เซี่ยยวี่หลัวเดินอ้อมรอบตัวบ้านหนึ่งรอบกำหนดตำแหน่งสร้างเรือนหลังคากระเบื้องสองห้อง
สามารถปลูกเรือนถัดจากสวนหลังบ้านได้ถึงเวลาทำหน้าต่างบานใหญ่ไว้ด้านหน้าหนึ่งบาน ด้านหลังอีกหนึ่งบาน โต๊ะหนังสือวางไว้ริมหน้าต่างฝั่งสวนหลังบ้านแสงส่องถึงและระบายอากาศได้ดีแน่
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เซี่ยยวี่หลัวไปห้องของเซียวยวี่เพื่อวาดแผนภาพได้ยินเด็กสองคนกำลังกระซิบกระซาบกันพอดี
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าวกับพวกเขา“บ้านพวกเรากำลังจะปลูกเรือนหลังใหม่จริงๆ ”
เซียวจื่อเซวียนดีใจจนน้ำเสียงสั่นเทิ้ม“พี่สะใภ้ใหญ่ ต่อไป… ต่อไปพี่ใหญ่จะมีห้องหนังสือของตัวเองแล้วงั้นหรือขอรับ? ”
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า“อื้ม พี่ใหญ่ของเ้าต้องอ่านตำรา สภาพแวดล้อมที่ดีจะทำให้ตั้งใจมากขึ้น พวกเราต้องสนับสนุนพี่ใหญ่ของเ้าให้เรียนหนังสือและเข้าสอบเข้าใจหรือไม่? รอให้พี่ใหญ่ของเ้ากลับมา เวลาเขาอ่านตำราห้ามไปรบกวนเขาเป็อันขาดเข้าใจหรือไม่? ”
ในภายภาคหน้าพี่ใหญ่ของพวกเ้าจะเป็ถึงท่านราชบัณฑิตน้อยอยู่ใต้คนผู้เดียวและอยู่เหนือผู้คนนับหมื่น เพียงรอคอยให้ถึงวันที่ขึ้นเป็ใหญ่
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งต่างกล่าวพร้อมกัน“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านโปรดวางใจ พวกเราจะไม่รบกวนพี่ใหญ่แน่นอน! ”
พี่สะใภ้ใหญ่ยังไม่รบกวนพี่ใหญ่อ่านตำราพวกเขาจะไปรบกวนพี่ใหญ่ได้อย่างไร!
เซี่ยยวี่หลัววาดแบบร่างออกมา
นางจะทำเป็ห้องชุด ระหว่างสองห้องมีประตูบานหนึ่งกั้นให้แยกจากกันสามารถเดินเข้าออกได้
ปกติเซียวยวี่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการอ่านตำราเช่นนั้นห้องหนังสือต้องทำให้ใหญ่เล็กน้อย และกว้างขวางเล็กน้อย แสงแดดต้องดี ห้องด้านนอกเป็ห้องนอนเช่นนี้ต่อให้มีคนเข้าไป ก็จะไม่รบกวนขณะเซียวยวี่อ่านตำรา
ถ้าจะให้ดีห้องหนังสือควรมีหน้าต่างใหญ่หนึ่งบานหันไปทางสวนหลังบ้าน ต่อไปหากอ่านตำราจนเหนื่อยแล้ว เพียงหันมองออกทางหน้าต่าง ในฤดูใบไม้ผลิก็จะเห็นหมู่มวลดอกไม้เบ่งบานในฤดูร้อนก็จะได้สดับฟังเสียงนกร้องจักจั่นขับขาน ในฤดูใบไม้ผลิก็จะเห็นจันทราและธารดาราในฤดูหนาวก็สามารถต้มหิมะชงชา
แค่ลองนึกภาพดู ก็มีพลังในการอ่านตำราเพิ่มขึ้นมากทีเดียว
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกชอบยิ่งนักวาดแบบที่นางอยากได้ออกมาบนกระดาษ
่บ่าย เซียวจิ้งยี่ก็พาคนมาแล้ว
คนผู้นั้นก็เป็คนในหมู่บ้านสกุลเซียวอายุสี่สิบกว่า เป็ช่างปลูกเรือนโดยเฉพาะ ชื่อว่าเซียวหย่ง รูปร่างผอมบาง แต่ดูเป็คนมีความรับผิดชอบและสัตย์ซื่อ
ปกติเซียวหย่งจะทำการเกษตรหากคนในหมู่บ้านหรือหมู่บ้านอื่นจะปลูกเรือน เขาถึงจะไปทำเป็การชั่วคราว อย่างไรเสียเวลานี้งานในไร่นาก็เสร็จแล้วพักอยู่ที่บ้าน ได้ยินว่าบ้านเซียวยวี่จะปลูกเรือนใหม่ ย่อมต้องมา
เซียวจิ้งยี่และเซียวหย่งเดินดูรอบตัวบ้านเซี่ยยวี่หลัวก่อนเมื่อเห็นว่านางจัดการสวนหลังบ้านราวกับเป็สวนดอกไม้ก็มิปาน ทั้งสองคนต่างก็ใเป็อย่างมาก
พื้นที่รกร้างด้านหลังถูกหักร้างถางพงขุดพรวนดินเป็ร่องอย่างเป็ระเบียบ ในแปลงปลูกพืชผักผลไม้นานาชนิด ทั้งยังมีบ่อน้ำขนาดเล็กในนั้นเลี้ยงปลาไว้ไม่น้อย แหวกว่ายไปมา เลี้ยงไว้อย่างดี
ปกติเห็นภรรยาเซียวยวี่เป็คนเงียบๆคิดไม่ถึงว่าจะจัดระเบียบทั้งในบ้านนอกบ้านได้อย่างเป็ระเบียบขนาดนี้!
