“ บังอาจ! ”
มองเห็นว่าหลานตัวเองาเ็หนักจนลงไปนอนกองอยู่กับพื้น เนี่ยเป่ยชวนก็กลั้นโทสะไว้ไม่ไหว พรวดพราดออกไป
สายฟ้าเส้นหนึ่งวาบผ่าน เนี่ยเป่ยชวนก็มาปรากฏร่างอยู่ข้างกายเนี่ยหงแล้ว เขาย่อตัวลงประคองเนี่ยหงขึ้นมา กดมือลงไปตามกระดูกตำแหน่งเอวและหน้าอกของเนี่ยหง
เนี่ยหงััได้ถึงความอุ่นร้อนจากพลังิญญาระลอกหนึ่งที่อุ่นวาบไปทั่วหน้าอก ความเ็ปของเขาพลันลดลงทันที จึงอดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงร้องเรียกเบาๆ อย่างกล้ำกลืนออกมา “ท่านปู่...”
เนี่ยเป่ยชวนเงยหน้า ดวงตาเย็นะเืจ้องเขม็งไปที่เนี่ยเทียนซึ่งมีสีหน้าฉงนสนเท่ห์ ยังคงพยายามัักับพลังลึกลับเมื่อครู่นี้ แล้วกล่าว “สารเลว! คนในตระกูลไม่ห้ามให้ต่อสู้กันก็จริง แต่ใครอนุญาตให้เ้าลงมือโเี้ถึงเพียงนี้?”
ไม่รอให้เนี่ยเทียนตั้งตัวทัน เขาก็ใช้สายตาดุร้ายกวาดมองไปยังอู๋เทาที่ท่าทางกระอักกระอ่วนถึงขีดสุด ตวาดต่อว่า “แล้วก็เ้าอีกคน ตัวเป็ขุนนางต่างรัฐประจำตระกูล มัวนั่งซื่อทำสิ่งใดอยู่?! เห็นๆ อยู่ว่าเนี่ยเทียนลงมืออย่างทารุณคิดคร่าชีวิต ทำไมถึงไม่รีบขัดขวางเอาไว้? ตระกูลเนี่ยของพวกเรารับสมัครเ้ามาเพื่อเลี้ยงเ้าให้เสียข้าวสุกอย่างนั้นหรือ?”
“นี่...” อู๋เทาได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
“ท่านปู่รอง เนี่ยหงคิดจะทำร้ายคนอื่นก่อน เื่นี้ไม่เกี่ยวกับท่านอู๋” เนี่ยเสียนทนมองต่อไปไม่ไหว พยายามช่วยอู๋เทาอธิบาย
ความเป็มาของเื่ราว เขาเห็นชัดเจนอยู่กับตา ตอนนั้นที่เนี่ยหงคิดจะโจมตีลงไปบนหัวใจของเนี่ยเทียน เขารู้ว่าอู๋เทาได้ใช้สายตาสอบถามท่าทีของเนี่ยเป่ยชวนก่อนแล้ว ทว่าตอนนั้นเนี่ยเป่ยชวนมิได้พูดสิ่งใด เห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะห้ามปราม
ภายหลังเมื่อเนี่ยเทียนะเิพลังขึ้นมาอย่างกะทันหัน คล้ายว่าได้รับพลังจากเทพ ทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เร็วจนอู๋เทาไม่มีเวลาเข้าไปขัดขวาง
อย่างไรเสียเนี่ยเสียนก็ยังคงเป็เด็กหนุ่มอารมณ์ร้อน รู้ทั้งรู้ว่าช่วยพูดให้อู๋เทาไม่เป็การดี ทว่าก็ยังคงอดใจไม่ได้
“ธุระกงการอะไรของเ้ารึ?” เนี่ยเป่ยชวนแค่นเสียงเ็า เหลือบมองเนี่ยเสียนหนึ่งครั้ง “เ้าคิดว่าเ้าเป็ใคร? เ้าก็แค่ลูกหลานของญาติห่างๆ ตระกูลเนี่ยเพียงเท่านั้น คิดจะมีสิทธิ์มีเสียงพูดอย่างนั้นหรือ รอให้เ้าฝ่าทะลุหลอมลมปราณขั้นเก้าได้จริงๆ ก่อนเถอะ เหยียบย่างเข้าสู่สำนักหลิงอวิ๋นเมื่อไหร่ค่อยมาพูดกับข้า!”
