แสงสีเขียวสว่างจ้าขึ้นตรงหน้า ด้วยระยะที่ไม่ห่าง ทำให้ซ่งเว่ยหลงไม่อาจหลบพลังของหยางจิ่งเทียนที่ซัดออกมาได้และเขาห่วงว่าเซวี่ยฟังเฟยจะเป็อันตรายเพราะถูกลูกหลง จึงเอาตัวเองเข้าบังเซวี่ยฟังเฟยไว้ ในระยะห่างไม่เกินหนึ่งจั้ง (20นิ้ว) พลันมีลูกไฟสีแดงเข้าปะทะเเสงสีเขียวจากด้านข้างพลังของหยางจิ่งเทียนจึงไม่สามารถทำอันตรายซ่งเว่ยหลงและเซวี่ยฟังเฟยที่ยืนอยู่ใกล้กันได้ เมื่อพลังทั้งสองสายสลายไปหยางจิ่งเทียนจึงหันมามองคนที่ซัดพลังออกมาสกัดพลังของตน
"เยว่เอ่อ นี่เ้าสามารถใช้พลังปราณได้แล้วหรือ "
หยางจิ่งเทียนมีสีหน้าตกตะลึงจนลืมไปว่าพลังที่ซินเยว่ปล่อยออกมานั้นเป็ลูกไฟที่ใหญ่กว่าพลังของตน มีเพียงไป๋เยี่ยนหลงที่ยืนอยู่ข้างกายนางเท่านั้นที่มองพลังของซินเยว่อย่างพินิจ และทำสีหน้าแน่ใจในสิ่งที่ตนเองคาดเดา
"ท่านคิดจะทำอะไรท่านคิดจะทำร้ายท่านแม่ของข้าเช่นนั้นหรือ ต่อให้ท่านเป็ผู้ให้กำเนิดข้าก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่"
ซินเยว่ไม่สนใจคำถามของหยางจิ่งเทียน นางตวาดก้องด้วยความโกรธอีกนิดเดียวพลังนั่นก็จะทำร้ายมารดาของนางแล้ว แค่คิดซินเยว่ก็หัวใจแทบหยุดเต้นความรู้สึกที่เหมือนหัวใจถูกบีบรัดนี่มันช่างทรมานยิ่งนัก
หยางจิ่งเทียนได้สติกลับมาจากเสียงตะคอกของซินเยว่ เขาหันกลับมาหาเซวี่ยฟังเฟยที่ยืนใหน้าซีดขาวอยู่ในอ้อมแขนของซ่งเว่ยหลง ยิ่งทำให้เขาทวีความรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมากกว่าเดิม
"ท่านกลับไปซะเถอะอย่าได้กลับมาที่นี่อีกอย่าทำให้ข้าต้องเกลียดท่านมากไปกว่านี้"
เซวี่ยฟังเฟยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาเพราะนางยังรู้สึกหวาดกลัวเื่ที่พึ่งเกิดขึ้นอยู่ นางไม่แม้แต่จะปรายตามองหยางจิ่งเทียนที่ยืมมองนางด้วยสายตาตัดพ้อ ยิ่งเซวียฟังเฟยพูดเช่นนี้กับเขายิ่งทำให้เขารู้สึกเสียหน้าแล้วโกรธแค้นซ่งเว่ยหลงยิ่งกว่าเดิม หยางจิ่งเทียนหาใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆ
“ไม่มีวัน”
หยางจิ่งเทียนะโเสียงดังก้องอย่างดุดัน
"หากวันนี้เ้าไม่กลับไปกับข้าก็อย่าหวังว่าเ้าจะสามารถไปที่ใดได้ ข้าอยากรู้นักถ้าหากว่าข้าฆ่าชายคนนี้เ้าจักทำอย่างไร"
หยางจิ่งเทียนไม่รอช้าะโเข้าใส่ซ่งเว่ยหลงอย่างรวดเร็ว แต่ซ่งเว่ยหลงที่รอตั้งรับอยู่แล้วนั้นไม่ยอมให้หยางจิ่งเทียนลอบกัดเขาได้อีก
"ช่างดื้อด้านยิ่งนักหากเ้าไม่มีตำแหน่งเป็แม่ทัพใครๆ คงคิดว่าเ้าเป็เพียงอันธพาลข้างถนน"
