ในเช้าวันที่สองพวกเซี่ยลี่ก็จากไปแล้ว เพราะต้องไปขายหนังหมาป่านภาระดับสองกับสินค้าอื่น
เซี่ยลี่เป็คนที่มีประสบการณ์มาก เขาไม่ได้ขายสินค้ามาแค่ครั้งสองครั้ง หนังหมาป่านภาระดับสองกับสินค้าต้องแบ่งขายหลายครั้ง เนื่องจากพลังของพวกเขาธรรมดามาก หากนำหนังหมาป่านภาระดับสองออกมาหลายสิบผืนในครั้งเดียว อาจจะต้องดึงดูดความสนใจของผู้อื่นแน่
ถังเหล่ยมอบผงยาที่อยู่ในขวดให้อวี่เอ๋อร์ และกำชับนางว่าหลังจากละลายน้ำร้อนก็กินได้เลย
พิษในร่างอวี่เอ๋อร์เบาบางมาก จึงแก้ได้ไม่ยาก
จากนั้นถังเหล่ยก็ก้าวออกจากประตู เดินทอดน่องไปในเมืองเฮยเหยียนเพียงลำพัง
แม้ขนาดของเมืองจะไม่ต่างกันมาก แต่ระดับความเจริญของเมืองเฮยเหยียนนั้นเทียบกับเมืองอวิ๋นหลิวไม่ได้แม้แต่น้อย บนถนนไม่ได้มีผู้คนขวักไขว่มากนัก ร้านค้าหลายแห่งล้วนปิดหน้าร้าน
มองไปที่ใดก็เห็นขอทานมากมายนอนหายใจรวยรินอยู่ทั้งสองฝั่งถนน พวกเขาไร้ซึ่งกำลัง ถึงขนาดแรงที่จะขอเงินยังไม่มี
ถึงอย่างนั้นก็เห็นคนเดินไปมาบนถนนอยู่ประปรายบ้าง แต่ทุกคนล้วนหายใจหอบเหนื่อย สีหน้าก็ดูไม่สู้ดีนัก
ถังเหล่ยถามจากคนกลุ่มหนึ่ง จนรู้ที่อยู่ของร้านค้าตระกูลจี้ ในยามนี้ไม่มีใครไม่รู้จักร้านค้าตระกูลจี้ เพราะยาตระกูลจี้ล้วนเป็ความหวังเพียงหนึ่งเดียว
เมื่อถังเหล่ยเดินมาได้ครึ่งชั่วยาม ในที่สุดเขาก็เจอร้านตระกูลจี้ ที่นี่ไม่เหมือนกับร้านค้าอื่นๆ มีผู้คนต่อแถวมากมายอยู่หน้าประตูร้าน
ทหารสวมชุดเกราะหลายคนขวางอยู่หน้าประตู เพื่อกันไม่ให้ผู้คนเบียดเสียดกันเข้าไปในร้าน
“ยาของวันนี้ขายหมดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่!”
หน้าต่างชั้นสองของร้านค้าถูกเปิดออก ชายวัยกลางคนที่ไว้เคราเล็กน้อยคนหนึ่งะโมาทางกลุ่มคนด้านล่าง
จากนั้นผู้คนก็ค่อยๆ สลายตัวกันออกไป เหมือนว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
หลังจากที่ผู้คนกลับไปหมดแล้ว ถังเหล่ยจึงค่อยๆ เดินไปทางร้านค้า
“หยุดก่อน เ้าเป็ใครกัน!”
องครักษ์ที่ประตูขวางทางเขาเอาไว้ เมื่อถังเหล่ยเห็นตราบนอกองครักษ์ ก็พบว่าองครักษ์เหล่านี้เป็คนของจวนเ้าเมือง
มิน่าเล่า ตระกูลจี้ถึงทำอะไรตามใจในเมืองเฮยเหยียนได้ ที่แท้อาจสมคบคิดกับจวนเ้าเมืองนานแล้ว แต่จักรวรรดิเทียนอวี่เคยสั่งห้ามไม่ให้ขุนนางในพื้นที่คบค้าสมาคมกับตระกูลเหล่านี้นี่
เหมือนอย่างเยว่มู่จือที่ไม่ยุ่งเื่การต่อสู้ระหว่างตระกูล แต่เมืองเฮยเหยียนอยู่ห่างจากเมืองหลวงมากเกินไป เื่การสมคบคิดระหว่างเ้าเมืองกับตระกูลในพื้นที่จึงยังไม่มีใครรู้
“ข้ามาซื้อยา!”