เซียวจิ้งยี่ตามมาด้วยย่อมเห็นแล้วเช่นกัน
เมื่อเห็นว่านางจัดการสวนหลังบ้านได้ดีถึงเพียงนี้มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็คนรู้จักใช้ชีวิตให้ดี เท่าที่ดูในตอนนี้ ภรรยาเซียวยวี่ไม่เลวเลยจริงๆ!
ต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง
จะปลูกเรือนต้องเริ่มจากขุดฐานก่อนและต้องเลือกเวลาที่ดี ฟ้าโปร่งติดต่อกันหลายวัน บนพื้นแห้งสนิท นอกจากนั้น พรุ่งนี้ก็เป็วันดีจึงตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะเริ่มงาน
เซียวหย่งทำงานเช่นนี้เป็ประจำ ดูแบบร่างของเซี่ยยวี่หลัวแล้วใช้ปูนขาววาดตามฐานบนพื้นรอบหนึ่ง ก็สามารถคำนวณได้แล้วว่าต้องใช้อิฐประมาณกี่ก้อน
เซียวหย่งต้องไปซื้ออิฐเงินที่จะใช้ซื้ออิฐย่อมไม่สามารถให้เซียวหย่งออกให้ก่อน ในเมื่อเซียวจิ้งยี่เลือกให้เซียวหย่งมาทำงานย่อมต้องเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุด เซี่ยยวี่หลัวรีบถามราคา แล้วจึงเข้าไปในห้องนำเงินสองตำลึงออกมาให้เซียวหย่ง
“ท่านอาเซียวหย่งท่านนำเงินนี่ไปซื้ออิฐก่อนเ้าค่ะ ไม่รู้ว่าพอหรือไม่ หากไม่พอ ท่านออกให้เท่าไร กลับมาแล้วข้าจะคืนให้ท่านทันทีเ้าค่ะ!” เซี่ยยวี่หลัวกล่าว
เซียวหย่งหันมองเซียวจิ้งยี่ตอนมาก็ได้ยินหัวหน้าหมู่บ้านบอกแล้ว ว่าบ้านเซียวยวี่จะปลูกเรือนหลังใหม่ ทว่า เื่เงินอาจต้องรอก่อนเขาจึงมีการเตรียมใจมาแล้ว เดิมทีคิดจะออกเงินให้ก่อน!