คำพูดนี้เปล่งออกไป บนใบหน้าอ่อนเยาว์ของเนี่ยเสียนพลันเดือดดาลขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
ทว่าเมื่อเขาคิดอย่างรอบคอบแล้วจึงเลือกที่จะข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้ รู้ว่าอู๋เทาพูดถูก หากเขายังไม่ได้เป็ลูกศิษย์สำนักหลิงอวิ๋น คำพูดของเขาจึงยังไม่มีน้ำหนักใดๆ ในตระกูลเนี่ยแห่งนี้
โดยเฉพาะเป็ไปได้ว่าภายในหนึ่งถึงสองปีนี้เนี่ยเป่ยชวนจะกลายมาเป็ประมุขของตระกูลเนี่ยแทนเนี่ยตงไห่อย่างแท้จริง
คนหนุ่มสาวตระกูลเนี่ยหลายคนที่ยังมีใจบริสุทธิ์รักในคุณธรรม เดิมคิดจะพูดความจริงที่พวกเขาเห็นออกมาอย่างเนี่ยเสียน ทว่าพอเห็นว่าแม้แต่เนี่ยเสียนที่มีความสามารถมากที่สุด มีอนาคตกว้างไกลมากที่สุดในบรรดาพวกเขาก็ยังโดนอิทธิพลของเนี่ยเป่ยชวนข่มทับได้ จึงไม่กล้าพูดสิ่งใดออกมา พากันปิดปากเงียบสนิท
“ท่านปู่รอง คือว่า... เนี่ยหงเป็คนท้าทายข้าเอง เมื่อครู่เขาก็เป็ฝ่ายทำผิดกฎของตระกูล โดยลงมือกับข้าอย่างรุนแรงก่อนอีกด้วย” เนี่ยเทียนที่ฟื้นคืนสติมาจากความสับสน คล้ายเข้าใจสภาพปัจจุบันที่ตัวเองต้องเผชิญอยู่ จึงยืดอกตั้ง พูดเสียงดังฉะฉานองอาจ
“ท่านปู่ เมื่อครู่นี้ข้าก็แค่อยากจะขู่เขาเพียงเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทำร้ายเขาาเ็จริงๆ!” เนี่ยหงกัดฟัน ถลึงตาดุดันใส่เนี่ยเทียน พูดอย่างปลิ้นปล้อนว่า“ก่อนหน้าที่พลังของข้าจะกระแทกลงบนหน้าอกของเขามันก็หายไปก่อนแล้ว ข้าคิดไม่ถึงสักนิดเลยว่า เขาจะฉวยโอกาสตอนที่ข้าหยุดมือ ไม่ทันได้ตั้งตัว โจมตีกลับอย่างเหี้ยมโหดเช่นนี้!”
“ไร้ยางอายเสียจริง!”
เด็กตระกูลเนี่ยหลายคนที่ล้อมวงดู เวลานี้ต่างก็ะโร่ำร้องอยู่ในใจ แอบดูแคลนเนี่ยหงที่บิดเบือนความจริง
พวกเขาต่างเห็นชัดเจนถึงดวงตาที่ฮึกเหิมและสะใจอย่างบ้าคลั่งตอนที่เนี่ยหงลงมือโจมตีเป็ครั้งสุดท้าย ไฉนเลยจะมีความคิดอยากหยุดการลงมือเล่า?
เดิมทีเนี่ยหงคิดจะทำให้เนี่ยเทียนาเ็หนักเพื่อชะล้างความอัปยศที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับเนี่ยเทียนมาหลายปี เห็นๆ อยู่ว่าตอนนั้นเขาทุ่มเทสุดพลังความสามารถแล้ว จะยอมล้มเลิกกลางคันได้อย่างไร?
“เมื่อครู่เ้าคิดจะทำอะไร ตัวเ้าเองรู้ดีที่สุด!” เนี่ยเทียนตวาดใส่
“หุบปาก!” เนี่ยเป่ยชวนตวาดเสียงหนัก ตัดบทคำพูดของเนี่ยเทียน จากนั้นก็มองไปทางอู๋เทาด้วยดวงตาที่เ็าแล้วกล่าวว่า “ขั้นตอนระหว่างนั้นเป็เช่นไรไม่สำคัญ ผลที่เห็นกันในตอนนี้ก็คือเนี่ยเทียนไม่แยแสกฎของตระกูล ใช้วิธีการชั่วร้ายทำร้ายเนี่ยหง นายท่านอู๋ ท่านคือขุนนางต่างรัฐของตระกูลเนี่ย ตามกฎของตระกูลแล้วควรจะลงโทษเนี่ยเทียนอย่างไร?”
