บทที่ 6 เปลวไฟปรารถนา
ััจากปลายนิ้วที่หยาบกร้านของกู้เหยียนหลง ทำให้เมิ่งหรงซินสะดุ้งสุดตัว นางพยายามเบี่ยงหน้าหนี แต่ฝ่ามือใหญ่ของเขากลับเคลื่อนมาประคองใบหน้าของนางไว้ บังคับให้นางต้องสบตากับเขาตรงๆ
ระยะห่างระหว่างพวกเขาลดน้อยลงจนนางััได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของเขา... ลมหายใจที่เจือด้วยกลิ่นอายของอำนาจ
"ในดวงตาของเ้า... ข้าเห็นความท้าทาย" เขาเอ่ยขึ้นเป็ครั้งแรก เสียงของเขาทุ้มต่ำและแหบพร่าเล็กน้อย ราวกับคำรามในลำคอ "ทั้งที่ร่างกายของเ้ากำลังสั่นเทาด้วยความกลัว"
เมิ่งหรงซินเม้มริมฝีปากแน่น จิติญญาของเย่ชีอินในร่างนี้กรีดร้องให้ต่อสู้ นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี จ้องตอบสายตาคมกริบคู่นั้นกลับไป
"แล้วท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่... คาดหวังให้เชลยเช่นข้ารู้สึกเช่นไรหรือเ้าคะ? ซาบซึ้งใจหรือ?"
แววตาของกู้เหยียนหลงวูบไหวไปชั่วขณะ ก่อนที่มุมปากของเขาจะยกขึ้นเป็รอยยิ้ม... แต่มันไม่ใช่รอยยิ้มที่อบอุ่น มันเป็รอยยิ้มของผู้ล่าที่พอใจในตัวเหยื่อ
"ปากดี..." เขากระซิบชิดริมหูของนาง "ข้าชอบ"
เขาโน้มใบหน้าลงมาอีก จนปลายจมูกของพวกเขาแทบจะัักัน "ชื่อของเ้า"
มันไม่ใช่คำถาม แต่เป็คำสั่ง
หัวใจของนางเต้นผิดจังหวะ การบอกชื่อ... คือการยอมรับตัวตนในโลกใบนี้ คือการยอมรับสถานะของนางต่อหน้าเขา
"...เมิ่งหรงซิน" นางตอบเสียงแ่
เขาลิ้มลองชื่อของนางช้าๆ ราวกับกำลังชิมไวน์รสเลิศ "เมิ่ง... หรง... ซิน..." น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย... เจือด้วยความรู้สึกบางอย่างที่นางไม่อาจเข้าใจ "เ้าเกลียดข้าหรือไม่?"
นางควรจะตอบว่าเกลียด... เกลียดจนอยากจะฆ่าให้ตาย! แต่สัญชาตญาณบอกว่านั่นคือคำตอบที่จะนำมาซึ่งจุดจบ นางจึงเลือกที่จะเงียบ ดวงตาฉายแววสับสนระหว่างความเกลียดชังและความกลัว
ความเงียบของนางดูเหมือนจะเป็คำตอบที่เขาพอใจที่สุด... เพราะเขาไม่รออีกต่อไป
ริมฝีปากของกู้เหยียนหลงบดเบียดลงมาอย่างรุนแรงและหิวกระหาย มันไม่ใช่จูบที่อ่อนหวาน แต่เป็การประกาศความเป็เ้าของอย่าง蛮横และเอาแต่ใจ เขาสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากของนางอย่างช่ำชอง บังคับให้นางต้องตอบสนองต่อรสจูบที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและกลิ่นอายของเขา
โลกทั้งใบของเมิ่งหรงซินหมุนคว้าง สติสัมปชัญญะเริ่มเลือนหายไปทีละน้อย ร่างกายของนางที่เคยเกร็งด้วยความต่อต้าน กลับอ่อนระทวยลงอย่างไม่อาจควบคุม... ความอัปยศ... ความหวาดกลัว... และความรู้สึกวาบหวามอันตรายที่นางไม่เคยรู้จักมาก่อน... มันผสมปนเปกันจนแทบคลั่ง
แต่แล้ว... ในขณะที่เปลวไฟแห่งปรารถนากำลังจะแผดเผาทุกสิ่ง...