เมื่อเห็นประกายสงสัยในแววตาหัวหน้าหมู่บ้านเซี่ยยวี่หลัวจึงอธิบาย “เงินนี่เซียวยวี่เหลือไว้ก่อนออกเดินทาง พวกเราใช้จ่ายอย่างประหยัดไม่ได้ใช้เท่าไร แต่ก็เหลืออยู่ไม่มากเช่นกัน”
เป็เช่นนี้เอง เซียวจิ้งยี่เองก็วางใจหันไปกล่าวกับเซียวหย่งที่อยู่ข้างๆ “เ้ารับไว้เถอะ! ” เซียวหย่งจึงรับไว้
เซียวหย่งรับเงินแล้ว จึงรีบขับเกวียนเทียมวัวของตัวเองไปซื้ออิฐ
เซียวจิ้งยี่กล่าวกับเซี่ยยวี่หลัว“ปกติไม่ว่าบ้านไหนจะปลูกเรือนใหม่ อาหารมื้อแรกต้องกินที่บ้านเ้าของ ที่เ้าจะทำไหวหรือไม่? ”
การปลูกเรือนเป็เื่น่ายินดีหากทำอาหารมื้อแรกได้ดี เช่นนั้นก็หมายความว่าเ้าของบ้านใจกว้างต่อช่างก่อสร้าง เมื่อพวกเขาได้กินดีก็ย่อมสร้างบ้านได้ดียิ่งขึ้น
เซี่ยยวี่หลัวกล่าว “ไหวเ้าค่ะหัวหน้าหมู่บ้าน ท่านเรียกพวกเขามาได้เลย! ”
เมื่อเซียวจิ้งยี่เห็นเซี่ยยวี่หลัวตอบรับอย่างรวดเร็วจึงวางใจ “เช่นนั้นก็ได้ พรุ่งนี้ข้าจะให้ภรรยาข้ามาช่วยเ้าด้วย! ”
เซี่ยยวี่หลัวรีบกล่าวขอบคุณ“หัวหน้าหมู่บ้าน พรุ่งนี้ท่านต้องมาให้ได้นะเ้าคะ หากท่านไม่มา มีคนมากมายขนาดนั้นข้าไม่รู้จริงๆ ว่าจะเริ่มอย่างไรเ้าค่ะ! ”
นางกำลังเชิญให้เขามาช่วยรักษาหน้าเซียวจิ้งยี่ย่อมต้องมา "วางใจได้ พรุ่งนี้ข้าจะมาพร้อมพวกเขา! "
ถือว่ามาคุมงานด้วย!
เพราะพรุ่งนี้ต้องเลี้ยงอาหารเนื้อหมูนั้นย่อมต้องมี นอกจากนั้น ต้องใช้ั้แ่พรุ่งนี้เวลาเช้าตรู่ เซี่ยยวี่หลัวไปในตัวเมืองไม่ได้จึงได้แต่ให้คนอื่นช่วย คนที่มักจะไปซื้อของในตัวเมืองเป็ประจำ ก็มีแต่ท่านลุงสี่
เขามีเกวียนเทียมวัว ตื่นเช้าหน่อยแล้วกลับมาน่าจะยังทัน
เซี่ยยวี่หลัวพาเซียวจื่อเซวียนไปที่บ้านท่านลุงสี่
ท่านลุงสี่อยู่บ้านพอดีพอได้ยินว่าพรุ่งนี้เซี่ยยวี่หลัวจะซื้อเนื้อหมู ทั้งยัง้าแต่เช้า ท่านลุงสี่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงตอบตกลง"ได้ พรุ่งนี้ข้าจะออกบ้านั้แ่ย่ำรุ่ง ซื้อเนื้อหมูเสร็จก็กลับมา ไม่ทำให้เ้าเสียงานแน่!"
เซี่ยยวี่หลัวรีบนำเงินออกมา"ขอบคุณท่านลุงสี่เ้าค่ะ ข้า้าซื้อเนื้อหมูเจ็ดจิน จะติดมันหรือไม่ก็ได้นี่คือเงินเ้าค่ะ! "
ท่านลุงสี่กล่าว"ข้าซื้อเนื้อหมูกลับมาแล้วเ้าค่อยให้เงินก็ได้"
เซี่ยยวี่หลัวยืนกรานจะให้เงิน"จะทำเช่นนั้นได้อย่างไรเ้าคะ ข้าขอให้ท่านช่วยข้า จะให้ท่านออกเงินให้ก่อนได้อย่างไรท่านรับเงินไว้เถอะเ้าค่ะ หากเงินไม่พอ ท่านก็ช่วยออกให้ก่อน กลับมาแล้วข้าจะคืนให้ท่าน"
เซี่ยยวี่หลัวส่งเงินให้หนึ่งร้อยกว่าอีแปะเพียงพอสำหรับการซื้อเนื้อหมูเจ็ดจินแล้ว!
