เย่เฟิงตะลึงงัน ิญญาาพืชพรรณนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดไว้ หากคู่ต่อสู้ของเซี่ยเชียนชิวไม่แข็งแกร่งเท่าเขา เกรงว่าอีกฝ่ายคงถูกเถาวัลย์ของเซี่ยเชียนชิวฆ่าตายทั้งที่ยังไม่ลงมือด้วยซ้ำ
กลีบดอกไม้มหาศาลเข้าปกคลุมร่างเย่เฟิง พลางมีกลิ่นดอกไม้ตลบอบอวลทั่วอากาศ แต่เย่เฟิงรู้สึกไร้กำลังและมึนหัว
“กลิ่นดอกไม้นี้มีพิษ!” เย่เฟิงเข้าใจทันทีพร้อมปิดจมูกเพื่อไม่ให้ไอพิษเข้าสู่ร่างกายได้ ขณะเดียวกันกลีบดอกไม้พวกนั้นที่คมกริบดุจอาวุธก็จู่โจมอย่างบ้าคลั่ง
เย่เฟิงเพียงคิด ก่อนจะมีพลังหอกปะทุออกจากร่างแล้วกลายเป็รังสีหอกมหึมา จากนั้นเข้าปะทะกลีบดอกไม้พวกนั้น ตามมาด้วยเสียงปะทะดังสนั่น แต่ขณะเดียวกันเย่เฟิงก้าวออกมาพร้อมพลังดาราโคจรรอบกาย แผนที่ดาวขนาดใหญ่ปรากฏ แม้เขาจะอยู่ท่ามกลางทะเลกลีบดอกไม้ แต่กลับทำร้ายเขาไม่ได้
“นี่มันท่าร่างอะไรกัน?” เซี่ยเชียนชิวอึ้งไปชั่วขณะ เย่เฟิงผู้นี้ไม่เพียงแต่มีพลังโจมตีแกร่งกล้า แต่ยังมีเคล็ดวิชาท่าร่างที่ร้ายกาจ พลันเซี่ยเชียนชิวปล่อยฝ่ามือออกไป ปะปนกับทะเลกลีบดอกไม้ ทั้งยังแฝงด้วยกลิ่นหอมและเคลื่อนไหวอย่างสวยงดงาม แต่ในนั้นกลับอัดแน่นไปด้วยไอสังหารอันเย็นะเื
“หึ!” เย่เฟิงแค่นเสียงเ็า เขาไม่คิดว่าจะมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาคนไหนสามารถทัดเทียมกับพลังกายของเขา หรือเผชิญหน้ากันตรง ๆ ได้
จากนั้นเย่เฟิงปล่อยฝ่ามือภูผาพิฆาตที่ผสานด้วยเอกลักษณ์หอกออกไป ท่ามกลางอากาศต้องเต็มไปด้วยพลังหอก ทำให้ฝ่ามือทรงอานุภาพขึ้นหลายเท่า ตามมาด้วยเสียงะเิดังสนั่น ฝ่ามือทั้งสองปะทะกัน ส่งผลให้ถ้ำสั่นะเื เซี่ยเชียนชิวรู้สึกว่ามีพลังทำลายล้างกัดกร่อนร่างตัวเอง ทำให้นางตัวสั่นสะท้าน เซถอยหลัง และกระอักเืออกมา
“ให้ข้ารับผิดชอบผลที่จะตามมาเนี่ยนะ เ้ายังไม่มีคุณสมบัติพอ!” แววตาของเย่เฟิงเผยประกายเย้ยหยัน พลันก้าวออกไปอีกครั้งพร้อมปล่อยหมัด ก่อนจะโจมตีเซี่ยเชียนชิว แม้หญิงผู้นี้จะสวยงดงาม แต่ก็อารมณ์ร้ายเป็อย่างมาก ดังนั้นเย่เฟิงจึงไม่คิดจะออมมือ
เซี่ยเชียนชิวใ จากนั้นหลบหมัดของเย่เฟิงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนนางจะปล่อยพลังฝ่ามือออกไปอีกรอบ ครั้งนี้มีเถาวัลย์ที่พันรอบแขนของนางคอยคุ้มกันฝ่ามือนั้น ทำให้ทรงพลังกว่าเดิม จากนั้นเข้าโจมตีเย่เฟิงอย่างบ้าคลั่ง
เย่เฟิงแสยะยิ้ม เขาไม่ขยับตัวและปล่อยรังสีหอก สะบั้นเถาวัลย์ทั้งหมด จากนั้นเข้าประชิดตัวเซี่ยเชียนชิว เมื่อเซี่ยเชียนชิวรู้ว่าเย่เฟิงเคลื่อนไหวผิดปกติ จึงตวาดใส่เย่เฟิงอย่างเกรี้ยวกราด “ไร้ยางอาย กล้าดียังไงมาดูถูกข้าแบบนี้ ข้าจะฉีกร่างเ้าเป็พันหมื่นชิ้น!”