กู้เหยียนหลงกลับผละออกจากนางอย่างกะทันหัน!
เขามองนางด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป... จากความหิวกระหายกลายเป็ความสับสนและ... โกรธเกรี้ยว? ราวกับว่ารสจูบของนางได้ปลุกปีศาจบางตัวในใจของเขาให้ตื่นขึ้นมา
"มะ...แม่ทัพ?" เมิ่งหรงซินเอ่ยเสียงสั่น มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
เขาไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว หันหลังให้นางราวกับนางเป็สิ่งของน่ารังเกียจ
"ออกไป!"
เขาตวาดเสียงกร้าว คำพูดนั้นเ็าและไร้เยื่อใยราวกับคนละคนกับเมื่อครู่
"อะไรนะเ้าคะ?" นางถามด้วยความงุนงง
"ข้าสั่งให้ออกไปให้พ้น!!!"
เสียงคำรามกึกก้องของเขาทำให้นางสะดุ้งสุดตัว รีบตะเกียกตะกายลงจากเตียงอย่างลนลาน น้ำตาแห่งความสับสนและอดสูไหลรินอาบแก้ม นางไม่เข้าใจ... ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงผลักไสนางอย่างโหดร้าย หลังจากที่เพิ่งจะ่ชิงจูบแรกของนางไปอย่างเร่าร้อนเช่นนั้น?
นางวิ่งออกจากกระโจมไปโดยไม่หันกลับมามอง ทิ้งให้กู้เหยียนหลงยืนกำหมัดแน่นอยู่เพียงลำพัง... ดวงตาของเขายังคงฉายแววสับสน...
ภาพของผู้หญิงคนนั้น... ในความทรงจำที่เลือนราง... ทำไมมันถึงซ้อนทับกับใบหน้าของนางเชลยคนนี้...
เมิ่งหรงซินวิ่ง... วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตออกจากกระโจมแห่งนั้น ความเย็นะเืของอากาศยามค่ำคืนไม่ได้ช่วยให้ไฟที่กำลังแผดเผาในใจของนางมอดลงได้เลยแม้แต่น้อย นางไม่ได้วิ่งกลับไปที่คอกเชลย แต่กลับวิ่งไปอย่างไร้จุดหมายจนกระทั่งพบมุมมืดลับตาคนหลังกองสัมภาระ ที่นั่นเอง... เขื่อนน้ำตาที่กักเก็บไว้ก็พังทลายลงมา
นางทรุดกายนั่งลงกับพื้นทรายเย็นเฉียบ กอดเข่าร้องไห้จนตัวโยน...
แต่นี่ไม่ใช่การร้องไห้ของสตรีที่อ่อนแอ...
มันคือการร่ำไห้ที่เต็มไปด้วย ความอัปยศ เขาจูบนาง... จูบราวกับนางเป็สมบัติของเขา แล้วก็ผลักไสราวกับนางเป็เพียงเศษขยะชิ้นหนึ่ง
คือการร่ำไห้ที่เต็มไปด้วย ความสับสน ทำไม? คำถามนี้ก้องอยู่ในหัวของนางเป็พันๆ ครั้ง ความเร่าร้อนในแววตาของเขา... ความรุนแรงในจุมพิต... และความเกรี้ยวกราดที่เ็าในตอนท้าย... มันคืออะไรกันแน่?
และที่สำคัญที่สุด... มันคือการร่ำไห้ที่เต็มไปด้วย ความโกรธ นางโกรธเขาที่ทำกับนางเช่นนี้... และโกรธตัวเอง... โกรธร่างกายของตัวเองที่ทรยศต่อจิตใจ... ที่มันดันสั่นสะท้านและอ่อนระทวยไปกับััอันป่าเถื่อนของเขา!
นางยกหลังมือขึ้นมาเช็ดริมฝีปากของตัวเองอย่างแรง ราวกับจะลบรอยจูบของเขาออกไปให้สิ้นซาก แต่ััและรสชาติของมันกลับยังคงแจ่มชัด... เป็ดั่งตราประทับที่น่ารังเกียจ
"คุณหนู... คุณหนูเ้าคะ!"
เสียงที่คุ้นเคยของป้าเหว่ยดังขึ้น พร้อมกับร่างที่รีบวิ่งเข้ามาประคองนางไว้ "โถ... คุณหนูของบ่าว เกิดอะไรขึ้นเ้าคะ? แม่ทัพผู้นั้น... เขาทำอะไรท่านหรือเ้าคะ!?"
เมิ่งหรงซินส่ายหน้าไปมา พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ซบหน้าร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นของหญิงชรา... ท่ามกลางโลกที่โหดร้ายนี้ อ้อมกอดของป้าเหว่ยคือที่พักพิงเดียวที่นางมี
ในขณะเดียวกัน... ภายในกระโจมที่เงียบสงัด...
เพล้ง!
ถ้วยชาถูกปัดตกจากโต๊ะจนแตกกระจาย กู้เหยียนหลงยืนหอบหายใจหนักหน่วง ดวงตาที่เคยเยือกเย็นดั่งภูผาน้ำแข็ง บัดนี้กลับแดงก่ำราวกับเปลวไฟที่กำลังลุกท่วม เขากำหมัดแน่นจนเส้นเืปูดโปน
บ้าที่สุด!
เขาสบถในใจ ความโกรธนี้ไม่ได้มุ่งไปที่นาง... แต่กลับมุ่งมาที่ตัวเอง! เขา... แม่ทัพใหญ่ผู้ควบคุมกองทัพนับหมื่น... ผู้ที่ไม่เคยปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล... กลับสูญเสียการควบคุมตัวเองไปอย่างสิ้นเชิงเพราะเชลยหญิงเพียงคนเดียว!
รสจูบของนาง... มันหวานล้ำจนน่าใ และมันได้ปลุกบางสิ่งในตัวเขาให้ตื่นขึ้น...
ภาพในความทรงจำ...
มันเป็เพียงภาพที่เลือนราง... ภาพของสตรีผู้หนึ่งในชุดสีแดงสด กำลังยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนใต้ต้นเหมยที่บานสะพรั่ง... เป็รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของเขาเ็ปอย่างแสนสาหัส... แต่เขาจำไม่ได้ว่านางคือใคร...
ทำไม... ทำไมภาพนั้นถึงได้ซ้อนทับกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาและความดื้อรั้นของเมิ่งหรงซิน?
กลิ่นกายของนางยังคงอบอวลอยู่ในกระโจม... กลิ่นที่ทำให้เขาแทบคลั่ง เขาอยากจะลากนางกลับมา... อยากจะนางให้สมใจ...
แต่เขาก็รู้ดีว่านั่นคือสิ่งที่อันตรายที่สุด... นางคือจุดอ่อน... คือความปั่นป่วนที่เขาไม่อาจปล่อยให้อยู่ใกล้ตัวได้
หลังจากสงบสติอารมณ์ที่บ้าคลั่งลงได้แล้ว กู้เหยียนหลงก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขาะโเรียกองครักษ์เงาที่อยู่นอกกระโจม
"เหยี่ยวเงา!"
"ขอรับท่านแม่ทัพ!" องครักษ์ในชุดดำสนิทปรากฏตัวขึ้นราวกับภูตผี
"เชลยหญิงที่ชื่อเมิ่งหรงซิน..." เขาเอ่ยเสียงเรียบ พยายามซ่อนความรู้สึกทั้งหมดไว้ภายใต้หน้ากากที่เ็า "อีกสามวันกองทัพจะเคลื่อนพลสู่เมืองหลวง... นางไม่ต้องเดินทางไปกับขบวนเชลย"
องครักษ์เงาเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ไม่กล้าถาม
"ส่งนางไปที่โรงเตี๊ยมหลงเหมิน ชานเมืองหลวง" กู้เหยียนหลงสั่งต่อ "ให้นางทำงานเป็หญิงรับใช้ที่นั่น... และ... จับตาดูนางไว้ อย่าให้ใครทำอันตรายนางได้ และอย่าให้นางหนีไปไหน รายงานความเป็อยู่ของนางให้ข้าทราบทุกระยะ"
"รับทราบ!"
เมื่อองครักษ์เงาหายตัวไปแล้ว กู้เหยียนหลงก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน เขากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง... คือการผลักไสนางออกไปให้ไกลตัวที่สุด...
แต่ทำไม... หัวใจของเขากลับรู้สึกราวกับว่า... เขากำลังส่งดวงใจของตัวเองไปยังสถานที่ที่เขาไม่อาจเอื้อมถึง...!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้