“แหม๋ว แหม๋ว แหม๋ว” ภีมพลหลับตาพลางทำเสียงแมวร้อง หวังให้พวกคนร้ายเลิกสนใจเสียงโครมครามเมื่อครู่ ปรากฏว่าได้ผล เสียงแมวปลอมๆ จากปากของชายหนุ่มทำให้ชายฉกรรจ์คนหนึ่งหันไปบอกหัวหน้า
“เสียงแมวพี่ ไม่มีอะไรหรอก”
“เสียงแมวห่าอะไรร้องแบบนี้ มึงเดินไปดูซิ” สิ้นเสียงของหัวหน้าในกลุ่มเท่านั้นลูกน้องจึงหันเดินตรงมายังจุดสงสัยด้วยท่าทางมุ่งมั่น
“ฉิบหายแล้ว หลบทางไหนดีพี่” ภีมพลหันมากระซิบถามนายตั้ม ก่อนที่ชายกลางคนจะดึงตัวเขามาหลบในมุมอับอีกมุมหนึ่ง ทันเวลาที่ลูกน้องของหัวขโมยจะเดินมาถึง แล้วชะเง้อคอมองในจุดสงสัยสองสามครั้ง แล้วเดินกลับไป
“ไม่มีใครพี่ สงสัยเป็เสียงแมวจริงๆ” เมื่อแน่ใจแล้ว ทั้งหมดจึงหันกลับไปทำภารกิจต่อ ตามด้วยเสียงกลั้นหัวเราะจากนายตั้ม
“พวกมันเชื่อจริงๆ ด้วยว่าเป็เสียงแมว สงสัยมันไม่เคยดูละครแน่ๆ” ชายกลางคนส่ายศีรษะไปมา ก่อนหันมาทำการบันทึกภาพต่อเนื่องจนจบ
หลังจากพักเที่ยงนายตั้มและภีมพลนั่งหาวหวอด ดวงตาสะลึมสะลือบ่งบอกถึงอาการเหนื่อยล้าได้เป็อย่างดี เนื่องจากอดหลับอดนอนในภารกิจจับผู้ร้ายเมื่อคืนนี้ ทำให้เขาทั้งคู่รีบทานอาหาร แล้วมาแอบงีบหลับอยู่ในห้องพักพนักงาน ก่อนที่จะมีคนงานหญิงวิ่งมาตามภีมพลออกไป
“พี่คะ มีผู้หญิงมารอพบหน้าโรงงาน เธอบอกว่าเป็เพื่อนพี่อ่ะ” ภีมพลลืมตาตื่น พยายามเอานิ้วมาแหกตาตัวเอง แล้วเดินตามคนงานหญิงออกมาพร้อมความอ่อนเพลีย
“พิชญ์เองหรือ มีอะไรเปล่า” ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาพิชญาที่ยืนรออยู่หน้าโรงงาน หญิงสาวที่แต่งตัวน่ารัก ยืนส่งยิ้มให้ชายหนุ่มใส่ชุดหมีสีส้ม ผิวขาวเนียนละเอียดจนคนงานชายพากันหวีดแซวเป็ระยะ
“เราเป็ห่วงเธอ กลัวพี่วินจะ...” พิชญานิ่วหน้า ส่อสายตากังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเอ่ยถึงธาวินผู้ซึ่งเป็เ้าของโรงงานแห่งนี้
“ไม่ต้องห่วงหรอก เราแค่ช่างซ่อมเครื่องจักร ป่านนี้เขาลืมเราไปแล้ว จดหมายเลิกจ้างก็ไม่มี แค่เนียนๆ ทำต่อไป ไม่มีใครจับได้หรอก” ภีมพลพูดพร้อมกับยิ้มกว้างให้หญิงสาวสบายใจ ในขณะที่ใบหน้าหวานยังคงมองภีมพลด้วยสายตากังวล ก่อนที่ชายหนุ่มจะยกมือขึ้นมาจับไหล่ของหญิงสาว
“ไม่ต้องห่วงเราจริงๆ อย่าว่าแต่เ้าของโรงงานเลย แค่ผู้จัดการเรายังไม่ค่อยเห็นหน้าเลย เชื่อเราดิว่าพี่ชายเธอจำเราไม่ได้หรอก” หญิงสาวปล่อยยิ้มพลางพยักหน้าเข้าใจ เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากเพื่อน ก่อนจะเปลี่ยนเป็สีหน้ายู่ยี่ยืนไม่อยู่สุข
“เป็อะไร” ภีมพลพูดด้วยความเป็ห่วง
“ปวดฉี่” พิชญายิ้มแห้งๆ ก่อนจะค่อยๆ พูดออกมา
“แล้วกัน” ชายหนุ่มอุทานขึ้น
“ก็เรายืนรอเธอตั้งนาน กว่าจะออกมาได้”
“งั้นไปเข้าข้างใน มีห้องน้ำอยู่” ภีมพลคิดหาทางแก้ปัญหาครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจพาเพื่อนสาวเดินลัดเลาะ ฝ่าฝูงคนงานนับสิบเดินเข้ามายังด้านใน
“เฮ้ยพี่ ดูนั่นดิ”
“ไอ้เด็กใหม่ที่มันเตะเรายับวันนั้นไง”
“จุ๊ๆๆ แฟนแม่งโคตรแจ่ม พวกเรามีเื่สนุกแล้ว ไปกันเถอะ” กลุ่มชายที่นั่งจับกลุ่มกันระหว่างพักเที่ยง ค่อยๆ เดินตามหลังภีมพลและพิชญาไป โดยไม่ให้ทั้งสองรู้ตัว
“เออ...พิชญ์ ห้องน้ำเดินตรงไปเลี้ยวซ้ายก็ถึง เดี๋ยวเราไปเอามือถือก่อน ลืมไว้ที่ห้อง”
“อื้ม” หญิงสาวหันไปตอบ ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปยังห้องน้ำด้วยความรีบร้อน เพราะปวดจนอั้นแทบไม่ไหว หลังจากเสร็จกิจ พิชญาเดินออกมารอภีมพลอยู่หน้าห้องน้ำ ก่อนจะเจอกับคนชายฉกรรจ์หลายคน เดินมาล้อมตัวเธอไว้สีหน้าแสดงออกว่า้าบางอย่างจากเธอ
“ขอตัวนะคะ” พิชญาก้มหน้าแล้วพยายามฝ่าออก หากแต่โดนคนตัวใหญ่กั้นเอาไว้