คำพูดของซ่งเว่ยหลงยิ่งกระตุ้นแรงโทสะของหยางจิ่งเทียนให้สูงเสียดฟ้า
"อย่าคิดว่าข้าจะเป็เต้าหู้นิ่มให้เ้าได้ทุบเล่น"
พูดจบซ่งเว่ยหลงปล่อยสภาวะแรงกดดันออกมา พลังปราณสีน้ำเงินเข้มล้อมรอบตัวเขาบางเบา ซ่งเว่ยหลงหลอมพลังสีน้ำเงินขึ้นให้กลายเป็ดาบเล่มใหญ่จากนั้นฟาดพลังเข้าใส่หยางจิ่งเทียนด้วยความเร็วและรุนแรง ชั่วพริบตาหยางจิ่งเทียน ไม่สามารถต้านพลังของซ่งเว่ยหลงได้เขากระเด็นไปไกลหลายสิบจั้ง กระอักเืออกมาคำโต บริเวณหน้าอกปรากฏรอยดาบฟันเป็แผลเหวอะ
"เ้าเป็ใครกันแน่"
หยางจิ่งเทียนะโถามออกไปอย่างยากเย็นเพราะในโพรงปากของเขาเต็มไปด้วยเืที่กระอักออกมา ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าฉิงอิงหลางจะหาเสียงของตนเจอทุกอย่างก็จบลงไปแล้ว
"พลังสีน้ำเงินนั่น หรือว่าท่านคือ......"
ซ่งเว่ยหลงหันมาทางฉิงอิงหลางประสานมือทำท่าคารวะ
"ขออภัยที่กระหม่อมมิได้เปิดเผยตัวกระหม่อมคืออดีตหัวหน้าองครักษ์ของฝ่าา นามว่าซ่งเว่ยหลง"
ฉิงอิงหลางตาโตเขาเคยได้ยินมาว่าเมื่อหลายปีก่อนเคยมีองครักษ์ที่มีพร์อยู่ผู้หนึ่ง เขามีพลังปราณสีน้ำเงินั้แ่อายุยังน้อยฝีมือเก่งกาจมิอาจหาผู้ใดเทียบได้ เเต่ไม่รู้ด้วยเพราะเหตุใดเขาได้ลาออกจากการเป็องครักษ์ในวังหลวงและหายตัวไปไม่เคยทราบข่าวคราวจนกระทั่งตอนนี้ ฉิงอิงหลางรู้แล้วว่าองครักษ์คนนั้นคือบุรุษร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้
"หามิได้ข้าเพียงแปลกใจที่ท่านลาออกจากการเป็หัวหน้าองครักษ์หลวงแต่มาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ริมชายเเดนเช่นนี้"
ฉิงอิงหลางตอบซ่งเว่ยหลงด้วยความยำเกรงขึ้นหลายส่วน ซ่งเว่ยหลงมิได้ตอบอันใดเขาเดินไปประจันหน้ากับหยางจิ่งเทียนที่นอนกุมาแอยู่ที่พื้นยังไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
"เ้ายังคิดอยากจะสู้กับข้าอีกหรือไม่ ข้าไม่มีเวลามาเสียเปล่าไปกับเ้ามากนักหรอกนะ"
ซ่งเว่ยหลงเอ่ยขึ้นเรียบๆ ด้วยใบหน้าเ็าทหารที่ตามอารักขาหยางจิ่งเทียนและฉิงอิงหลางกรู่เข้ามาล้อมซ่งเว่ยหลงเอาไว
"หึ พลังปราณสีน้ำเงินแล้วอย่างไรถ้าเจอคนมากกว่าเ้าจะสามารถทำอะไรได้"
หยางจิ่งเทียนทำสัญญาณมือให้ทหารที่ล้อมซงเว่ยหลงเข้าจู่โจม ทันที
"เว่ยหลง "
เซวี่ยฟังเฟยเรียกชื่อเขาอย่างเป็ห่วงซ่งเว่ยหลงหันมายิ้มให้เซวี่ยฟังเฟย
"เ้าวางใจเถิดข้าหาใช่คนไม่เอาไหน"
