ตอนที่ 1
@คลับไอ้ธีร์
คืนนี้พวกเราทั้ง 5 คน ก็นัดกันมาที่เดิมเหมือนทุกครั้งที่ว่างตรงกัน คลับนี้ถือว่าหรูสุดแล้วในย่านใจกลางกรุงเทพ มีทั้งหมด 3 สาขา ซึ่งก็เป็ของเพื่อนเขาเอง มันชื่อธีร์ที่ตอนนี้ดันเป็เมียของเควินซึ่งเคยเป็อดีตคู่แข่งกันมาก่อน พอสองคนนั้นได้กันเองกลายเป็ว่าลูกค้าจะเที่ยวร้านไหนก็เหมือนกัน เพราะร้านผัวร้านเมีย ธีร์กับเควินลงลิฟต์มาด้วยกันจากชั้นสามแสดงว่าเควินค้างที่นี่ เมื่อทุกคนมากันครบแล้วขาดเพียงแค่พายุคนเดียวที่มาสายอีกตามเคย หลัง ๆ มานี้มาแต่ละทีคือพาผัวมาด้วย ที่มาช้าก็เพราะน่าจะซั่มกันอยู่แน่นอน ผัวมันชื่อฟีนิกส์เป็เพื่อนกับเควินผัวของธีร์ พายุกับฟีนิกส์คือเป็สามีภรรยากันทั้งทางพฤตินัยและนิตินัยเพราะแม่ๆ จับทั้งคู่จดทะเบียนสมรสั้แ่วันแต่งงาน ตอนแรกคือโดนผู้ใหญ่บังคับแต่ไป ๆ มา ๆ ตอนนี้ดูเหมือนต่างฝ่ายจะต่างรักกันโดยไม่รู้ตัว แต่ละคนนั่งกันเป็คู่ ๆ เรียงกันเป็วงกลมตามโซฟา ตอนนี้เหลือเพียง ฟาร์ เกอร์ ดิน และวิสกี้ (เพื่อนของเควินกับฟีนิกซ์) ที่ยังเป็ชายโสด แต่แค่กระดิกนิ้วสาว ๆ อวบอึ๋มก็พร้อมมานั่งข้างกาย
“มันเป็ไร ดื่มอะไรขนาดนั้นว่ะ?” ธีร์หันไปถามฟาร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นเกอร์ยกเหล้าเพียวขึ้นดื่มรัว ๆ ฟาร์ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ เป็คำตอบเพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้นแล้วดื่มเช่นกัน
“หิวเหล้า คืนนี้กูอยากเมา” เกอร์ยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี เหล้าชั้นดีไหลลงคอครั้งแล้วครั้งโดยไม่มีทีท่าจะหยุด จนฟาร์ต้องวางแก้วเหล้าของตัวเองแล้วจับมือของเกอร์ที่กำลังจะยกเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง
“มึงเป็ไร?” ฟาร์ถามด้วยความแปลกใจ จะว่าเกอร์มีเื่เครียดก็คงไม่ใช่เพราะั้แ่เย็นที่อยู่ด้วยกันก็ไม่เห็นมีเื่อะไรรวมไปถึงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ กิน ขี้ ปี้ นอน ชีวิตโคตรชิว
“เปล่า กูแค่อยากดื่มเฉย ๆ” เกอร์ยิ้มกรุ้มกริ่มใส่เพื่อนรัก ยื้อแขนเพื่อยกเหล้าเข้าปากอีกครั้ง
“ไม่ได้เดี๋ยวลำบากกู” ฟาร์โวยวายทันทีหลังจากที่เกอร์ดื่มหมดไปอีกแก้ว มันไม่ได้เมาง่ายอย่างที่พูดหรอก เพราะทั้งกลุ่มคอทองแดงกันทั้งนั้น กว่าจะเมาก็เปลืองเหล้าไปหลายขวด
“ฮ่าๆๆ” ทั้งกลุ่มหัวเราะลั่น โดยเฉพาะธีร์กับพายุที่ดูเหมือนจะถูกใจคำพูดของฟาร์เป็พิเศษ กว่าจะหยุดขำได้เล่นเอาเหนื่อยจนปวดท้องเมื่อนึกถึงวีรกรรมของเพื่อนที่ชอบทำในตอนเมา
“ทำไมอะ?” วิสกี้ถามด้วยความสงสัย เพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างกลั้นขำกันสุดฤทธิ์ ถึงจะเป็เพื่อนกันมาสักพักแล้วแต่วิสกี้ก็ไม่ได้รู้ทุกอย่าง