“ขับไล่ให้ไปอยู่ในถ้ำขุดแร่ที่เขาหลิงอวิ๋นสามปี” อู๋เทาตอบเบาๆ หนึ่งประโยค ในใจเต็มไปด้วยความขมปร่าและจนใจ แววตานั้นเต็มไปด้วยความขออภัยและรู้สึกผิด
“เนี่ยเทียนเพิ่งจะอายุสิบขวบเพียงเท่านั้น!”
“อายุสิบขวบก็ขับไล่ให้ไปอยู่ถ้ำขุดแร่เขาหลิงอวิ๋น เวลาสามปีก็เหลือเฟือแล้ว เดิมทีความคืบหน้าในการฝึกตบะของเขาก็เป็ไปอย่างเชื่องช้าอยู่แล้ว ไปเสียเวลาอยู่ในถ้ำขุดแร่อีกสามปี เกรงว่าคงไม่มีความหวังเหลือว่าจะได้รับความโปรดปรานจากสำนักหลิงอวิ๋นอีกแล้ว”
“อายุสิบปีถูกขับไล่ให้ไปอยู่ถ้ำขุดแร่ ทั้งยังต้องอยู่ถึงสามปี คราวนี้เนี่ยเทียนตายแน่”
“อืม ชีวิตนี้ของเขาไม่มีความหวังที่จะฝึกได้ถึงหลอมลมปราณขั้นเก้าก่อนอายุสิบห้า และถูกสำนักหลิงอวิ๋นรับเป็ศิษย์แล้ว”
“ไม่ใช่เพียงเท่านี้ ที่ถ้ำขุดแร่แห่งนั้น มีคนตายอยู่เป็ประจำ เนี่ยเทียนเพิ่งอายุสิบปีเท่านั้น ไปอยู่ถ้ำขุดแร่สามปี ข้าว่าเขาคงไม่สามารถมีชีวิตรอดออกมาได้อีกแล้ว!”
“โหดร้ายเกินไปหรือไม่?”
“...”
คนหนุ่มสาวเ่าั้ เดิมทีไม่กล้าออกปากออกเสียง พอได้ยินวิธีการลงโทษเช่นนี้ หลายคนที่ไม่ชอบเนี่ยเทียนก็ยังอดโวยวายขึ้นมาไม่ได้
“ตื่นเต้นกันนักหรืออย่างไรกัน? หรือว่าพวกเ้าก็อยากไปอยู่ถ้ำขุดแร่สามปีอย่างเนี่ยเทียนเหมือนกันรึ?” น้ำเสียงเนี่ยเป่ยชวนนั้นดูเ็า
คนหนุ่มสาวตระกูลเนี่ยที่เดิมทีเจ็บแค้น พอได้ยินประโยคนี้ก็พากันเงียบเสียงลง กล้าทำสีหน้าเดือดดาลทว่าไม่กล้าพูด
“ไปก็ไปสิ สามปีก็สามปี มีสิ่งใดที่น่ากลัวนักหนารึ!” เนี่ยเทียนะโขึ้นมาอย่างไม่รู้ที่ตาย
“นายท่านอู๋ จัดการตามกฎของตระกูลก็แล้วกัน!” เนี่ยเป่ยชวนกล่าวอย่างช้าๆ
เวลานี้เอง เนี่ยตงไห่ที่รีบลงมาจากแท่นสูงของตำหนักหิน ในที่สุดก็เดินมาถึง
หากเป็เมื่อก่อน ถ้าได้ยินคำตัดสินลงโทษเช่นนี้ของเนี่ยเป่ยชวน เขาก็คงะโลงมาเผยร่างบนลานกว้างได้ในพริบตาเดียว
ทว่าตอนนี้ เขาทำได้เพียงเดินลงมาทีละก้าว จำเป็ต้องใช้เวลาและพลังกายมากมาย ถึงจะตามมาทันในขณะที่เื่ราวยังไม่เลวร้ายถึงขั้นแก้ไขไม่ได้
“ท่านประมุข” อู๋เทากล่าวนอบน้อม
“ท่านปู่ใหญ่”
“ท่านปู่ใหญ่ ท่านมาก็ดีแล้ว ท่านต้องช่วยให้ความยุติธรรมนะ”
“ท่านปู่ใหญ่ พวกเราเห็นกันหมดแล้ว ความจริงไม่ได้เป็เช่นนั้น”
เด็กหลายคนพอมองเห็นเขาก็แอบผ่อนลมหายใจ จากนั้นจึงพากันเอะอะขึ้นมา
เนี่ยเป่ยชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “พี่ใหญ่ ตระกูลมีกฎของตระกูล ประเทศมีกฎหมายของประเทศ แม้ว่าเนี่ยเทียนจะอายุยังน้อย แม้ว่าท่านจะเป็ประมุขตระกูล แต่อย่างไร... ก็ไม่ควรละเมิดกฎของตระกูล”
“ตอนนี้ข้าไม่ใช่ประมุขของตระกูลแล้ว” เนี่ยตงไห่พูดเสียงเบา
คำพูดของเขาเปล่งไปเช่นนี้ ทุกคนที่อยู่ในลานกว้างนั้นต่างพากันอึ้งไปในทันที
