ชายผู้สง่างามมีนามว่าอวี๋ิกวง อวี๋หรงกรุ๊ปเป็ธุรกิจที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขา มีอิทธิพลในเมืองผิงไม่น้อยไปกว่าหลิงจื้อเฉิง
เช่นเดียวกับหลิงจื้อเฉิง เขามาจากชนบทที่ยากจน แต่เมื่อเทียบกับหลิงจื้อเฉิงที่เริ่มต้นจากศูนย์ เขาซึ่งมีทุกวันนี้ได้ต้องขอบคุณตระกูลเยวี่ย
อันดับแรก อวี๋ิกวงคือชายผู้เปรียบดั่งหงส์[1]
แต่ใช่ว่าชายผู้เปรียบดั่งหงส์ทุกคนจะมีความพิเศษ อวี๋ิกวงเป็คนรู้จักบุญคุณคน เขากับภรรยาเป็เพื่อนร่วมชั้นมหาวิทยาลัยเดียวกัน พัฒนาความสัมพันธ์เป็ความรักจนแต่งงาน แม้ว่าธุรกิจหลายอย่างหลังจากนั้นจะได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเยวี่ย แต่เขาไม่รู้สึกว่านี่คือการดูิ่ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย มีการสนับสนุนจากตระกูลเยวี่ยทำให้เขาสามารถเดินทางลัด เขาดีใจมาก และรู้สึกขอบคุณตระกูลเยวี่ยที่คอยช่วยเหลือมาเสมอ ปฏิบัติต่อภรรยาโดยให้เกียรติและเห็นอกเห็นใจมากขึ้น ทัศนคติเช่นนี้ทำให้เขาเป็พี่น้องที่ดีของพี่ชายและน้องชายของภรรยาตระกูลอวี๋
คราวก่อนนัดรับประทานอาหารในเมืองกับน้องชายภรรยา เขาได้เจอคนของคณะกรรมการมณฑล ตอนนั้นรถคันที่นำขบวนคือรถคันนี้
เนื่องจากน้องชายภรรยาได้ชี้ให้เขาดู คนที่นั่งอยู่ในรถคือผู้ที่มีอำนาจในมณฑล เขาจึงจำป้ายทะเบียนรถได้แม่นยำ
มันคือป้ายทะเบียนรถคันนี้
ในเวลานี้รถคันดังกล่าวปรากฏในเมืองผิง อีกทั้งชายหนุ่มท่าทีพิเศษคนนั้นก็เดินทางมารับบุตรสาวตระกูลหลิงโดยเฉพาะ
แววตาของอวี๋ิกวงฉายประกายที่มีความหมายทันที
“ประธานหลิง ดีใจด้วยนะครับ บุตรสาวของคุณโชคดีไม่น้อย”
อวี๋ิกวงยกมือขึ้นประสานระดับหน้าอกด้วยความนับถือ ใบหน้าสง่างามนั้นไม่อาจปกปิดความดีใจที่เห็นครอบครัวคนอื่นเจอเื่ยากลำบาก คำพูดเมื่อครู่ของเด็กสาว ใครๆ ก็รู้ว่าเธอกำลังมี่เวลาที่ยากลำบากกับทุกคนในครอบครัว เขาเป็คู่แข่งหลิงจื้อเฉิงมาหลายปี วางอุบายว่าร้ายอีกฝ่ายมาตลอด ในวันนี้เขามีความสุขเมื่อเห็นอีกฝ่ายถูกบีบให้ยอมรับความพ่ายแพ้
ตัวอักษรหน้าแผ่นป้ายทะเบียนรถสีดำคันนั้นยังเป็ชื่อของมณฑลด้วย…หลิงจื้อเฉิงเองก็ใ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอวี๋ิกวง เขาไม่สามารถแสดงท่าทีอ่อนแอ
“ขอบคุณประธานอวี๋ อีกไม่กี่วันจะเป็งานเลี้ยงวันเกิดของลูกสาวผม ขอเชิญท่านประธานกับลูกสาวมาร่วมงานนะครับ”
“ไม่มีปัญหา”
อวี๋ิกวงตอบรับ เมื่อนึกถึงวาจาที่ไม่ไว้หน้าใครเมื่อครู่ของเด็กสาว ก็รู้สึกว่าเมื่อถึงเวลานั้นคงมีเื่สนุกให้ดูอย่างแน่นอน
อวี๋ิกวงพาบุตรสาวกลับขึ้นรถด้วยท่าทีกระตือรือร้นสุดจะบรรยาย บุตรสาวของเขาบอกว่ามีความสัมพันธ์อันดีกับเด็กสาวคนนั้น เมื่อเอ่ยออกมาทำให้ได้รู้ว่าตอนนี้บุตรสาวของเขากับเด็กสาวคนนั้นเป็เพื่อนที่ดีต่อกัน
“ทำไมไม่เคยได้ยินลูกเล่าถึงเพื่อนคนนี้”
แม้ว่าอวี๋ิกวงจะยุ่งอยู่กับธุรกิจ แต่เขาก็ใส่ใจเื่ของภรรยาและบุตรสาวเสมอ โดยปกติแล้วเขาคุ้นเคยกับเพื่อนทุกคนของบุตรสาว