จากนั้นมือข้างหนึ่งของเซี่ยเชียนชิวส่องแสง ก่อนจะมีลำแสงสายหนึ่งพุ่งไปที่ลำคอของเย่เฟิง แต่เย่เฟิงเบี่ยงตัวหลบไปด้วยความเร็วสูง ขณะเดียวกันมือข้างหนึ่งของเขาดึงร่างของนางมาไว้ในอ้อมแขน ฉวยโอกาสนี้พาดผ่านตรงเนินอวบอิ่ม ก่อนจะคว้าลำคอของอีกฝ่าย ทำให้เซี่ยเชียนชิวตัวแข็งทื่อ นั่นเพราะนางอยู่ใกล้เย่เฟิงมาก กระทั่งััได้ถึงการเต้นของหัวใจ ดังนั้นนางจึงไม่กล้าขยับตัวและตอนนี้ชีวิตของนางก็ตกอยู่ในกำมือของเย่เฟิง
เซี่ยเชียนชิวเผยสีหน้าย่ำแย่พลางคิ้วขมวดแน่น นางเป็หนึ่งในสองหญิงงามแห่งสำนักยุทธ์เทียนเสวียน มีฐานะไม่ธรรมดา แต่ดูเหลาะแหละไม่เอาไหนแบบนี้ั้แ่เมื่อไร?
“สารเลว ปล่อยข้านะ!” เซี่ยเชียนชิวขึ้นเสียงใส่เย่เฟิงด้วยความโกรธเกรี้ยว
“เ้าอยากฆ่าข้าไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ลงมือล่ะ?” เย่เฟิงกล่าว จากนั้นฝ่ามือของเขาลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเซี่ยเชียวชิวอย่างไม่เกรงใจ เซี่ยเชียนชิวต้องตัวสั่นสะท้าน แต่กลับไม่กล้าขยับตัวสุ่มสี่สุ่มห้า เวลานี้นางตกอยู่ในกำมือของอีกฝ่าย หากสารเลวนี่ทำอะไรนาง นางคงไม่รู้จะต้องรับมืออย่างไรดี
“เ้าเป็ใครกันแน่?” เซี่ยเชียนชิวเอ่ยถามด้วยความโกรธเกรี้ยว สารเลวนี่เอาชนะนางภายในไม่กี่กระบวนท่า จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน นางจึงอยากรู้ว่าเขาเป็ใครถึงใจกล้าเพียงนี้
“มันสำคัญด้วยหรือ? มีสาวงามอยู่ข้างกายวิเศษจะตาย!”
เย่เฟิงกล่าวพลางยิ้ม ขณะเอาหน้าเข้าไปใกล้เซี่ยเชียนชิว แต่จู่ ๆ กลิ่นหอมลอยเข้าไปในจมูกของเย่เฟิง หนำซ้ำเย่เฟิงยังจงใจสูดมันเข้าเต็มปอด ทำให้เซี่ยเชียนชิวเผยสีหน้ารังเกียจ นางจะไม่ยอมศิโรราบให้เย่เฟิงเป็อันขาด
“สารเลว ถ้าเ้าขืนทำเช่นนี้ ข้าจะร้องให้คนอื่นช่วย!” เซี่ยเชียนชิวพยายามทำให้ตัวเองอยู่ห่าง ๆ เย่เฟิง
“ขอความช่วยเหลือ?” เย่เฟิงกล่าวพลางใช้นิ้วเกลี่ยใบหน้างดงามนั้น “ก่อนจะมีคนมาช่วย ข้าก็ทำอะไรได้หลาย ๆ อย่างแล้ว เ้าคงรู้ใช่ไหม”
เซี่ยเชียนชิวตัวสั่นเทา ด้วยสายตาของเย่เฟิง มันทำให้นางรู้สึกโกรธและหวาดกลัว
“ปล่อยศิษย์พี่ข้าเดี๋ยวนี้นะ!” ขณะนั้นหญิงสาวที่ถูกเย่เฟิงเหวี่ยงออกไปลุกขึ้นยืนและะโใส่เย่เฟิง
“ศิษย์พี่ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา จะให้คนต่ำต้อยอย่างเ้ามาดูิ่ความบริสุทธิ์ของนางได้เยี่ยงไร?”
“คนต่ำต้อย?” เย่เฟิงหันไปมองหญิงสาวคนนั้น พลันสายตาเปลี่ยนไปคมกริบดุจดาบที่เพิ่งออกจากฝัก ความเปลี่ยนแปลงกะทันหันนี้ทำให้เซี่ยเชียนชิวนิ่งงัน แต่กลับใเล็กน้อย อารมณ์และท่าทีของคนคนหนึ่งไม่นึกว่าจะเปลี่ยนแปลงในเวลาอันสั้นได้ คนที่ทำเช่นนี้จะธรรมดาได้อย่างไร?
“เ้าสองคนอยากแย่งถ้ำนี้ไปจากข้า จึงคิดลงมือจัดการ กลับหาว่าข้าดูิ่งั้นหรือ? ยิ่งกว่านั้นนางยังดูบริสุทธิ์ราวกับเทพธิดาในสายตาของเ้า แต่ในสายตาข้าก็เป็แค่คนหยาบคายเท่านั้น ข้าจะบอกอะไรให้ พวกเ้าอย่าคิดว่าตัวเองมีหน้าตาสะสวยแล้วพวกผู้ชายจะชอบทุกคน อย่างน้อยตอนนี้ข้าก็ไม่สนใจนาง ไสหัวไปซะ!” เย่เฟิงกล่าวเสียงเ็า นี่ทำให้หญิงสาวทั้งสองเผยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ราวกับความมั่นใจที่มีมลายหายไป
นางเซี่ยเชียนชิวเป็ถึงหญิงงามแห่งสำนักยุทธ์ ผู้ชายในสำนักยุทธ์ต่างไล่ตามนาง แต่บัดนี้นางถูกชายผู้หนึ่งดูิ่เหยียดหยาม หนำซ้ำชายผู้นี้ยังดูถูกว่านางหยาบคาย ไม่เหลียวแลนางแม้แต่นิดเดียว คำพูดพวกนี้กลับทลายความมั่นใจและความเย่อหยิ่งของนาง เย่เฟิงผู้นี้เห็นนางเซี่ยเชียนชิวเป็สิ่งใด ของเล่นหรือ? เซี่ยเชียนชิวจ้องเย่เฟิงตาเขม็งด้วยความเกลียดชัง
“คนสารเลว!” เซี่ยเชียนชิวกำหมัดแน่นพลางกัดฟันกรอด จากนั้นนางออกไปจากถ้ำนี้พร้อมกับศิษย์น้องของนางด้วยความรวดเร็ว
ขณะที่เย่เฟิงมองแผ่นหลังของหญิงสาวทั้งสองก็ระบายยิ้มอย่างไม่ตั้งใจ จากนั้นเขาก็กลับไปยังก้อนหินั์นั้นเพื่อบ่มเพาะพลังต่อ แม้เซี่ยเชียนชิวจะเป็หนึ่งในสองหญิงงามแห่งสำนักยุทธ์เทียนเสวียน แต่เย่เฟิงก็ไม่สนใจ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด จู่ ๆ สองเงาร่างปรากฏที่ด้านนอกถ้ำ ครั้งนี้เป็ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ซึ่งหญิงผู้นั้นคือศิษย์น้องของเซี่ยเชียนชิว ส่วนชายผู้นั้นเป็ชายหนุ่มรูปงาม ชายผู้นี้มีลมปราณแกร่งกล้า มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งสองเดินเข้าไปในถ้ำ ขณะนั้นชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวผู้นั้นว่า “คนที่รังแกศิษย์พี่อยู่ในถ้ำนี้หรือ?”
ดวงตาของหญิงสาววาบประกายแสงเยือกเย็น ก่อนกล่าวขึ้น “ศิษย์พี่ เขาอยู่ตรงนั้น”
หญิงสาวชี้นิ้วไปยังเย่เฟิงที่บ่มเพาะพลังอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่
“ศิษย์พี่ ท่านต้องช่วยล้างแค้นให้ศิษย์พี่หญิง!” หญิงสาวคนนั้นกล่าวขณะมือของนางจับแขนของชายผู้นั้น ท่าทีเช่นนั้นทำให้ยากที่จะปฏิเสธได้
“ศิษย์น้องไม่ต้องห่วง ศิษย์พี่คนนี้จะกำจัดเขาให้จงได้ แต่หลังจบเื่นี้ ศิษย์น้องจะขอบคุณข้าอย่างไร?” ชายหนุ่มกล่าวขณะมองเรือนร่างของหญิงสาวด้วยสายตาละโมบ ศิษย์น้องหญิงทั้งสองคนของเขาล้วนสวยงามทุกคน โดยเฉพาะเซี่ยเชียนชิว นางเป็คนที่น่าทึ่งมาก ซึ่งชายหนุ่มรู้ว่าเซี่ยเชียนชิวเป็ที่หมายปองของใครหลาย ๆ คน แต่คนระดับอย่างเขาทำได้เพียงมองดูเท่านั้น ส่วนศิษย์น้องเล็กคนนี้แม้จะด้อยกว่าเซี่ยเชียนชิว แต่ก็ถือว่าเป็หญิงงามที่หาพบได้ยาก หากตกอยู่ในกำมือของเขา เช่นนั้นเขาคงได้สนุกสุดเหวี่ยงอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าหญิงสาวรู้ความคิดของศิษย์พี่ตน นางไม่ปฏิเสธท่าทีละโมบของชายผู้นั้น นางยิ้มพลางกล่าวขึ้น “ข้ารู้ความคิดของศิษย์พี่ดี ไม่ช้าก็เร็วศิษย์น้องจะเป็คนของท่าน”
เพื่อที่จะกำจัดเย่เฟิง หญิงสาวถึงกับยอมสละร่างกายของตนให้ศิษย์พี่
“ดี ข้าจะจำคำของศิษย์น้องไว้!” ชายหนุ่มยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นเดินออกไป แต่ขณะนั้นเย่เฟิงได้หยุดบ่มเพาะพลังและมองชายหนุ่มที่กำลังเดินมาหาตนพลางแค่นเสียงหัวเราะ
“เ้าหัวเราะอะไร?” ชายหนุ่มเอ่ยถามเย่เฟิง
“ที่ข้าหัวเราะก็เพราะพวกเ้าที่ไม่รู้จักยางอาย ถึงกับเอาตัวเข้าแลก” เย่เฟิงยิ้มเย้ยหยัน
คำพูดของเขาคล้ายทิ่มแทงจุดสำคัญของอีกฝ่าย จู่ ๆ ทำให้ชายผู้นั้นและหญิงสาวผู้นั้นหน้าแดงก่ำพร้อมแสงเยือกเย็นปะทุออกจากดวงตา
“จะตายอยู่รอมร่อ กล้าดียังไงมาพูดจาโอหังต่อหน้าข้า!” ชายผู้นั้นกล่าวเสียงเย็นพร้อมพลังปราณพวยพุ่งออกจากร่าง
“ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่!” เย่เฟิงอึ้งไปชั่วขณะ เขารับรู้ได้ถึงพลังขั้นรวมชี่ในพลังปราณของชายผู้นี้ จึงอดอุทานไม่ได้
“นับว่าเ้าไม่โง่ แต่ข้าจะบอกอะไรให้ เสียใจตอนนี้ก็ยังทันนะ ถ้าเ้าคุกเข่าขอโทษข้าและทำลายการบ่มเพาะของตน ข้าจะปล่อยเ้าไป” ชายหนุ่มยิ้มได้ใจ เขานั้นบรรลุขั้นรวมชี่เมื่อครึ่งเดือนก่อน จนบัดนี้การบ่มเพาะของเขาเสถียรดีแล้ว ดังนั้นแค่เขาดีดนิ้วก็อาจจะสังหารเย่เฟิงที่อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 8 ได้แล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้