ฝีมือของหลิวเฟินไม่เบาเลย
เซี่ยเสี่ยวหลานแค่อธิบายด้วยคำพูดเธอก็หาฟางมาถักจนเป็รูปเป็ร่างได้
หลิวหย่งเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานมีความกระตือรือร้นจึงไม่ยุ่งธุระของเธอกินข้าวเสร็จก็ออกไปปล่อยน้ำออกนอกท้องนา เนื่องจากในท้องนายังมีน้ำขังอยู่ก่อนจะฟาดข้าวนั้นต้องปล่อยน้ำออกมาให้หมดก่อนตากแดดไว้อีกสองวันถึงเริ่มการเก็บเกี่ยวได้
ปล่อยน้ำออกจากนาแล้วยังมีผลผลิตอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็ปลาหมู [1] ปลาไหล อีกทั้งยังสามารถจับปลาไน [2] ขนาดเท่าฝ่ามือได้อีกด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็อาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมในอนาคตทว่าปัจจุบันกลับได้รับการปฏิบัติแบบไม่ใส่ใจ ปลาไนตัวเล็กมีหนามเยอะเวลาเอาปรุงยุ่งยากเกินไปปลาหมูและปลาไหลล้วนต้องใช้น้ำมันจำนวนมากทำถึงจะอร่อยถูกปากจะใช้น้ำมันราคาแพงกินของแบบนี้นี่นะ?
ต้มส่งๆ ไปรสชาติย่อมไม่อร่อย กลิ่นสาบดินนั้นเป็ปัญหาหลัก
เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่ถอนหายใจเนื้อสัตว์ที่ทั้งโปรตีนสูงและไขมันต่ำแบบนี้ทว่ามิได้รับความชื่นชมจากเหล่านักกินเท่าไรเลย
ตอนแรกเซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่านี่คือช่องทางทำเงินแววตาสาดส่องแสงแห่งความหวัง หลิวหย่งกลับแจกแจงว่าปลาหมูขายแทบไม่ได้ราคาเอาไปตากแห้งแล้วได้แค่ชั่งละไม่กี่เฟิน อย่างไรเสียราคากลางก็คงไม่เกินหนึ่งเหมาไข่ไก่ยังแพงกว่า!
“ของแบบนี้ทั้งสกปรกแถมเหม็น หลานลงแรงกับไข่ไก่ไปเถอะนะ!”
หลิวหย่งว่าพลางจับปลาไนโยนลงถังไม้
“ลุง ปลาไนน่ะอย่าทิ้งนะ เอาไปต้มน้ำซุปปลาไนให้เทาเทาดื่มเสียหน่อยเด็กๆ กินแล้วโตไวแถมป่วยยากด้วย!”
หลิวหย่งท่าทางมึนงง “หลานไปได้ยินมากจากไหนกัน?”
เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่คิด มิใช่ความรู้ทั่วไปหรือ?
ช่างเถอะ ปี 83 มีความรู้ทั่วไปอะไรนั่นเสียที่ไหน เธอยิ้มตาใสพูดปดไป “อ่านเจอจากหนังสือจ้ะ”
อย่าได้ถามว่าอ่านจากหนังสือเล่มไหนเชียว คำถามนี้ตอบไม่ได้จริงๆ
ด้วยความกลัวว่าหลิวหย่งจะถามจุกจิกต่อเซี่ยเสี่ยวหลานจึงพาน้องชายตัวจ้อยหนีไปก่อนเสีย
เหล่าชาวบ้านที่มาช่วยหลิวหย่งลงแรงทำงานพากันสูดลมหายใจเฮือกใหญ่
เซี่ยเสี่ยวหลานช่างสวยหยาดเยิ้มเหลือเกิน เธอนั่งยองๆ อยู่ข้างไร่นาเฉยๆทว่าเพศตรงข้ามดันไม่กล้ามองเธอมากนัก แต่เดิมหลิวหย่งเป็คนมุทะลุหากใครในหมู่บ้านชีจิ่งกล้าละลาบละล้วงหลานสาวของเขาก็ถือว่าเป็แค่พวกปัญญานิ่มกินอิ่มแล้วพายเรือ[3] เพียงเท่านั้น
หลิวหย่งเช็ดเหงื่อบนลำคอของตนออก แล้วถลึงตาใส่คนรอบกายไปทีหนึ่ง
“ฉันบอกไว้เลยนะ ใครมันไม่ดูตาม้าตาเรือคิดมาแหย่หลานสาวฉันฉันรู้เข้าแล้วล่ะก็เอาถึงตายแน่”
เหล่าชาวบ้านออกจะเสียใจ “พี่หลิวหย่ง เสี่ยวหลานก็เหมือนหลานสาวฉันน่าฉันไม่กล้าคิดอะไรหรอก...”
