หลงอวี้ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าหลู่กวนิจะมาที่นี่ด้วย
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามา ยังไม่ทันได้พูดอะไรหลิงหานก็ได้เข้ามาต้อนรับอย่างอบอุ่นแล้ว
“สหายหลง ในที่สุดเ้าก็มาถึงเสียที! เื่ที่เกิดขึ้นที่ลัทธิสยบฟ้าเมื่อหลายวันก่อนข้าได้ยินหมดแล้วนะ ไม่คิดเลยว่าเ้าจะขึ้นสู่ขั้นเก้าได้แล้ว แม้แต่ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ก็ยังต่อกรได้!”
หลงอวี้มองดูหลู่กวนิที่อยู่ข้างๆ
หลิงหานกลับมาทีู่เาตระกูลหลิงก็นานมากแล้ว เห็นได้ชัดว่าหลู่กวนิต้องเป็คนเล่าเื่นี้ให้ฟังแน่
“ศิษย์พี่หลิงหาน ท่านรู้จักศิษย์พี่หลู่ด้วยหรือ”
หลงอวี้เอ่ยถาม
“อืม ศิษย์พี่หลู่เป็คนใจร้อน เถรตรงและชัดเจน ข้ารู้จักกับเขาั้แ่ก่อนหน้านี้แล้ว”
หลิงหานกล่าวขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ จากนั้นก็เหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงขมวดคิ้ว
“เพียงแต่เ้าหยางเทียนชั่วนั่นไม่รักดี กลับบอกว่าจะติดตามต้วนมู่ฉงหลงไปยังจุดที่สมบัติจะปรากฏ ไม่ร่วมทางกับพวกเรา”
หลู่กวนิผู้มีหน้าตาบึ้งตึงอยู่แล้วมีสีหน้าโมโห เห็นได้ชัดว่าการที่หยางเทียนชั่วและต้วนมู่ฉงหลงไม่มาที่นี่ทำให้เขาไม่สบอารมณ์อย่างมาก!
ก็แค่เข้าหาต้วนมู่ฉงหลงได้ไม่ใช่หรือ
มีสิทธิ์อะไรมาดูถูกเขากับหลิงหานกัน!
“เอาล่ะ ศิษย์พี่หลู่ ไม่ต้องโมโหไป ตอนนี้พวกเรามีสหายหลงอยู่ด้วยก็มากพอแล้ว”
หลิงหานหัวเราะพร้อมกับตบบ่าของหลู่กวนิ
“ก็จริง”
หลู่กวนิแย้มยิ้มอย่างจริงใจ มองไปทางหลงอวี้ด้วยแววตาที่แฝงความนับถือเล็กน้อย
ั้แ่ที่หลงอวี้พาอาจารย์ของเขาอวี้สุ่ยอวิ๋นมาถึงลัทธิสยบฟ้าเมื่อหลายวันก่อน อีกทั้งยังทำให้ผู้ที่คิดจะทำร้ายอาจารย์เขาอย่างอู่เจี้ยนซินถูกลงโทษ เขาก็รู้สึกเคารพนับถือในตัวหลงอวี้สุดขีด
อายุเพียงสิบแปดกลับก้าวขึ้นสู่วิถียุทธ์ขั้นเก้าได้แล้ว แค่เื่นี้ก็นับว่าไม่ธรรมดา ไม่ต้องพูดถึงเื่ที่ไม่ใช่แค่วิถียุทธ์ขั้นเก้าทั่วไปด้วย
แม้แต่ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นหนึ่ง เมื่ออยู่ต่อหน้าหลงอวี้ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!
“จริงสิ สหายหลง ข้าขอแนะนำให้เ้ารู้จักคนคนหนึ่ง”
หลิงหานเหมือนจะนึกอะไรได้ จึงแย้มยิ้มพร้อมกับชี้นิ้วไปทางสาวน้อยผู้หนึ่งที่อยู่ข้างๆ
“นางคือน้องสาวของข้า หลิงอีเยว่ เป็ลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้าเช่นกัน เพียงแต่ยังเป็แค่ลูกศิษย์ระดับล่างอยู่ เพิ่งขึ้นวิถียุทธ์ขั้นหกได้ไม่นาน”
“หลิงอีเยว่”
หลงอวี้พยักหน้า มองดูสาวน้อยผู้นั้นครู่หนึ่ง
พบว่าสาวน้อยผู้นั้นเป็ผู้หญิงตัวเล็กน่าเอ็นดูคนหนึ่ง ดวงตาเป็ประกายแวววาว หน้าตาสะสวย ดูท่าทางน่าจะอายุยังไม่ถึงสิบหกปี
ไม่คิดเลยว่า หลิงหานจะมีน้องสาวที่สวยและน่ารักขนาดนี้ด้วย อีกทั้งอายุก็ยังน้อยแต่กลับสามารถก้าวขึ้นสู่วิถียุทธ์ขั้นหกได้แล้ว พร์ไม่ได้ด้อยไปกว่าเฟิงเหยาเลย!
