ณ ตำหนักเมฆาเพลิงของสายเลี่ยนเหยียน
ซ่งหยวนหยวนยืนอยู่กลางโถงรูปภาพวงกลมขนาดใหญ่ ิอวี่กับเิหยูเยียนในเวลานี้ยืนอยู่ตรงหน้าของนาง
เิหยูเยียนขยับออกห่าง ตั้งใจเว้นระยะกับิอวี่อย่างชัดเจน สีหน้าท่าทางของนางเ็ามาก ดูเข้าหายากสุดๆ
สำหรับท่าทีของเิหยูเยียนนั้นิอวี่ไม่ได้ใส่ใจเท่าไร เขาสนใจทักษะการต่อสู้ที่ซ่งหยวนหยวนกำลังจะถ่ายทอดให้มากกว่า
“วันนี้ข้าเรียกพวกเ้ามา รู้ไหมว่าข้าจะให้พวกเ้าเรียนทักษะการต่อสู้อะไร?” ซ่งหยวนหยวนมองไปที่พวกเขาทั้งสองคนและพูดขึ้นมา
เิหยูเยียนส่ายหน้า หลังจากคิดแล้วก็พูดขึ้นมาว่า “ไม่ทราบเ้าค่ะ แต่ว่าทักษะการต่อสู้ที่อาจารย์จะถ่ายทอดให้ จะต้องไม่ใช่ทักษะการต่อสู้ธรรมดาอย่างแน่นอน เื่ของคุณภาพก็ไม่ต้องพูดถึง”
ในสายตาของเิหยูเยียน นางมาเป็ศิษย์ของซ่งหยวนหยวนได้สามเดือน นอกจากเคล็ดลับในการฝึกและความหมายที่แท้จริงของคำว่า “กระชับรัดกุม” ที่ซ่งหยวนหยวนชี้แนะแล้ว อาจารย์ของนางก็ไม่ได้สอนอะไรอย่างอื่นเลย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มันทำให้เิหยูเยียนที่เป็คนที่มีพร์ในการฝึกรู้สึกร้อนใจแล้วก็จนใจด้วย
แต่หลังผ่านมาสามเดือน ในที่สุดซ่งหยวนหยวนก็ยอมที่จะสอนทักษะการต่อสู้ให้แล้ว ด้วยฐานะผู้าุโใหญ่ที่แข็งแกร่งของนาง ทักษะการต่อสู้ที่จะสอนมันต้องดีมากแน่นอน
แต่ิอวี่กลับเห็นต่างจากเิหยูเยียน เขาพูดว่า “แต่ข้าไม่คิดแบบนั้น ที่จริงข้ารู้สึกว่า ไม่ว่าระดับทักษะการต่อสู้จะสูงหรือต่ำ แต่ถ้าสามารถปล่อยอนุภาพที่สูงสุดของมันออกมาได้ถึงจะเรียกว่าสมบูรณ์แบบ ก็เหมือนกับความหมายที่แท้จริงของ ‘กระชับรัดกุม’ ถึงแม้จะเป็พื้นฐานของศาสตร์การต่อสู้ แต่ก็เหนือกว่าของที่ดูโดดเด่นหลายอย่างมาก”
มันเป็สิ่งที่ิอวี่เรียนรู้ได้จากความหมายที่แท้จริงของคำว่า “กระชับรัดกุม” และเป็เหตุผลที่เขาได้เรียนรู้ได้จากซ่งหยวนหยวน
“เ้าดูถูกความสามารถในการถ่ายทอดวิชาของอาจารย์อย่างนั้นหรือ” เิหยูเยียนมองไปที่ิอวี่แบบไม่เป็มิตร นางรู้สึกว่าเขาไม่มีสมองเลย
“หยูเยียน ในเื่นี้เ้าคิดผิดนะ สิ่งที่ิอวี่พูดมานั้นใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล สิ่งที่ข้าจะสอนให้กับพวกเ้านั้นมันเป็ทักษะการต่อสู้พื้นฐานจริงๆ แต่มันไม่ได้หมายความว่าความสามารถของข้านั้นมันจะด้อย” ซ่งหยวนหยวนยิ้มหวาน
“ข้า ... ”
เิหยูเยียนได้ยินดังนั้นก็เบะปาก หูแดงไปหมด จากนั้นก็เบือนหน้าหนีไปก้มหน้ามองพื้น ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีเพราะว่านางอายมาก
ซ่งหยวนหยวนเอามือกอดอกแล้วดันจนหน้าอกมันเด้งขึ้นมา นางเดินวนรอบตัวิอวี่กับเิหยูเยียนพร้อมอธิบายว่า “ทักษะการต่อสู้ที่จะสอนพวกเ้าในครั้งนี้ มันเป็หนึ่งในทักษะการต่อสู้ที่สำนักเทพอัคคีคิดค้นขึ้นเอง มีชื่อว่า ะเิเพลิง”
“ะเิเพลิง?” ิอวี่ขมวดคิ้ว ใน่เวลาสองสามเดือนที่ผ่านมาเหมือนเขาจะได้ยินเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้นี้มาบ้าง แต่ยังไม่มีเวลาไปศึกษา
“ถูกต้อง ะเิเพลิง เดิมเป็ทักษะการต่อสู้เสวียนที่มีระดับปานกลางในกลุ่มทักษะการต่อสู้ระดับต้น และเป็ทักษะการต่อสู้ที่ทุกคนในสำนักเทพอัคคีนั้นรู้จักดี เพราะมันมีระดับไม่ได้สูงมาก ดังนั้น เลยไม่ค่อยมีใครใช้กันเท่าไรนัก”
ซ่งหยวนหยวนพูดว่า “แต่ว่า หลังจากที่หลายปีก่อนข้าได้ทำการศึกษามันอย่างละเอียด ข้าก็ได้ทำการแก้ไขปรับปรุงะเิเพลิง ขอแค่มีการปรับเปลี่ยนการเดินลมปราณตามชีพจรเล็กน้อย ก็จะสามารถรวบรวมลมปราณไว้ในะเิเพลิงได้มากขึ้น และเพื่อไม่ให้กระแสพลังงานไหลออก ก็จะต้องใช้ร่วมกับความหมายที่แท้จริงของคำว่า ‘กระชับรัดกุม’ ด้วย”
พูดจบซ่งหยวนหยวนก็แบมือออก แล้วบนฝ่ามือของนางก็มีเปลวไฟบริสุทธิ์ลุกโชนขึ้นมา กลายเป็ลูกไฟทรงกลมสีแดงเท่าศีรษะของมนุษย์ มันสั่นอย่างต่อเนื่องและมีลมปราณพลังงานความร้อนแผ่ออกมาจากภายใน
มือขวาของซ่งหยวนหยวนสั่นเล็กน้อย เปลวไฟที่มีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้นถูกคุมเอาไว้อยู่หมัด
ถึงแม้ลูกไฟจะมียังมีขนาดเท่าศีรษะมนุษย์ แต่สีของมันนั้นเริ่มแดงเข้มขึ้น!
“นี่เทียบเท่ากับทักษะการต่อสู้เสวีนระดับล่างที่แข็งแกร่ง”
ซ่งหยวนหยวนพูดจบก็พลิกมืออีกครั้ง นางรวบรวมพลังงานเอาไว้ในมือและเพิ่มพลังเข้าไปอีก “และนี่เท่ากับทักษะการต่อสู้เสวียนระดับล่างคุณภาพสูงสุด”
“พรึ่บ!”
มองเห็นพลังงานเปลวไฟในมือของซ่งหยวนหยวนสั่น แล้วพลังงานเปลวไฟสีแดงเข้มก็กลับกลายเป็ลูกไฟสีแดงคล้ำ!
สีของลูกไฟที่ว่านี้เข้มขึ้นเรื่อยๆ ดูผิวเผินเหมือนจะนิ่งเงียบ แม้แต่อุณหภูมิความร้อนก็ลดลงด้วย ...
แต่ยิ่งเป็แบบนั้น ิอวี่กลับรู้สึกว่ามันอันตราย ลมปราณภายนอกของลูกไฟแผ่กระจายออกมาน้อยมาก แต่นั่นก็ยิ่งหมายความว่าพลังงานที่กดทับอยู่ภายในนั้นมันยิ่งเยอะ! ด้วยวิธีแบบนี้ เมื่อซัดลูกไฟออกมา พลังงานในนั้นก็จะะเิออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
“นี่คือะเิเพลิงที่ข้าทำการแก้ไขปรับปรุงจนสมบูรณ์แล้วเมื่อหนึ่งปีก่อน ดังนั้นข้าเลยยังไม่เคยสอนศิษย์คนอื่น อีกอย่างความสามารถของพวกเขาในเวลานี้ก็ไม่ได้จำเป็ต้องใช้ะเิเพลิงนี้แล้วด้วย”
ซ่งหยวนหยวนอธิบายต่อว่า “แต่สำหรับพวกเ้าแล้ว มันพอเหมาะพอดี ข้าเชื่อว่าะเิเพลิงที่ได้รับการปรับปรุงนี้ จะสามารถช่วยเพิ่มขีดความสามารถของพวกเ้าสองคนได้”
ิอวี่รีบพยักหน้า เขาตื่นเต้นมาก
ะเิเพลิงที่ซ่งหยวนหยวนทำการปรับปรุงนั้น มันดูเหมือนจะเป็ทักษะการต่อสู้เสวียนระดับล่างสูงสุด ดังนั้น ทางสำนักเทพอัคคีถึงไม่ได้สนใจมากนัก
แต่สำหรับิอวี่แล้ว มันใช้งานได้อย่างดีเลย ต่อไปกระบวนท่านี้มันอาจจะนำพาความประหลาดใจมาให้กับเขาได้!
เิหยูเยียนเองก็พยักหน้าเบาๆ นางคิดไม่ถึงเลยว่าอาจารย์ของนางจะร้ายกาจมากขนาดนี้ แม้แต่ทักษะการต่อสู้ก็ยังสามารถปรับปรุงได้ดีขนาดนี้
“ต่อไป ข้าจะบอกวิธีการใช้งานมันให้กับพวกเ้า ... ”
พลังงานะเิเพลิงในมือของซ่งหยวนหยวนกระจายออก จากนั้นนางก็เริ่มอธิบายให้ิอวี่กับเิหยูเยียนฟังอย่างละเอียด ั้แ่ช่องทางเดินลมปราณในชีพจรแต่ละจุด จนถึงการเดินลมปราณเปลวไฟออกมา จนกระทั่งรวบรวมพลังงานเอาไว้บนฝ่ามือ จนถึงการเดินลมปราณให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความ “กระชับรัดกุม” ให้กับะเิเพลิง นางอธิบายอย่างละเอียดและเรียบเรียงทุกขั้นตอนอย่างชัดเจน
ที่จริงซ่งหยวนหยวนไม่ได้เพิ่งจะมาตัดสินใจถ่ายทอดะเิเพลิงที่ปรับปรุงนี้ แต่นางเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
ะเิเพลิงมันเป็ทักษะธาตุไฟ หากผู้ฝึกไม่ได้มีพลังงานธาตุไฟในตัว ไม่มีทางสามารถปล่อยอานุภาพของะเิเพลิงรุ่นปรับปรุงนี้ออกมาได้
แต่ว่าิอวี่กับเิหยูเยียนนั้นสามารถอยู่ฝึกร่างกายในสระเลี่ยนเหยียนได้ถึงยี่สิบเจ็ดวัน ร่างกายของพวกเขาดูดซับแก่นสารพลังงานเปลวไฟไปไม่รู้มากขนาดไหน
ดังนั้น การให้พวกเขาไปฝึกะเิเพลิงที่ปรับปรุงแล้ว จึงถือว่ามีประโยชน์มาก
เพราะร่างกายได้รับการสนับสนุนจากแก่นสารพลังงานเปลวไฟ มันจึงทำให้พวกเขาสามารถปล่อยอานุภาพะเิเพลิงออกมาได้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
“ยังมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม?”
หลังผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม ซ่งหยวนหยวนก็มองไปทั้งสองคนแล้วก็เอ่ยปากถาม
ิอวี่ส่ายหน้า เิหยูเยียนเองก็ไม่มีอะไรจะถาม พวกเขาพอจะจับทางวิธีการใช้งานะเิเพลิงได้แล้ว
“ถ้าเช่นนั้น เวลาอีกห้าวันที่เหลือพวกเ้าก็อยู่ฝึกกันที่นี่นะ ห้าวันหลังจากนี้ข้าจะมารับ ถึงเวลานั้นก็คือเวลาที่พวกเ้าจะเข้าสนามรบร้างโบราณ พวกเ้าจะต้องช่วยเหลือกัน ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกันนะ” ซ่งหยวนหยวนกำชับและก็หายออกจากตำหนักเมฆาเพลิงไป
“ตึง”
ประตูใหญ่ของตำหนักเมฆาเพลิงปิดลง
หลังจากที่ซ่งหยวนหยวนไปแล้ว ก็เหลือแค่ิอวี่กับเิหยูเยียนแค่สองคนเท่านั้น
เมื่อเห็นอาจารย์จากไปแล้ว เิหยูเยียนก็หันมาพูดกับิอวี่ทันทีว่า “อย่าคิดว่าการที่เ้าเดาความหมายของอาจารย์ออกเมื่อครู่แล้วเ้าก็จะเก่งกาจอะไรหรอกนะ แล้วก็ ที่อาจารย์บอกให้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน ถึงแม้ข้าจะรับปาก แต่หลังจากเข้าไปในสนามรบร้างโบราณแล้ว เราก็ต่างคนต่างไป อย่าคิดว่าข้าจะคุ้มครองเ้า”
เดิมเิหยูเยียนคิดว่าิอวี่จะตอบโต้อะไรกลับมา ซึ่งนางเองก็เตรียมตัวรับมือไว้แล้ว ...