“ก็มันเมาแล้วชอบเล่นสวิตช์ไฟ กูกลัวไฟช็อตตายเข้าสักวัน” ฟาร์ตอบพร้อมส่ายหน้าอย่างระอาใจ ทุกครั้งที่เมาเกอร์เป็อย่างที่ฟาร์พูดเสมอคือเห็นสวิตช์ไฟตรงไหนคือต้องตามไปกดเปิดปิดเล่นทุกอันจนกว่าจะสร่างเมา และคนที่เหนื่อยที่สุดก็คงไม่พ้นเพื่อนรักอย่างฟาร์ เมื่อก่อนถ้าพายุเมาคนที่ลำบากก็คือดิน แต่ตอนนี้ความวุ่นวายนั้นตกเป็ของฟีนิกซ์ไปเป็ที่เรียบร้อยแล้ว
“เอ้ามึงนี่ ทีมึงเมาแล้วร้องไห้กูยังไม่ว่าเลยน่ะ” เกอร์หันไปว่าฟาร์อย่างไม่จริงจัง
“ห๊ะ ?!” เควินกับวิสกี้ถึงกับร้องห๊ะด้วยความใ เพราะั้แ่สองกลุ่มสนิทกันก็ยังไม่เคยเห็นใครเมาจริง ๆ จัง ๆ แต่แค่นึกสภาพผู้ชายตัวควาย ๆ ทั้งถึกและบึกบึนกล้ามเป็มัด ๆ เมาแล้วนั่งร้องไห้ก็นึกขำ
“ไอ้พายุหนักกว่า ไอ้นี่เมาแล้วชอบแก้ผ้า จริงไหมฟีนิกซ์?” ฟาร์ก็รีบโบ้ยต่อไปให้พายุทันที ทั้งกลุ่มมองพายุเป็ตาเดียว มีเพียงคนเดียวที่ไม่แปลกใจและยกยิ้มมุมปากก็คือฟีนิกซ์เพราะถึงไม่เมาทุก ๆ คืนพายุก็ชอบนอนแก้ผ้าอยู่แล้ว แต่เวลาเมานอกจากจะถอดเสื้อผ้าไวแล้วพายุยังขี้อ่อยอีกด้วย
“เอ้า เกี่ยวไรกับกู?” พายุถามกลับอย่างงง ๆ ไม่ได้พาดพิงถึงธีร์หรือดินต่อ
“หึ” ฟีนิกซ์ขำในลำคอเบาๆ
“หน้าตามึงน่ากลัวว่ะฟีนิกซ์” ฟาร์พูดอย่างจับผิด
“ฮ่าๆ ”
“ไอ้ดิน ไวน่ะมึง” ธีร์เอ่ยแซวเพราะเผลอตาแค่ครู่เดียวมือของดินก็มุดเข้าไปใต้กระโปรงของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกายซะแล้ว
“ใครจะเหมือนมึง” ดินพูดเสียงเรียบ สายตามองไปยังมือเควินที่ลูบอยู่บนขาอ่อนของธีร์
“อะไร?” ธีร์แกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“ไม่น่าถามน่ะมึง เควินดูแลเมียมึงด้วย” ดิน
“กูดูแลดีอยู่แล้ว” เควินยิ้ม มือเลื่อนมาลูบสะโพกเบา ๆ
“เค” ธีร์เรียกเสียงดุที่เควินบ้าจี้ตอบถามที่ดินพูด
“ฮ่าๆๆ” ยิ่งธีร์เขินมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างเสียงหัวเราะให้แก่เหล่าเพื่อน ๆ ได้เป็อย่างดี
“พายุ่นี้มึงก็เหมือนกันชอบหายหน้าหายตา” ฟาร์ยกเหล้าขึ้นดื่มแล้วหันไปถามพายุอย่างกวนๆ ในขณะที่มือหนาลูบไล้ไปตามชายกระโปรงสุดสั้นของหญิงสาวข้างกาย
“กูก็ปกติ” พายุตอบยิ้มๆ ส่วนฟีนิกซ์ก็นั่งดื่มเหล้าเงียบๆตามสไตล์คนพูดน้อย
“ปกติตายล่ะมึง ่นี้หายหัวตลอด” ฟาร์อยากจะขำให้ฟันหัก ใครมองก็รู้ว่ามันไม่ปกติ ชีวิตของพายุเปลี่ยนไปั้แ่ได้พบกับผู้ชายที่ชื่อฟีนิกซ์ แต่เป็การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
“คนมีงานต้องทำครับ ใครจะสบายเหมือนมึง” พายุตอบกลับอย่างกวนตีน
“เอ้า ก็กูใช้คนเป็” ฟาร์ยืดอกรับอย่างภาคภูมิใจ
“แต่บ้านกูเรียกี้เี” พายุด่าเพื่อนรักอย่างดินทันที
“สัส ฟีนิกซ์จัดการมันด้วย” ฟาร์หันไปสบตาฟีนิกซ์ที่นั่งดื่มเหล้าเงียบข้างพายุ
“ได้” คำตอบที่ได้จากฟีนิกซ์ทำให้พายุถึงกันขวับไปมองฟีนิกซ์ทันที
“เอ้า กูผิดอะไร?” พายุโวยวาย
“หึ” ฟีนิกซ์ไม่ตอบอะไรพร้อมขำในลำคอเบาๆ
“คืนนี้มีตี้ เอาป่ะ ?” หลังจากที่นั่งดื่มกันได้สักพักใหญ่เกอร์ถามขึ้นพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่มมองหน้าเพื่อนรักทีล่ะคนด้วยสายตาเ้าเลห์ ตี้ที่ว่านี้คือปาร์ตี้เซ็กส์ แล้วแต่ว่าจะเอากันกี่คน บางวันถ้าว่างพร้อมกันก็ทีเดียว 5 คน ผู้หญิงก็แล้วแต่ว่า 3 คน 4 คน หรือ 5 คน บางครั้งก็เกย์สาว บางครั้งก็แบบแมนๆ กล้ามเป็มัดๆ ก็มี แต่ทุกคนที่พามาต้องเกิดจากความเต็มใจเท่านั้น พวกเราแต่ล่ะคนถึงจะดูดีมีฐานะแต่ก็มีรสนิยมแบบนี้ครับล่อทั้งหน้า ทั้งหลัง แต่ก็ไม่เคยคิดจะกินกันเอง
“มึงดูหน้าพ่อมันด้วย” ฟาร์พูดขัดเกอร์ขึ้นทันทีพร้อมมองไปยังหน้านิ่งๆ ของฟีนิกซ์ ส่วนพายุนั้นไหวไหล่เบาๆ
“ฮ่าๆๆๆๆ ขืนไปมึงจมเตียงแน่พายุ” ธีร์ทั้งขำทั้งแซว
“กูก็ไม่ได้บอกนิว่ากูไป” พายุพูดแบบชิวๆ ยกเหล้าขึ้นดื่ม
คำตอบของพายุเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ได้เป็อย่างดี
“หึ” ฟีนิกซ์
เมื่อเกอร์ได้คำตอบจากพายุเป็ที่เรียบร้อย เป้าหมายต่อไปของเขาคือธีร์
“กูก็ขอบาย” ธีร์รับปฏิเสธทันที
“มึงกลัวเคเหรอครับเพื่อน?” ฟาร์แซวอย่างขำๆ
“ไม่ได้กลัวสักหน่อยกูแค่ให้เกียรติ” คำพูดของธีร์ทำให้เควินยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี สงสัยคืนนี้ต้องให้รางวัล
“กูขอถุ้ยได้ไหม ฮ่าๆๆๆๆ” ฟาร์ว่าเพื่อนอย่างขำๆ
“ไอ้ดิน ?” เกอร์หันไปถามดินที่ตอนนี้ทั้งล้วงทั้งควักผู้หญิงข้างกาย ดินหันมามองเกอร์แล้วส่ายหน้าเป็คำตอบ
“เอ้า !!” ฟาร์
“สรุปคือ เหลือกูกับมึง?” เกอร์หันมาพูดกับฟาร์อย่างเซ็งๆ พร้อมชี้นิ้วไปมา
“เออ” ฟาร์
“ฮ่าาาๆๆ” ทั้งโต๊ะหัวเราะด้วยความสะใจ
“พวกเวร เทกู” เกอร์ทั้งด่าทั้งบ่นแบบไม่จริงจัง พวกที่เหลือก็หัวเราะกันอย่างเดียว
พายุเริ่มเมาแล้วทั้งอ่อยทั้งอ้อนฟีนิกซ์ไปตามระเบียบ โดนลากกลับคอนโดอย่างไวคงไม่ต้องบอกหรอกว่าพายุจะได้นอนกี่โมง เควินก็พาธีร์ขึ้นชั้นสาม พวกที่เหลือก็แยกย้าย สรุปคืนนี้ปาร์ตี้โดนเทพังยับ เหลือแค่ฟาร์กับเกอร์เท่านั้น สุดท้ายก็เลยเรียกเด็กมาแค่คนเดียว ซั่มกันเสร็จก็ส่งเด็กกลับ แล้วก็กลับมานอนด้วยกันที่คอนโด ต่างคนต่างมีคอนโดเป็ของตัวเอง แต่ส่วนใหญ่ฟาร์ชอบมานอนห้องเกอร์เสียมากกว่าเพราะอยู่ใกล้บริษัท
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หยิบมาดูก็รู้ว่าเก้าโมงกว่าแล้ว ฟาร์ก็ตื่นแล้วเช่นกัน
“ครับแม่” เกอร์กดรับสายแล้วพูดเสียงเบางัวเงียเพราะเพิ่งตื่น
“ครับๆ ได้ครับ” เกอร์รับคำแม่แค่ไม่กี่คำก็กดวางสายไป
หลังจากคุยกับแม่เสร็จเกอร์ก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำด้วยสภาพบ็อกเซอร์ตัวเดียวเปลือยกายท่อนบน ฟาร์ลุกขึ้นเดินตามเข้าห้องน้ำไปเช่นกัน ฟาร์กับเกอร์อาบน้ำด้วยกันคือเื่ปกติ
“แม่โทรตาม” ฟาร์ที่กำลังฟอกสบู่ถามขึ้น
“ก็เออดิ ไม่รู้มีเื่ไรอีก” เกอร์ตอบอย่างเซ็งๆ รีบล้างตัว ขืนไปช้ามีหวังแม่โทรตามอีกแน่
“เอาน่า ให้กูไปด้วยไหม?” ฟาร์ที่กำลังล้างตัวถามขึ้น
“มึงมีงานไม่ใช่ไง?” เกอร์เช็ดตัวไปด้วยมองเพื่อนรักไปด้วย เขาจำได้ว่าวันนี้มันมีงาน
“เออว่ะ กูลืมเลย วันนี้ต้องไปคุยกับลูกค้าเื่ขยายสาขาปั้มน้ำมันเพิ่มที่ดอนเมืองว่ะ” ฟาร์พูดขึ้นอย่างเพิ่งนึกได้ เขาลืมเื่นี้ไปเสียสนิท ดีน่ะที่เกอร์พูดขึ้นไม่นั้นตอนสิบโมงเลขาได้โทรตามเขาแน่ นอกจากที่บ้านของฟาร์จะมีธุกิจปั้มน้ำมันแล้วยังมีธุรกิจดอกไม้สดอีกด้วยเพราะคุณแม่ชอบปลูกดอกไม้มากโดยเฉพาะดอกกุหลาบสีขาวเนื่องจากว่าวันวาเลนไทน์ของทุกๆ ปีพ่อของเขามักจะหอบกุหลาบขาวช่อโตมาให้ทุกปี ั้แ่ก่อนที่จะมีฟอร์พี่ชายของเขาและตัวฟาร์เสียอีก ปัจจุบันทำธุรกิจดอกไม้สดแต่พ่อก็ยังมีดอกกุหลาบขาวมาให้แม่แบบนี้ทุกปี พ่อโคตรโรแมนติกอะ
“งั้นแยกกันตรงนี้” เกอร์เช็ดตัวเสร็จพอดีกำลังจะเดินออกไปแต่งตัว
“เออๆ คืนนี้เจอกัน” ฟาร์พยักหน้า เกอร์เดินออกจากห้องน้ำรีบแต่งตัวแล้วรีบขับรถกลับบ้านทันที
@บ้านเกอร์
เกอร์ขับรถไม่ถึงชั่วโมงก็พาตัวเองมาถึงบ้านศศินรากิตตินนท์ พอลงรถเหล่าแม่บ้าน คนสวน และคนขับรถต่างเข้ามาพูดคุยทักทายเพราะเขาค่อนข้างจะสนิทกับทุกคนแต่ไม่ค่อยได้กลับบ้าน ส่วนหนึ่งมาจากรสนิยมของตัวเองล้วนๆ คือจะพาใครมาซั่มกันที่บ้านที่พ่อแม่อยู่ด้วยมันก็ดูไม่ดี แล้วยิ่งรสนิยมของเขาชอบแบบหลายคนด้วยแล้วยิ่งรู้สึกเกรงใจ ทุกวันนี้เลยนอนคอนโดมากกว่านอนที่บ้านแค่พ่อกับแม่ก็ไม่ว่าอะไรเพราะโตๆ กันแล้วถ้าไม่หนักหนาจริงๆ พวกท่านก็ไม่เคยว่าอะไร
“แม่เรียกผมมามีอะไรครับ?” เกอร์เดินตรงไปหาแม่ที่ห้องครัว ตอนนี้คุณแม่แก้วกำลังวุ่นวายอยู่กับเมนูมื้อเที่ยงโดยมีลูกมือคอยช่วยอยู่สองสามคน แต่ส่วนใหญ่แม่แก้วเป็คนทำเองแทบทั้งหมด เพราะแม่เคยบอกว่าใช้รสมือมัดใจสามี
“มาแล้วเหรอ เห็นพ่อบอกว่ามีเื่จะคุยกับลูก” แก้วหันมาพูดคุยกับลูกชายสุดที่รัก ในครัวก็ปล่อยให้แม่ครัวช่วยทำต่อ
“แม่รู้ไหมครับว่าเื่อะไร ให้ผมเดาคงเกี่ยวกับธุรกิจบ้านเรา?” เกอร์พูดขึ้นอย่างรู้ทัน มันจะมีสักกี่เหตุผลที่พ่ออยากให้เขากลับมาบ้านถ้าไม่ใช่เื่มรดก ความจริงพ่อพูดกับเขาเื่นี้เป็ร้อยรอบได้แล้วมั้ง ทั้งตะล่อม ทั้งขู่ ทั้งขอร้อง แต่มันก็ไม่เคยสำเร็จเพราะเขาเองก็มีสิ่งที่ชอบและอยากทำ
“จ๊ะ” แก้วได้แต่ยิ้มอ่อน มองลูกชายด้วยสายตาอบอุ่น พากันเดินมาที่ห้องนั่งเล่น
“แล้วพี่เกลล่ะครับ ?” ที่เกอร์ถามเพราะคิดว่าแม่คงโทรตามพี่สาวให้มาทานข้าวด้วย
ยังไม่ทันที่แม่จะได้ตอบอะไร เสียงรถของคนเป็พ่อก็ดังเข้ามา
“พ่อมาแล้ว แม่ว่าลูกไปคุยกับพ่อเองดีกว่า แม่ไปทำกับข้าวต่อน่ะ เดี๋ยวจะได้ทานกัน พ่อน่าจะหิวแล้ว” แก้วพูดจบก็เดินกลับเข้าครัวไปทันที
“ไอ้ตัวดีกว่าจะโผล่หัวมาได้น่ะแก” คำพูดแรกที่คนเป็พ่อเอ่ยทักทายลูกชายคนเดียวของตัวเองเนื่องจากลูกไม่กลับมาบ้านนาน
“ก็มาแล้วนี่ครับ” เกอร์โอดครวญเบาๆ กับคำพูดเหน็บแนมของคนเป็พ่อถึงรู้ว่าพ่อจะไม่ได้จริงจังก็ตาม
“หึ พร้อมยัง” พงศ์พ่อของเกอร์ถามยิ้มๆ พร้อมเดินเข้าห้องทำงาน
“พร้อมอะไรครับ พ่อพูดเื่อะไร?” พ่อคลายเนคไทออกให้หลวมๆ ถอดสูทพาดไว้บนเก้าอี้ทำงานพร้อมมองลูกชายที่ทำหน้างุนงงกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดไป พงศ์ดูออกว่าลูกชายของตัวเองรู้ดีว่าเขาพูดถึงเื่อะไรแต่มันแค่แกล้งไม่รู้
“เื่งานที่บริษัท พ่อว่าถึงเวลาแล้วที่แกต้องรับ่ต่อ ถึงวันนี้แกไม่รับ สุดท้ายก็ต้องรับมันไว้อยู่ดี” คนเป็พ่อได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ก่อนบอกลูกชายอย่างใจเย็น
“แล้วพี่เกล?” เกอร์นั่งลงตรงข้ามพ่อแล้วมองด้วยแววตาที่จริงจัง เื่อื่นอาจเห็นว่าเกอร์เป็คนขี้เล่นแต่พอเป็อะไรที่เกี่ยวกับครอบครัวเขามักจริงจังเสมอ ยิ่งพ่อบอกจะยกนู้นให้ยกนี่ให้ก็อดเป็ห่วงความรู้สึกของพี่สาวไม่ได้
“พ่อคุยแล้ว บริษัทอาหารแปรรูปพ่อให้พี่เขา ส่วนแกก็เอานำเข้าผักและผลไม้ไป” พงศ์มองสบตากับลูกชายด้วยแววตาที่จริงจังไม่แพ้กัน
“โห่พ่อ ของผมก็งานยุ่งจะตายแล้ว” เกอร์โอดครวญเบาๆ ธุรกิจที่เขาสร้างมันขึ้นมากับมือหลังจากที่เรียนจบเกิดจากความชอบส่วนตัวและใช้น้ำพักน้ำแรงของตัวเองเพราะอยากยืนด้วยขาของตัวเองไม่ใช่เงินจากครอบครัว คือธุรกิจนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็ วิสกี้ วอดก้า จิน บรั่นดี เตกีล่า ไวน์ รัม ลิเคียว หรือแม้แต่ แอพเพอริทิฟ กว่าที่เขาจะดีลเข้ามาได้ไม่ใช่เื่ง่ายแต่ก็ไม่ยากนักเพราะเส้นสายมีค่อนข้างเยอะ เหล้านอกในร้านของธีร์ส่วนใหญ่ก็มาจากเขาทั้งนั้น รายได้ในแต่ล่ะเดือนที่มาจากร้านธีร์ก็ไม่ใช่น้อยๆ และตอนนี้ร้านของเควินก็เปลี่ยนมาสั่งเครื่องดื่มจากเขาแล้วเหมือนกัน
ความจริงแล้วเขาและเพื่อนๆ เรียนจบวิศวะ แต่ทุกคนก็ย่อมมีเส้นทางเดินเป็ของตัวเอง สิ่งที่เรียนมาสุดท้ายแล้วอาจไม่ใช่สิ่งที่ชอบเสมอไป
“ก็ใช่ไง พ่อเลยให้แกทำคู่กันไปเลย” พงศ์พ่อของเกอร์มองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“ตายพอดี” เกอร์
“แล้วให้พ่อเอาไปไหน?” พงศ์ถอนหายใจเบาๆ แล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่รู้พ่อสิ ให้พี่เกลก็ได้ เห็นลูกเขยพ่อสนใจอยู่นี่” เกอร์เสนอทางออก เพราะก่อนหน้านี้ได้ข่าวว่าพี่เขยเขาอยากดูแลบริษัทนำเข้าผักและผลไม้
“ไม่ได้ เกลได้ไปแล้ว ส่วนแกก็ต้องเอาไป ถ้าแกจะขายบริษัทที่พ่อกับแม่แกสร้างมันขึ้นมากับมือก็ตามใจ” พงศ์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ มองลูกชายอย่างตัดพ้อ ก็ในเมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ก็ต้องใช้ไม้อ่อนดู
“ก็ได้ครับ ทีหลังอย่าทำหน้าเศร้า พ่อก็รู้ว่าผมไม่ชอบ” สุดท้ายเกอร์ก็ต้องจำใจรับ แบบนี้ทุกทีเลยแล้วใครมันจะใจร้ายกับพ่อด้วยเองได้
“ั้แ่พรุ่งนี้เข้าบริษัทด้วย” พงศ์พูดแล้วยกยิ้มอ่อนมองลูกชายด้วยความอบอุ่น
“ครับๆ” เกอร์พยักหน้ารับ
“พ่อแค่อยากเกษียณแล้ว พินัยกรรมพ่อก็ทำไว้ให้หมดแล้ว ถ้าตายจะได้ตายตาหลับ” พงศ์ยกยิ้มอ่อน
“พ่อไม่พูดงั้นดิ” คำพูดของคนเป็พ่อทำให้เกอร์มองพ่อด้วยแววจริงจัง
“คนเราจะตายตอนไหนใครจะไปรู้” พงศ์พูดอย่างปลงๆ เพราะชีวิตคนเรานั้นไม่แน่ไม่นอน ไม่มีใครรู้วันตายของตัวเองเพราะฉะนั้นหากต้องตายก็อย่าเป็ภาระของใคร เขาจึงเคลียร์ทุกอย่าง จัดสรรปันส่วนให้ทั้งเมียและลูกทั้งสองเท่าๆ กัน
“ไม่เอาไม่พูดเื่นี้” เกอร์พูดเสียงแข็ง แทบนับครั้งได้ที่เขาจะพูดจากับพ่อแบบนี้ เื่นี้เขาไม่โอเคจริงๆ น่ะ
“แกก็เหมือนกัน เื่ทะเลาะวิวาทเพลาๆ ลงบ้าง โตๆ กันแล้ว อย่าเล่นเป็เด็กๆ มันไม่คุ้มเสีย” พงศ์พูดเตือนสติ เขาไม่เคยว่าลูกแต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้อะไรเลย ทุกครั้งที่ลูกมีปัญหาเขาทำเพียงมองดูอยู่ห่างๆ ไม่ล้ำเส้นความเป็ส่วนตัวของลูก แต่หากวันไหนที่ลูก้าความช่วยเหลือเขาพร้อมช่วยเสมอ
“ครับ จะพยายาม” เกอร์ตกปากรับคำ ตัวเขาเองไม่ค่อยจะมีเื่หรอกส่วนใหญ่ศัตรูไอ้ดิน พายุ และธีร์ทั้งนั้น ซึ่งมันเป็เื่ที่เลี่ยงไม่ได้
“แล้วก็มาหาพ่อกับแม่บ้างไม่ใช่คลุกอยู่แต่กับผู้หญิง” พงศ์พูดแล้วมองลูกชายดุๆ ปนเ้าเล่ห์
“ความสุข่วัยรุ่นน่าพ่อ หรือพ่อไม่เคย” เกอร์พูดโอดครวญเบาๆ แล้วถามกลับด้วยแววตาเ้าเล่ห์ไม่แพ้คนเป็พ่อ
“หึ ย้อนเก่ง ระวังโรค” พงศ์ยิ้มขำ
“ผมป้องกันเสมอครับ ไม่เคยพลาด” เกอร์พูดอย่างภูมิใจ
“ก็ดีแล้ว” พงศ์มั่นใจในลูกชายเสมอว่าเขาจะดูแลตัวเองได้เป็อย่างดี แต่บางทีก็กลัวจะพลาด
“นี่ใคร ลูกพ่อ” เกอร์ยกยิ้มกว้าง
“หึ แล้วคืนนี้นอนไหน” พงศ์ถามทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังอยากถาม
“แน่นอนว่านอนคอนโด ฮ่าๆๆๆ” เกอร์ขำอย่างสะใจ
“ตามใจแกล่ะกัน” พงศ์มองลูกชายอย่างระอาใจ
“สองพ่อลูก ทานข้าวจ๊ะ” แก้วคนเป็แม่ได้ยินเสียงสองพ่อลูกหัวเราะดังออกนอกห้องทำงาน เปิดประตูเข้าไปตามทั้งคู่เพราะกับข้าวเสริมแล้ว ถ้าปล่อยให้เย็นเดี๋ยวมันจะชืดไม่อร่อย
“ครับแม่” เกอร์
“วันนี้ฟาร์ไปไหนลูก ปกติตัวติดกันตลอด?” ในขณะที่นั่งทานข้าวกันอยู่แก้วก็ถามถึงเพื่อนซี้ของลูกชาย เพราะคู่นี้ไปไหนไปกันตลอด ที่ไหนมีเกอร์ที่นั่นมีฟาร์เสมอ นี่ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีเมียคนเดียวกันรึเปล่าก็ไม่รู้
“ไปทำงานครับ” เกอร์
“ขยันจริงๆ เลยน่ะ” แก้วพูดยิ้มๆ เพื่อนของลูกทุกคนถึงจะเกเรอยู่บ้างแต่ก็ขยันทำงานกันทุกคน
“มันี้เีจะตายแม่” เกอร์ยิ้มขำเมื่อแม่ของเขาพูดถึงเพื่อนรักในทางที่ดี
“ทำไมแม่ไม่เห็นจะเป็แบบที่ลูกว่าเลยล่ะ” แก้ว
“มันสร้างภาพครับแม่” เกอร์บอกแม่ด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“ลูกก็พูดไป เดี๋ยวฟาร์ก็โกรธเอาหรอก” แก้วว่าลูกชายยิ้มๆ พรางตักต้มจืดของโปรดให้ด้วย
“มันไม่โกรธผมเื่ไร้สาระหรอก” เกอร์บอกอย่างมั่นใจ ระหว่างเขากับฟาร์เราเป็มากกว่าเพื่อนรักคือตายแทนกันได้น้อยครั้งนักที่เราสองคนจะทะเลาะกัน ยิ่งเื่ไร้สาระยิ่งเป็ไปไม่ได้เลย
“พวกลูกนี่รักกันดีจริงๆ” แก้วพูดยิ้มๆ
“รักมากสิครับแม่” เกอร์ตอบไปตามความรู้สึกไม่คิดอะไรต่างจากคนฟัง
“หึ เพื่อนรัก หรือรักเพื่อน” พงศ์มองลูกชายด้วยสายตาเ้าเล่ห์ถามด้วยน้ำเสียงขำขัน สมัยนี้โลกเปิดกว้างไปไกลเขาเลยไม่รู้สึกซีเรียสหากลูกชายคนเดียวของเขาจะชอบเพศเดียวกันและเขาไม่กลัวผลกระทบทางธุรกิจที่จะได้รับด้วย
“ก็ทั้งสองอย่างแหละครับ” เกอร์ตอบยิ้มๆ
“คิคิ” แก้วหัวเราะเบาๆ มองลูกชายยิ้มๆ
“อะไรแม่ หยุดความคิดเลย มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิด” เกอร์รีบปฏิเสธทันที เขาแทบสำลักข้าวที่กำลังกลืนลงคอเมื่อมองตาพ่อกับแม่เขาก็รู้แล้วว่าทั้งคู่กำลังคิดอะไร
“แม่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ลูกนี่ร้อนตัว” แก้วพูดขำๆ กับท่าทางของลูกชายตัวเอง
“เอ้า ก็ดูแม่กับพ่อทำหน้าเข้าสิ” เกอร์โอดครวญเบาๆ
“คิคิ” แก้วถึงกับต้องกลั้นขำ
“แล้วไม่ใช่อย่างนั้น?” พงศ์ถามลูกชายยิ้มๆ
“บ้าน่า เพื่อนกันครับ” เกอร์ตอบแล้วก้มหน้าก้มตาทานข้าวอย่างไว ปล่่อยให้พ่อกับแม่ยิ้มขำอยู่อย่างนั้น
บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขเป็ภาพที่คนรับใช้และเหล่าแม่บ้านอดยิ้มไม่ได้ และถ้ามีเกลอยู่ด้วยแล้วครอบครัวยิ่งสมบูรณ์
“พ่อแม่ งั้นผมกลับก่อนน่ะไว้ว่างๆ จะมาหา” หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ นั่งพูดคุยกับพ่อแม่สักพักฟาร์ก็ขอตัวกลับ
“ขับรถกลับดีๆ” พงศ์พูดอย่างเป็ห่วงเพราะรู้ว่าลูกชายชอบความเร็วเป็ชีวิตจิตใจ
“ไว้รอบหน้าลูกมาบ้านอย่าลืมพาฟาร์มาด้วยน่ะ” แก้วพูดแล้วยิ้มบางๆ อย่างอบอุ่น