“เ้าน่ะหรือหลงอวี้ พี่ชายข้าเคยพูดถึงเ้าแล้ว ส่วนศิษย์พี่หลู่ถึงขั้นชมเชยเ้าเสียจนน่าอัศจรรย์เลย!”
หลิงอีเยว่มองหลงอวี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“พวกเราพูดเกินเหตุเกินไป ข้าก็แค่ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาแต่แค่ดวงดีเท่านั้น”
หลงอวี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“บางครั้ง ดวงก็นับเป็พลังอย่างหนึ่งเหมือนกัน แต่พึ่งดวงอย่างเดียว เดินทางบนเส้นทางแห่งวิถีวรยุทธ์ได้ไม่ไกลหรอกนะ”
ชายหนุ่มอีกคนภายในห้องโถงก็ได้ส่งเสียง
“ในเมื่อมากันครบแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางได้แล้วมั้ง?”
“ฮ่ะฮ่ะ ผู้นี้คือลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับที่ห้าของลัทธิสยบฟ้า เหยาเหยี่ยน ศิษย์พี่เหยา สามารถสร้างิญญาแท้ได้แล้ว เป็กำลังในการรบหลักของพวกเราครั้งนี้เลย”
หลิงหานรีบแนะนำให้หลงอวี้รู้จัก
เหยาเหยี่ยน?
หลงอวี้มองไปทางชายหนุ่มคนนั้น พบว่าเ้าเหยาเหยียนนั่นมีคิ้วคล้ายอินทรีย์ จมูกสูงโด่ง หน้าตานับว่าพอใช้ได้ เพียงแต่สีหน้าของมันกลับให้ความรู้สึกไม่เป็มิตรกับใครเลย
มั่นใจในตัวเองขนาดนี้เลย!
“ถ้าไม่ใช่เพราะข้าเห็นแก่หน้าของศิษย์น้องอีเยว่ล่ะก็ ข้าเหยาเหยียนไม่มีทางมาที่บ้านนอกห่างไกลความเจริญขนาดนี้หรอก และไม่มีทางร่วมกลุ่มกับคนอย่างพวกเ้าด้วย”
แววตาของเ้าเหยาเยี่ยนส่วนมากมักจะหยุดอยู่ที่หลิงอีเยว่ เวลามองดูหลงอวี้ หรือกระทั่งหลิงหานก็ยังมีท่าทางดูถูกดูแคลน!
ภาพลักษณ์ของเหยาเหยี่ยนในสายตาของหลงอวี้พลันย่ำแย่ทันที ลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับหนึ่งปู้สิงก็ยังไม่ถึงกับไม่เห็นหัวใครในสายตาเช่นนี้
เ้าเหยาเหยี่ยนเป็แค่ลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับห้า เพิ่งจะสร้างิญญาแท้ได้เท่านั้น แต่กลับหยิ่งลำพองตนขนาดนี้แล้ว!
“ถ้าเ้าไม่อยากมาก็ไม่ต้องมาสิ ข้าไม่ได้ขอให้เ้ามาเสียหน่อย”
หลิงอีเยว่ได้ยินเช่นนั้นก็กระแทกเสียงทันที ดูเป็เด็กดื้อน่ารักสุดขีด
“ศิษย์น้องอีเยว่อย่าเข้าใจผิดไป ไม่ว่าอย่างไรข้าเหยาเหยี่ยนก็จะอยู่ข้างกายเ้า คอยปกป้องเ้าตลอดเวลาเอง!”
เหยาเหยี่ยนพูดด้วยรอยยิ้มทันที เหมือนจะคิดพิศวาสกับหลิงอีเยว่ไม่น้อยเลย
หลงอวี้ที่เห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว
เ้าเหยาเหยี่ยนแค่เห็นก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไรแน่
กับน้องสาวของหลิงหาน หลิงอีเยว่นั้น หลงอวี้ไม่อยากเห็นนางตกลงไปในกับดัก
เห็นได้ชัดว่า หลิงอีเยว่ก็ดูจะไม่ใช่เด็กสาวใสซื่ออะไรแบบนั้น!
