"คนขับรถกระบะนั่นใช่นงรึเปล่า? "
"เหมือนนะนังผัน อนงค์มันขับรถเป็ด้วยเรอะ?"
"นั่นมันรถครูใหญ่วินัยไม่ใช่เหรอ นังนงจะไปขับรถเขาได้ไง พวกเอ็งตาฝาดรึเปล่าวะ"
บรรดาป้า ๆ ในหมู่บ้านห้วยกกที่มักจะออกมานั่งคุยกันที่ลานชุมนุมประจำหมู่บ้านใน่บ่ายของทุกวัน ต่างวิจารณ์และตั้งคำถามกันอย่างอึงมี่ เมื่อเห็นรถกระบะสีแดงค่อย ๆ เลื่อนผ่านหน้าพวกตนไปอย่างช้า ๆ โดยมีคนขับเป็ผู้หญิงที่ดูคุ้นตาพวกเขามากเป็พิเศษ
"ข้าว่าใช่นังนงนะ คนนั่งข้าง ๆ นั่นก็ครูกานต์ไม่ใช่เรอะ แล้วทำไมเอารถครูใหญ่มาขับได้ล่ะ หรือจะไปธุระกันที่ไหน"
"โอ๊ย...ป้าผ่อง ป้าตกข่าวแล้ว" เสียงผู้หญิงวัยสามสิบกว่าคนหนึ่งพูดแทรกเข้ามา
"ตกข่าวอะไรวะ นังบัวบาน ไหนเล่าให้ข้าฟังซิ" ป้าผ่องหันมาสอบถามด้วยความสนใจ พลางลุกขึ้นไปจูงแขนบัวบานให้มานั่งด้วยกันที่แคร่อย่างเอาอกเอาใจเต็มที่ ขณะที่ป้าผัน ป้าตา และป้าสุขที่นั่งอยู่บนแคร่มาแต่แรกต่างหันมามองบัวบานอย่างสนใจ บัวบานเองก็นั่งลงอย่างเต็มใจ เพราะคันปากอยากเล่าเต็มที่แล้ว
"ก็รถคันนั้นครูกานต์ซื้อต่อจากครูใหญ่แล้วน่ะสิ เงินที่ซื้อก็เป็เงินที่กู้เขามานะ" บัวบานเล่าพลางบิดปากอย่างดูแคลน "นังนงมันอยากได้รถมาก มันจึงไปบังคับผัวให้ไปเป็หนี้เพื่อที่จะได้นั่งชูคอเป็หงส์ตอนขับรถแบบนี้ไงล่ะ" พลางใส่สีตีไข่เพิ่มความอร่อยให้กับเื่เล่าของตัวเองอย่างเต็มที่ “ครูกานต์ก็แสนดี ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่อยากเป็หนี้ แต่ทนเมียรบเร้าไม่ไหว ก็เลยต้องไปกู้เงินมาเพื่อซื้อรถ"
"ไฮ้! เอ็งเข้าใจผิดอะไรรึเปล่าวะ บัวบาน เท่าที่เห็น ข้าก็ว่านงมันเป็คนสบาย ๆ ไม่อยากได้ใคร่มีอะไรกับใครนะ" ป้าผันท้วงขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก
"ผิดอะไรล่ะป้า ถ้ามันไม่อยากได้ แล้วรถนี่จะโผล่มาได้ไง ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่าครูกานต์ไม่ชอบการเป็หนี้แค่ไหน คราวก่อนมีคนมาเสนอขายที่ดินราคาถูกให้ เห็นว่าถูกใจมาก แต่เพราะไม่มีเงินและไม่อยากกู้ แกเลยตัดใจไม่ยอมซื้อ คราวนี้ถ้าไม่เพราะนังนงมันดิ้นปัด ๆ อยากได้ ครูกานต์จะยอมเป็หนี้เรอะ!"
“มีเมียผิดคิดจนตัวตาย อีกหน่อยคนดี ๆ อย่างครูกานต์เป็ได้ล่มจมเพราะเมียแน่ เหอะ!!"
