชีวิตของเฉิงอี้เฟยมาเดิมพัน คุกคามหลินฟูเหรินผู้เฒ่าในการตรวจสอบยา ช่างทำให้ผู้คนคาดไม่ถึงเสียจริง
และสิ่งที่เกินความคาดหมายคือ เฉิงอี้เฟยดื่มยาของนางเข้าไปแล้วกลับไม่เสียชีวิต ตรงกันข้ามกลับสภาพร่างกายกลับดีขึ้น
ผ่านไปไม่นานทหารองครักษ์ผู้หนึ่งที่มีอายุเพียงยี่สิบต้นๆ ก็มาถึง ชายผู้นี้คือหมางจ้ง องครักษ์ที่ช่วยชีวิตจวินจิ่วเฉินไว้ในคืนนั้น หมางจ้งหลบหลีกกูเฟยเยี่ยนและคนอื่นๆ ได้อย่างเฉียบแหลม เขาหยุดอยู่ด้านข้างของจวินจิ่วเฉินอย่างเงียบๆ
“เตี้ยนเซี่ย กากยาถูกวิเคราะห์ออกมาแล้ว ขาดเซี่ยซูจื่อและมีปาเจี่ยวหุยเซียงเพิ่มเข้ามา ปาเจี่ยวหุยเซียงก็คือตัวยาที่ถูกต้องที่ซูไท่อีใช้ในตอนแรกพะยะค่ะ แพทย์หญิงผู้นี้มีความผิดปกติเป็อย่างยิ่ง!”
น้ำเสียงทุ้มต่ำของจวินจิ่วเฉินเอื้อนเอ่ย “ชื่อเสียงเรียงนาม? ภูมิหลัง? ”
หมางจ้งไม่เพียงแต่แอบขโมยกากยามาอย่างรวดเร็วแล้ว เขายังใช้เวลาไม่นานในการตรวจสอบกูเฟยเยี่ยนให้ชัดเจนอีกด้วย ชายหนุ่มเอ่ยตามความเป็จริง “เตี้ยนเซี่ย ประจวบเหมาะเป็ยิ่ง นางคือคู่หมั้นของท่านแม่ทัพฉี กูเฟยเยี่ยนพ่ะย่ะค่ะ”
ั์ตาสงบและมั่นคงของจวินจิ่วเฉินทอแสงด้วยความประหลาดใจ “คู่หมั้นของฉีอวี้? ”
หมางจ้งรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “พวกเขาหมั้นหมายกันั้แ่เยาว์วัย เป็เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสิบห้าปีที่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ทว่าตระกูลกูและตระกูลฉีสองครอบครัวนี้ไม่ได้ติดต่อกันมาระยะเวลาเจ็ดถึงแปดปีแล้วพ่ะย่ะค่ะ เื่นี้มีผู้คนน้อยมากที่จะพูดถึง จากท่าทีของตระกูลฉีดูท่าว่าคงไม่ยอมรับ”
จวินจิ่วเฉินครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะจึงเอ่ยถาม “ผู้ร้ายจะใช่ตระกูลฉีหรือไม่? ”
ในครั้งนี้เขาได้รับรายงานด่วน สาเหตุที่ไม่ได้ขัดขวางอย่างเปิดเผยเป็เพราะไม่แน่ใจว่าผู้ร้ายที่อยู่เื้ัในการลอบสังหารเฉิงอี้เฟยคือผู้ใด เขาไม่้าแหวกหญ้าให้งูตื่น
เสด็จพ่อทรงพระประชวร องค์รัชทายาททรงเยาว์วัยยิ่งนัก เขามีภาระหน้าที่สำคัญอย่างอื่น ไม่ปรารถนาในราชบัลลังก์ สถานการณ์ของตระกูลเฉิงและตระกูลฉีมีฝีมือไล่เลี่ยกัน ทั้งสองเป็หลักประกันความมั่นคงทางการทหารและการเมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งอาณาจักรเทียนเหยียน เขาไม่อนุญาตให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีปัญหาอย่างแน่นอน
ตกลงเป็ผู้ใดที่ใจกล้าขนาดนี้?
