หลังจากเดินมาสักพักเขาของมานั่งหยุดอยู่ที่ศาลากลางน้ำ
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ต้องบอกเลยว่าบ้านของิหลิงกว้างขวางยิ่ง...
"ฝากไปบอกิหลบิงให้หน่อยว่าหากว่าวแล้วก็ให้มาพบข้า" ิเทียนเยว่กล่าวบอกสาวรับใช้พร้อมรอยยิ้มบางๆ ทำเอาสาวใช้ใจสั้นไม่นั้น
สาวใช้โค้งตัวให้ิเทียนเยว่แล้วรีบเดินจากไปทันที
เมื่อิเทียนเยว่เห็นเช่นนั้นเขาก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
ผ่านไปไม่นาิหลิงก็เดินทางมาถึง
เขาประสานมือคารวะิเทียนเยว่ก้มหัวอยู่อย่างนั้นไม่เงยหน้าขึ้น
"มานั่งเถิด" ิเทียนเยว่เงียบไปสักพักก่อนจะกล่าวขึ้น
"ได้ตั่งชื่อให้ธิดาเ้ารึยังเล่า" เขาเหลือบมองิหลิงเล็กน้อยพร้อมกล่าว
ิหลิงเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ิเทียนเยว่เล็กน้อย
"ข้าตกลงกับหนิงเอ๋อร์ว่าจะเรียกนางว่าิฉางเอ๋อร์ขอรับ"
"อืม..."ิเทียนเยว่พยักหน้าเล็กน้อยไม่กล่าวอันใดเพิ่ม
ิหลิงพลั่นกล่าวเล่าประสบการณ์ชีวิตของตนออกมา เขาอยากเล่าให้ิเทียนเยว่ฟังนานแล้วแต่จนใจอาจารย์ผู้นี้ปิดด่านอยู่ตลอด... วันนี้ได้โอกาสเขาอยากจะเล่าให้ผู้ที่เปรียบเสมือนพ่อของเขาได้ฟัง
ิเทียนเยว่เองก็ไม่ได้เอ่ยขัดอันใดนั่งฟังอย่างไรอรรถรส ทั้งยังทำให้เขารู้สึกว่าตนให้ความใส่ใจลูกศิษย์น้อยเกินไปจริงๆ หลังจากการเลี้ยงดูสิบปีเขาก็แทบไม่ได้ให้ความสนใจเด็กๆเลย
โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเด็กๆที่เขาเก็บมาเลี้ยงในปีนั้นก็เติบใหญ่กันหมดแล้ว ถึงจะมีคนที่เดินทางผิดไปบ้างแต่ิเทียนเยว่ก็ไม่มีหน้าไปกล่าวโทษอันใดทั้งยังไม่คิดจะทวงบุญคุณ ที่มาเยี่ยมเยียนในวันนี้เพียงคิดถึงเด็กๆเท่านั้น
ิหลิงบอกเล่าตั่งแต่วันที่ตน เริ่มทำงานเป็คนคุ้มกัน ไปจนถึงก่อตั่งกลุ่มผู้คุ้มกันขึ้นมากลายเป็ผู้อิทธิพลอย่างยิ่งในอนาจักร เริ่มธุรกิจนั่นนี้ จนกระทั่งมาถึงจุดที่เขากำลังเล่าว่ารู้สึกรักิหนิงหนิงตั่งแต่ตอนไหนิเทียนเยว่ถึงกับต้องยกมือห้ามให้หยุด
เขายังไม่ใช่ผู้เฒ่าผู้หลุดพ้นโดยแท้จริง เขายังรับไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่หากต้องฝังอย่างเข้าน้ำเข้าเนื้อเช่นนี้
ิหลิงเองก็เข้าใจในทันทีจึงได้เล่าข้ามไปในวันแต่งงาน และวิกฤตต่างๆที่ต้องเผชิญหลังจากเป็ใหญ่
ผ่านไปนานจนฟ้าเกือบสว่างิหลิงก็เล่าจบแล้วิเทียนเยว่ไม่ได้กล่าวอะไรเพียงนำมือไปลูบหัวิหลิงเล็กน้อย
"ข้าน่าจะถามเ้าให้เร็วกว่านี้" ิเทียนเยว่ยกยิ้มทำเอาิหลิงน้ำตาคลอ
"ไม่เป็ไรเลยขอรับ...ไม่เป็ไรเลย" ิหลิงปาดน้ำตาเล็กน้อยประสานมือกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"เอาเป็ว่า หากถึงวันที่ไร้ซึ่งหนทางจริงๆก็กลับมาได้ทุกเมื่อข้าต้อนรับพวกเ้าอยู่เสมอ" ิเทียนเยว่กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะหายตัวไปในทันที
ิหลิงใเล็กน้อยแต่ก็ยังคงคำนับไปยังจุดที่ิเทียนเยว่เคยอยู่
...
