“เป็ไปไม่ได้! ’ผีมาเอาชีวิต’ ไม่มียาถอนพิษ จะต้องตายแน่นอน!”
อันหยางะโอ่างไม่เชื่อ เพราะคำพูดนี้ของฉินหลาง ทำให้เขารู้สึกแพ้อย่างราบคาบแล้ว ตอนแรกอันหยางคิดหลังจากวางยาพิษฆ่ารั่วปิน เท่ากับเขาชนะฉินหลางไปแล้วหนึ่งเกม นั่นทำให้เขารู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อย เขาไม่รู้ว่าการปะทะกับฉินหลางครั้งนี้ นอกจากเขาจะแพ้แล้ว เขายังแพ้อย่างราบคาบด้วย!
อันหยางใช้วิธีที่เหี้ยมโหดยึดครองเขาเฉิงซีกับเขตเฉิงเป่ยเมืองเซี่ยหยางได้ ก็ถือว่าใช้หมดทุกวิถีทางแล้ว แต่ฉินหลางแค่เพียงจัดการกับจางสางเลี๋ยงเท่านั้น ก็ทำให้อิทธิพลที่อันหยางสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบากนั้นสั่นคลอน และการกระทำครั้งนี้ ฉินหลางยังได้เปรียบเขาเยอะมาก เกมนี้อันหยางแพ้แล้ว
ใช้เจียงเสี่ยวฉิงเป็เหยื่อล่อเพื่อจัดการกับฉินหลาง แต่กลับโดนฉินหลางใช้แผนซ้อนแผน ดังนั้นเกมนี้ อันหยางก็ยังคงแพ้อยู่ดี
ที่ทำให้อันหยางเดือดมากก็คือ ผู้หญิงของฉินหลาง คนที่ชื่อรั่วปินไม่ได้เป็อะไรทั้งนั้น ไม่น่าล่ะไม่เห็นเ้าหมอนี่จะเสียใจเลยสักนิด เขามีความสามารถถอนพิษของ ‘ผีมาเอาชีวิต’ และยังถอนพิษหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นพิษกำเริบด้วย
แพ้! แพ้! แพ้!
ทำไมถึงมีแต่แพ้!
อันหยางรู้สึกว่าตัวเองแพ้ให้ฉินหลางอย่างราบคาบแล้ว
เพียงแต่ อันหยางรู้สึกว่าตัวเองยังมีหนทางจะชนะได้อยู่ เขากันมองชิงจิ้นที่หลบอยู่หลังเคาน์เตอร์บาร์ด้วยความกลัว เขาเดินไปข้างๆชิงจิ้น มืออีกข้างหนึ่งคว้ามือชิงจิ้นเอาไว้ กันไปด้วยกับฉินหลางพร้อมกับเสียงหัวเราะว่า “ฉินหลาง แกรู้จักแก๊งชิงหวนอยู่ใช่ไหม เ้าหมอนี่คือลูกชายของหัวหน้าแก๊งชิงหวน! ลูกชายเพียงคนเดียวด้วย! ฮึๆ…”
“พี่หยาง พี่จะทำอะไร?” เสียงหัวเราะของอันหยางทำให้ชิงจิ้นขนลุกไปทั้งตัว
“ให้แกถูกพิษเหมือนกัน!” อันหยางสบถเย็นเยือก ใช้แขนข้างที่ถูกพิษฟาดไปที่ใบหน้าของชิงจิ้นแรงๆ เพียงไม่นานาแที่อันหยางทิ้งไว้บนใบหน้าชิงจิ้นก็ถูกพิษแทรกซึมเข้าไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาบวมเป่งราวกับหัวหมู
“พี่หยาง…พี่…” ั้แ่เด็กชิงจิ้นก็ไม่ตั้งใจเรียนวรยุทธ์ นอกจากจะไม่ได้วรยุทธ์ของพ่อเขาแล้ว ขนาดความสามารถในการใช้พิษก็ไม่มี จะใช้เป็ก็แต่ยาเสียสาวหรือยาปลุกเซ็ก หรือยาสลบเท่านั้น ตอนนี้จู่ๆอันหยางก็จู่โจม ทำให้เขาตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
“ชิงจิ้น อย่าโทษฉัน! จะโทษก็โทษที่แกโง่เอง!”