พูดจบซ่งเว่ยหลงก็สะบัดมือหนึ่งครั้ง เสียงกรีดร้องก้องนภาก็ดังไปทั่วหุบเขาอินทรีทองระดับแปดตัวมหึมาบินตรงมาที่ทหารที่ล้อมซ่งเว่ยหลงเอาไว้มันพ่นไฟออกมาข่มขู่เหล่าทหารที่เตรียมพุ่งเข้าหาเขา ทุกคนต่างชะงักไปตามๆ กันอินทรีทองบินวนไปรอบๆ ปลดปล่อยพลังออกมาเพื่อกดข่มพวกเขาเอาไว้
"ฝีมือมีเพียงแค่นี้คิดจักเอาชีวิตข้าช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ"
จบคำซ่งเว่ยหลงก็สะบัดมือหนึ่งครั้งพลันในมือมีดาบสีน้ำเงินเล่มใหญ่เขาตวัดดาบในมือเบาๆ พลังสีน้ำเงินเข้มพุ่งเข้าใส่ทหารสี่นาย กระเด็นไปไกลทันที
ทหารที่เหลือมีท่าทีหวั่นเกรงต่อพลังของซ่งเว่ยหลงและสัตว์อสูรของเขา พวกเขาหรือจะไม่เคยได้ยินเื่ราวกิตติศัพท์ของอดีตหัวหน้าองครักษ์หลวงผู้นี้ ทหารทั้งหมดได้เเต่ยืนเก้ๆ กังๆ ไม่กล้าเอาชีวิตเข้าเสี่ยง
"เ้าพวกโง่เง่ามันมีแค่เพียงคนเดียวสังหารมันซะเอาชีวิตของมันนี่คือคำสั่งของ...."
หยางจิ่งเทียนยังพูดไม่ทันจบคำซ่งเว่ยหลงก็ทะยานมายืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
"เอาชีวิตของเ้าแทนดีหรือไม่เ้าคนโง่เขลาขี้ขลาดเอาแต่หลบอยู่ด้านหลังผู้อื่น"
ซ่งเว่ยหลงกดดาบลงไปบนคอของหยางจิ่งเทียนจนเืไหลออกมา
" ท่านองครักษ์ซ่งได้โปรดเห็นเเก่หน้าข้าปล่อยเขาไปได้หรือไม่ ครั้งนี้เป็ความผิดของพวกเราได้โปรดยั้งมือไว้ไมตรี"
ฉิงอิงหลางรีบออกหน้าขอร้องซ่งเว่ยหลงเพื่อมิให้เกิดการนองเืมากไปกว่านี้ ถึงแม้ตัวหยางจิ่งเทียนจะมิยินยอมแต่เขาก็ไม่อาจทำอันใดได้เพราะตอนนี้เขาาเ็สาหัสจึงได้เเต่เงียบปากเอาไว้ยอมก้มหน้าทำตามที่ฉิงอิงหลางสั่ง
เมื่อเเขกมิได้รับเชิญกลับไปหมดแล้วเซวี่ยฟังเฟยจึงเข้ามาดู ซ่งเว่ยหลงว่าเขามีส่วนไหนที่าเ็บ้าง นางจับเขาหมุนไปหมุนมาเพื่อตรวจหาาแสร้างความขบขันให้แก่ทุกคนยิ่งนัก แต่ก็มิมีผู้ใดกล้าหัวเราะออกมาเพราะกลัวจะถูกนางคาดโทษ
"เฟยเอ๋อข้ามิได้มีาแที่ใดเลยเ้าอย่าได้เป็ห่วง"
ซ่งเว่ยหลงปลอบให้นางคลายกังวล
"แล้วทีนี้จะทำอย่างไรต่อไปจะไปท่องเที่ยวหรือจะยกเลิก"
ซ่งเว่ยหลงก้มตัวลงถามสตรีข้างกายเซวี่ยฟังเฟยหันไปมองซินเยว่ นางทราบดีว่าบุตรสาวของนางอยากออกไปเที่ยวเล่นยิ่งนักแต่นางก็อดห่วงมิได้ว่าหยางจิ่งเทียนจะส่งคนมาลอบทำร้ายพวกนางอีก
"เยว่เอ่อลูกยังอยากจะไปเที่ยวอยู่หรือไม่ "
ซินเยว่ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งนางส่ายหน้า
