บทที่ 1: ดวงิญญาข้ามภพ
กลิ่นคาวเื...
คือสิ่งแรกที่ทิ่มแทงเข้าสู่โสตประสาทของ เย่ชีอิน มันรุนแรงเสียจนทำให้คนที่กำลังสะลึมสะลือต้องขมวดคิ้ว ความทรงจำสุดท้ายของเธอคือเสียงยางรถยนต์ที่บดขยี้ไปกับพื้นถนนจนแสบแก้วหู แสงไฟจากรถบรรทุกที่สาดส่องเข้ามาจนพร่ามัว และแรงกระแทกมหาศาลที่ทำให้ร่างของเธอปลิวราวกับเศษกระดาษ
...อุบัติเหตุ... ใช่แล้ว... เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะเดินทางกลับจากเจรจาธุรกิจที่เซิ่นเจิ้น
แต่แล้ว... ความเ็ปที่ควรจะแหลกสลายไปทั่วร่างกลับมีเพียงความหนาวเหน็บเข้ากระดูก ััเหนียวเหนอะเกาะกุมไปทั่วผิวเปลือยเปล่า และเสียงร่ำไห้ระคนเสียงสบถด่าของบุรุษที่ฟังไม่คุ้นหู
เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆ ปรือขึ้น ภาพที่เห็นเบื้องหน้าไม่ใช่โรงพยาบาลหรือแสงไฟสีขาวของห้องฉุกเฉิน แต่มันคือท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด มีเพียงแสงจากคบไฟที่สั่นไหวไปมา เผยให้เห็นภาพอันน่าสยดสยอง
ร่างมนุษย์... กองทับถมกันราวกับสิ่งของไร้ค่า ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนชรา หลายคนอยู่ในสภาพน่าอนาถ แขนขาบิดเบี้ยว ดวงตาเบิกโพลงไร้แววชีวิต กลิ่นอายแห่งความตายคละคลุ้งไปทั่วบริเวณพร้อมกับกลิ่นดินและกลิ่นสาบของสัตว์พาหนะ
"นี่มัน...เื่บ้าอะไรกัน!" เย่ชีอินพยายามจะเปล่งเสียง แต่สิ่งที่ออกมากลับเป็เพียงลมแหบพร่า นางพยายามยันกายลุกขึ้น และนั่นคือวินาทีที่โลกทั้งใบของเธอพังทลายลงอีกครั้ง
ร่างที่นางเห็น... ไม่ใช่ร่างของเธอ
ผิวขาวซีดราวกับกระดาษ แต่เกลื่อนไปด้วยรอยฟกช้ำและคราบเืแห้งกรัง หน้าอกอวบอิ่มที่สั่นเทาตามแรงหายใจ ผมยาวสลวยสีดำขลับที่บัดนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดิน มือเรียวงามที่ควรจะจับปากกาเซ็นสัญญาหลายร้อยล้าน บัดนี้กลับผอมบางและมีเล็บฉีกขาด
นี่ไม่ใช่ร่างของเย่ชีอิน นักธุรกิจสาวผู้แข็งแกร่งแห่งศตวรรษที่ 21!
"กรี๊ดดดดดดด!"
เสียงกรีดร้องที่ดังออกมาจากลำคอของร่างนี้แหลมเล็กและสั่นเครือ มันเต็มไปด้วยความหวาดผวาจนถึงขีดสุด ความสับสนถาโถมเข้าใส่ราวกับคลื่นั์ ที่นี่ที่ไหน? เกิดอะไรขึ้นกับเธอ? แล้วร่างนี้เป็ของใครกัน?
ความคิดทั้งหมดหยุดชะงักลง เมื่อเงาของร่างสูงใหญ่ทาบทับลงมา บุรุษในชุดเกราะทหารสกปรกมอมแมมเดินเข้ามาใกล้ ใบหน้าของเขาหยาบกร้านและไร้ความปรานี ดวงตาที่มองมายังนางเ็าราวกับมองซากศพ
"หึ ยังมีชีวิตอยู่อีกรึ?" เขาแค่นเสียง ก่อนจะใช้ปลายเท้าเตะเข้าที่สีข้างของนางอย่างแรงจนร่างบางจุกและกระเด็นไป
"อึก!"