หลิวหย่งโยนถังไม้ไปอีกทาง “แกนี่พูดมากจริง รีบจับปลาสิ ไม่ได้ยินที่เสี่ยวหลานพูดหรือ เด็กๆต้องกินซุปปลาไนให้มาก!”
เซี่ยเสี่ยวหลานพาน้องชายตัวน้อยเดินเที่ยวไปเรื่อยในหมู่บ้านชีจิ่ง
หมู่บ้านชีจิ่งเป็สถานที่ที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ดงต้นอ้อของหมู่บ้านต้าเหอนั้นแผ่ขยายมาถึงที่นี่ดอกอ้อสีขาวของเขตอันชิ่งมีชื่อเสียงมาแต่โบร่ำโบราณ ทรัพยากรต้นอ้อก็หาได้ง่ายมากๆทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีความคิดจับธุรกิจสิ่งจักสานจากต้นอ้อ หนึ่งคือโอกาสยังไม่เหมาะสองคือในเขตอันชิ่งนี้ตลาดผลิตภัณฑ์จักสานอิ่มตัวไปนานแล้ว
แต่ดงต้นอ้อมิได้เป็เพียงแหล่งตั้งต้นวัสดุทำเครื่องจักสานเท่านั้นมันยังเป็ที่อยู่อาศัยของเป็ดป่าและนกกวัก [4] อีกด้วย
สำหรับเซี่ยเสี่ยวหลานแล้วนั่นคือฟ่อนเงินที่กำลังโบกสไวไปมาเื่พิทักษ์ระบบนิเวศน่ะ รอให้เธอแก้ปัญหาปากท้องได้ก่อนค่อยว่ากันเถอะ! หากเทียบกับพวกที่มั่งคั่งจากการปล้นจี้วิธีหาเงินของเธอถือว่าสะอาดมากแล้ว
เทาเทาเดินนำหน้าอย่างคึกคักกระฉับกระเฉง เซี่ยเสี่ยวหลานคือคนที่เขาอยากโอ้อวดไม่มีพี่สาวบ้านไหนจะงดงามไปกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว
ฤดูเก็บเกี่ยวกำลังจะมาถึงแสงแดดร้อนแผดเผามิอาจสกัดกั้นฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านของเหล่าคนหนุ่มในหมู่บ้านชีจิ่งได้
แต่ละคนล้วนเข้ามาทักทายเทาเทา
“เทาเทา พาพี่สาวมาเดินเล่นหรือ?”
“เทาเทา ไปจับปลากับพี่ไหม?”
“เทาเทา...”