ถึงอย่างไรตอนอยู่ในตระกูลหลิง นางกับหลิงหานก็เคยผ่าน่เวลาที่ค่อนข้างจะยากลำบากมากก่อน ไม่มีทางเชื่อใจใครง่ายๆ เช่นนี้แน่
มีโอกาสสูงว่าหลิงอีเยว่นี่แคกำลังใช้งานเหยาเหยี่ยนเท่านั้น
เพียงแต่ว่า เหยาเหยี่ยนเป็ถึงยอดฝีมือระดับิญญาแท้ หากคิดจะทำร้ายหลิงอีเยว่จริงๆ อย่างนั้นหลิงอีเยว่ก็ไม่สามารถต่อต้านขัดขืนได้!
เื่พวกนี้หลงอวี้คิดในหัวเพียงครู่เดียว ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้สนใจไอ้เ้าเหยาเหยี่ยนนี่สักเท่าไร เขาหันไปถามกับหลิงหานว่า
“จริงสิศิษย์พี่หลิงหาน ข้ายังไม่รู้เลยว่าสมบัติล้ำค่าที่ว่ามันคืออะไรกันแน่?”
“แหล่งแร่ธาตุหยินแถบนี้ที่ตระกูลหลิงดูแลอยู่ นานทีปีหนจะมีเศษชิ้นส่วนจันทราปรากฏขึ้น เศษชิ้นส่วนจันทราที่ว่านี้ คือสมบัติที่ข้าพูดถึง”
หลิงหานมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา
“เศษชิ้นส่วนจันทราที่ปรากฏเมื่อห้าปีก่อนถูกโม่เฟิงิแห่งตระกูลเสนาบดีแห่งต้าถังตระกูลโม่เก็บไปได้ ทำให้เขาผงาดขึ้นมาเป็ใหญ่ั้แ่นั้น ตอนนี้กลายเป็หนึ่งในเก้ายอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่เก่งที่สุดของอาณาจักรต้าถัง อีกทั้งยังอยู่ในอันดับที่สามด้วย! แม้แต่ศิษย์พี่ปู้ก็ยังเอ่ยพูด เกรงว่าตัวเขาคงไม่สามารถต้านรับการโจมตีของโม่เฟิงิได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว!”
เศษชิ้นส่วนจันทรา!
หลงอวี้ขมวดคิ้ว
“เ้าเศษชิ้นส่วนที่ว่านั่นมันมีอะไรพิเศษหรือ”
หลิงหานได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้า
“ไม่รู้ เศษชิ้นส่วนจันทรานั่นข้าเองก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน ตัวข้าเมื่อห้าปีก่อนนั้นยังไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมกับลัทธิสยบฟ้าเลยด้วยซ้ำ แต่ได้ยินว่าเศษชิ้นส่วนจันทรานั่นมันเป็เศษชิ้นส่วนของแผ่นศิลาชิ้นหนึ่ง แฝงด้วยพลังงานของจันทรา”
“พลังของจันทรา”
หลงอวี้พยักหน้า ถ้าดูจากกลิ่นอายของแหล่งแร่ธาตุหยินแห่งนี้แล้ว จะให้กำเนิดสมบัติธาตุหยินออกมาก็ไม่ใช่เื่แปลกอะไร
ตอนที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เหยาเหยี่ยนที่อยู่ข้างๆ ก็ได้ลุกขึ้นพร้อมกับเหลือบมองมาทางเขา
“หลงอวี้ พวกเรารอเ้ามาหลายชั่วยามแล้วนะ ในเมื่อมาถึงแล้ว จะพูดพล่ามให้เสียเวลาอีกทำไม?”
“ถ้าเ้าอยากไปนักเ้าก็ไปก่อนเลยสิ”
หลิงอีเยว่ที่อยู่ข้างๆ กล่าวขึ้นเสียงเรียบ
“ไม่มีใครขอให้เ้าอยู่สักหน่อย!”