จวินจิ่วเฉินครุ่นคิดจากนั้นถามอีกครั้ง “ใบสั่งยาปลอมแผ่นนั้นเล่า? ”
หมางจ้งรีบรายงานตามจริงถึงสถานการณ์ที่พบเจอ จากการเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวในค่ายทหาร ดูเหมือนว่าจวินจิ่วเฉินจะรู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง เขาพยักหน้าเบาๆ “ยอดเยี่ยม”
หมางจ้งก็คิดว่าวิธีการของกูเฟยเยี่ยนนั้นยอดเยี่ยมเป็อย่างยิ่ง ฉลาดเฉลียวทรงภูมิ ทว่าเมื่อเห็นเตี้ยนเซี่ยพยักหน้ายอมรับในความสามารถของนาง เขากลับตกตะลึง เขาคอยปรนนิบัติรับใช้เตี้ยนเซี่ยมาเป็เวลานาน นี่เป็ครั้งแรกที่เห็นพระองค์เอ่ยปากยอมรับในความสามารถของสตรีคนหนึ่ง
ในขณะนี้กูเฟยเยี่ยนก็ได้อธิบายถึงสิ่งที่สามารถอธิบายได้ไปหมดแล้ว พร้อมกับเน้นย้ำกับคนของศาลต้าหลี่ถึงเื่ราวที่นางทำลายแผนการของนักฆ่าลงและกำลังตกอยู่ในอันตราย คนจากศาลต้าหลี่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะส่งคนลอบดูแลนางเป็เวลาสองถึงสามวัน นางจึงวางใจลง
เมื่อเห็นว่านายเหนือหัวของตนมองดูกูเฟยเยี่ยนไม่ละสายตา หมางจ้งลังเลอยู่นานพอสมควรก่อนที่จะเตือนสติ “เตี้ยนเซี่ย ลั่วไท่อีรอคอยท่านมาสักระยะหนึ่งแล้ว พิษในพระวรกายของพระองค์จำเป็ต้องกำจัดออกให้เร็วที่สุด ไม่อาจรั้งรอเวลาได้อีกแล้ว พวกเรากลับไปที่พระราชวังอย่างเร่งด่วนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
จวินจิ่วเฉินรับรู้สภาพร่างกายของตนเป็อย่างดี เขาเอ่ยเสียงต่ำมอบหมายงาน “เ้าจับตาดูศาลต้าหลี่ไว้ให้ดี หากมีความคืบหน้าให้รีบมารายงาน”
ศาลต้าหลี่้าสืบหานักฆ่า ก่อนอื่นต้องสืบหาว่าข่าวการส่งยาหลุดรอดออกไปจากพระราชวังได้อย่างไร และเป็ที่แน่นอนว่าจะต้องตรวจสอบผู้ที่เคยัักับใบสั่งยาทุกคน
จวินจิ่วเฉินจากไปไม่นานกูเฟยเยี่ยนก็นั่งรถม้ากลับมาถึงเมือง รถม้าผ่านตลาดที่มีความเจริญรุ่งเรือง นางสูดดมกลิ่นอาหารของความมีชีวิตชีวาจากดินแดนที่นางเพิ่งจะรู้จัก ในใจรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย แดน์ปิงไห่เป็ดินแดนที่โดดเดี่ยวเดียวดายผู้คนมีไม่มาก ทว่านางกลับเป็คนที่ชอบความคึกคักมีชีวิตชีวา
กูเฟยเยี่ยนลงจากรถบริเวณหน้าทางเข้าพระราชวังแล้วเดินไปที่ห้องยาสำนักหมอหลวง ะโโลดเต้นร้องเพลงไปตลอดทางเดิน เพียงแต่นางพบความผิดปกติอย่างรวดเร็ว นางข้าหลวงและขันทีบริเวณรอบข้างล้วนมองมาที่นาง ทั้งชี้นิ้วนินทา ทั้งกระซิบกระซาบกัน
เกิดเื่อันใดขึ้นกัน?