ปากเรียกเทาเทา แต่หางตากลับจดจ้องอยู่กับเซี่ยเสี่ยวหลานแค่การทักทายอ้อมค้อมก็ทำให้เหล่าชายหนุ่มหน้าแดงจัดแล้ว ทำเอาเซี่ยเสี่ยวหลานนึกอยากถอนหายใจวัยรุ่นยุค 80 ส่วนใหญ่ก็เรียกได้ว่าใสซื่อบริสุทธิ์มาก
เธอเองไม่คิดอะไรกับเหล่าวัยรุ่นใสซื่อเหล่านี้อยู่แล้ว
ท้องยังไม่อิ่ม จะมีอารมณ์มาชมเชยหนุ่มน้อยได้อย่างไร
เซี่ยเสี่ยวหลานก็เคยมาเยือนที่หมู่บ้านชีจิ่งดังนั้นชื่อเสียงเรียงนามของเธอจึงเป็ที่รู้จักกันดีในหมู่วัยรุ่นแต่เธอมักหยิ่งยโสอยู่เสมอ ไม่ยินดีตอบรับพวกคนที่กระหายจะเอาใจเธอ ส่วนตอนนี้เธอคิดว่าจะรักษาแนวปฏิบัติดั่งเดิมจากเ้าของร่างไว้สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวหลานให้ความสนใจไม่ใช่ชายหนุ่มเหล่านี้แต่เป็เด็กที่เข้ากันกับเทาเทาได้ เด็กอายุ 10 ปีขึ้นไปนั้นโดยพื้นฐานก็ช่วยครอบครัวทำงานได้แล้ว อายุ 13-14 ปียิ่งเป็แรงงานหลักได้กลุ่มเป้าหมายของเซี่ยเสี่ยวหลานคือเด็กต่ำกว่า 10 ปี พวกเขาทั้งซุกซนและทนมือ เกลี้ยกล่อมง่ายอีกต่างหาก
เดินได้สองรอบ เซี่ยเสี่ยวหลานพบกับบุคคลเป้าหมายในที่สุดเด็กน้อยที่โตกว่าเทาเทาเล็กน้อยกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาหา วิ่งไปพลางหัวเราะไปพลาง “เทาเทา แม่ฉันบอกว่าพี่สาวเธอหัวกระแทกจนโง่ไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
เซี่ยเสี่ยวหลานหงุดหงิดเหลือจะทน
เปรียบเทียบกับเหล่าหนุ่มวัยรุ่นที่มึนเมาด้วยเสน่ห์ของเธอแล้วเด็กพวกนี้ไม่เป็มิตรเอาเสียเลย
พอเจอก็ฉีกหน้ากันเลยนะ!
เทาเทาไม่ยอมจำนน “พี่เสี่ยวหลานของฉันไม่ได้โง่! เธอพูดจาเหลวไหล!”
เซี่ยเสี่ยวหลานหัวเราะหึๆล้วงเงินสองเหมาออกมาให้น้องชายผู้ปกป้องเธอ “เอาไปซื้ออะไรที่ร้านกินไป พี่เดินเหนื่อยแล้วเดี๋ยวพี่รอเราอยู่ที่ใต้ต้นไม้นะ”
พวกเด็กตัวแสบอิจฉาขึ้นมาในทันใด
ให้เงินซื้อของกินได้ ใครว่าพี่สาวเทาเทาโง่กัน?
เหล่าเด็กน้อยไร้เดียงสาหรือจะสู้ผีแก่ [5] อย่างเซี่ยเสี่ยวหลานคนนี้ พอเทาเทาซื้อลูกกวาดกลับมา แต่ละคนก็ยืนกลืนน้ำลายกันหมด
เซี่ยเสี่ยวหลานใช้โอกาสนี้กล่าว “พวกเธออยากกินลูกกวาดไหม?”
พยักหน้ากันคอแทบหลุด
“ถ้าอย่างนั้นเอาของมาแลกสิ เทาเทาน่ะเป็น้องชายฉันพวกเธอไม่ใช่เสียหน่อย แถมยังด่าฉันโง่อีก”
เด็กหัวโจกกลืนน้ำลายอย่างเอาเป็เอาตาย “พี่เสี่ยวหลาน เอาอะไรแลกลูกกวาดได้บ้าง?”