“เพิ่งสนิทกันค่ะ นิสัยเธอใช้ได้เลย ที่หนูเคยเล่าว่ามีคนช่วยติวข้อสอบให้ก็คือเธอ หากไม่ได้เธอ สอบวิชาภาษาจีนเมื่อครู่หนูคงงงเป็ไก่ตาแตกไปแล้ว”
อวี๋ฉิงเป็บุตรสาวที่มีค่าของตระกูลอวี๋แตกต่างจากซูอิน ตอนที่อวี๋ฉิงยังเด็ก ครอบครัวของเขายังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เธอก็ได้รับความรักจากคุณลุงซึ่งมักจะพาเธอเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ต่อมาเมื่อครอบครัวของเขาลืมตาอ้าปากได้ เธอยิ่งไม่เคยพลาดโอกาสออกงาน เมื่อมีประสบการณ์หลายครั้ง เห็นสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ เธอก็เข้าใจความหมายของผู้เป็พ่อ
“คุณพ่อคะ หนุ่มรูปหล่อที่มารับซูอินเมื่อกี้มีตำแหน่งที่ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมคะ”
“ไม่ใช่คน แต่เป็รถคันนั้น มันเป็รถของคณะกรรมการประจำมณฑล อย่างไรก็ตามตำแหน่งของผู้ชายคนนั้นย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน ฉิงฉิง เขาดูสนิทสนมกับเพื่อนของหนูขนาดนี้ ต่อจากนี้ไปสาวน้อยคนนั้นต้องไม่ธรรมดา ลูกไปมาหาสู่กับเธอบ่อยๆ นะ”
“เธอเป็เพื่อนหนู ก็ต้องไปมาหาสู่กันอยู่แล้ว”
อวี๋ฉิงแสดงสีหน้าไม่พอใจ “คุณพ่อคะ พวกคุณพ่ออย่าเอาอารมณ์และความ้าแบบนั้นมาใส่ที่ตัวเธอ หนูอยากเป็เพื่อนกับเธอด้วยความจริงใจ”
อวี๋ิกวงยิ้มอย่างมีเลศนัย “เอาละ พ่อจะฟังตามที่ลูกบอก แต่ว่าเธอติวให้ลูก และมันก็ช่วยได้มาก งานฉลองวันเกิดคราวนี้ พวกเราควรเตรียมของขวัญดีๆ ให้เธอสักหน่อย”
“อืม อันที่จริงหนูบอกคุณลุงให้เตรียมรองเท้าวาเลนติโน่ให้แล้วค่ะ ก่อนหน้านี้เคยบอกแล้วว่าจะให้เธอ แต่เหมือนเธอจะไม่เชื่อ…”
“อยากให้อะไรก็ให้ไปเถอะ เงินไม่เป็ปัญหา”
ใน่สั้นๆ ของการสนทนา สองพ่อลูกกำหนดสถานะของซูอินใหม่ อีกทั้งยังมีความแน่วแน่ในการผูกมิตรกับเธอ
ซูอินตามฉินหล่างไปขึ้นรถโดยไม่รู้เื่อะไรเลย
เมื่อดูภายนอก นี่เป็เพียงรถ SUV ธรรมดา แต่เมื่อเข้าไปจะรู้ว่ามีภายในมีการตกแต่งใหม่ ซูอินไม่ใช่คนหลงใหลเื่รถ และไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้ แต่ก็พอจะรู้ว่านี่เป็กระจกอะไรสักอย่างที่กันะุ เมื่อชาติก่อนตอนที่หลิงกวงกรุ๊ปก้าวหน้ามาก หลิงจื้อเฉิงอยู่ในสถานะน้ำขึ้นเรือย่อมสูง[2] รถที่ใช้จึงมีการติดกระจกกันะุ
ทำให้เธอมองสถานะของฉินหล่างใหม่อีกครั้ง
“เมื่อครู่ขอบคุณมากนะคะ”
ฉินหล่างพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร จากหางตาเขาเห็นดวงตาที่สดใสและผ่อนคลาย ทำให้มือที่จะดึงเบรกมือชะงักเล็กน้อย
เขาสตาร์ตรถด้วยท่าทีแข็งทื่อ ภายในรถเริ่มเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง
อันที่จริงการร่วมเดินทางบนรถคันเดียวกับคนแปลกหน้า ทำให้ซูอินประหม่าเล็กน้อย เธอสูดหายใจเข้าลึกเพื่อคลายความประหม่า เริ่มใช้สมองคิดหาเื่คุย
ไม่นานก็คิดออก เื่เงินที่ยืมมาห้าพันไงล่ะ!