ความเ็ปที่แล่นริ้วไปทั่วกายยืนยันว่านี่ไม่ใช่ความฝัน!
ทหารผู้นั้นชักดาบออกจากฝัก แสงจันทร์ตกกระทบคมดาบเป็ประกายวาววับ เย่ชีอินเบิกตากว้าง หัวใจแทบจะหยุดเต้น ความตายกำลังคืบคลานเข้ามาหาเธอเป็ครั้งที่สองในเวลาไล่เลี่ยกัน
แต่ก่อนที่คมดาบจะฟาดฟันลงมา ร่างของสตรีชราผู้หนึ่งก็โผเข้ามากอดร่างของนางไว้แน่น เนื้อตัวของนางสั่นเทิ้มยิ่งกว่า แต่กลับใช้ร่างกายที่ผ่ายผอมของตนเป็โล่กำบัง
"นายท่าน! ได้โปรดไว้ชีวิตคุณหนูของบ่าวด้วย!" เสียงของนางแหบแห้งและเต็มไปด้วยการอ้อนวอน "นางาเ็สาหัส คงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ได้โปรดเมตตานางด้วยเถิดเ้าค่ะ!"
สตรีชราผู้นี้คือ ป้าเหว่ย นางคือสาวใช้ที่ติดตาม เมิ่งหรงซิน คุณหนูแห่งเผ่าซีเป่ยมาั้แ่เกิด และร่างที่เย่ชีอินอาศัยอยู่นี้ ก็คือร่างของคุณหนูของนางนั่นเอง
ทหารผู้นั้นชะงักไปเล็กน้อย มองร่างเปลือยเปล่าที่บอบช้ำสาหัสสลับกับหญิงชราที่พร้อมจะตายแทนอย่างรำคาญใจ
"ไสหัวไป! หากยังเกะกะ ข้าจะฆ่าทั้งคู่!" เขาตวาดกร้าว
ป้าเหว่ยไม่ยอมลุก นางยังคงกอดร่างของคุณหนูเอาไว้แน่นพลางร่ำไห้ "คุณหนู... คุณหนูเมิ่งหรงซิน... ตั้งสติไว้เ้าค่ะ... อย่าเพิ่งจากบ่าวไป..."
เมิ่งหรงซิน?
ชื่อนั้นก้องอยู่ในหัวของเย่ชีอิน มันคือชื่อของคนอื่น... แต่บัดนี้มันกำลังจะกลายเป็ชื่อของเธอ
ทหารอีกนายที่เดินผ่านมาะโขึ้น "ปล่อยพวกมันไปเถอะ! เสียเวลาเปล่า ยังไงก็คงตายอยู่ดี รีบจัดการเก็บกวาดให้เสร็จสิ้นก่อนฟ้าสาง!"
ทหารคนแรกสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะเก็บดาบเข้าฝักแล้วเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงร่างของสองสตรีที่กอดกันกลมท่ามกลางกองศพและเสียงลมหวีดหวิวของดินแดนซีเป่ยที่หนาวเหน็บ
เมื่อภัยอันตรายผ่านพ้นไป ป้าเหว่ยจึงค่อยๆ คลายอ้อมกอด นางรีบถอดเสื้อตัวนอกที่เก่าคร่ำคร่าของตนออกมาคลุมร่างที่เปลือยเปล่าของคุณหนูไว้ น้ำตาของนางยังคงไหลไม่หยุด
"คุณหนู... ขวัญเอ๋ยขวัญมานะเ้าคะ..."
เย่ชีอิน... หรือเมิ่งหรงซินในยามนี้... มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยและหยาดน้ำตาของหญิงชรา ความสับสน ความหวาดกลัว และความเศร้าโศกถาโถมเข้าใส่จิตใจจนแทบแหลกสลาย นางไม่รู้จักหญิงคนนี้ นางไม่รู้จักชื่อเมิ่งหรงซิน... แต่นางรู้เพียงอย่างเดียว...
นางรอดตายจากการสังหารหมู่... ในร่างของหญิงสาวที่เป็เชลยา... ดวงิญญาของนางข้ามภพมาอยู่ในดินแดนที่โหดร้ายและป่าเถื่อนแห่งนี้อย่างแท้จริงแล้ว.!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้