"เอาไว้คราวหน้าดีกว่าดูเหมือนว่าฤกษ์จะไม่ดีเสียแล้วมารผจญขนาดนี้ข้าไม่มีแก่ใจจะเที่ยวที่ไหนแล้วเ้าค่ะ”
ซินเยว่ทำหน้าเบ้ปากยู่ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกลับไปพักผ่อน เหลือเพียงไป๋เยี่ยนหลงที่ยืนอยู่ที่เดิมยังมิได้ขยับไปไหน
"เยี่ยจื่อไปจัดการอย่าให้พวกนั้นกลับมาสร้างความวุ่นวายที่นี่ได้อีก"
ไป๋เยี่ยนหลงสั่งเยี่ยจื่อเสร็จก็เดินกลับเข้าเรือนตามซินเยว่ไปทันที
วันต่อมาหม่าชิวหนิงเมื่อได้ยินชาวบ้านเล่าว่าซ่งเว่ยหลงต่อสู้กับบุรุษแปลกหน้าที่มาบ้านของเซวี่ยฟังเฟย นางก็รีบปลุกระดมชาวบ้านตรงดิ่งมาที่หน้าเรือนของเซวี่ยฟังเฟยทันทีเสียงชาวบ้านโวยวายดังอยู่นอกรั้วหน้าบ้านทำให้เซวี่ยฟังเฟยที่ทำอาหารเช้าอยู่ในครัวต้องเดินออกมาดู
"พวกท่านเป็ใครเหตุใดมาเสียงดังอยู่หน้าบ้านข้า"
เซวี่ยฟังเฟยถามออกไปอย่างสงสัย
"หึ หญิงเเพศยาอย่ามาตีหน้าใสซื่อเพราะเ้าทำให้หมู่บ้านของเราต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง พี่เว่ยหลงต้องต่อสู้กับชายชู้ของเ้าจนาเ็สตรีไร้ยางอายไม่ควรมาอยู่ที่หมู่บ้านของเรา"
หม่าชิวหนิงชี้หน้าด่าเซวี่ยฟังเฟยทันที
"แล้วมันเกี่ยวอันใดกับเ้า"
เสียงดังมาจากด้านหลัง ซินเยว่กับฮุ่ยหลิงเดินมาทันได้ยินหม่าชิวหนิงด่าเซวี่ยฟังเฟย ฮุ่ยหลิงออกมายืนบังพวกนางเพราะกลัวว่าชาวบ้านจะทำร้ายซินเยว่กับเซวี่ยฟังเฟย
ชาวบ้านหันมองตามเสียงผู้มาใหม่ แล้วชะงักไปทันทีเมื่อได้เห็นใบหน้าอันงดงามที่ไม่เคยได้พบพานมาก่อนของซินเยว่ ถึงแม้นางจะใส่ชุดธรรมดาเนื้อผ้าระดับปานกลาง แต่ก็ไม่สามารถกลบรัศมีความงามของนางได้ หม่าชิวหนิงเห็นชาวบ้านเอาแต่จ้องซินเยว่อย่างเหม่อลอยจึงเอ่ยขึ้นเสียงดัง
"อ้อ เ้าคงจะเป็บุตรสาวหญิงแพศยาผู้นี้สินะ แม่ลูกเหมือนกันมิมีผิดใช้ความงามหลอกล่อบุรุษให้หลงใหลนางจิ้งจอก"
หม่าชิวหนิงบิดปากพูดเหยียดหยามซินเยว่เเละเซวี่ยฟังเฟยออกมาเสียงดัง
"อ้อ แล้วเ้าเล่า.... หน้าตาไม่ถือว่าอัปลักษณ์แต่เหตุใดวาจาที่พ่นออกมาถึงได้มีแต่กลิ่นเหม็นเน่ายิ่งกว่าอาจม เ้าเป็ผู้ใดข้าไม่รู้แต่ถ้ามาสร้างความวุ่นวายให้บ้านของข้าเ้าคงไม่สามารถกลับไป....."
ซินเยว่มองหม่าชิวหนิงั้แ่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูกแล้วเอ่ยประโยคต่อมา
"แบบครบสามสิบสองได้"
นางใช้สายตาเหยียดหยามหม่าชิวหนิงเหมือนนางร้ายในละครที่นางเคยดู
“เ้านางเด็กบ้ากล้าขู่ข้าหรือ"
หม่าชิวหนิงกระทืบเท้าชี้หน้าซินเยว่
เพี๊ยะ!!!