“ศิษย์น้องอีเยว่ที่ข้าพูดแบบนี้ ก็เพื่อประหยัดเวลาของทุกคนไม่ใช่หรือ”
เหยาเหยี่ยนรีบแย้มยิ้มทันที
“อย่างนั้นเ้าก็รออยู่เงียบๆ เถิด”
หลิงอีเยว่กระแทกเสียงเ็า จากนั้นก็หันไปมองทางหลิงหาน
“ท่านพี่ พวกเราจะออกเดินทางตอนนี้เลยหรือ”
“อืม ในเมื่อสหายหลงมาถึงแล้ว อย่างงั้นเราก็ไม่จำเป็ต้องอยู่ที่นี่ต่อแล้วล่ะ”
หลิงหานพยักหน้าไปพลางหันไปยิ้มขอโทษกับหลงอวี้
การที่เหยาเหยี่ยนหยิ่งยโสและทำตัวย่ำแย่กับหลงอวี้ขนาดนี้ หลิงหานก็คาดไม่ถึงเช่นกัน ตอนนี้เขาจึงได้แต่หวังว่าระหว่างทั้งสองจะไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นจนถึงขั้นปะทะกัน
หลงอวี้ย่อมไม่ทำให้หลิงหานต้องลำบากใจอยู่แล้ว
เขามองดูหลิงอีเยว่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าแม่หนูคนนี้ค่อนข้างน่าสนใจ ในความน่ารักมีความฉลาดและวุฒิภาวะสูงด้วย รวมกับพร์ในการฝึกฝนสูง ความสำเร็จในอนาคตต้องไม่ธรรมดาแน่
“อย่างนั้นพวกเราก็ออกเดินทางกันเลยเถิด”
หลงอวี้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอ่ยพูด
หลงอวี้ หลิงหาน หลิงอีเยว่ หลู่กวนิ แล้วก็เหยาเหยี่ยน ทั้งห้าคนได้รวมตัวกันพร้อมออกเดินทาง!
แต่ในตอนที่ทั้งห้าคนเดินออกจากห้องโถงมาถึงหน้าประตูของบ้านพักแล้ว พวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มคนขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งกำลังล้อมบ้าน!
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลู่กวนิเงยหน้าเห็นคนที่ไม่รู้จักกลุ่มหนึ่ง จึงรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
แต่หลงอวี้นั้นมองปราดเดียวก็เห็นคนรู้จักคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่ม หลิงเลี่ย!
ตอนอยู่ที่เมืองอวี้กวนนั้น หลิงเลี่ยที่ไม่มีความแค้นอะไรกับเขาเลยกลับคิดจะทำลายวรยุทธ์ของเขา ้าจะเอาชีวิตเขา! สุดท้ายมันกลับถูกเขาขยี้แขนข้างหนึ่งแทน!
หลังจากเฟิงอวิ๋นถูกฆ่า หลิงเลี่ยเองก็ย่อมต้องหนีกลับมาที่ตระกูลหลิงด้วยสภาพอนาถาอยู่แล้ว
และทันทีที่หลิงเลี่ยได้ข่าวว่าหลงอวี้มาทีู่เาตระกูลหลิง เขาก็รีบแจ้งให้คนอื่นๆ ในตระกูลหลิงรู้ทันทีแล้วรีบมาล้อมพวกหลงอวี้ไว้!
แขนข้างหนึ่งของหลิงเลี่ยกำลังห้อยลงมา เห็นได้ชัดเลยว่าทีู่เาตระกูลหลิงไม่ได้มียาวิเศษแบบผู้เฒ่าขาว ทำให้ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะรักษาแขนข้างนั้นจนหายดีได้
เขาจ้องเขม็งหลงอวี้ด้วยสีหน้าเคียดแค้นชิงชัง แต่ในแววตายังมีความหวาดกลัวแฝงอยู่ เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่หลงอวี้ทำกับเขาในวันนั้นมันฝังลึกลงไปในจิตใจเขาอย่างมาก
ส่วนด้านหน้าของหลิงเลี่ย เป็ชายวัยกลางคนที่ตัวสูงใหญ่คนหนึ่ง เขาเป็คนที่นำเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหลิงจำนวนมากมาล้อมบ้านพักไว้
ชายวัยกลางคนผู้นี้มีหน้าตาเหมือนหลิงเลี่ยราวกับแกะ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็บิดาของมันแน่นอน!
“ประมุข หลิงเทียนป้า”
หลิงหานส่งเสียงพูดขึ้นอย่างเ็า
“ข้าหลิงหานกลับมาครั้งนี้ยังไม่ได้ยุ่งวุ่นวายอะไรกับเ้าเลย แล้วเ้ามาล้อมพวกเราเอาไว้แบบนี้ทำไมกัน?”
ชายวัยกลางคนผู้นั้นคือบิดาของหลิงเลี่ย ชื่อหลิงเทียนป้า มันเป็ประมุขของตระกูลหลิงในตอนนี้!