เมื่อพูดใส่ไฟเสร็จ บัวบานก็ลุกขึ้นและสะบัดตูดเดินจากไปพร้อมอารมณ์อิจฉาที่คุกรุ่นขึ้นมาอย่างรุนแรง
อนงค์เกิดมาเพื่อขัดแข้งขัดขาเธออย่างแท้จริง ั้แ่เด็กแล้ว ตอนเรียนก็สอบได้ที่ดีกว่า ตอนกานต์มาสอนที่นี่ใหม่ ๆ บัวบานให้ความสนใจเป็อย่างมาก คอยตามติด ให้ความดูแล อำนวยความสะดวกให้ตลอด แต่แล้วกลับไปตกบ่วงคนที่เป็คู่แข่งอย่างอนงค์ เมื่อรู้ข่าว ทำเอาเธอนอนซมลุกไม่ขึ้นไปหลายวัน
แต่เื่ที่เธอแค้นใจมากที่สุดคือแผงขายในตลาดประจำอำเภอ บัวบานสนใจและจ้องอยู่นาน เมื่อรู้ข่าวว่าแผงนั้นว่างเธอก็รีบไปติดต่อกับเ้าของตลาดทันที แต่ใครจะนึกว่าอนงค์รู้ข่าวล่วงหน้าอยู่แล้วจากสามีหล่อนที่ไปติดต่องานในตัวอำเภอเป็ประจำ และชิงตัดหน้าเช่าแผงไป ทำเอาบัวบานเจ็บแค้นมาก ไม่ยอมเหยียบเข้าไปในตลาดแห่งนั้นอีกเลย และถือว่าอนงค์คือศัตรูเบอร์หนึ่งที่คอยแย่งทุกอย่างไปจากเธออย่างแท้จริง
บรรดาป้า ๆ ที่นั่งอยู่ต่างพากันยิ้มเยาะอยู่ในใจ พวกนางอาศัยอยู่ที่นี่จนอายุได้ปูนนี้แล้ว ทำไมจะไม่รู้เบื้องลึกหนาบางในความแค้นที่บัวบานมีต่ออนงค์ แม้จะเห็นใจบัวบานอยู่บ้าง แต่ก็อย่างว่าแหละ บุญและวาสนาของคนเรามันไม่เท่ากัน
"นงมันอาจจำเป็ต้องเอามาใช้งานนะ ข้าได้ยินมาว่าตอนนี้มันเปลี่ยนมาขายไก่ทอดแล้ว ขายดิบขายดีเชียวล่ะ เพิ่มไก่เป็ว่าเล่น ซาเล้งน่าจะใส่ของไปขายไม่พอเลยต้องซื้อกระบะแทน" ป้าผันเดาได้เกือบใกล้เคียง
"ไก่อะไรขายดีขนาดนั้นวะ" ป้าสุขอดถามออกมาไม่ได้
"ข้าก็ไม่รู้ นังยากับนังรุ่งที่ไปขายผักที่นั่นเล่าให้ฟัง มีคนมุงรอซื้อไก่ทอดเต็มหน้าร้านทุกวัน ขนาดขายชิ้นละ 10 บาทนะ ยังขายดิบขายดี เจ็ดโมงครึ่งก็หมดแล้ว"
"ไก่บ้าอะไรวะ ชิ้นตั้ง 10 บาท ไก่เทวดาเรอะ?" ป้าตาที่นั่งฟังเงียบ ๆ มาตลอดถึงกับหลุดถามขึ้นมาด้วยความใ สำหรับนาง เงิน 10 บาทกินได้เป็สัปดาห์เชียวนะ
"เอ็งก็ลองไปซื้อกินดูสิ กินแล้วอาจกลายเป็นางฟ้าบน์เหมือนไก่ก็ได้นะ" ป้าผันสวนกลับทันที ทำเอาสองป้าถึงกับหัวเราะร่วนเสียงดัง ขณะที่ป้าตามองค้อนจนตากลับ