ท่านลุงสี่เข้าใจเื่นี้ดีจึงรับเงินไว้พร้อมบอกว่าได้
เซียวจื่อเซวียนยืนอยู่ข้างกายเซี่ยยวี่หลัวตลอดเห็นพี่สะใภ้ใหญ่ปฏิบัติตัวต่อผู้อื่นและรับมอบสิ่งของอย่างมีมารยาท รู้จักวางตัวอย่างเหมาะสมเอื้อนเอ่ยวาจาอย่างงามสง่าและรู้กาลเทศะ ไม่มีความหยิ่งยโสและไร้มารยาทเหมือนแต่ก่อนแม้แต่น้อยพี่สะใภ้ใหญ่ที่เป็เช่นนี้ ทำให้รู้สึกอ่อนโยนประหนึ่งสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ชื่นชอบเสียยิ่งกว่ากระไร
เขามองพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยความเคารพเลื่อมใสแววตาเป็ประกายประหนึ่งมีดวงดาวทอแสงอย่างไรอย่างนั้น
เซียวิจูอยู่ภายในบ้านได้ยินเสียงของเซียวจื่อเซวียน ดีใจจนแทบพุ่งพรวดออกมา แต่พอมองอีกที ข้างกายเซียวจื่อเซวียนมีเซี่ยยวี่หลัวอยู่ด้วยนอกจากนั้น เขายังอยู่ใกล้สตรีที่ชั่วร้ายนั่นยิ่งนัก แค่ดูก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั้นดีเสียยิ่งกว่าอะไร
เซียวิจูขมวดคิ้วมุ่นอยู่ในห้องไม่ได้ออกมา
เมื่อเซี่ยยวี่หลัวกล่าวจบกำลังจะพาเซียวจื่อเซวียนไป เซียวิจูเห็นดังนั้น ก็รีบเดินออกมา เอ่ยปากเรียกด้วยท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจ"อาเซวียน..."
เซียวจื่อเซวียนหยุดฝีเท้าหันกลับไปเอ่ยเรียกพี่ิจูด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ
เซี่ยยวี่หลัวเห็นเซียวิจูเพียงเม้มริมฝีปากยิ้มเล็กน้อย ถือเป็การทักทาย
เซียวิจูกลับไม่มองเซี่ยยวี่หลัวแม้แต่น้อยยิ่งไม่ต้องพูดถึงการทักทาย เ็าจนราวกับว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็อากาศธาตุ!
ไม่ชอบตนเองจริงด้วย!
เซี่ยยวี่หลัวได้แต่ยิ้มเย้ยตัวเองตัวเองก็ไม่ใช่ภรรยาที่แท้จริงของท่านราชบัณฑิตน้อย เซียวิจูคิดแค้น ถือว่าแค้นผิดคนแล้ว
เมื่อนางแย้มรอยยิ้ม ดวงหน้างดงามราวกับดวงดาราที่ฉายประกายแสงระยิบระยับสว่างจนเซียวิจูเคืองตา
คนหนึ่งมีมารยาท อีกคนกลับไม่แยแสการวางตัวของสตรีทั้งสอง แสดงให้เห็นถึงความต่างชั้น
เซียวจื่อเซวียนไม่ชอบคนอื่นที่ปฏิบัติต่อพี่สะใภ้ใหญ่ที่เขาสนิทสนมเช่นนี้เป็ที่สุดจับมือเซี่ยยวี่หลัวก็คิดจะจากไป เซียวิจูกลับเรียกเขาไว้ "อาเซวียน อีกประเดี๋ยวเ้าค่อยไปได้หรือไม่? ข้ามีธุระกับเ้า! "
เซียวจื่อเซวียนเงยหน้ามองเซี่ยยวี่หลัวขอความเห็นจากเซี่ยยวี่หลัว "พี่สะใภ้ใหญ่..."
เมื่อเซียวิจูเห็นว่าเดี๋ยวนี้เซียวจื่อเซวียนขอความคิดเห็นจากเซี่ยยวี่หลัวในทุกเื่และทุกโอกาส ก็โมโหแทบตายยืนกอดอก พร้อมกล่าวด้วยเจตนาไม่ดี "นี่ ข้าหาอาเซวียนเพราะมีธุระ เ้าคงไม่ใช่ว่าเวลาแค่นี้ยังให้ไม่ได้หรอกนะ? "
เซี่ยยวี่หลัวขมวดคิ้วเล็กน้อยนางไม่ได้คิดจะไม่ตอบตกลงเสียหน่อย!
