เซียวิจูเห็นเซียวจื่อเมิ่งขอบตาบวมแดง เห็นได้ชัดว่าเพิ่งร้องไห้มา นึกว่าเซี่ยยวี่หลัวข่มเหงรังแกเด็กสองคนอีก จึงดึงเซียวจื่อเมิ่งไว้ “อาเมิ่ง ตาของเ้าเป็อะไรไป? ร้องไห้มาใช่หรือไม่? ใครรังแกเ้า? สตรีผู้นั้นอีกแล้วใช่ไหม? ไปกัน พี่ิจูจะไปคุยกับนางให้รู้เื่ อายวี่ไม่อยู่บ้านก็ทารุณพวกเ้า เซี่ยยวี่หลัวยังเป็คนอยู่หรือเปล่า!”
เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส “ไม่ใช่เ้าค่ะ พี่ิจู พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้ทำอะไรพวกเรา! พี่สะใภ้ใหญ่ดีกับพวกเรามาก!”
เซียวิจูมองเซียวจื่อเมิ่งด้วยท่าทางตกตะลึง “อาเมิ่ง เ้า… ว่าอะไรนะ? เมื่อครู่เ้าเรียกนางว่าอะไร?”
เซียวจื่อเมิ่งมองเซียวิจู เอ่ยออกมาทีละคำ “พี่ิจู พี่สะใภ้ใหญ่ดีกับพวกเรามาก ต่อไปท่านอย่าว่าพี่สะใภ้ใหญ่แบบนี้อีกเลยนะเ้าคะ”
พี่สะใภ้ใหญ่ดีมาก
เซียวิจู “...”
ทำไมถึงเป็แบบนี้
เด็กสองคนแค้นเซี่ยยวี่หลัวจนแทบขบเขี้ยวเคี้ยวฟันไม่ใช่หรือ?
เมื่อครู่ อาเมิ่งกลับเรียกเซี่ยยวี่หลัวว่าพี่สะใภ้ใหญ่?
เซียวิจูร้อนรนจิตใจจนทนไม่ไหว จับเซียวจื่อเมิ่งไว้ซักถามต่อ “แล้วตาของเ้าเป็อะไรไป? เพิ่งร้องไห้มาชัดๆ นางเป็คนรังแกเ้าใช่หรือไม่? อาเมิ่ง เ้าไม่ต้องกลัว เ้าบอกพี่ิจู พี่ิจูจะไปคิดบัญชีกับนาง!”
เซียวจื่อเมิ่งถอยหลังหนึ่งก้าว นำของสิ่งหนึ่งออกจากอกเสื้อ เซียวิจูเห็นผ้าเช็ดหน้า จู่ๆ ก็กล่าวเสียงแหลม “ผ้าเช็ดหน้านี่… เ้าไม่ได้มอบให้พี่ใหญ่ของเ้างั้นหรือ?”
เซียวจื่อเมิ่งส่ายหน้า “ข้าไม่ทันใส่ให้พี่ใหญ่ พี่ิจู ของที่พี่ใหญ่คืนให้ท่านแล้ว ข้าไม่อาจรับกลับมาแล้วแอบใส่ให้พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่า แบบนี้ไม่ดี...”
“เ้าบอกเื่ผ้าเช็ดหน้าให้เซี่ยยวี่หลัวรู้?” เซียวิจูใอย่างเห็นไดัด จับแขนเซียวจื่อเมิ่งพลางเอ่ยถามราวกับคนเสียสติก็มิปาน
เซียวจื่อเมิ่งโดนอีกฝ่ายกำแขนจนเจ็บ จึงอุทานตอบกลับไป “พี่ิจู ท่านทำข้าเจ็บแล้ว!”
“ขอโทษ ขอโทษ อาเมิ่ง เ้าสัญญากับข้าแล้ว ว่าจะช่วยมอบผ้าเช็ดหน้าให้พี่ใหญ่ของเ้า...” น้ำเสียงของเซียวิจูฟังดูเกรี้ยวกราด เพราะเซี่ยยวี่หลัวรู้ว่านางเป็คนมอบผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ให้ ทั้งตึงเครียดและกังวล “ทำไมเ้าถึงผิดคำพูด!”
ใบหน้าของนางค่อนข้างดุร้าย เป็ลักษณะที่เซียวจื่อเมิ่งไม่เคยเห็นมาก่อน
เซียวจื่อเมิ่งถอยหลัง “พี่… พี่สะใภ้ใหญ่บอกไว้ ว่าจะรับของของคนอื่นโดยง่ายไม่ได้เ้าค่ะ!”
เซียวิจูดูผ้าเช็ดหน้าที่ตัวเองมอบถึงสองครั้งก็ยังไม่สำเร็จ ยวนยางเล่นน้ำสองตัวที่ปักอยู่บนผ้าเช็ดหน้า ดูไปแล้วก็ช่างน่าขันนัก “เซี่ยยวี่หลัวหว่านล้อมเ้าอย่างไรกัน นี่ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เ้าก็โดนนางซื้อใจแล้ว? เมื่อก่อนเ้ากลัวนางที่สุดไม่ใช่หรือ?”
เซียวจื่อเมิ่งไม่เข้าใจวาจาของเซียวิจู ทว่าถ้อยคำเ่าั้ช่างเสียดแทง ไม่น่าฟังเอาเสียเลย นอกจากนั้นสีหน้าของพี่ิจูในตอนนี้ก็น่ากลัวยิ่งนัก!
หลังจากนางคืนผ้าเช็ดหน้า จึงเข้าไปในห้องครัวคอยหลบเซียวิจู
เซียวจื่อเซวียนเข้าไปในครัว ท่าทางขึงขังนั่นทำให้ท่านป้าสี่ใสะดุ้ง
“จื่อเซวียน เ้าเป็อะไรไป? ทำไมสีหน้าถึงย่ำแย่นัก?”
“ท่านป้าสี่ พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าปวดท้อง แต่ข้ากับจื่อเมิ่งไม่รู้ว่าทำไมนางถึงปวด นางบอกจื่อเมิ่งว่า รอให้จื่อเมิ่งโตแล้วก็จะเข้าใจ พวกเราไม่เข้าใจ จึงลองมาถามท่าน ท่านรู้หรือไม่ว่าเป็เพราะอะไร?” เซียวจื่อเซวียนเอ่ยถามด้วยความร้อนใจ
คนที่เ็ปจนหน้าขาวซีดยังลุกขึ้นมาทำอาหารให้พวกเขา เซียวจื่อเซวียนย่อมเกลียดไม่ลง
หลังจากเกิดเื่ครั้งนี้ เพราะความระแวงของเขา ทำให้นางต้องเ็ปอยู่ที่บ้านเพียงลำพังครึ่งค่อนวันโดยไม่มีใครไปดูอาการ ใจเซียวจื่อเซวียนรู้สึกผิดยิ่งนัก
ท่านป้าสี่มองเซียวจื่อเซวียน ความเป็ห่วงในแววตาเด็กคนนี้ไม่เหมือนเป็การเสแสร้ง แต่เป็ห่วงจากใจจริง
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเด็กคนนี้ถึงนึกเป็ห่วงเซี่ยยวี่หลัวได้
เซี่ยยวี่หลัวทำอะไรกันแน่?
“อืม พี่สะใภ้ใหญ่ของเ้า นาง… นางระดูมา ปวดท้อง ไม่สบายตัว” ท่านป้าสี่กล่าว
เซียวจื่อเซวียนยังไม่เข้าใจ เอ่ยถามต่อ “อะไรคือระดู?”
ท่านป้าสี่หัวเราะด้วยท่าทางเก้อเขิน “มันเป็สิ่งที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจะมีอยู่หลายวันในทุกๆ เดือน บางคนจะเ็ปเจียนตาย ดังนั้นจึงต้องดื่มน้ำร้อนให้มาก ห้ามแตะน้ำเย็น อย่าตากลมจนไม่สบาย หากมีน้ำต้มน้ำตาลทรายแดง ให้นางดื่มสักแก้วเพื่อให้ท้องอุ่น ก็จะไม่ปวดมากนัก!”
เซียวจื่อเซวียนกล่าว “น้ำต้มน้ำตาลทรายแดง?”
ท่านป้าสี่ขานตอบ “ใช่ เด็กผู้หญิงทุกคนจะมีวันแบบนี้อยู่หลายวัน ต่อไปเมื่อจื่อเมิ่งโตขึ้น ก็จะมีเหมือนกัน”
แม้เซียวจื่อเซวียนจะยังไม่เข้าใจ แต่ต้องไม่ตากลม อย่าแตะน้ำเย็น กินของร้อนให้มาก ทางที่ดีก็ให้ดื่มน้ำต้มน้ำตาลทรายแดง เซียวจื่อเซวียนจดจำไว้แล้ว
“ท่านป้าสี่ ท่านพอจะมีน้ำตาลทรายแดงหรือไม่? ข้าขอซื้อจำนวนหนึ่ง!”
ภายในบ้านท่านป้าสี่มีน้ำตาลทรายแดงพอดี ใช้กระดาษห่อไว้จำนวนหนึ่ง “ในบ้านเหลืออยู่แค่นี้ แต่พรุ่งนี้ท่านลุงสี่จะไปในตัวเมือง หากเ้าอยากได้ ก็ให้ท่านลุงสี่ซื้อกลับมา”
เซียวจื่อเซวียนกล่าวอย่างรีบร้อน “เอาแน่นอน ขอฝากท่านลุงสี่ซื้อกลับมาให้ข้าด้วย”
“ได้ ข้าจำไว้แล้ว รอให้ท่านลุงสี่กลับมา ข้าจะบอกเขาให้ พรุ่งนี้เที่ยงเ้าก็มารับไปเถิด!” ท่านป้าสี่กล่าว
เซียวจื่อเซวียนรีบนำเงินออกจากอกเสื้อ เดิมที่ท่านป้าสี่บอกว่าไม่เป็ไรไม่ต้องจ่าย น้ำตาลทรายแดงแค่เล็กน้อย ภายหลังพอคิดว่านี่เป็ของที่จะให้เซี่ยยวี่หลัวกิน จึงรับเงินไว้
น้ำตาลทรายแดงก็ถือเป็ของฟุ่มเฟือย จึงเก็บเงินหนึ่งอิแปะ เซียวจื่อเซวียนยื่นส่งให้สองอิแปะ
ท่านป้าสี่ “หนึ่งอิแปะก็พอแล้ว...”
“นี่เป็ค่าแรงที่ช่วยซื้อเนื้อหมูเมื่อคราวก่อน ข้าลืมให้ท่านลุงสี่!” เซียวจื่อเซวียนกล่าว
ครั้งก่อนใช่ว่าเขาไม่ได้ให้ แต่ท่านลุงสี่ไม่เอา เขาจำไว้ตลอด ยังดีที่วันนี้ได้คืนให้แล้ว
ท่านป้าสี่ไม่ได้ปฏิเสธ รับไว้แล้วมองส่งเด็กสองคนออกไป
ท่านป้าสี่กลับไปยังห้องครัวเพื่อผัดกับข้าวต่อ ก่อนจะเข้าไปก็เห็นเซียวิจูเพ่งมองเบื้องหน้าตาไม่กะพริบ ร่างกายเกร็งดูราวกับลูกเกาทัณฑ์ที่อาจพุ่งออกจากคันธนูได้ทุกเมื่อ
“ิจู เ้าเป็อะไรไป?” ท่านป้าสี่ถามด้วยความเอ็นดู เมื่อเห็นผ้าเช็ดหน้าในมือนาง ก็โมโหจนน้ำเสียงสั่นเครือ “เ้า… เ้ายังไม่ตัดใจอีกหรือ?”
“ต้องโทษเซี่ยยวี่หลัว! หากไม่ใช่เพราะนาง ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ก็คงอยู่กับอายวี่นานแล้ว!” เซียวิจูตะคอกราวกับคนเสียสติ
“เ้าว่าอะไรนะ? เ้าบอกว่าเซี่ยยวี่หลัวรู้เื่ที่เ้ามอบผ้าเช็ดหน้าให้เซียวยวี่?” ท่านป้าสี่ใจนหัวใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“ฮึ นางรู้แล้วจะทำไม? ฮึ เซียวยวี่ไม่ชอบนางเสียหน่อย! นางจะทำอะไรข้าได้!” เซียวิจูกล่าวด้วยความฉุนเฉียว
ท่านป้าสี่โดนบุตรสาวที่ดื้อรั้นผู้นี้ทำให้โมโหแทบตาย