เนี่ยเป่ยชวนมีสีหน้าไม่เข้าใจ ทว่าในดวงตากลับมีแววยินดีอย่างบ้าคลั่งเผยให้เห็นเด่นชัดแล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่! ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
“ข้าเหนื่อยแล้ว ไม่มีเรี่ยวแรงดูแลตระกูลเนี่ยอีกแล้ว สถานการณ์ของข้าเ้าเองก็รู้ดี ก่อนหน้านี้ข้าคิดจะใช้อิทธิพลของตระกูลมาทวงคืนความยุติธรรมให้แก่เฉี่ยนเอ๋อและจิ่นเอ๋อ ดังนั้นจึงยังดึงดันไม่ยอมคืนตำแหน่ง” เนี่ยตงไห่สีหน้าหงอยเหงา “แต่ตอนนี้ข้าคิดได้แล้ว ข้าจะรามือเสียที ต่อไป... ตระกูลเนี่ยคงต้องฝากไว้ที่น้องรองแล้ว”
“พี่ใหญ่ จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร? ในตระกูลนี้ ท่านคือผู้มีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง ข้า...” เนี่ยเป่ยชวนพูดอย่างคนปากไม่ตรงกับใจ
เนี่ยตงไห่โบกมือ ตัดบทของเขา พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว “ข้าตัดสินใจดีแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะพูดกับผู้าุโทุกคนในตระกูลให้แน่ชัด ข้าคิดว่าพวกเขาต้องเข้าใจ”
“แบบนี้เองหรือ” เนี่ยเป่ยชวนลากเสียงยาว พูดเสแสร้งว่า “หากพี่ใหญ่ตั้งใจเช่นนี้ ข้าก็ไม่เกลี้ยกล่อมอีกต่อไปแล้ว พี่ใหญ่วางใจได้ เื่ของเฉี่ยนเอ๋อและจิ่นเอ๋อ ข้าจะช่วยจัดการให้ ข้าเห็นพวกนางเป็เหมือนลูกแท้ๆ ของตัวเอง ย่อมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อทวงความยุติธรรมคืนมาให้กับพวกนาง”
เนี่ยตงไห่มองเขาด้วยสายตาลึกล้ำหนึ่งครั้ง พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เนี่ยเทียนยังเด็ก ข้าหวังว่า...”
“ช่างเถอะ ยังไงข้าก็ต้องให้เกียรติพี่ใหญ่ เื่นี้ ข้าจะไม่ซักไซ้เอาความอีกต่อไปแล้ว” เนี่ยเป่ยชวนกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้” เนี่ยตงไห่เหนื่อยไปทั้งกายและใจ หันกลับไปพูดกับเนี่ยเทียน “เ้าไปกับข้า”
พูดจบเขาก็เดินนำออกไปนอกลานกว้างก่อน แผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยความเปล่าเปลี่ยวของวีรบุรุษวัยไม้ใกล้ฝั่ง
ท่านอู๋เทาและหนุ่มสามตระกูลเนี่ยเ่าั้ ต่างก็มองดูเงาของเขาที่เดินจากไป ในใจก็รู้ชัดเจนแล้วว่ายุคแห่งการครองอำนาจในตระกูลเนี่ยของเนี่ยตงไห่ได้สิ้นสุดลงแล้วในวันนี้
เนี่ยเทียนไม่พูดอะไร เดินตามหลังเนี่ยตงไห่ไปอย่างเงียบๆ สีหน้าย่ำแย่อย่างถึงที่สุด
และก่อนที่เงาร่างของเขาจะลับหายไปจากลานกว้างนั้นเอง เขาชะงักฝีเท้า หันหน้าไปมองเนี่ยเป่ยชวนที่อารมณ์ฮึกเหิมอยู่นั้น เขาแอบกำหมัดกับตัวเองแน่น
สิบขวบ เป็อายุที่เข้าใจเื่ราวได้แล้ว เขาย่อมเข้าใจดีว่าที่วันนี้เนี่ยตงไห่เป็ฝ่ายลงจากตำแหน่งล้วนเป็การทำเพื่อเขาทั้งสิ้น
------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้