เสียงตบฉาดดังกังวานขึ้นอย่างชัดเจนหม่าชิวหนิงที่กำลังชี้หน้าซินเยว่ถูกตบจนหน้าหัน พริบตาเดียวปรากฏรอยแดงเป็ปื้นขึ้นบนใบหน้าด้านขวา ทุกคนที่เข้าร่วมกับหม่าชิวหนิงต่างเงียบกริบไปทันที พวกเขามองหม่าชิวหนิงที่ถูกตบด้วยอาการตกตะลึง แต่กลับมองไม่เห็นว่าเป็ผู้ใดที่ตบนาง
"เ้าตบข้า"
หลังอาการตกตะลึงหม่าชิวหนิงชี้หน้าซินเยว่นางเต้นเร่าๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ถึงแม้นางจะตวาดเสียงกราดเกรี้ยวแต่นางก็รู้ดีว่าข้อกล่าวหานี้ฟังไม่ขึ้นผู้คนล้วนประจักษ์อยู่แก่สายตาว่าซินเยว่มิได้ขยับกายนางยืนอยู่กับที่ตลอดเวลา ต่อให้อยากกล่าวหาซินเยว่แต่ก็มิสามารถทำอันใดได้เพราะไร้หลักฐาน
"นางเด็กปีศาจ"
หม่าชิวหนิงยังไม่ยอมนางยังเอาแต่ก่นด่าซินเยว่ไม่หยุด
เพี๊ยะ!!!!
เสียงตบฉาดดังขึ้นอีกครั้งหม่าชิวหนิงร่างซวนเซซีกหน้าด้านซ้ายพลันปรากฏริ้วแดงขึ้นใบหน้าของนางทั้งสองข้างบวมเป็หัวหมูมองแล้วช่างน่าขันนัก ซินเยว่หัวเราะออกมาเบาๆ
"ผู้ใดกันที่ลอบกัดข้า"
หม่าชิวหนิงหน้าดำคร่ำเครียดกวาดตามองไปรอบๆ ทุกคนต่างมีสีหน้าประหลาดใจไม่แพ้กัน นางปลดปล่อยพลังสีเหลืองออกมากางเป็ม่านพลังแต่ใครจะรู้ พลังอันไร้ตัวตนฝ่าทะลวงม่านพลังของหม่าชิว หนิงเข้ามาแล้วลงมือตบอีกสองฉาด
เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!!
ร่างของหม่าชิวหนิงโงนเงนเสียหลักลงไปกองกับพื้นนางกระอักเืออกมาคำโต ในนั้นมีฟันสีขาวสองซี่หลุดปนออกมาด้วย นางกรีดร้องเสียงดังถูกตบไปหลายทีแต่ไม่สามารถมองเห็นว่าผู้ใดทำร้ายนาง
"ใครมันกล้าทำร้ายข้า"
หม่าชิวหนิงะโอย่างกราดเกรี้ยว
"ต้องเป็เ้าแน่นางเด็กปีศาจเ้าต้องใช้วิชามารบางอย่างทำร้ายข้า"
หม่าชิวหนิงชี้หน้าซินเยว่ชาวบ้านต่างหันมามองนางเป็ตาเดียว
"อ้าวๆ ท่านป้าเหตุใดใส่ร้ายข้าเช่นนี้ ชาวบ้านทุกคนก็เห็นว่าข้ายืนอยู่กับที่ตลอดเวลามิได้ขยับไปที่ใด ข้าว่าอาจเป็เพราะปากท่านเหม็นก็เป็ได้์จึงได้ลงโทษ พวกเ้าก็ระวังตัวเอาไว้ด้วยเล่าพูดเื่ที่ไม่เป็ความจริงระวัง์จะลงโทษเหมือนนาง"
ซินเยว่หัวเราะออกมาท่าทางสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อนกับท่าทางเกรี้ยวกราดของหม่าชิวหนิงและนางยังทำเหมือนเื่ที่ชาวบ้านมาชุมนุมที่หน้าเรือนของนางไม่ใช่เื่ของนาง
"นี่แล้วพวกเ้าทุกคนมาโวยวายที่หน้าบ้านของข้าด้วยเื่อันใด "
ซินเยว่ปรับสีหน้าให้จริงจัง เมื่อแกล้งหม่าชิวหนิงจนหนำใจพลังจิตของนางใช้ได้ดีจริงๆ โดยเฉพาะกับคนที่สติหลุดง่ายๆ เช่นหม่าชิวหนิง
"เ้าสองแม่ลูกต้องย้ายออกไปจากหมู่บ้านนี้"