“โอเคครับ” เกอร์รับปากแม่พร้อมกอดแม่เบาๆ หันยิ้มให้พ่อแล้วขึ้นรถขับตรงไปคอนโดตัวเองทันที
@คอนโดเกอร์
เกอร์ขับรถเข้าลานจอดใต้คอนโดเจอรถฟาร์จอดอยู่ก่อนแล้วในที่จอดประจำ พอเปิดห้องก็พบฟาร์นอนเล่นเกมส์อยู่บนเตียงมีเพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวอย่างเช่นเคย
“มึงไม่ไปไหน ?” เกอร์ถาม ในขณะที่เดินเอาของไปเก็บเข้าที่แล้วถอดเสื้อผ้าเครื่องประดับเหลือเพียงบ๊อกเซอร์ไม่ต่างจากฟาร์ะโขึ้นเตียงหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดหาหนังดู
“ี้เีว่ะ อยากนอน” ฟาร์ตอบยิ้มๆ วันนี้เขาแค่ไม่อยากออกไปหาความวุ่นวาย อยากอยู่ในห้องเงียบๆ
“กูด้วย เบื่อโคตร” เกอร์พูดอย่างเซ็งๆ กดไปกดมาก็ยังไม่เจอหนังที่ถูกใจ
“ตกลงว่าไง ?” จบเกมส์พอดีฟาร์เลยวางโทรศัพท์ลงแล้วหันมองหน้าเพื่อนรักที่ตอนนี้จะเริ่มหงุดหงิด
“ก็อย่างที่คิด” เกอร์ตอบด้วยน้ำเสียงหน่ายใจ แค่คิดถึงงานร่างกายเขาก็เหนื่อยรอแล้ว
“แล้ว?” ฟาร์เลิกคิ้ว
“ตอบตกลงไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าต้องเข้าบริษัท” เกอร์หันหน้ามาตอบ ฟาร์เลยแย่งรีโมทมาแล้วกดเลือกหนังให้อีกฝ่ายเอง เกอร์ก็ไม่ได้ว่าอะไรดีซะอีกหากเขาเลือกเองคงได้เลือกทั้งชั่วโมงก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ดูไหม
“แสดงว่าคืนนี้ตี้ไม่ได้?” ฟาร์ถามยิ้มๆ นัยต์ตาเป็ประกาย
“เออ แต่ถ้ามึงอยาก”
“ี้เีว่ะถ้ามึงไม่ทำด้วย มันไม่สนุก” เกอร์พูดยังไม่ทันจบดีฟาร์ก็พูดขัดขึ้น เซ็กส์มันจะไม่สุดถ้าเขาไม่ได้เห็นใบหน้าของเกอร์ที่กำลังฟิน ไม่รู้สิ เขาชอบมองเกอร์เวลาที่อีกฝ่ายกำลังมีเซ็กส์
“เปล่า กูจะบอกว่าถ้ามึงอยากก็จัด ทำอย่างกับไม่เคยปี้จนถึงเวลาทำงาน” เกอร์พูดยิ้มๆ เื่ความหื่นทั้งเขาและฟาร์มีไม่แพ้กัน อย่างที่ฟาร์พูดขาดเขาฟาร์คงไม่สนุก เขาเองก็เหมือนกัน ยังนึกภาพไม่ออกเลยหากวันใดวันหนึ่งอีกฝ่ายมีครอบครัวเขาจะต้องจัดการเื่นี้ยังไง
“ไม่เหมือนกันดิว่ะ นั่นบริษัทพ่อมึง มึงจะไปยืนหาวไม่ได้มันเสียภาพลักษณ์” ฟาร์รีบห้ามความคิดเพื่อนรักทันที เื่มีเซ็กส์กันจนเช้าแล้วไปทำงานกันต่อเลยคือเื่ที่พวกเขาทำกันบ่อย
“เออๆ งั้นกูพิมพ์บอกพวกมันว่าไม่เข้าไป” เกอร์พูดขึ้นแล้วกดพิมพ์ข้อความส่งเข้าไปในไลน์กลุ่ม แล้วในกลุ่มคืออ่านกันไวมาก มีแซวกันนิดๆ หน่อยๆ
“เดี๋ยวคืนนี้เปิดเบียร์กินในห้อง” ฟาร์ยิ้ม กดโทรศัพท์เข้าเล่นเกมส์ต่อปล่อยให้เกอร์นอนดูหนังไป
“อืม” เกอร์พยักหน้า ตายังคงจดจ่ออยู่กับหนังที่ฟาร์เป็คนเลือกให้ แล้วเลือกดีเสียด้วยเป็เื่ที่น่าสนใจ
“ผมอกหักจริงๆสิน่ะ”
“มาเดียวพวกกูดามเอง”
…………………………………………………
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้