แม้ถังเหล่ยจะดูเยาว์วัยมาก แต่เสื้อผ้ากับความสง่าดูไม่เหมือนคนธรรมดาเลย องครักษ์เหล่านี้จึงประเมินถังเหล่ยสูงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
“ยาของวันนี้ขายหมดแล้ว ถ้าอยากซื้อยา พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่!”
องครักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงแบนราบ
กริ๊งๆ!
ทองหลายก้อนปรากฏขึ้นในมือของถังเหล่ย องครักษ์เ่าั้ผงะไป พวกเขาอดกลืนน้ำลายไม่ได้เลย
ทองในมือของถังเหล่ยเท่ากับเงินเดือนของพวกเขาหลายปีเลยทีเดียว
“นายท่าน เชิญด้านในก่อน!”
ไม่รอให้องครักษ์เอ่ยปาก ในร้านค้ามีคนผู้หนึ่งเดินออกมาทันที เขาคือชายวัยกลางคนที่ะโอยู่บนชั้นสองเมื่อครู่
ชายวัยกลางคนผลักองครักษ์ออกไป และเชิญถังเหล่ยให้เข้าไปด้านใน
พื้นที่ในร้านค้ากว้างมาก มีพนักงานที่สวมชุดสีเทากำลังง่วนกันอยู่หลายคน
ถังเหล่ยถูกพาขึ้นไปชั้นสอง สาวใช้รินน้ำชาให้ ชายวัยกลางคนทักทายเขาด้วยท่าทีกระตือรือร้น
“ไม่ทราบว่าคุณชาย้ายาอะไร?”
“ขอยาที่คนด้านนอกเ่าั้้า ข้าได้ยินมาว่าตระกูลจี้ในเมืองนี้ขายยาที่มีประสิทธิภาพดีมาก สามารถรักษาได้ทุกโรค ข้าจึงเดินทางมาเพื่อซื้อสิ่งนี้โดยเฉพาะ”
ชายวัยกลางคนหาได้สงสัยไม่ ดูจากท่าทางของถังเหล่ยแล้ว ก็ไม่เหมือนคนเมืองเฮยเหยียนจริงๆ
“ไม่ทราบว่านายท่าน้าเท่าไรหรือ?”
ในเมื่อเป็การค้าใหญ่ เขาก็ไม่คิดจะปล่อยผ่านไป
“เอามาให้ข้าดูก่อนหนึ่งชุด ถ้าข้าพอใจ ราคาที่ข้าจะจ่ายต้องทำให้เ้าพอใจแน่!”
ถังเหล่ยอยากเห็นว่า ยาที่ตระกูลจี้ขายคืออะไรกันแน่
ไม่นานชายวัยกลางคนก็สั่งคนรับใช้ให้ไปหยิบขวดเล็กๆ มาขวดหนึ่ง ถังเหล่ยเอียงขวดใบนั้นดู ด้านในเป็ผงชนิดหนึ่ง
เขาเอานิ้วจิ้มเข้าไปแตะ แล้วนำมันเข้าปากตัวเอง
‘เป็เช่นนี้นี่เอง ในยานี้มีพิษอยู่ ยิ่งกินยิ่งแย่!’
ถังเหล่ยลอบยิ้มในใจ ในยาเหล่านี้ก็มีพิษอยู่แล้ว ตอนที่เพิ่งกินเข้าไปอาจจะชะลอพิษได้จริงๆ แต่จากนั้นพิษจะกลับมารุนแรงยิ่งกว่า
โชคดีที่อวี่เอ๋อร์ไม่ได้กินยานี้เข้าไป ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ร่างกายของนางทรุดหนักลงได้
“ไม่เลว จำนวนที่ข้าจะซื้อเยอะมาก ข้าจึงอยากจะเจอกับผู้นำตระกูลของเ้าสักหน่อย ถึงตอนนั้นข้าขอเจอคนที่ปรุงยานี้ขึ้นมาด้วยเลยแล้วกัน”
ถังเหล่ยพยักหน้าพร้อมตอบด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่แสร้งเป็คนไม่รู้เื่รู้ราวสิ่งใด
“คือว่า...”