แต่สิ่งที่เิหยูเยียนคิดไม่ถึงเลยก็คือ ิอวี่กลับเดินไปหามุมนั่งขัดสมาธิแล้วก็เริ่มเดินลมปราณสร้างพลังงานะเิเพลิง โดยที่ไม่ตอบกลับคำพูดของนางเลย
“เ้าเป็ใบ้หรือไง?” เิหยูเยียนโกรธมาก
แต่ิอวี่ก็ยังคงเงียบ
เิหยูเยียนโกรธสุดๆ แล้วพูดต่อว่า “ ... เ้าอย่าคิดว่าแกล้งทำเป็ไม่ได้ยิน ก็จะเลี่ยงไม่ตอบสิ่งที่ข้าพูดเมื่อครู่ได้นะ”
“แทนที่จะเสียเวลาไปกับการทะเลาะเบาะแว้งกัน มาฝึกะเิเพลิงดีกว่า”
ิอวี่หันหน้ามามองเิหยูเยียนแล้วพูด “ไม่ใช่หรือ?”
“เ้า ... ”
เิหยูเยียนเหมือนยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ก็พบว่าิอวี่นั้นหันหน้ากลับไปแล้ว ไม่ได้คิดจะสนใจนางเลยแม้แต่นิดเดียว
เิหยูเยียนโกรธจนแทบบ้า เดิมนางก็คับแค้นใจมากพออยู่แล้ว ตามหลัก เ้าปีศาจบ้ากามนี่อยู่กับผู้หญิงสองต่อสอง จะต้องคิดอะไรไม่ดี นางเองก็จะสามารถใช้ข้ออ้างนั้นลงมือระบายความโกรธแค้นของนางได้
แต่ิอวี่กลับเ็าและแทบจะไม่สนใจใยดีนางเลย
มันทำให้เิหยูเยียนรู้สึกว่า ... ตนเองเป็เหมือนอากาศ
เหอะๆ ตอนนี้เ้าเสแสร้งไปเถอะ เพราะที่นี่คือตำหนักเมฆาเพลิง ท่านอาจารย์จับตาดูอยู่ ใช่ไหมล่ะถึงได้เสแสร้งแบบนี้ ิอวี่ เ้าสุภาพบุรุษจอมปลอม!
ในใจของเิหยูเยียนมีความคิดแบบนี้ผุดขึ้นมา
หากิอวี่รู้ว่านางคิดแบบนี้ล่ะก็ จะต้องหมดคำพูดแน่ มีใจคิดอนาจารถือเป็อสูรร้าย ไม่มีจิตอนาจารก็ยังสู้อสูรร้ายไม่ได้อย่างนั้นหรือ?
สรุปแล้วก็คือ ตอนนี้ไม่ว่าิอวี่จะทำอะไร สำหรับเิหยูเยียนนั้นก็ผิดไปหมด ต่อให้เขาแค่เดินก้าวเท้าซ้ายเข้ามาในตำหนักเมฆาเพลิงก่อน เิหยูเยียนก็รู้สึกว่าเขาทำผิดมหันต์ ...
โชคยังดีที่ิอวี่ไม่มีเวลาไปคิดเล็กคิดน้อยกับนางในตอนนี้ สมาธิของเขาอยู่ที่ะเิเพลิง
ในหัวของิอวี่เวลานี้กำลังนึกย้อนไปถึงประเด็นสำคัญของข้อมูลที่ซ่งหยวนหยวนสอนมาก่อนหน้านี้ เขาเริ่มทำการเดินลมปราณไปตามชีพจรที่กำหนดและเริ่มถ่ายพลังงานมาที่ฝ่ามือขวา
เพราะิอวี่มีร่างแห่งหยินหยางเป็ทุนเดิม สามารถสร้างเปลวไฟได้อยู่แล้ว เขาแค่ใช้พลังจิต ลำแสงเปลวไฟที่รุนแรงก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ ิอวี่ตั้งสมาธิและถ่ายลมปราณเข้าไปในเปลวไฟนั้น แล้วเปลวไฟก็เริ่มสั่นเหมือนกำลังจะหลอมรวมเข้าไว้ด้วยกัน
แต่ในท้ายที่สุด เปลวไฟนั่นกลับสลายไป เขาสร้างมันไม่สำเร็จ
“ชิ”
เิหยูเยียนเห็นทุกอย่างและเริ่มสบถเสียง
นางเลือกที่แห่งหนึ่งที่ไม่ใกล้ไปไกลจากิอวี่ และเป็มุมที่นางมองเห็นิอวี่ที่อยู่ในมุมห้องโถงได้อย่างชัดเจน สายตาเหลือบไปมองิอวี่ด้วยความดูถูก นางยิ้มมุมปากด้วยความมั่นใจ ต่อจากนั้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเริ่มทำการฝึกะเิเพลิง