อันหยางพูดเย็นเยือกอย่างไร้เยื่อใย จากนั้นจ้องฉินหลางพลางกล่าว “ฉันไม่มีทางแพ้หรอก! อีกแป๊บเดียว เ้าหมอนี่ก็ตายแล้ว มันตายเพราะถูกพิษ ชิงเฮ่อหยุนจะต้องคิดบัญชีนี้กับแกแน่! ฮึ ถึงตอนนั้นชิงเฮ่อหยุนจะต้องแก้แค้นให้ลูกชายมันแน่! แก๊งชิงหวน ไม่ได้จัดการง่ายขนาดนั้น! ฮึๆๆ…”
“อันหยาง แกบ้าไปแล้วเหรอ!” ชิงจิ้นตะคอกด้วยความโมโห “ฉันจะให้พ่อฉันฆ่าแกก่อน!”
ชิงจิ้นอยากโทรศัพท์ไปบอกพ่อเขาทันที แต่อันหยางหัวเราะเย็นเยือก เพียงหมัดเดียวชิงจิ้นก็สลบแล้ว
เพียงแต่ตอนนี้ พิษที่าแของอันหยางก็เริ่มจะกำเริบแล้ว กำลังค่อยๆลุกลามไปทั่วทั้งร่างกาย เขาะโบอกฉินหลางว่า “ตอนนี้ แกมาฆ่าฉันสิ!”
“ทำไมฉันต้องไปฆ่าแกด้วย” ฉินหลางพูดเย็นเยือก “ลิ้มรสความเ็ปตอนพิษกำเริบจนตายเถอะ! ความรู้สึกนั้น ทรมานไม่น้อยเลย!”
ฉินหลางไม่ได้ฆ่าอันหยางเลยทันที เขาเพียงแต่เอาปืนพกของอันหยางไปเท่านั้น เพราะว่าต่อให้เขาไม่ฆ่าอันหยาง อันหยางก็ต้องตายเพราะพิษกำเริบอยู่ดี และขั้นตอนยังเ็ปทุกข์ทรมานมากด้วย ตอนนั้นเขาคงได้สำนึกนความผิดที่เขาเคยได้ก่อ
สำหรับชิงจิ้น เ้าหมอนี่ก็เป็คนไม่ดี เคยใช้ยาทำลายผู้หญิงดีๆมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ตายก็สมควร แน่นอนว่าฉินหลางจะไม่ช่วยเขาอยู่แล้ง
“บาร์ปี่อัน…ปี่อัน ชื่อนี้ตั้งได้ไม่เลว”
ออกมาถึงหน้าประตูบาร์ ฉินหลางมองชื่อบาร์ ในใจอดคิดไม่ได้ว่า หลังจากเ้าสารเลวสองคนนี้ลงไปในนรกแล้ว คงไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาบนปี่อัน (ฝั่ง) อีกแล้ว
หลังจากที่ฉินหลางออกมาแล้ว ฮานซานฉางเดินเข้ามา พูดกับฉินหลางเบาๆว่า “ลูกน้องของอันหยาง จะจัดการยังไงครับ?”
“ไม่ต้องจัดการ ให้พวกมันมีหนทางรอดเถอะ อย่าลืมว่าตอนนี้พวกเราทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว” ฉินหลางเตือนฮานซานฉาง “นอกจากนี้ ฉันทำไปเพราะป้องกันตัว ส่วนชิงจิ้น เ้าหมอนั่นอันหยางเป็คนจัดการ ดังนั้น ต่อให้ตำรวจพบศพของพวกมัน ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรามาก”
“พี่ฉิน ผมไม่ห่วงพวกตำรวจ เพราะแก๊งชิงหวนต้องมาเก็บศพอยู่แล้ว—ผมเป็ห่วงชิงเฮ่อหยุนมากกว่า หลายวันนี้ผมให้คนไปสืบพื้นหลังของแก๊งชิงหวน คนพวกนี้จัดการยากจริงๆ!” ฮานซานฉางกล่าวเตือนฉินหลาง
“พอแล้ว เื่ของแก๊งชิงหวน เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง” ฉินหลางกล่าว “พรุ่งนี้ฉันจะไป ‘ไป้ซาน’ เอง แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งมารบกวนฉัน”
ฮานซานฉางมองเจียงเสี่ยวฉิงที่อยู่ข้างๆ เขนาตระหนักได้ว่าตัวเองเป็ส่วนเกินจริงๆ แอบถอนหายใจเบาๆ “พี่ฉินนี่โชคจริงๆ” จากนั้นก็เดินไปข้างๆ เริ่มเก็บกวาดสถานที่
ฉินหลางและเจียงเสี่ยวฉิงขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่ง หลังจากขึ้นรถแล้ว เจียงเสี่ยวฉิงกลับยังไม่มีเสียงตอบรับอยู่ดี ราวกับว่าเธอยังไม่ได้มีฟื้นกลับมา ฉินหลางจึงต้องภามก่อนว่า “เจียงเสี่ยวฉิง บ้านเธออยู่ไหนเหรอ?”