ชายวัยกลางคนเจือความรู้สึกลังเล การซื้อจำนวนเยอะนั้นหาใช่ปัญหา แต่ไยถังเหล่ยถึงอยากเจอผู้นำตระกูลจี้กับคนปรุงยาด้วย?
ฉากหลังของเื่ทั้งหมดนี้ชายวัยกลางคนล้วนรู้ดี เงื่อนไขของถังเหล่ยจึงทำให้ชายวัยกลางคนอดสงสัยไม่ได้
“ถ้าไม่สะดวกก็ช่างเถอะ ข้า้ายาแบบนี้ห้าร้อยชุด นี่คือเงินมัดจำ เ้าคิดว่าอย่างไร?”
ถังเหล่ยโบกมือ พลันปรากฏทองกองหนึ่งด้านหน้า ของเหล่านี้ล้วนเป็ของเยียนหลิงซาน เขาท่องยุทธภพมาหลายสิบปี จึงสั่งสมทรัพย์สมบัติเอาไว้ไม่น้อย
“ห้าร้อยชุดหรือ!”
ชายวัยกลางคนตกตะลึงยิ่ง เมื่อเห็นถังเหล่ยมือเติบเช่นนี้ ในใจจึงลังเล เขาไม่อยากปล่อยแกะอ้วนอย่างถังเหล่ยไป
“ห้าร้อยชุดไม่มีปัญหา ส่วนเื่คำขอของคุณชาย ข้าคงต้องปรึกษากับผู้นำตระกูลก่อน ไม่สู้คุณชายมาใหม่พรุ่งนี้เล่า ถึงเวลานั้นข้าต้องให้คำตอบที่น่าพอใจกับคุณชายได้แน่!”
ชายวัยกลางคนเป็พ่อค้าหัวไว เขารู้ว่าสามารถหาเงินจากถังเหล่ยได้มากกว่านี้ ดังนั้นจึงไม่คิดจะปล่อยถังเหล่ยไปง่ายๆ
“ดี เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะมาอีก เงินมัดจำนี่เ้าก็เก็บไว้เถอะ!”
เรียกได้ว่าถังเหล่ยใจป้ำมาก ถึงขนาดทิ้งทองกองหนึ่งไว้ตรงนั้นเลย
แต่ยิ่งถังเหล่ยใจกว้างมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ชายวัยกลางคนสงสัยมากเท่านั้น เขารู้สึกว่าการปรากฏตัวของถังเหล่ยไม่ค่อยสมเหตุสมผล
ถังเหล่ยจากไปโดยไม่หันกลับมา และแม้ถึงเขาจะถูกคนสะกดรอย เขาก็สลัดคนเ่าั้ได้อย่างง่ายดาย
ฝั่งชายวัยกลางคนกำลังร้อนรนราวมดบนกระทะ มีแขกเช่นนี้เป็เื่ดีหรือเื่ร้ายกันแน่?
เขารีบออกจากร้าน และเอาเื่นี้ไปรายงานให้ตระกูลจี้ทันที
คาดว่าคนที่อยู่เื้ัจะต้องประหลาดกับเื่นี้แน่ เดิมทีเื่เช่นนี้ก็ไม่ใช่เื่ที่ดีนัก หากโดนหน่วยผู้คุมกฎของจักรวรรดิพบเข้าคงกลายเป็เื่ใหญ่โต
การที่อยู่ๆ ก็มีเศรษฐีหนุ่มคนหนึ่งโผล่ขึ้นมา และ้าซื้อยาในจำนวนมากเช่นนี้ผิดปกติเกินไป
สิ่งที่ถังเหล่ย้าก็คือสถานการณ์เช่นนี้ เขา้าแหวกหญ้าให้งูตื่น หากไม่ทำเช่นนี้ เขาจะจัดการอีกฝ่ายภายในครั้งเดียวได้เยี่ยงไร?
หลังจากที่ตระกูลจี้รู้เื่นี้เข้า ก็นำคนไปที่จวนเ้าเมืองทันที
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ล้วนไม่รอดสายตาของถังเหล่ย เื่ที่จะทำต่อไปก็คือยืนยันว่าศิษย์ของเฮยฉานฉู่ที่เกี่ยวข้องกับเื่นี้อยู่ในจวนเ้าเมืองด้วยหรือไม่?
จากนั้นถังเหล่ยจะลอบเข้าไปในจวนเ้าเมือง เพื่อจับตามองว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป