“ที่จริงแล้วพระองค์อาจจะทรงไม่เชื่อ แต่อย่างไรข้าก็ยังต้องบอกท่านอยู่ดี ข้าแอบได้ยินิเสวียนพูดคุยกับบริวารของเขา ซึ่งดูเหมือนเขากำลังมีแผนการร้ายอยู่”
ิอวี่พูดเสียงเข้มว่า “เดิมมีพระองค์คนเดียวเท่านั้นที่รู้วิธีการทำผลึกโลหิตเก้าโคจร แต่ในความเป็จริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลย ยังมีคนอื่นที่รู้วิธีการทำผลึกโลหิตเก้าโคจรเหมือนกัน เพราะเหตุนี้ ที่ิเสวียน้าเดินทางไปยังดินแดนอสูรว่านโซ่ว ก็เพราะ้าล่าหัวใจของอสูรร้ายระดับสิบเก้าตัว แต่เขาไม่ได้้ามอบหัวใจอสูรให้กับพระองค์!”
“เขา้าทำผลึกโลหิตเก้าโคจรขึ้นมา เพื่อตอบสนองความทะเยอทะยานของตัวเขาเอง!”
ิอวี่บอกเล่าเื่ที่น่าในี้ให้ิเฉินเหยียนฟัง เขารู้สึกเหมือนได้ยกูเาออกจากอกไปแล้ว
“เ้าหมายความว่า เสวียนเอ๋อร์คิดจะเก็บผลึกโลหิตเก้าโคจรไว้ใช้เองอย่างนั้นหรือ?” สีหน้าของิเฉินเหยียนนั้นเริ่มดูย่ำแย่
“ถูกต้องแล้ว เขาแค่้าให้พระองค์ ...”
“เ้าทำให้ข้าผิดหวังมาก”
ิอวี่กำลังคิดจะพูดอะไรอีก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าิเฉินเหยียนกลับส่ายหน้าแล้วถอนหายใจแทรกขึ้นมา
ิอวี่มองไปที่ิเฉินเหยียนด้วยความสงสัย เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ิเฉินเหยียนพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร
ิเฉินเหยียนพูดด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจังว่า “เ้าวิ่งมาหาข้ากลางดึกก็เพื่อใส่ร้ายเสวียนเอ๋อร์เนี่ยนะ?”
“อะไรนะ?” ิอวี่มองไปที่ิเฉินเหยียน ิเฉินเหยียนพูดอะไรนะ บอกว่าเขาใส่ร้ายิเสวียนอย่างนั้นหรือ?
ิอวี่ไม่ลังเลใจเลยที่จะถอดเสื้อตัวนอกและเกราะออก หน้าท้องที่มีรอยเท้าโผล่ออกมาให้ได้เห็น “เสด็จพ่อ นี่คือรอยเท้าที่ิเสวียนถีบข้าเมื่อครู่นี้ในป่าหลังวังหลวง เขาคิดว่าถีบข้าจนสลบไปแล้ว แต่ที่จริงเปล่าเลย ข้าบังเอิญได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกันทั้งหมด มันเป็เื่จริงทุกอย่าง!”
ระหว่างที่พูดเขาก็เปิดหัวไหล่ข้างที่มีรอยแผลสายฟ้าสีดำ แล้วพูดเสียงเข้มว่า “ิเสวียนมีร่างกายแห่งสายฟ้า นี่เป็าแที่เขาทำ ท่านลองมองดูให้ดีสิ”
เดิมิอวี่คิดว่าิเฉินเหยียนจะคิดได้ แต่สิ่งที่เขาได้กลับมากลับเป็สายตาที่ผิดหวังมากกว่าเดิมของิเฉินเหยียน
“เสวียนเอ๋อร์เป็คนมีพร์ความสามารถสูง จะลงมือทำร้ายคนอื่นได้อย่างไร อาการาเ็ที่หน้าท้องของเ้า ผู้กล้าที่อยู่ในสามร้อยอันดับแรกในวังหลวงก็ทำได้กันทั้งนั้น”
“แล้วก็าแจากสายฟ้าที่หัวไหล่ขวาของเ้า ขอแค่คนที่เรียนรู้ทักษะการต่อสู้ธาตุสายฟ้าก็สามารถทำได้เช่นกัน เท่าที่ข้ารู้ ผู้กล้าที่มีทักษะการต่อสู้สายฟ้านั้นมีอย่างน้อยก็สามสิบกว่าคน เ้าคิดว่าอาศัยหลักฐานแค่นี้ ก็จะยืนยันได้ว่าเป็เสวียนเอ๋อร์แล้วอย่างนั้นหรือ?”
ิเฉินเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็าว่า “อีกอย่าง เ้าบอกว่าเ้าได้ยินเสวียนเอ๋อร์พูดกับชายบริวารอีกคน ถ้าอย่างนั้นเ้าบอกข้ามาหน่อยสิว่า ชายชุดดำคนนั้นเป็ใคร? นอกจากข้าแล้ว จะเป็ใครที่รู้เคล็ดลับในการทำผลึกโลหิตเก้าโคจรอีก?”
ิอวี่ถอยหลังไปสองก้าว เขาพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นลงแล้วพูดอย่างอดทนว่า “พระองค์ลองคิดดูให้ดี ในหลายปีที่ผ่านมา ิเสวียนเป็ผู้กล้ามีพร์ที่ใครหลายคนพูดถึง เขามีพร์เหนือกว่าท่าน แต่ว่าทรัพยากรที่เขาได้รับในการฝึกกับอำนาจที่เขามีนั้นกลับเป็รองท่าน”
ระหว่างที่พูด ิอวี่ก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ที่จริงเขาไม่ได้พอใจกับสิ่งที่เขาได้รับเลย ความทะเยอทะยานที่เขามีมันมากจนพระองค์ทรงคาดไม่ถึงแน่!”
“วันนี้ในตำหนักหลงเถิง ทรงจำตอนที่เขาคุกเข่าลงได้ไหม? เขาบอกว่าหากทรงไม่รับปากให้เขาไปดินแดนอสูรว่านโซ่ว เขาก็จะไม่ยอมลุกขึ้นเด็ดขาด นั่นมันเป็การบังคับข่มขู่ให้ทรงกระทำการ ต่อให้เขาจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ยังมีตำแหน่งเป็แค่ขุนนาง จะให้ขุนนางมามีอำนาจเหนือกษัตริย์ได้อย่างไรกัน?”
ิอวี่พูดอย่างละเอียด เขานำสิ่งที่วิเคราะห์ได้จากการกระทำของิเสวียนพูดออกมาจนหมด
แต่ิเฉินเหยียนกลับตอบกลับมาแค่คำเดียว “เ้าพูดจบแล้วหรือยัง?”
“อะไรนะ?” ิอวี่อึ้งไป
“พูดจบแล้ว ก็ไปให้พ้น”
น้ำเสียงที่เ็าดังก้องในหู ิอวี่สีหน้าซีดขาว สายตาที่เขามองไปที่ิเฉินเหยียน ทำให้เขารู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า!
ิอวี่พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “ข้ามาบอกความจริงเื่นี้กับพระองค์ แต่กลับทรงบอกให้ข้า ... ไปให้พ้นอย่างนั้นหรือ?”
“เ้ายังไม่ยอมจบอีกใช่ไหม! เ้าเป็ถึงองค์ชาย การปรารถนาในอำนาจมันเป็เื่ปกติ แต่ว่าเ้าไม่ควรจะใส่ร้ายพี่ชายเ้าแบบนี้!”
น้ำเสียงของิเฉินเหยียนนั้นเ็าขึ้นเรื่อยๆ “ข้าไม่เห็นว่าเสวียนเอ๋อร์จะบีบบังคับข่มขู่ข้าตรงไหน แต่ข้ากลับเห็นว่าเ้าไม่ใส่ใจคำพูดของข้ามากกว่า บุกเข้ามาในตำหนักบรรทมของข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วยังกล้าบอกว่าเสวียนเอ๋อร์ทำร้ายจนเ้ามีสภาพแบบนี้อีก เ้ามันไม่ต่างกับเครื่องมือใส่ร้ายคนอื่นชัดๆ !”
เขาชี้หน้าิอวี่แล้วตะคอกใส่ว่า “เพื่อให้ร้ายเสวียนเอ๋อร์ เรียกร้องความสนใจจากข้า จนไม่สนใจความเป็สายเืเดียวกันแล้วใช่ไหม? เมื่อไหร่เ้าจะโตสักที?”
“เขาคิดจะสังหารพระองค์ แต่ท่านกลับออกหน้าแทนเขา! ทรงกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่!”
ิอวี่ดวงตาแดงก่ำ แทบจะเค้นเสียงออกมาจากลำคอ!
พูดจบ ิเฉินเหยียนก็ยกมือตบหน้าของิอวี่
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวก้องไปทั่งวังหลวง มันมาพร้อมกับเสียงหัวใจที่แตกสลายของชายหนุ่มเืร้อน!
ิอวี่ยืนอึ้งไป แล้วมองไปที่ิเฉินเหยียน “ท่าน ตบข้า?”
“ข้าตบให้เ้าได้สติ ไสหัวไป” พูดจบ ิเฉินเหยียนก็สะบัดชายเสื้อ คิดจะใช้ลมต้อนไล่ิอวี่ออกจากห้องไป
แต่ครั้งนี้ิอวี่โกรธมาก เืลมภายในร่างกายของเขามันพุ่งไปอยู่ที่หมัด แล้วซัดลมที่กำลังพุ่งมาที่ตัวเขาจนะเิออก!
เขามองไปยังชายแปลกหน้าที่อยู่ตรงหน้า เขายิ้มอย่างขมขื่น จากนั้นก็พูดขึ้นมาเหมือนคนเสียสติว่า “วันนี้ ข้ามาบอกท่านเื่นี้ ก็หวังว่าจะทรงกอบกู้ต้าิได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ทรงไม่เชื่อในสิ่งที่ข้าพูดเลยแม้แต่คำเดียว ในใจของท่านคงไม่เคยเห็นข้าเป็ลูกชายเลยสินะ”
“นี่คือท่าทางการพูดจากับข้าหรือ?” ิเฉินเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็า
“ั้แ่วันนี้ไป เราไม่ใช่พ่อลูกกันอีก ข้าไม่มีพ่อแบบท่าน” น้ำเสียงของิอวี่ฟังไม่ออกเลยว่ารู้สึกอย่างไร
ใจของเขาตายไปแล้ว จะไปมีความรู้สึกอะไรได้อย่างไรกัน?
“เ้าว่าอย่างไรนะ?”
ิเฉินเหยียนตกตะลึงมาก ิอวี่เป็องค์ชายสิบเจ็ด แค่ฐานะของเขาก็มีคนกว่าหมื่นคนแย่งชิงกันแทบเป็บ้าแล้ว เขาก็ไม่ได้ไม่ยอมรับในตัวของิอวี่ แต่ิอวี่กลับไม่รับเขาเป็พ่ออย่างนั้นหรือ?
“นี่ชุดคุ้มกันที่ทรงประทานให้ ข้ารับเกียรติยศแบบนี้ไม่ไหว ข้าขอคืนให้ท่าน” ระหว่างที่พูด ิอวี่ก็ถอดชุดคุ้มกันเกียรติยศประดับทองออกทีละชิ้นลงตรงหน้า
“แล้วก็ยังมีนี่ กระบี่เฟิงโหว ของขวัญวันเกิดอายุครบสิบสองปีที่ทรงประทานให้ ข้าเห็นมันเป็สมบัติล้ำค่ามาตลอด ตอนนี้ ข้าคืนให้ท่าน”
ิเฉินเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “เ้าวุ่นวายพอแล้วหรือยัง?”
ิอวี่ยิ้ม ท่าทางของเขาเ็าลงเรื่อยๆ เขาชักกระบี่ออกมาด้วยมือซ้ายแล้วใช้นิ้วขวาหนีบตัวกระบี่เฟิงโหวเอาไว้ แล้วใช้กำลังที่แรงที่สุดหักไปที่ตัวกระบี่ กระบี่เฟิงโหวหักออกเป็สองท่อน!
“กระบี่หักแล้ว ความเคารพสุดท้ายที่ข้ามีให้ท่าน จบลง ... แค่นี้”
ิอวี่หันหลังแล้วเดินออกจากตำหนักเฉินหลงไปทันที แผ่นหลังของเขาช่างเงียบเหงา มันหนาวเย็นมาก
เมื่อเห็นแผ่นหลังของิอวี่เดินจากไปแล้ว สายตาของิเฉินเหยียนสับสนมาก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าคำพูดของเขาในวันนี้จะมีผลที่ไม่เป็อย่างที่คิด และมันยังทำให้ิอวี่ทำเื่แบบนี้ออกมาอีกด้วย ดูท่าภายภาคหน้าเขาคงต้องสนใจการเติบโตของลูกมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นจะทำให้พวกเขาดื้อรั้น เดินไปในทางผิดได้
......
ห้องบรรทมขององค์ชาย ในตำหนักลั่วฮวา
ในเวลานี้ฝนด้านนอกยังคงตกหนักอยู่ ฟ้าร้องฟ้าผ่าสลับกัน ภายในห้องมืดสลัวไม่มีแสงไฟ กลิ่นสุราคละคลุ้งไปทั่วห้อง ิอวี่ยกสุรากรอกเข้าปากอย่างต่อเนื่องจนหมด
หญิงสาวสวมชุดดำหน้าตางดงามนั่งมองิอวี่อยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ นางยังคงสวยงดงามเหมือนเดิมถึงแม้จะอยู่ในความมืดก็ตาม เห็นแค่ครึ่งใบหน้าก็ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีมาก
นางก็คือเฮยจี ตอนที่ิอวี่เอาเหล้าฤทธิ์รุนแรงมากมาจากในครัวห้าไห เฮยจีก็ออกมาอยู่ข้างๆ เขาแล้ว เพราะพลังดวงิญญาของนางแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น เฮยจีจึงรับรู้ทุกอย่างที่อยู่ภายนอกได้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับิอวี่ก่อนหน้านี้ทั้งหมดนางก็รับรู้ได้
เฮยจีเห็นชายที่อยู่ตรงหน้าของนางเอาแต่เมาไม่พูดไม่จา ในใจของนางก็เ็ปอย่างมากเหมือนกัน
นางเข้าใจความรู้สึกของิอวี่ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องปลอบใจเขาอย่างไร ทำได้แค่มองิอวี่ดื่มเหล้าเมามายอยู่อย่างนี้
ถ้วยแล้วถ้วยเล่า ิอวี่ไม่รู้ว่าตัวเขานั้นดื่มไปมากแค่ไหน แต่คนที่มีร่างกายและสติแข็งแกร่งมากกว่าคนอื่นดื่มยังไงก็ไม่เมาสักที!
“ข้าก็แค่อยากเมา ทำไมมันถึงได้ยากเย็นขนาดนี้?”
ิอวี่บ่นพึมพำแล้วยกเหล้าขึ้นมาทั้งไห จากนั้นก็กระดกเข้าปากไม่หยุดจนเหล้าหกรดลงมาบนตัวของเขา แต่เขาก็ยังคงดื่มมันอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งดื่มจนหมดไหิอวี่ถึงได้รู้สึกว่าเริ่มเมาแล้วนิดหน่อย เขายิ้มมุมปากแล้วหันไปยิ้มให้กับเฮยจี “สภาพข้าแบบนี้ น่าเกลียดมากเลยใช่ไหม? ถ้าเ้าไม่ชอบก็อย่ามอง ไปเอาเหล้ามาให้ข้าอีก!”
เฮยจีเปิดเหล้าอีกไหที่อยู่ข้างๆ มาวางบนโต๊ะ “ข้าดื่มเป็เพื่อนเ้าเอง” จากนั้นนางก็รินเหล้าลงในถ้วยแล้วดื่มเป็เพื่อนิอวี่
ก็ไม่รู้ว่าดื่มไปมากแค่ไหน จนกระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วยาม การดื่มอย่างเอาเป็เอาตายแบบนี้ถึงได้จบลง
ถึงแม้ิอวี่จะรู้สึกว่าเมาแล้วนิดหน่อย แต่สายตาของเขานั้นกลับหยุดอยู่ในห้วงเวลาเดิมๆ เขาเอาแต่นึกย้อนถึงภาพสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ชักดาบตัดน้ำน้ำยิ่งไหล ใช้สุราแก้กลุ้มยิ่งกลุ้มหนัก เขาลืมสิ่งที่เกิดขึ้นพวกนั้นไม่ได้ แต่กลับยังจำมันลึกซึ้งมากขึ้นอีก
ในฐานะพ่อของเขา ความเ็าเฉยเมยที่ิเฉินเหยียนมีต่อเขา การตัดสินทุกอย่างผิดพลาดและความทนงตน และคำพูดที่ดูถูกเหยียดหยามของเขา ...
เ้าทำให้ข้าผิดหวังมาก!
เ้าพูดจบแล้วหรือยัง? พูดจบแล้วก็ไปให้พ้น
เพื่อให้ร้ายเสวียนเอ๋อร์ เรียกร้องความสนใจจากข้า จนไม่สนใจความเป็สายเืเดียวกันแล้วใช่ไหม? เมื่อไหร่เ้าจะโตสักที!
คำพูดพวกนี้เหมือนมีดดาบที่ทิ่มแทงไปในใจของิอวี่ และภาพที่ไร้เยื่อใยนั้นมันยิ่งทำให้เขาใจสลาย
ิอวี่ดวงตาแดงก่ำ ปลายตาของเขาเหมือนมีประกายขึ้นมาบ้างแล้ว
“ ... ยังจะดื่มอีกหรือ?” เฮยจีแก้มแดง นางอยู่ในสภาพร่างแปลงิญญา แต่เหมือนจะสู้ฤทธิ์เหล้าไม่ไหว
“ไม่แล้วล่ะ ... ”
ิอวี่ส่ายหน้า เขาสะอื้นแล้วพูดว่า “ต่อให้ดื่มมากแค่ไหน ก็ลืมไม่ได้อยู่ดี”
“แล้วเ้าจะทำอย่างไรต่อไป? พาท่านป้าออกจากวังหลวง ไปจากราชวงศ์ต้าิ ไปหาสถานที่ห่างไกลอาศัยกันดีไหม?” เฮยจีเสนอ
ซึ่งในความเป็จริงแล้ว มีแค่วิธีนี้เท่านั้นถึงจะปลอดภัยมากที่สุด
ิอวี่พยักหน้า แต่จากนั้นก็ส่ายหน้า “หลังจากนี้อีกครึ่งปี หากิเสวียนได้ผลึกโลหิตเก้าโคจรมาและสามารถทะลวงไปถึงขอบเขตอมฤตได้ ใต้หล้านี้ก็จะเกิดความวุ่นวาย หากข้าไปทันทีในตอนนี้ อย่างไรก็รักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ได้ แต่ว่าขุนนางทั้งหมดในต้าิจะต้องถูกกวาดล้าง ถึงเวลานั้นก็จะเกิดการนองเื ข้าจะทนเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นโดยไม่สนใจใยดีได้จริงหรือ?”
“ข้า ... ทำไม่ได้”
คิดอยู่อย่างนั้นนานมาก ิอวี่พยายามต่อสู้อยู่กับตัวเอง แต่สุดท้ายก็ยังได้คำตอบแบบนี้ออกมาเหมือนเดิม
“เ้าแน่ใจแล้วใช่ไหม ... ” เฮยจีขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยปากถามด้วยความเป็ห่วง
ิอวี่พยักหน้า “ข้าแน่ใจ ข้าจำเป็ต้องช่วยราชวงศ์ต้าิ จะให้ใครมาทำลายมันไม่ได้เด็ดขาด!”
หลังจากที่เสียใจอย่างถึงที่สุดไปแล้ว ิอวี่ก็เกิดไฟลุกโชนขึ้นมาในใจด้วยความปรารถนาในความสามารถ มีเพียงความสามารถเท่านั้นถึงจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างนี้ได้ เขาถึงจะมีสิทธิปกป้องคนข้างกายของเขาได้!
ิเฉินเหยียนหน้ามืดตามัว ถ้าเช่นนั้นทุกสิ่งทุกอย่างนี้เขาจะเป็คนเปลี่ยนแปลงมันเอง!
บนตารางอันดับนักรบสามร้อยอันดับแรกล้วนมีแต่ยอดฝีมือ แต่ละคนมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าิอวี่ทั้งนั้น สิบองครักษ์หน้าพระที่นั่ง ผู้าุโในตระกูล ผู้นำตระกูลใหญ่ต่างๆ แต่ละคนล้วนแต่ประมาทไม่ได้เลย ในวังหลวงต้าิ องค์หญิงเจ็ดิเยวี่ย องค์ชายสามิอู่ ก็ล้วนแต่เป็ยอดฝีมือ
ขุนพลสร้างแผ่นดินสามคนก็ล้วนไม่ใช่คนธรรมดา แต่ละคนล้วนแต่เป็ทหารผ่านศึกเืทั้งนั้น!
และคนที่มีพร์ที่สุดก็คือิเสวียน เขามีพลังเทียบเท่าราชสีห์เก้าพันแปดร้อยห้าสิบตัว มีร่างแห่งสายฟ้า เป็เทพแห่งกระบี่ มีเกียรติยศมากมาย!
อัจฉริยะปีศาจแบบนี้นี่แหละ ที่้าปลิดชีวิตเขาในอีกครึ่งปีข้างหน้าเช่นกัน! แล้วเขาจะนั่งรอความตายแบบนี้ได้อย่างไร!
คนพวกนี้เมื่อรวมกันแล้วก็เหมือนกับมีูเาน้ำหนักกว่าร้อยล้านตันตั้งอยู่ตรงหน้า ทำให้เขาไม่สามารถข้ามผ่านมันไปได้
แต่ิอวี่ก็มั่นใจในความสามารถและพร์ของตัวเองมากเหมือนกัน เพียงแต่เขาไม่มีเวลาให้ได้เติบโต เขาเพิ่งจะฝึก “เคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูง” ไปได้แค่หกกระบวนท่าเท่านั้นเอง แล้วยังไม่มีใครรู้เลยว่าสามกระบวนท่าสุดท้ายของ “เคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูง” นั้นมันแข็งแกร่งและน่ากลัวมากแค่ไหน!
“ในเมื่อข้าไม่อาจนิ่งดูดายได้ ถ้าอย่างนั้นข้าก็จำเป็จะต้องไปฝึกฝนในดินแดนอสูรว่านโซ่ว ถึงแม้มันจะอันตรายมาก แต่ข้าจำเป็จะต้องไล่ตามิเสวียนให้ทัน ... เืหัวใจอสูรเก้าตัวนั่น ข้าไม่มีทางให้ิเสวียนได้มันไปครบแน่!”
เมื่อเห็นความมุ่นมั่นตั้งใจแน่วแน่ของชายหนุ่ม เฮยจีทำได้แค่ยิ้มอย่างจนใจ
แต่ในเวลานี้เอง แสงสีฟ้าอ่อนๆ ก็ส่องประกายขึ้นมาในมือของิอวี่ อุณหภูมิในห้องลดลงทันที บัวหิมะน้ำแข็งสีน้ำเงินดอกหนึ่งก็ปรากฏขึ้นและหมุนวนอยู่ และหลังจากนั้นบัวหิมะน้ำแข็งสีน้ำเงินอีกดอกก็ปรากฏขึ้นมาในมือเช่นกัน!