เ้าเด็กหันหางเสือตามลม [6] คนนี้เร็วนักเปลี่ยนมาเรียกเธอเหมือนเทาเทาแล้วเสียแล้ว
“รู้จักไข่เป็ดป่าในดงต้นอ้อใช่ไหม ไข่เป็ดป่าสามใบแลกเงินได้ 2 เหมา ได้เงินแล้วก็เอาไปซื้อลูกกวาดกินเสียแต่ต้องจับคู่กันไปหาไข่เป็ดเท่านั้นนะ ห้ามลงไปทางริมแม่น้ำด้วย!”
“จริงหรือ?”
“โกหกเป็ลูกหมานะ”
จริงหรือหลอก ลองดูก็รู้แล้ว
ไข่เป็ดที่จะขายในเมืองไม่ใช่ 3 ใบ 2 เหมาแน่นอนทำธุรกิจแล้วไม่ได้กำไรเซี่ยเสี่ยวหลานจะยุ่งเพื่ออะไรเล่า!
ให้เด็กๆ ช่วยหาไข่เป็ดหรือก็คือใช้ประโยชน์จากแรงงานราคาถูกที่สุดเท่านี้ก็บีบอัดต้นทุนค่าแรงได้มากโข เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าตนช่างฉลาดฉายแววเสียจริงอุตส่าห์เกิดใหม่ในปี 83 แล้วสิ่งที่นึกได้ดันเป็การเอาเปรียบแรงงานเด็ก
เงินสองเหมาสำหรับเด็กนั้นมีแรงจูงใจมหาศาล
เด็กเหล่านี้ล้วนเกิดในยุค 70 ในชนบท เงินแต๊ะเอียที่ให้เด็กๆ ได้ก็แค่ไม่กี่เหมามากหน่อยคือสักหนึ่งหยวน เงินแค่นี้นำไปซื้อลูกกวาดซื้อดอกไม้ไฟได้ และเก็บในกระเป๋าได้นานอยู่เชียว
หนึ่งชั่วโมงกว่าให้หลัง รอจนสาวน้อยวัยเก้าขวบที่พาน้องสาวไปเก็บไข่เป็ดป่ารวมสิบกว่าใบกลับมาให้เธอเซี่ยเสี่ยวหลานตรวจดูแล้วไข่อยู่ในสภาพดี จึงให้เงินตามสัญญาไว้จริงๆและเธอไม่รังแกเด็กน้อยที่ไม่เก่งคณิตศาสตร์ ควรได้เงินเท่าไรก็คิดเท่านั้น
“เธอเก็บไข่มาได้ 16 ใบ ได้หนึ่งหยวนเจ็ดเฟิน”
เศษเงินนี้แลกมาจากร้านค้าเล็กๆ ในหมู่บ้าน
สาวน้อยกำเงินเอาไว้ ซึ้งใจเสียจนไม่รู้จะเอามือไม้ไปวางไว้ตรงไหนเด็กที่เล็กกว่าเอาแต่น้ำลายไหลพลางท่องคำว่า ‘ลูกกวาด’ เด็กหญิงจูงน้องสาวกลับบ้านไป เงินจำนวนเกินหนึ่งหยวนนี้กลับไป หากไม่มีผู้ใหญ่อนุญาตคงไม่กล้าใช้ส่งเดช
เซี่ยเสี่ยวหลานเรียกเด็กหญิงไว้
“ถ้าที่บ้านมีไข่ไก่ ขายให้ฉันได้นะ ฉันอยู่ที่บ้านของเทาเทาแต่ถ้าจะขายไข่ไก่ก็ถามผู้ใหญ่ที่บ้านก่อน”
กองทหารเยาวชนที่เซี่ยเสี่ยวหลานก่อตั้งสามารถกวาดดงต้นอ้อรอบๆจนเรียบได้ในสองชั่วโมง เป็ดป่าร้องก้าบๆ ตีปีกพึ่บพั่บโผล่ออกมาจากดงอ้อบางคนเจอลูกเป็ดที่ฟักแล้วยังถามเซี่ยเสี่ยวหลานว่าจะรับไว้หรือไม่