ตอนที่กำลังจะนำเงินออกมา เธอรู้สึกเสียดท้อง ความคิดแรกคือน้ำพุแห่งจิติญญาออกฤทธิ์ แต่ความรู้สึกที่มีบางอย่างไหลลงมาทำให้รู้ว่าไม่ใช่
ประจำเดือนมา
รอบเดือนของเธอมาช้าเสมอ เด็กสาวในชั้นเรียนของเธอส่วนใหญ่ล้วนเคยใช้ผ้าอนามัย แต่ของเธอกลับมาช้ากว่าคนอื่น และในชาติก่อนเธอถูกหลิงเมิ่งแกล้ง บังคับให้ดื่มน้ำเย็นจนเต็มท้อง บวกกับสถานการณ์ที่มีรอบเดือนกะทันหัน ทำให้เธอปวดจนเกือบเป็ลมในสนามสอบ
เมื่อกลับชาติมาเกิดและยุ่งกับเื่ต่างๆ เธอจึงลืมเื่นี้ไป โดยไม่คิดว่ามันจะมาในเวลาที่เหมาะเจาะเช่นนี้
แต่ยังดีที่ค่อนข้างห่างจากความเ็ปที่น่าหวาดกลัวเหมือนในชาติก่อน
ซูอินรีบดึงสติ ก่อนจะชำเลืองมองชายหนุ่มด้านข้างที่ไม่ว่าจะดูกี่ทีก็หล่อเหลา ในเวลาเช่นนี้มีเพศตรงข้ามและยิ่งเป็คนแปลกหน้าอยู่ด้วยทำให้รู้สึกประหม่า แต่ความปวดบริเวณท้องน้อยเตือนเธอว่ารอไม่ได้แล้ว
“กลับโรงแรมเลยได้ไหมคะ”
“ไม่กินข้าวหรือ”
การสอบนั้นใช้พลังงานมาก โดยเฉพาะการปะทะเมื่อเช้าและ่เที่ยงที่ผ่านมา เมื่อนึกถึงมันทำให้ฉินหล่างรู้สึกสงสาร จึงอยากพาเธอไปกินข้าวสักมื้อ
อย่างไรเสียเบี้ยเลี้ยงของเขาค่อนข้างเยอะ เลี้ยงข้าวเธอได้สบาย
ถ้ากินเข้าไปเธอกลัวว่าเืจะออกมาเสียก่อน เธอพยายามอดกลั้นความเ็ปที่ท้องน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันกลับไปกินอะไรนิดหน่อยที่โรงแรมแล้วจะนอนพักด้วย”
ทำไมเธอดูสีหน้าไม่ค่อยดี
ฉินหล่างไม่คิดว่าปัญหามาจากตนเอง ั้แ่เด็กเขาได้รับการปฏิบัติต่างๆ จึงรู้ว่าใบหน้าของเขาใครๆ ต่างก็ชื่นชอบ
ไม่นานเขาก็เริ่มเข้าใจ “เธอไม่สบายหรือ”
“อืม นิดหน่อยค่ะ”
มือของฉินหล่างวางอยู่ที่พวงมาลัย “ตอนบ่ายต้องสอบอีก จะเป็แบบนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล”
“ไม่ต้องค่ะ…”
หากถูกเขานำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะเื่แบบนี้ น่าอายแย่ ซูอินร้อนใจ หันไปมองเขา เมื่อเห็นแววตาสงสัยและลังเลของอีกฝ่าย ในที่สุดเธอตัดสินใจพูดออกไป
อับอายต่อหน้าคนคนเดียว ดีกว่าอับอายต่อหน้าคุณลุงคุณป้าที่คุ้นหน้าคุ้นตา
“คือ…อันนั้นมาแล้ว”
“อันไหน”
ใบหน้าของซูอินแดงก่ำ เสียงเบาเหมือนยุง “รอบเดือนค่ะ”
เขาชะงักไปก่อนจะเข้าใจ ฉินหล่างเหยียบเบรก ใบหน้าของเขาแดงลามไปถึงหูอย่างรวดเร็ว
---------------------------------------------------------------------------
[1] ชายผู้เปรียบดั่งหงส์ หมายถึง คนที่มีพื้นฐานครอบครัวมาจากชนบท แต่ด้วยความมานะบากบั่นของตัวเอง จึงสามารถเข้ามาเรียนหนังสือในเมืองใหญ่
[2] น้ำขึ้นเรือย่อมสูง หมายถึง เมื่อฐานสูงขึ้น สถานการณ์หรือเหตุการณ์ของตนย่อมดีไปด้วย
