เมิ่งอู่บอกเขาว่า "ข้าบอกท่านแม่ว่าใช้เงินไปเพียงห้าสิบอีแปะ ถึงเวลานั้นเ้าอย่าได้เปิดโปงข้านะ ใครๆ ก็ต้องมีความชื่นชอบบ้าง เ้าว่าใช่หรือไม่"
เมิ่งอู่ซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปให้อินเหิง ส่วนของนางเซี่ยกลับเป็ผ้าพับ นี่มิใช่ว่านางลำเอียง แต่เสื้อผ้าสตรีที่วางขายในร้านล้วนเป็ผ้าไหมเนื้อดี สีสันสดใสงดงาม แม้ซื้อกลับมา นางเซี่ยก็คงลังเลที่จะใส่ หรือใส่แล้วออกไปที่ใดไม่ได้
ดังนั้นผ้าที่เลือกให้นางเซี่ยจึงเป็สีและลวดลายที่สอดคล้องกับความชื่นชอบของนาง นางจะได้สวมใส่อย่างสบายใจ
อินเหิงเอ่ยเสียงนุ่มนวลเสมอ ฟังแล้วคันยุบยิบในหัวใจมาก "ความชื่นชอบของเ้าแค่การทุ่มเงินซื้อเสื้อผ้าให้ข้าหรือ?”
เมิ่งอู่กล่าว "ผิดแล้ว ความชื่นชอบของข้าคือเ้าต่างหาก"
"..."
อินเหิงซัก "ให้ข้ารู้ได้หรือไม่ว่าเ้าขายโสมได้เท่าไร? วันนี้ทุกอย่างราบรื่นดีหรือไม่?”
เมิ่งอู่เล่าด้วยความตื่นเต้น "ขายโสมได้สามตำลึงเงิน ยังได้กำไรเพิ่มอีกสองตำลึงเงินด้วย"
"กำไรเพิ่ม?"
เมิ่งอู่เล่า "ระหว่างทางข้าเจอแม่เฒ่าคนหนึ่งและขายนางไปได้มาห้าตำลึงเงิน แบ่งให้ลูกน้องของนางสามตำลึงเงิน ข้าได้มาเพียงสองตำลึงเงินเท่านั้น"
มุมปากของอินเหิงกระตุกเล็กน้อย "พูดให้ชัดสักหน่อยสิ"
เมิ่งอู่จึงเล่าเื่ราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้เขาฟังคร่าวๆ ก่อนกล่าวอย่างทอดอาลัย "อาเหิง สิ่งที่เ้ากำชับข้า มิใช่เื่เกินจริงเลย ไม่คาดคิดว่าการค้ามนุษย์ในใต้หล้านี้จะกำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ วิธีก่ออาชญากรรมก็หลากหลายมาก กลอุบายทุกข์กายทุกอย่างล้วนต้องอาศัยทักษะการแสดง"
โดยธรรมชาติแล้วเมิ่งอู่ย่อมไม่เล่าเื่พวกนี้ให้นางเซี่ยฟัง มิฉะนั้นครั้งหน้านางเซี่ยคงไม่ยินยอมให้นางออกไปข้างนอกอีก นางจึงได้แต่แอบเล่าให้อินเหิงฟังเท่านั้น
อินเหิงกล่าว "ข้าลืมเตือนเ้าว่าอย่ายุ่งเื่ของผู้อื่น เ้าเป็เพียงสตรีตัวคนเดียว ต่อให้ผู้อื่น้าความช่วยเหลือ ก็ไม่สมควรขอร้องเ้า ต่อไปนี้ก่อนคิดจะช่วยเหลือผู้ใด เ้าต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองก่อน เข้าใจหรือไม่?”
เมิ่งอู่ฟังแล้วรู้สึกสบายใจ ยิ้มกล่าว "อาเหิง เ้าเป็ห่วงข้าหรือ?”
อินเหิงมองนาง แล้วกล่าวว่า "ครั้งนี้เ้าเพียงเจอแม่เฒ่ากับลูกน้องไร้ประโยชน์สองคน หากครั้งหน้าเจอคนร้ายใจคอโเี้ เ้าจะทำเช่นไร?”
เมิ่งอู่เอื้อมมือไปพันปอยผมของเขาเล่น ใจอ่อนยวบอย่างน่าประหลาด นางขานรับ "ข้าทราบแล้ว ทราบแล้ว"
อินเหิงไม่ได้ขัดขวาง ยอมให้นางเล่นผมของเขา สีหน้าของนางคล้ายคนที่จดจ่ออย่างเอาใจใส่อยู่กับตุ๊กตากระเบื้องหรืองานศิลปะที่นางชื่นชอบ
เมิ่งอู่นึกถึงเื่ราวที่เห็นและได้ยินที่บ้านสกุลซวี่ในวันนี้ ก็กลับมาร่าเริงอีกครา นางเอ่ย "โลกภายนอกช่างน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ วันนี้ข้าพบบุรุษชุดแดงรูปงามมากคนหนึ่ง ไม่คิดว่าบุรุษสวมชุดแดงแล้วจะดูดีเช่นนั้น..."
สีหน้าของอินเหิงเรียบเฉยขณะดึงผมของตนเองออกจากมือนาง
มือของเมิ่งอู่ว่างเปล่า พลันรีบกล่าวอย่างจริงจัง "แต่ข้าสาบานว่าข้าไม่ได้มองเขามากเกินไปแน่นอน!”
อินเหิงชำเลืองมองนางด้วยหางตา "เ้ามิได้มองเขา แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเขารูปงาม?”
เมิ่งอู่กล่าว "ข้ามองเพียงแวบเดียว หลังจากนั้นก็ปิดตาตนเอง หากข้าโกหก ขอให้ข้าเป็สุนัข!”
ขณะกินอาหารเย็น โต๊ะอาหารถูกจัดไว้ในห้อง นางเซี่ยยกอาหารเข้ามาจากครัว เมื่อเงยหน้าก็เห็นอินเหิงในชุดขาว นางอดไม่ได้ที่จะตะลึงลาน
ก่อนหน้านี้ยามอินเหิงสวมชุดเก่าของเมิ่งอวิ๋นเซียวก็ดูโดดเด่นแล้ว แต่ยามนี้สวมชุดขาวชุดนี้ ยิ่งทำให้นางเซี่ยรู้สึกว่าทั้งห้องสว่างไสวเจิดจ้า
สีหน้าของเขาเฉยเมย ใบหน้าหล่อเหลา อย่าว่าแต่หาคนเช่นนี้ในร้อยคนได้ยากเลย แม้แต่ในหมื่นคนก็ยังยากที่จะหาเจอ
นางเซี่ยกำลังจะเอ่ยถาม อินเหิงก็ชิงบอก "อาอู่ซื้อให้ข้า นางบอกว่าใช้เงินไปเพียงห้าสิบอีแปะ"
ครู่ต่อมาเสียงของนางเซี่ยก็ดังก้องไปทั่วลานเรือนที่เรียบง่าย "อาอู่!"
เมิ่งอู่ที่กำลังยกอาหารออกจากครัวขานรับ "มาแล้ว มาแล้วเ้าค่ะ"
เมิ่งอู่เพิ่งวางอาหารลงบนโต๊ะ ก็ได้ยินนางเซี่ยถามพลางชี้ไปที่อินเหิง "เ้าใช้เงินห้าสิบอีแปะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เขาหรือ?”
ห้าสิบอีแปะสำหรับชาวบ้านนับว่าไม่น้อย สามารถซื้อน้ำมัน เกลือ ซีอิ๊ว น้ำส้มสายชูได้จำนวนมาก
เมิ่งอู่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา "ท่านแม่ ท่านดูสิเ้าคะว่าเหมาะกับอาเหิงเป็พิเศษหรือไม่?”
นางเซี่ยเห็นว่าบุตรียังคงดื้อรั้น ก็บันดาลโทสะกล่าวว่า "เขาอยู่แต่ในเรือนทั้งวันไม่ได้ออกไปที่ใด แล้วจะแต่งตัวดีๆ ไปไย?”
อินเหิงตอบ "แต่งให้อาอู่ดูขอรับ"
เมิ่งอู่กะพริบตาปริบๆ ก่อนพยักหน้าเห็นด้วย "เขากล่าวถูกต้อง"
นางเซี่ยชำเลืองมองอินเหิงแล้วกล่าว "เ้าหุบปากไปเลย ฉวยโอกาสเอาเปรียบแล้วยังแสร้งเอ่ยชม!”
เมิ่งอู่รีบกล่าว "ท่านแม่ ท่านแม่ กินกันก่อนเถิด ประเดี๋ยวอาหารจะเย็นชืดหมด"
เพื่อความสะดวกของอินเหิง โต๊ะอาหารจึงถูกจัดไว้ข้างเตียงไม้ของเขา เขาจะได้ไม่ต้องขยับเขยื้อนตัวมาก
ตกดึก พอดับเทียนแล้ว ทุกคนต่างพักผ่อนอยู่คนละฝั่งของม่าน
นางเซี่ยนอนไม่หลับ คอยดึงหูเมิ่งอู่มาเทศนา ทั้งยังพูดให้อินเหิงได้ยินด้วย "อาอู่ ความงามเป็บ่อเกิดแห่งหายนะ ใบหน้ามีเสน่ห์ชวนให้ลุ่มหลง เ้าต้องมีสติหน่อย ต่อให้งามเพียงใดแล้วจะมีประโยชน์ใด ในเมื่อร้อยปีให้หลังก็จะกลายเป็เพียงเถ้าธุลีกำหนึ่งมิใช่หรือ?”
เมิ่งอู่ตอบส่งเดช "นั่นก็เป็เถ้าธุลีกำหนึ่งที่งดงาม..."
นางเซี่ย "เ้ายังจะกล้าเถียงอีก!”
เมิ่งอู่กล่าว "ไม่กล้าแล้วเ้าค่ะ ไม่กล้าแล้ว ท่านแม่รีบนอนเถิด วันพรุ่งยังมีงานต้องทำอีกมากนะเ้าคะ"
นางเซี่ยกล่าวต่อ หาเงินมาด้วยความยากลำบาก ฉะนั้นต้องขยันและรู้จักประหยัด อย่าฟุ่มเฟือยหรือสิ้นเปลือง โดยเฉพาะถ้าต้องสิ้นเปลืองไปกับความงาม ยิ่งไม่พึงประสงค์
สิ่งที่ตอบกลับนางเซี่ยเป็เสียงกรนดังสนั่นที่เมิ่งอู่แกล้งทำ
อินเหิงที่อยู่อีกด้านหนึ่งของม่าน ได้ยินอย่างนั้นก็หลุบตาลงเผยรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปาก
นางเซี่ย "..."
ต่อมานางเซี่ยก็ไม่บ่นอีก เสียงกรนของเมิ่งอู่ก็ค่อยๆ เบาลง ดูท่าว่าคงผล็อยหลับไปแล้วจริงๆ
เมื่อเหนื่อยมาก แน่นอนว่าย่อมหลับไว
นางเซี่ยจะทนรบกวนนางต่อได้อย่างไร เพียงกอดนางไว้หลวมๆ แล้วปล่อยให้นางนอนหลับสบาย
เมิ่งอู่เข้านอนเร็วย่อมตื่นเช้า วันรุ่งขึ้นจึงสดใสร่าเริงเปี่ยมพลัง
เช้าตรู่ ไก่ในลานเรือนก็ขันไม่หยุด
พอตักน้ำล้างหน้า เข้าๆ ออกๆ วันใหม่ก็เริ่มต้นอีกครั้ง
แม่ไก่ป่าดื้อรั้นอยู่หลายวัน สุดท้ายก็ทนความจริงไม่ไหว ยอมก้มหัวที่ดื้อรั้นลง
คราแรกมันไม่ยอมกินอาหารที่เมิ่งอู่ให้ ต่อมามันออกไปหาอาหารกินเองในลานเรือน ย่อมหาแมลงได้ไม่มากเท่าในูเาลึก พอหิวมากเข้าเมิ่งอู่ก็โปรยธัญพืชให้มันกิน มันจึงจำใจกินไปสองสามคำ เอ๊ะ รสชาติไม่เลวนี่นา จึงแอบกินจนหมดในเวลาไม่นาน
พอถึงเวลาอาหาร มันก็เริ่มส่งเสียงกุ๊กๆ ไม่เหลือความเป็แม่ไก่ป่าอีกต่อไป
ผ้าพับที่เมิ่งอู่ซื้อมาเมื่อวาน เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดีมาก สีเรียบมาก นางเซี่ยชื่นชอบอักโข วันนี้นางจึงตัดเย็บเสื้อผ้าใหม่อยู่ในเรือน
ยามนี้พวกนางมีเงินมากพอ เื่สร้างเรือนใหม่จึงถูกหยิบยกขึ้นมาหารืออีกครา
เมิ่งอู่ยกชามยามาให้อินเหิง เปิดหน้าต่างออกให้แสงแดดสาดส่องเข้ามาทางกรอบหน้าต่าง นางกล่าว "แม้ยามนี้เ้าจะเดินไม่ได้ แต่ไม่นานเ้าก็ออกไปอาบแดดได้แล้ว"
ยังไม่ทันที่อินเหิงจะตอบ นางเซี่ยที่อยู่หน้าประตูก็ปฏิเสธเสียงแข็ง "ไม่ได้ การที่อาอู่เก็บเขากลับมา ก็ถือว่าเสี่ยงต่อการถูกประณามแล้ว หากให้ชาวบ้านเห็นอีก ต่อไปจะทำอย่างไร?”
นางเซี่ยรู้ว่าสักวันเขาต้องจากไปอย่างแน่นอน และเป็ไปไม่ได้ที่เขาจะอยู่ในหมู่บ้านนี้กับเมิ่งอู่ตลอดชีวิต
เมิ่งอู่กล่าว "แต่อาเหิงเป็เ้าบ่าวเด็กของข้า จะให้หลบซ่อนไปตลอดชีวิตได้อย่างไรเ้าคะ?”