นางไม่อยากเสวนากับเซียวิจูย่อตัวลงตบบ่าเซียวจื่อเซวียนเบาๆ "เ้าไปเถอะ พี่สะใภ้ใหญ่กลับบ้านก่อน! "
กล่าวจบ นางไม่มองเซียวิจูด้วยซ้ำหันขวับแล้วเดินจากไป
เซียวจื่อเซวียนไม่ขยับเขยื้อนมองส่งแผ่นหลังของพี่สะใภ้ใหญ่ที่เดินลับสายตาไปอย่างรวดเร็ว ภายในใจเขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
เซียวิจูเห็นเซี่ยยวี่หลัวยอมไปแต่โดยดีก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก เดินขึ้นหน้าโอบไหล่เซียวจื่อเซวียนอย่างสนิทสนม "อาเซวียนเ้าเข้ามาสิ พี่ิจูมีเื่จะคุยกับเ้า! "
เมื่อเซียวจื่อเซวียนเห็นมือคู่นั้นวางบนไหล่ตัวเองอย่างสนิทสนมไม่รู้เพราะเหตุใด เขาถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้า หลบมือของเซียวิจูทิ้งระยะห่างจากตัวเซียวิจู
เซียวิจูรู้สึกปวดใจนัก"อาเซวียน..."
เหตุใดเด็กคนนี้ถึงทำตัวเหินห่างกับนางถึงเพียงนี้?
เซียวจื่อเซวียนกล่าวอย่างเรียบสงบ"พี่ิจูจะพูดเื่อะไร? " รีบพูดเถอะ พูดจบเขาก็ต้องไปแล้วเขายังต้องไล่ตามพี่สะใภ้ใหญ่อีก!
เห็นพี่สะใภ้ใหญ่กลับบ้านเพียงลำพังเขารู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก
พี่ิจูไม่ให้เกียรติพี่สะใภ้ใหญ่ของเขาถึงเพียงนี้!
เซียวิจูกล่าวด้วยท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจ“ไม่มีธุระอะไรก็คุยกับเ้าไม่ได้เชียวหรือ? ”
เซียวจื่อเซวียนก้มหน้าไม่ได้กล่าวอะไร
เซียวิจูไม่กล้าไปแตะตัวเขาอีกเพียงกล่าว “เ้าเข้ามากับข้าสิ! ”
ก่อนเซียวจื่อเซวียนจะเข้าไปหันไปมองทิศที่พี่สะใภ้ใหญ่จากไปจนไม่เห็นตัวนานแล้ว เขาอยากกลับบ้าน อยู่กับพี่สะใภ้ใหญ่เขามีความสุขที่สุด!
เซียวจื่อเซวียนรีบเดินเข้าไปในห้องก็เห็นเซียวิจูหยิบไม้บรรทัดอันหนึ่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อเห็นเขาเข้ามา ก็รีบนำไม้บรรทัดไปวัดตัวเขา
เซียวจื่อเซวียนรีบถอยหลัง“พี่ิจู ท่านจะทำอะไร? ”
เซียวิจูกล่าวด้วยความปวดใจ“เ้าดูเสื้อผ้าที่เ้าสวมใส่สิ พี่ใหญ่ของเ้าไม่อยู่บ้าน ไม่มีใครตัดเสื้อใหม่ให้เ้าคนอื่นแต่งตัวเสียดูดี แล้วดูเสื้อผ้าที่เ้าสวมใส่ ยังใส่ได้อีกหรือ? ข้าซื้อผ้ามาผืนหนึ่ง จะตัดเสื้อใหม่ให้เ้า ไม่รู้ว่าเ้าชอบสีอะไร ข้าจึงเลือกสีเทามาเ้าดูสิว่าชอบหรือไม่? ”
นางสะบัดผ้าผืนใหม่ที่ตัวเองซื้อมา“ข้าคิดจะตัดให้พี่ใหญ่ของเ้าหนึ่งตัว รอเขากลับมาแล้ว ก็จะมีเสื้อใหม่ใส่ มารดาของเ้าไม่อยู่แล้วเื่ที่สตรีพึงกระทำก็ไม่มีคนทำให้พวกเ้า พี่ใหญ่ของเ้าเป็คนเรียนหนังสือ หากแต่งตัวไม่ดีเดินออกไปจะโดนคนนินทาเอาได้! ”
หากบอกว่าแต่ก่อนเซียวจื่อเซวียนยังไม่ค่อยเข้าใจคิดว่าเซียวิจูดีต่อพวกเขาในฐานะพี่สาวคนหนึ่งอย่างแท้จริง ภายในใจเขาย่อมมีแต่ความรู้สึกตื้นตันและซาบซึ้งเซียวต่อิจูอย่างเต็มเปี่ยม
แต่ตอนนี้ต่างกันแล้ว
ผ้าเช็ดหน้ายวนยางเล่นน้ำครั้งก่อน...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้