ตอนนี้มีพื้นที่พอสำหรับเลี้ยงเป็ดแล้วเซี่ยเสี่ยวหลานจึงเตรียมนำกลับไปให้หลิวเฟินเลี้ยงฆ่าเวลา
เธอรับซื้อไข่เป็ดป่ามาทั้งหมด 90 กว่าใบ
ส่วนจะมีใครมาขอให้เธอขายไข่ไก่หรือไม่ ถึงตอนกลางคืนก็ได้รู้แล้ว
เมื่อเซี่ยเสี่ยวหลานกลับถึงบ้านก็พบว่าลุงเธอนั้นจับปลาหมูมาได้ครึ่งถังปลาไหลอีกจำนวนมาก และปลาไนที่จับจากท้องนาอีกจำนวนสิบกว่าชั่งทั้งหมดถูกนำไปเลี้ยงในอ่างน้ำบริเวณตีนกำแพง
“เลี้ยงไว้อีกวันสองวัน รอพวกมันคายสิ่งสกปรกในท้องออกมาค่อยกิน!”
หลี่เฟิ่งเหมยตุ๋นกระดูกกับหัวไชเท้า กลิ่นหอมหวนตลบไปทั่วบ้านตอนกินข้าวไม่มีใครมาเยือน กว่าทุกคนจะได้กินของดีนั้นไม่ง่ายก็อย่าหัวใสแสร้งสับสนรีบมาเยี่ยมเยือนบ้านคนอื่นตอนนี้เลย
หลิวเฟินถักตะกร้าบรรจุไข่อยู่ใต้ชายคาเธอถักสำเร็จไปได้กองใหญ่แล้ว
จะไม่เลิศได้อย่างไร ไข่เป็ดป่ากับไข่ไก่ใส่เข้าไปได้พอดิบพอดีเทาเทาภูมิใจเสียจนอกผายไหล่ผึ่ง “พี่เสี่ยวหลานซื้อไข่เป็ดมาเยอะเลย แถมยังซื้อลูกกวาดให้ผมกินด้วย!”
หลี่เฟิงเหมยที่อยู่ในครัวได้ยินเข้าก็หัวเราะ
เมื่อก่อนเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีความอดทนกับเทาเทาเช่นนี้ลูกคนนี้คือเหตุผลในการใช้ชีวิตของหลี่เฟิ่งเหมยเซี่ยเสี่ยวหลานใจดีกับเทาเทาเช่นนี้ คนเป็แม่อย่างเธอจะไม่ชอบใจได้อย่างไร?
ชั่วขณะนั้นบรรยากาศทั้งครอบครัวผ่อนคลายมาก
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกว่าชีวิตยังมีอนาคตและความหวังให้ไขว่คว้าลาจากหมู่บ้านต้าเหอคือการติดสินใจที่ถูกต้องแล้ว!
เชิงออรถ
[1]ปลาหมู คือ ปลาชนิดหนึ่ง คล้ายปลาดุก
[2]ปลาไน คือ ปลาชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน
[3]吃饱了撑着 กินอิ่มแล้วพายเรือ เปรียบเปรยว่า หาเื่ใส่ตัวยุ่งเื่คนอื่นมากเกินไป หรือทำเื่ที่ไม่เป็ประโยชน์
[4]นกกวัก คือ นกชนิดหนึ่งอยู่ในวงศ์นกอัญชัญ
[5]老鬼 ผีแก่ หมายถึงคนที่มีประสบการณ์เยอะ มีาุโมาก ฉลาด เ้าเล่ห์
[6]见风转舵 หันหางเสือตามลมหมายถึง ปรับตัวตามสถาการณ์เพื่อให้ได้ผลประโยชน์