บทที่ 4: ฝูงนกน้อยรวมตัว
คาเฟ่เชคอฟ เป็ร้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยแคบๆ ห่างจากถนนใหญ่ของกรุงมอสโคว มันคือสถานที่หลบภัยของพวกเขาเสมอมา ด้วยแสงไฟสลัวๆ กลิ่นกาแฟคั่วเข้มข้น และเสียงเพลงแจ๊สเบาๆ ที่ช่วยกลบเกลื่อนบทสนทนาที่ไม่อาจเอ่ยดังในที่สาธารณะได้ ในคืนที่หิมะโปรยปรายไม่หยุดหย่อน ที่นี่ได้กลายเป็ห้องประชุมลับของปฏิบัติการที่เดิมพันด้วยอิสรภาพทั้งชีวิต
แคทเธอรีนมาถึงเป็คนแรก เธอเลือกโต๊ะในมุมที่ลับตาคนที่สุด แสงจากโคมไฟเล็กๆ บนโต๊ะส่องให้เห็นเงาของเธอทอดเป็ทางยาวบนผนังอิฐเปลือย ไม่นานนัก ประตูก็เปิดออกพร้อมกับลมหนาววูบหนึ่ง นาตาเลียเดินเข้ามาในร้าน เธอดูเคร่งเครียดกว่าปกติ ดวงตาคู่สวยของเธอขยับมองไปรอบๆ ก่อนจะรีบสาวเท้ามายังโต๊ะ
"มีใครตามเธอมาหรือเปล่า" แคทเธอรีนถามเสียงเบา
"ไม่... ฉันระวังตัวแล้ว" นาตาเลียตอบพลางถอดถุงมือที่ชื้นไปด้วยหิมะออก "มันบ้าไปแล้ว แคทเธอรีน... การที่เราต้องมาหวาดระแวงกันเองในเมืองของเราแบบนี้"
ยังไม่ทันที่แคทเธอรีนจะได้ตอบอะไร เยกาตรีน่าก็มาถึง เธอมีท่าทีกระฉับกระเฉงแต่แฝงไว้ด้วยความโกรธเกรี้ยว ดวงตาของเธอเป็ประกายท้าทาย
"ฉันเห็นประกาศนั่นแล้ว" เธอพูดขึ้นทันทีที่นั่งลง "พวกเขาคิดว่ากระดาษแผ่นเดียวจะขังเราไว้ได้งั้นเหรอ?"
เมื่อทั้งสามคนอยู่พร้อมหน้ากัน บรรยากาศของความตึงเครียดก็แผ่คลุมไปทั่วโต๊ะ ไม่มีใครพูดถึงเื่ดินฟ้าอากาศหรือเื่สัพเพเหระอีกต่อไป มีเพียงความจริงอันหนักอึ้งที่แขวนอยู่ตรงหน้า
แคทเธอรีนเป็คนเริ่มทำลายความเงียบ "ฝันหวานมันจบแล้ว" เธอกล่าวเรียบๆ แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว "ตอนนี้เหลือแค่ความจริงที่เราต้องเผชิญ... ถ้าเรายังอยากจะไป เราต้องมีแผนที่ดีกว่าเดิม"
"แผนอะไร?" นาตาเลียถาม "ทุกทางแทบจะถูกปิดตายทั้งหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? เงินที่จะจ่ายให้พวกเอเจนซี่ใต้ดินตอนนี้ก็สูงจนน่าขัน"
"เราจะไม่พึ่งใคร" แคทเธอรีนตอบ "เราจะไปกันเอง แต่... เราจะไปด้วยกันไม่ได้"
คำพูดของเธอทำให้เพื่อนทั้งสองชะงัก นาตาเลียขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ส่วนเยกาตรีน่าเอนตัวมาข้างหน้าด้วยความสนใจ
"หมายความว่ายังไง?" เยกาตรีน่าถาม
"ลองคิดดูสิ" แคทเธอรีนอธิบาย "ผู้หญิงสามคน อายุใกล้เคียงกัน ซื้อตั๋วเครื่องบินไปที่เดียวกัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน... มันคือธงแดงอันใหญ่สำหรับเ้าหน้าที่ที่สนามบินเลย พวกเขาจะรวบตัวเราไว้สอบสวนทันทีที่เรายื่นพาสปอร์ต"
นาตาเลียพยักหน้าช้าๆ "ใช่ๆ เธอพูดถูก... ความเสี่ยงมันสูงเกินไป"
"ใช่" แคทเธอรีนกล่าวต่อ "เพราะฉะนั้น แผนของเราคือ เราต้องทำตัวเหมือนคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกัน เราต้องเดินทางแยกกัน"
เธอหยิบปากกาและกระดาษขึ้นมา แล้วเริ่มร่างแผนการคร่าวๆ ให้เพื่อนดู
"อย่างแรก เราจะเดินทางคนละวัน คนละไฟลท์บิน" เธอขีดเส้นสามเส้น "แต่ละคนต้องมีเื่ราวของตัวเองที่น่าเชื่อถือพอที่จะตอบคำถามเ้าหน้าที่ตม.ได้"
"อย่างที่สอง และนี่คือส่วนที่สำคัญที่สุด" เธอมองหน้าเพื่อนทีละคน "เราจะไม่ได้บินไปที่เมืองอัลมาตีในตอนแรก"
"อะไรนะ?" นาตาเลียอุทานเบาๆ "นั่นมันจะซับซ้อนและแพงขึ้นไปอีกนะ!"
