ทันทีที่ทุกอย่างถูกจัดเตรียมพร้อมแล้วถังเหล่ยจึงหลับตารวบรวมสมาธิ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ลืมตาขึ้น
ฟู่ว!
ในเวลานี้เปลวเพลิงสีทองได้ปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้วของถังเหล่ย หลังจากนั้นเขาก็ใช้เปลวเพลิงสีทองวาดเส้นแสงสีทองในอากาศ ก่อนจะควบคุมให้มันลอยเข้าไปในหม้อปรุงยา จากนั้นฝ่ามือของถังเหล่ยก็จับไปที่หม้อปรุงยา และใส่พลังปราณเข้าไปในนั้นทันที
ทันใดนั้นศิลาเพลิงิญญาสี่เม็ดก็สว่างขึ้นมา เปลวเพลิงสีทองในหม้อปรุงยาเริ่มลุกไหม้ทันที
หญ้าคืนิญญา รากิญญาปฐี ดอกิญญาเพลิงพันปี…
วัตถุดิบชิ้นแล้วชิ้นเล่าถูกถังเหล่ยโยนลงไปในหม้อปรุงยา เขาใช้พลังปราณคลุมวัตถุดิบทุกชิ้นเอาไว้ การหลอมกลั่นทำให้วัตถุดิบผสมเป็เนื้อเดียวกันอย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้เหงื่อกำลังไหลท่วมหน้าผากของถังเหล่ย ถึงแม้พลังปราณในร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกตนระดับเดียวกันหลายเท่า แต่เขาก็ยังเป็เพียงผู้ชำนาญยุทธ์คนหนึ่งเท่านั้น การปรุงยาระดับสี่จึงทำให้เสียพลังปราณไปมหาศาล
ถังเหล่ยหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาโยนเข้าปากราวกับเม็ดถั่ว เขา้าให้พลังปราณในร่างกายของเขาเต็มเปี่ยมอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นความตั้งใจั้แ่แรกเริ่มจะสูญเปล่า
ในขณะที่ถังเหล่ยกำลังปรุงยาเหงื่อไหลโทรมกายอยู่ภายในห้อง ตี้เชียนเสวี่ยก็กำลังนั่งเฝ้าประตูอยู่ตรงบันไดด้านนอกด้วยความเบื่อหน่าย
เดิมทีนางคิดจะแอบดูถังเหล่ยปรุงยา แต่ก็กลัวจะรบกวนอีกฝ่าย ในเวลานี้นางจึงทำได้เพียงนั่งเฝ้าประตูอยู่ที่บันไดเงียบๆ ทันใดนั้นก็มีหญิงรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน แม้แต่ตี้เชียนเสวี่ยก็รู้สึกแปลกใจ
ด้านหนึ่งถังเหล่ยกำลังปรุงยาอยู่ภายในห้อง และที่สำคัญถังเหล่ยไม่้าให้คนในจวนแห่งนี้รู้
“หยุดนะ! ใครให้เ้าเข้ามา ข้าบอกหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือว่าเรือนของข้าใครก็ห้ามเข้ามา!” ตี้เชียนเสวี่ยลุกขึ้น เดินไปตำหนิหญิงรับใช้คนดังกล่าวทันที
“คุณหนูใหญ่โปรดอภัย ท่านอ๋องมีเื่ด่วน้าพบคุณหนู ตอนนี้คนมากมายกำลังตามหาคุณหนูอยู่ ข้าก็ถูกส่งให้มาตรวจสอบที่เรือนหลังนี้” หญิงรับใช้รีบคุกเข่ากล่าวออกมาด้วยความร้อนรน
“ท่านพ่อตามหาข้าอย่างนั้นหรือ เกิดเื่อะไรขึ้น?” ตี้เชียนเสวี่ยพึมพำด้วยความสงสัย
ตี้เชียนเสวี่ยรู้สึกงุนงง ใน่เวลานี้บิดาของนางควรจะยุ่งอยู่กับเื่ของตี้ชิงไม่ใช่หรือ เหตุใดจึง้าที่จะพบนาง?