...
ิเทียนเยว่อยู่ ณ จุดสูงสุดของจักรวรรดิฉางจิ่ว เป็ปลายยอดของศาลาแห่งหนึ่ง
เขาทอดสายตามองลงไปเบื้องล่าง ในเมืองมีคนกว่าครึ่งเป็ผู้ฝึกยุทธสายมารทั้งสิ้น แต่ก้ไม่ได้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างโจ่งแจ้ง เขาถึงกับรู้สึกวันที่พระราชวังเองก็มีมารอยู่เช่นกัน
ศิษย์ผู้นั้นของเขาอีกไม่เกินห้าปีคงจะยึดครองโลกได้จริงๆ แต่ก่อนหน้านั้นเขาจำต้องเข้าใจความขัดแย้งระหว่างสองพี่น้องให้ได้มากที่สุด เขาต้องรักษาชีวิตทั้งคู่ไว้ให้ได้...
ิเทียนเยว่หายตัวไปอีกครั้ง...
...
...
พระราชวังโลหิต ถังจื่อพำนักอยู่บนบัลลังก์ตอนนี้เขามีตบะระดับมหายานขั้นหนึ่งแล้ว แต่หาก้าก้าวหน้ายิ่งขึ้นจำเป็ต้องพึ่งไอเซียนจำนวนมาก
โลกมนุษย์พัฒนาขึ้นมากหลังจากเข้าตัดสะบั้นชะตาระหว่างแดนเซียนกับโลกมนุษย์ สามารถรองรับตัวต้นระดับมหายานได้แล้ว ทั้งยังสามารถรองรับตัวตนระดับเซียนปฐีได้ถึงสามคน แต่นอกจากหลินทั่วแล้วเขายังไม่มีเซียนคนอื่นอยู่ในสังกัด แต่ก็มีมหายานอยู่ถึงสี่คน...
เื่นี้ทำเอาเขานึกถึงอาจารย์ผู้นั้นของตนขึ้นมา หากได้เขาเซียนลูกนั้นตบะเขาคงจะก้าวหน้าไม่น้อย
แต่เมื่อคิดดังนั้นเขาก็รีบส่ายหน้าทันที แม้เขาจะเป็มารแต่ก็หาใช่สัตว์เดรัจฉานไม่ เขาไม่มีทางหันคมดาบเข้าหาผู้มีพระคุณหากอกีฝ่ายไม่หันคมดาบใส่เขาก่อน...
"เ้าน้องชายผู้ดื้อรั้นมาอีกแล้วหรือ" ถังจื่อกล่าวขึ้นทันใดนั้นพลันมาเงาสีดำขยับเข้ามาใกล้เขาทีล่ะนิด
"ฮิฮิฮิ น้องชายหรือข้าไม่เห็นจำได้ว่าเคยมีพี่น้อง" เป็ิฝาน ตอนนี้ตัวเขาสวมอาภรสีดำ ดวงตาไร้ตาขาวมีเพียงสีดำสนิท ปลายนิ้ว ริ้มฝีปาก ขอบตา ล้วนเป็สีดำทั้งสิ้น ดวงตาส่องข้างหลั่งของเหลวสีดำออกมาตลอดเวลา...เกรงว่าแม้แต่เลือกของเขาเองก็คงเป็สีดำไปแล้ว
"ถึงกับทำสัญญาณลึกซึ้งกับเ้าดำได้เช่นนี้ข้าคงประเมินเ้าต่ำไป" ถังจื่อยื่นขึั้นสะบัดมือเบาๆ พลันปรากฏหอกสี่แดงฉานขึ้น
"เข้ามาเถิดเ้าน้องชาย ข้าจะสั่งสอนเ้าแทนอาจารย์เอง" ถังจื่อชี้ปลายหอกไปยังิฝานพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า
"ฮิฮิฮิฮิ เฮี๊ยก เฮี๊ยก เฮี๊ยก น้องชายหรืออาจารย์หรือข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเ้าเป็ใคร" ิฝานหัวเราะด้วยน้ำเสียงสยดสยองแสบแก้วหัว ะโอย่างบ้าคลั่ง ปลายนิ้วสีดำพลันแปลเปลี่ยนเป็กรงเล็บแล้วเพ่งเข้าโจมตีถังจื่อในทันที
เมื่อิฝานพุ่งตัวเข้ามาถังจื่อควงหอกอย่างผ่อนคลายป้องกันการโจมตีทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
ปัก! ถังจื่อเตะสกัดิฝานพร้อมฟาดหอกใส่หน้าเข้าอย่างรุนแรงจนกระเด็นทะลุกำแพงไป
เมื่อเกิดการต่อสู้ขึ้นเหล่าตัวตนระดับมหายานและหลินทั่วก็พุ่งเข้ามาหาถังจื่อทั้นที
แต่เมื่อมาถึงถังจื่อพลันยกมือห้ามเอาไว้ไม่ให้เข้ามายุ่ง
"ฮิฮิฮิ ไม่เห็นจะรู้สึก" ิฝานที่ตอนนี้คอและหัวบิดเบี้ยวก็ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว
"เห้อ...ยังคงน่ารำคาญเช่นเดิม" ถังจื่อถอนหายใจออกมาอันที่จริงเขาตั่งใจสังหาริฝานตั่งแต่สาม สี่ปีก่อนแล้วแต่เ้าเด็กนี่ดันไปทำสัญญากับสิ่งมีชีวิตอัปมงคลเข้า ทำให้เป็ะไร้วันตาย เพียงแต่สติสัมปชัญญะไม่ครบถ้วนฆ่าล้างสังหารไปเรื่อย ไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้นเขาผนึกเ้าน้องชายผู้นี้ไปสิบหกรอบแล้ว...ใช้แล้วสิบหกรอบ
ทุกครั้งล้วนเป็ผนึกที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้เขาใช้ผนึกที่แม้แต่เซียนนภายังยากจะทำลายผนึกไว้ แต่เ้าน้องชายผู้นี้เอาหัวโขกใส่ผนึกทั้งปีจนผนึกถูกทำลาย...ทำเอาเขาปวดหัวยิ่งนัก
"ช่างเถิดอย่างไรผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยน" ถังจื่อส่ายหัวพุ่งเข้าโจมตีิฝานทันที
...
...
ิเทียนเยว่เดินทางกลับมาถึงเขาสงบจิตแล้วเริ่มสุ่มห้าครั้งต่อเนื่องทันที
[ปู้นๆๆๆ ยินดีด้วยท่านได้รับ พร์ระดับา - รากิญญาต้นกับเนิด]
[ปู้นๆ ยินดีด้วยท่านได้รับ ของล้ำค่าฟ้าดินระดับกึ่งเทพ - ปลากระดี่า]
[บู่ๆ ยินดีด้วยท่านได้รับอายุขัย 1,000 ปี]
[ปู้นๆ ยินดีด้วยท่านได้รับของวิเศษระดับนภา - กระบี่ผ่าดารา]
[ปู้นๆๆ ยินดีด้วยท่านได้รับพร์ระดับเซียน - เซียนสยบกระบี่]
ิเทียนเยว่ไม่รอช้ากดรับสืบทอดทั้งหมดในทันที คุณสมบัติพุ่งทะยานด้วยรากิญญาระดับา ความสามารถในการดูดซับสูงขึ้นจากตอนนี้นับร้อยเท่า ความบริสุทธิ์ของพลังงานในร่างกายเองก็เช่นกันทรงพลังขึ้นอย่างเทียบไม่ติดกับก่อนหน้านี้
ตามด้วยพร์เซียนสยบกระบี่ ทำให้กระบี่ทั่วหล้ายอมรับเป็นายแต่ไม่อาจสยบกระบี่ระดับเทพได้...พูดง่ายๆก็คือหากยังไม่สำเร็จเป็เทพอย่าคิดจะใช้กระบี่สู้กับเขา...เนื่องจากพร์นี้ทำให้เขามีสายนสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับกระบี่ทั้งมวล ไม่อาจใช้กระบี่โจมตีเขาได้..
ยอดเยี่ยมนัก!
หลังจากปรับสมดุลร่างกายให้เขากับพลังในปัจจุบันแล้ว พร์ใหม่แล้วเขาก็เรียกปลากระดี่าออกมาปล่อยลงในบ่อน้ำวิสุทธ์
[ปลากระดี่า - ปลากระดี่แดนเซียนเมื่อบำเพ็ญครบล้านปีมีโอกาสสำเร็จมรรผลแปลเปลี่ยนเป็ัวารีระดับเทพเบิกฟ้าได้ ในปัจจุบันส่งเสริมไอเซียนในสถานที่อาศัยได้จำนวนมาก]
ทันทีที่ปลากระดี่าว่ายลงสู่บ่อน้ำวิสุทธ์ บ่อน้ำที่เคยมีสีขาวบริสุทธิ์พลันเปลี่ยนเป็สีทองในทันใด
ไอเซียนมหาศาลพวยพุ่งยกระดับบ่อน้ำวิสุทธ์ไปอีกขั้น
[บ่อน้ำเก้านภา์ - ของล้ำค่าฟ้าดินระดับเซียนก่อเกิดขึ้นบนแดนเทพเป็ถิ่นอาศัยของัวารี มีพลังดึงดูดสัตว์เทพ]
ิเทียนเยว่มองอย่างพอใจไม่สนใจเื่การดึงดูดสัตว์เทพมากนัก ในอาณาเขตเทพของเขาไม่มีผู้ใดสอดส่องได้ตัวเขาหลบเลี่ยงได้แม้กระทั่งผลกรรมต้องบอกว่าอาณาเขตนี้นั้นอยู่เหนือกฎเกณฑ์ไปแล้ว...
ิเทียนเยว่ไม่รีรอเรียกกระบี่ผ่าดารา ออกมาทำความคุ้นเคย เขามีแผนจะออกไปตะลุยยุทธภพเมื่อบรรลุระดับมหายานแล้ว
ตัวเขามิใช่ิเทียนเยว่ผู้ไร้ประสีประสาในปีนั้นอีกแล้วหลายปีมานี้เขาทำความเข้าใจ ในพลังของตัวเองและตระหนักรู้ถึงฟ้าดินอูย่บ่อยครั้ง เขาทราบถึงพร์ของตัวเองแล้วด้วยสองรากิญญาเทพ และ รากิญญาาที่แม้แต่บนแดนเทพก็ยังไม้แน่ใจว่าจะมีหรือไม่!
พลังระดับนี้หากเขาขึ้นไปถึงระดับมหายานเขามั่นใจว่าสามารถบดขยี้โลกมนุษย์ในปัจจุบันด้วยหมัดเดียวจริงๆ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้