"แต่มันจำเป็" แคทเธอรีนยืนยัน "ถ้าเราทุกคนมีจุดหมายปลายทางที่คาซัคสถานเหมือนกัน มันก็ยังน่าสงสัยอยู่ดี แต่ถ้า... สมมติว่าฉันบินไปอัสตานา" เธอวงกลมที่จุดหนึ่ง แล้วนั่งรถไฟใช้เวลาเดินทางสิบสองชั่วโมง มาที่เมืองอัลมาตีเส้นทางนี้สะดวกและปลอดภัย"
“ส่วนเธอ นาตาเลีย บินไปคารากันดา แล้วนั่งรถไฟมายังอัลมาตี้ ก็ใช้เวลาพอๆ กันประมาณสิบถึงสิบสองชั่วโมง
ส่วนเธอเยกาตรีน่า... เธอไปลงที่อักโตเบ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของคาซัคสถาน แล้วบินต่อมาที่อัลมาตี้ เพราะว่าเมืองนี้จะอยู่ห่างที่สุดการเดินทางโดยเครื่องบินสะดวกที่สุด...หลังจากนั้นพวกเราจะกลายเป็นักเดินทางคนเดียว โดยที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยในสายตาของเ้าหน้าที่รัสเซีย"
เยกาตรีน่าดวงตาเป็ประกาย "สุดยอด... มันคือการสร้างเส้นทางหลอก เหมือนในหนังสายลับเลย!"
"แล้วหลังจากนั้นล่ะ?" นาตาเลียถามอย่างรอบคอบ "เราจะไปเจอกันที่ไหน ยังไง?"
“เมื่อถึงเมืองอัลมาตีแล้วพวกเราจะนัดเจอกันที่โรงแรมRailway Hotel โรงแรมนี้ไม่ไกลจากสนามบินมากนัก" แคทเธอรีนวงกลมเมืองขนาดใหญ่ปลายทางในคาซัคสถาน และโรงแรมที่เธอนั้นเช็คไว้ทั้งหมดแล้ว
"อัลมาตีเป็เมืองที่ใหญ่ที่สุด มีสนามบินนานาชาติที่วุ่นวายที่สุด การเดินทางเข้าออกของผู้คนจะช่วยกลบเกลื่อนร่องรอยของเราได้ดี และจากที่นั่น... เราค่อยหาเที่ยวบินแล้วบินต่อไปยังกรุงเทพด้วยกัน"
ความเงียบเข้าปกคลุมโต๊ะอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ความเงียบของความสิ้นหวัง แต่เป็ความเงียบของการประมวลผลแผนการที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยความเสี่ยง นาตาเลียคำนวณค่าใช้จ่ายในใจ ในขณะที่เยกาตรีน่าจินตนาการถึงการเดินทางที่น่าตื่นเต้น
"มันเสี่ยงมาก" นาตาเลียพึมพำ "ถ้ามีใครคนหนึ่งถูกจับหรือไปไม่ถึงอัลมาตีล่ะ?"
"เราต้องเชื่อใจกัน" เยกาตรีน่าตอบกลับทันที "และมันต้องเป็แผนนี้เท่านั้น" เธอยื่นมือออกไปวางกลางโต๊ะ "ฉันเอาด้วย"
นาตาเลียมองหน้าเยกาตรีน่า แล้วหันมามองแคทเธอรีน เธอเห็นความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในดวงตาของเพื่อนทั้งสอง และเธอก็รู้ว่าเธอไม่สามารถทิ้งพวกเขาได้ เธอถอนหายใจยาวก่อนจะวางมือของเธอทับลงไป "ก็ได้... ฉันไปด้วย"
สุดท้าย แคทเธอรีนวางมือของเธอทับเป็คนสุดท้าย ประสานมือของพวกเธอทั้งสามคนเข้าไว้ด้วยกันอย่างแน่นแฟ้น
"จากนี้ไป" เยกาตรีน่าพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือด้วยความตื้นตัน "พวกเราคือ 'ฝูงนกน้อยอพยบ' ที่กำลังจะเริ่มต้นการเดินทางครั้งที่สำคัญที่สุดในชีวิต"
คำพูดนั้นทำให้พวกเธอทั้งสามรู้สึกถึงสายใยที่มองไม่เห็น มันคือภารกิจร่วมกันที่ผูกมัดพวกเธอไว้ด้วยชะตากรรมเดียวกัน พวกเธอนั่งวางแผนรายละเอียดปลีกย่อยกันต่ออีกเกือบชั่วโมง ทั้งเื่ราวที่จะใช้เป็ข้ออ้าง, วิธีการสื่อสารอย่างปลอดภัย, และกรอบเวลาคร่าวๆ ของการเดินทาง
เมื่อพวกเธอเดินออกจากคาเฟ่ในคืนนั้น หิมะก็เริ่มซาลงแล้ว พวกเธอไม่ได้เดินออกไปพร้อมกัน แต่ทิ้ง่ห่างกันคนละหลายนาที แต่ละคนแยกย้ายกันไปคนละทิศทาง กลืนหายไปในความมืดและความหนาวเหน็บของมหานครมอสโคว
พวกเธอเข้ามาในฐานะเพื่อนสามคนที่หวาดกลัว แต่จากไปในฐานะสมาชิกของฝูงนกน้อยสามตัว ที่กำลังจะเริ่มต้นโบยบินออกจากกรงขัง... แม้จะต้องบินไปอย่างเดียวดายในตอนแรกก็ตาม.!