“ข้าน้อยก็ไม่ทราบ ที่เรือนใหญ่มีแขกผู้มีเกียรติท่านหนึ่งมาเยือน ท่านอ๋องจึงสั่งให้พวกเรามาตามคุณหนู”
หญิงรับใช้คนนี้เพียงแค่ถูกสั่งให้มาที่เรือนของตี้เชียนเสวี่ย เพื่อดูว่านางอยู่ที่นี่หรือไม่ หญิงรับใช้ที่อยู่เบื้องหน้าไม่รู้เลยว่าที่เรือนใหญ่เกิดเื่อะไรขึ้น
ตี้เชียนเสวี่ยรู้สึกงุนงงเป็อย่างมาก บิดาเรียกตัวนางด่วน นางไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่ถังเหล่ยยังคงปรุงยาอยู่ในห้องของนาง หากบิดาของนางรู้เข้านางจะต้องได้รับโทษอย่างหนักแน่นอน
“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ เ้าเฝ้าเรือนให้ข้า ห้ามให้ผู้ใดเข้ามาเด็ดขาด หากเ้าปล่อยให้มีผู้บุกรุกเข้ามา ข้าจะเอาชีวิตเ้า!” ตี้เชียนเสวี่ยกล่าวอย่างโเี้
จากนั้นก็มุ่งหน้าไปเรือนใหญ่ของตี้เหยียนทันที ทิ้งหญิงรับใช้ให้เฝ้าประตูเอาไว้
ทันทีที่ตี้เชียนเสวี่ยก้าวเข้าไปในเรือนใหญ่ นางก็เห็นบิดากำลังพูดคุยกับคนแปลกหน้าสามคน
“ตี้เชียนเสวี่ยรีบมาเร็วเข้า ข้าจะแนะนำให้เ้ารู้จักกับองค์ชายเก้าของจักรวรรดิต้าเซี่ย นี่คือองค์ชายเซี่ยหมาง” ทันทีที่ตี้เหยียนเห็นตี้เชียนเสวี่ยเข้ามาก็รีบเรียกนางมาข้างกายอย่างรวดเร็วและกล่าวแนะนำอย่างกระตือรือร้น
“เซี่ยหมางคารวะคุณหนู ข้าได้ยินมาว่าจวนตี้เหยียนมีหญิงงามดุจนางฟ้า บัดนี้ข้าได้เห็นกับตาของตัวเองแล้วว่าคำร่ำลือที่ข้าได้ยินคือความจริง”
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างตี้เหยียนอายุประมาณยี่สิบกว่าปี เขาสวมชุดคลุมยาวสีฟ้า ที่เอวมีหยกชิ้นหนึ่ง ดูสง่างามไม่ธรรมดา
ตี้เชียนเสวี่ยมองอีกฝ่ายและพยักหน้าเบาๆ ใบหน้าของนางแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่สบอารมณ์อย่างมาก
“ทำให้องค์ชายเซี่ยต้องขบขันแล้ว ล้วนเป็เพราะข้าสั่งสอนไม่ดีเอง” ตี้เหยียนให้ตี้เชียนเสวี่ยนั่งอยู่ด้านข้างและถลึงตาใส่นาง จากนั้นกล่าวกับเซี่ยหมางด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็ไร คุณหนูตี้คงจะกังวลเื่ของคุณชายตี้อยู่ ข้าออกมาเที่ยวเล่นและได้ยินข่าวของคุณชายตี้ จึงเดินทางมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือ”
ในขณะที่เซี่ยหมางกล่าวใบหน้าก็เผยรอยยิ้มถ่อมตน เหมือนไม่ได้ใส่ใจในความไร้มารยาทของตี้เชียนเสวี่ย อย่างไรก็ตามการที่เขาเดินทางมาที่นี่มีจุดประสงค์คือช่วยตี้ชิงอยู่แล้ว
“รบกวนองค์ชายเซี่ยจริงๆ หากองค์ชายเซี่ยสามารถช่วยข้าผ่านความยากลำบากครั้งนี้ไปได้ ข้าตี้เหยียนจะตอบแทนจนกว่าองค์ชายเซี่ยจะพอใจ!” ตี้เหยียนต้อนรับอีกฝ่ายเข้าจวนก็เพราะเื่นี้
“ฮ่าๆ ท่านอ๋องเกรงใจเกินไปแล้ว โชคดีที่การออกมาท่องเที่ยวครั้งนี้ของข้าได้พานักปรุงยาของเชื้อพระวงศ์มาด้วย ท่านเจิ้งต้องสามารถช่วยตี้ชิงผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้แน่” ด้านหลังของเซี่ยหมางมีบุรุษสองคนยืนอยู่
คนหนึ่งยืนนิ่ง สายตาเฉียบคมสวมชุดเกราะสีดำ ที่เอวมีดาบเล่มหนึ่งคาดเอาไว้ คนคนนี้ก็คือขุนพลประจำตัวของเซี่ยหมาง ‘อี้เฟิง’
ด้านข้างอี้เฟิงมีชายเครายาวสวมชุดคลุมสีน้ำเงินเข้ม สายตาหยิ่งทะนง ผู้นี้ก็คือนักปรุงยาของเชื้อพระวงศ์ที่เซี่ยหมางกล่าว นักปรุงยาเจิ้ง
“เช่นนั้นก็รบกวนด้วย หากตี้ชิงผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้จริงๆ ในภายภาคหน้าทุกท่านจะเป็แขกผู้มีเกียรติของข้าอย่างแน่นอน!” ตี้เหยียนคำนับคนเ่าั้ ตรงกันข้ามอี้เฟิงกับนักปรุงยาเจิ้งยังคงยืนนิ่ง
ในสายตาของพวกเขาแฝงด้วยความหยิ่งทะนง ราวกับว่าตี้เหยียนผู้นี้เป็เพียงมดปลวกในสายตาของพวกเขาเท่านั้น
“ท่านอ๋องเกรงใจเกินไป ความจริงแล้วที่ข้ามาเยือนครั้งนี้ เพราะมีเื่อยากขอร้อง ท่านแม่ของข้าได้กล่าวเอาไว้ก่อนที่ข้าจะออกเดินทาง ท่านบอกกับข้าว่าที่จวนตี้เหยียนแห่งจักรวรรดิซือฉีมีหญิงงามนางหนึ่ง หากสามารถตบแต่งกับนางได้จะถือว่าเป็วาสนาของข้าไปตลอดชีวิต...”
“ฝันไปเถอะ!”
เซี่ยหมางยังไม่ทันได้กล่าวจบ ตี้เชียนเสวี่ยที่นิ่งเงียบมาตลอดก็ลุกขึ้นและชี้หน้าเซี่ยหมางพร้อมกับะโด้วยความโกรธ
จุดประสงค์ในการมาเยือนของอีกฝ่ายในครั้งนี้ก็คือตี้เชียนเสวี่ย พวกเขาหมายจะเอาชีวิตของตี้ชิงมาบีบให้นางแต่งงานด้วย เรียกได้ว่าต่ำช้ายิ่งนัก!
“เลิกไร้สาระได้แล้ว ที่นี่เ้าไม่มีสิทธิ์กล่าวอะไรทั้งนั้น!” ตี้เหยียนก่นด่าออกมาทันทีเมื่อเห็นว่าตี้เชียนเสวี่ยกำลังเสียมารยาท
ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็ถึงองค์ชายของจักรวรรดิต้าเซี่ย ต่อให้ไม่ยอมรับการแต่งงาน ก็ห้ามปฏิเสธด้วยวาจาก้าวร้าวเช่นนี้
“จะแต่งก็ไปแต่งเอง ข้าไม่มีทางแต่งอย่างแน่นอน!”
ทันทีที่ตี้เชียนเสวี่ยเห็นบิดามีท่าทีไม่พอใจในการตัดสินใจของนางจึงโมโหขึ้นมาทันที หลังจากกล่าวจบนางก็วิ่งออกจากเรือนใหญ่ทันที
ปัง!
ตี้เหยียนทุบโต๊ะด้านข้างอย่างแรง ในขณะนี้เขาแทบจะไม่สามารถข่มความโกรธภายในใจเอาไว้ได้
“ท่านอ๋องอย่าโมโหไปเลย คุณหนูตี้โมโหเป็เื่ที่เข้าใจได้ เป็เพราะข้าเร่งรีบเกินไป ขอเพียงได้ทำความรู้จักกันสักพัก ข้าเชื่อว่าคุณหนูตี้ต้องเปลี่ยนใจอย่างแน่นอน” เซี่ยหมางยังคงยิ้ม เหมือนไม่ได้สนใจเื่เมื่อครู่แม้แต่น้อย
“ขอบคุณองค์ชายเซี่ยที่ให้อภัย เป็เพราะข้าตามใจนางมากเกินไปจึงทำให้นางเสียมารยาทเช่นนี้!”
ตี้เหยียนเผยสีหน้าละอายใจออกมา แต่ความจริงแล้วเมื่อตี้เหยียนได้ยินคำกล่าวของเซี่ยหมางในใจก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เช่นกัน เขาตระหนักได้ทันทีว่าอีกฝ่ายจ้องจะฉวยโอกาสตอนที่เขากำลังเดือดร้อน!
แต่ตอนนี้ต่อให้ตี้เหยียนโมโหมากเพียงใดก็ไม่อาจแสดงออกมาได้ เพราะสถานการณ์ของตี้ชิงกำลังตกที่นั่งลำบาก
อีกด้านหนึ่งตี้เชียนเสวี่ยยังไม่รู้ว่าตี้ชิงถูกผู้าุโในตระกูลตี้จับตัวไปแล้ว หากผู้าุโสูงสุด้าที่จะเอาิญญายุทธ์ให้ตี้เทียนเซิ่งจริงๆ ตี้เหยียนก็ไม่อาจขัดขวางได้
จากนั้นเซี่ยหมางก็พูดคุยกับตี้เหยียนเื่การแต่งงานต่อ สถานการณ์ในตอนนี้หากตี้เหยียนเดาไม่ผิดอีกฝ่ายจะไม่ช่วยเหลืออย่างแน่นอน หากเขาไม่ยอมรับเงื่อนไขเื่การแต่งงาน
……