“อ๋อ…อยู่ในบริษัทผลิตเครื่องจักรหงซิง”
บริษัทผลชิตเื่จักรหงซิงอยู่ในเขตเฉิงซีของเมืองเซี่ยหยาง บ้านในบริเวณนั้นค่อยข้างเก้ามาก เพราะบริษัทผลิตเครื่องจักรนี้ใกล้จะเจ๊งแล้ว
เมื่อรถแท็คซี่มาถึงประตูทางเข้า ด้วยแสงรำไรริมทาง ฉินหลางเห็นประตูเหล็กปิดสนิท
บนป้อมยามหน้าประตู มีป้ายประกาศติดไว้ว่า “หลังจากห้าทุ่มแล้ว ปิดประตูครั้งละสองหยวน! จ่ายสด ห้ามติด!”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตอนนี้เลยห้าทุ่มไปตั้งนานแล้ว
“นี่! เปิดประตู!” ฉินหลางเคาะประตูเหล็ก แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับ ดูไปแล้วในป้อมยามน่าจะไม่มีคน
“ช่างเถอะ ไม่ต้องเรียกแล้ว ข้างในไม่มีคนแน่เลย” เจียงเสี่ยวฉิงพูดเบาๆ “เพราะว่าคนที่นี่งกมาก ตอนกลางคืนยามจะเก็บเงินไม่ค่อยได้ ตอนนี้น่าจะแอบหนีไปนอนแล้ว เฮ้อ ถ้าไม่กลับบ้านล่ะก็ พ่อกับแม่ต้องเป็ห่วงแน่ๆเลย และคง จะคิดฟุ้งซ่าน…”
“ไม่เป็ไร เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเอง” ฉินหลางพูดด้วยรอยยิ้ม
“แต่ประตูปิดหมดแล้ว จะกลับไปยังไง?”
“ก็ปีนกำแพงน่ะสิ” บนประตูเหล็กมีตะปูเล็กๆอยู่ แน่นอนว่าฉินหลางคงไม่เสี่ยวเป็ขันทีปีนจากตรงนี้หรอก เขาชี้ไปยังกำแพงที่อยู่ห่างจากประตูเหล็กไม่ไกล “เราไปปีนตรงนั้นเถอะ”
ที่เลือกบริเวณนี้ เพราะเศษแก้วที่อยู่บนกำแพงบริเวณนี้ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว แล้วดูเหมือนบริเวณนี้จะมีคนปีนบ่อยมาก ด้านล่างยังมีก้อนหินสองก้อนที่วางรองเอาไว้ เห็นได้ชัดว่ามีคนปีนบ่อยมาก
ยากที่จะจินตนาการณ์ ว่ายุคสมัยนี้ยังมีคนยอมปีนกำแพงเพื่อเงินสองหยวน
“ฉันน่าจะปีนขึ้นไปไม่ได้” เจียงเสี่ยวฉิงมองกำแพง สำหรับคนที่ไม่เคยปีนกำแพงมาก่อนอย่างเธอ กำปีนกำแพงสูงสองเมตรกว่านั้นยากมากๆ
“ไม่เป็ไร ฉันจะส่งเธอขึ้นไปเอง” ฉินหลางตบไหล่ของตัวเอง เป็สัญญาณว่าให้เจียงเสี่ยวฉิงเหยียบขึ้นไป
“ไม่ค่อยดีมั้ง?”
“ไม่มีอะไรไม่ดีหรอกน่า…เอ๋ ไม่ค่อยดีจริงๆ ด้วย” ฉินหลางเพิ่งจะตระหนักได้ว่าเจียงเสี่ยวฉิงใส่กระโปรงอยู่ นี่อาจเป็เพราะเธอต้องซ้อมเต้น เพียงแต่ถ้าเธอเหยียบไหล่ฉินหลางปีนกำแพง นั่นก็แปลว่าฉินหลางจะมีบุญตาได้เห็นอะไรต่อมิอะไรแล้วสิ? ดังนั้น ฉินหลางจึงรีบอธิบายว่า “เธอวางใจได้ ฉันไม่แอบดูเธอหรอก!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้