คนผู้นี้มีวิถียุทธ์ขั้นเก้า เป็ผู้ที่มีระดับพลังสูงที่สุดในตระกูลหลิงแล้ว
ในดวงตาของหลิงเทียนป้าปรากฏแววตาดุร้าย
“เ้าไม่ได้ยุ่งอะไรกับข้าก็จริงอยู่ แต่ไอ้หนูที่อยู่ข้างๆ เ้าน่ะ มันเป็คนที่ขยี้แขนของพี่ชายเ้าหลิงเลี่ยทิ้งไปหนึ่งข้าง เ้าว่า มันนับเป็ศัตรูของตระกูลหลิงเรารึเปล่าล่ะ?”
“ฮ่าฮ่า!”
หลิงหานแผดเสียงหัวเราะดังสนั่น
“เื่ในเมืองอวี้กวนนั่นเป็เ้าหลิงเลี่ยมันทำตัวเอง ผู้คนต่างก็รู้กันดี บุตรไม่ได้ความเป็ความผิดของบุพการี เ้าที่เป็บิดาไม่อบรมสั่งสอน กลับยังคิดจะให้ท้ายมันอีกหรือ?”
“ไอ้ระยำ!”
คำพูดนี้ทำให้หลิงเทียนป้าโมโหเดือดดาลสุดขีด เบิกตาโตขึ้นราวกับลูกกระดิ่งก็ไม่ปาน
“ในฐานะที่เ้าเป็คนของตระกูลหลิง เ้ากลับช่วยพูดแทนคนนอกหรือ เ้าอยากโดนไล่ออกจากตระกูลหรืออย่างไร?”
“ไม่กล้าๆ ข้าก็แค่พูดความจริงเท่านั้นเอง”
หลิงหานเย้ยหยันขึ้นเสียงเรียบ
“ส่วนเื่ขับไล่ข้าออกจากตระกูลหลิงน่ะ หลิงเทียนป้า เกรงว่าเ้าจะไม่มีสิทธิ์!”
“หยุดพูดพล่ามได้แล้ว ที่ข้ามาครั้งนี้ไม่ได้เพื่อทะเลาะกับเ้า ส่งตัวไอ้หลงอวี้นั่นมา แล้วข้าจะปล่อยพวกเ้า ไม่อย่างนั้น อย่าหวังเลยว่าจะมีใครได้ออกไป!”
หลิงเทียป้าดุดันองอาจไม่ธรรมดา จ้องเขม็งหลงอวี้อย่างน่าเกรงขาม!
“แค่วิถียุทธ์ขั้นเก้า กลับยังกล้าพูดจาอวดดีเช่นนี้ ช่างน่าขันให้ฟันร่วงเลยจริงๆ!”
เหยาเหยี่ยนระดับิญญาแท้เอ่ยพูดอย่างดูแคลน
“เ้าคิดจะจัดการกับไอ้หลงอวี้ก็เื่ของเ้า แต่หากคิดขวางทางพวกข้ากับคนอื่นๆ แม้แต่ก้าวเดียว ข้าจะทำให้เ้าหัวหลุดจากบ่าเดี๋ยวนี้!”
คำพูดนี้เป็การแสดงเจตนาของตัวเองอย่างชัดเจน
เขา เหยาเหยี่ยนผู้นี้ จะไม่ช่วยเหลือหลงอวี้ แต่หลิงป้าเทียนก็อย่าคิดจะมาขวางทางเขา ทำให้เขาเสียเวลาเด็ดขาด!
“อย่างนั้นก็ดี พวกเ้าสี่คนไปได้แล้ว”
พอหลิงเทียนป้ามองเห็นเหยาเหยี่ยนมีกลิ่นอายระดับิญญาแท้อันทรงพลังแผ่ออกมาแล้ว ก็พลันทำให้เขาตื่นใ รีบโบกมือให้คนข้างหลังเปิดทางให้ทันที
เหยาเหยี่ยนเผยสีหน้าเหิมเกริมได้ใจ ราวกับกำลังบอกว่า ดูให้ดี นี่แหละข้อดีที่ได้จากความแข็งแกร่ง!
ส่วนหลงอวี้นั้น แม้ว่าจะมีข่าวลือแพร่ไปทั่วว่ามันสามารถสังหารยอดฝีมือระดับิญญาแท้ได้ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเป็เื่จริงแท้แค่ไหน?
ตอนนี้ แค่วิถียุทธ์ขั้นเก้าเพียงคนเดียวก็สามารถนำคนมาขวางทางหลงอวี้ไว้ได้
“เป็แค่หลงอวี้ จะเทียบกับข้าเหยาเหยี่ยนผู้นี้ได้อย่างไร!”
เหยาเหยี่ยนมั่นใจในตัวเองมากกว่าเดิม
