‘อาคมเก้าดาราสว่างจ้า’ เป็อาคมระดับสามขั้นกลางที่ผสานการป้องกันและลวงตา! ผู้ที่ไม่รู้จักหรือเข้าใจอาคมนี้ อย่าว่าแต่จะทำลายอาคมเลย แม้แต่จะหาให้พบก็ยังไม่สามารถหาพบได้ด้วยซ้ำ
ในอดีตชาติสมัยที่เป็ราชันเทพบน์ แม้ว่าตัวเขาจะไม่เชี่ยวชาญด้านอาคมมากนัก แต่ด้วยสายตาที่เฉียบแหลม และความรู้ที่กว้างขวาง ผนวกกับประสบการณ์หมื่นปีที่เหนือกว่าผู้บำเพ็ญเพียรในโลกต่างๆ แล้ว จะให้ไปเทียบกับคนอื่นๆ ได้อย่างไร อย่าว่าแต่อาคมระดับสามเลย ต่อให้เป็อาคมเหนือกว่าระดับสามไป หรือต่อให้เป็อาคมระดับเจ็ดหรือแปด ก็ยังไม่สามารถทำให้เซียวหลิงอวิ๋นต้องลำบากใจ
การจะทำอาคมเก้าดาราสว่างจ้านี้ แค่ต้องทำลายเนินดินเล็กๆ ทั้งเก้าจุดในเวลาไล่เลี่ยกันเท่านั้น แล้วอาคมทั้งหมดก็จะพังทลายลงในทันที
ด้วยการสั่งการของเซียวหลิงอวิ๋น ทั้งเก้าคนก็ถือดาบเหล็กชั้นดี แท่งไม้ หรืออาจใช้แร่ทอง ไม่ก็พลังิญญาธาตุของตัวเองทำให้เป็แท่งแหลมๆ...แล้วแทงลงไปในดินพร้อมกันเต็มแรง!
หลังจากแทงลงไปแล้ว ทุกคนก็เงยหน้าขึ้นมอง แต่กลับพบว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงดัง “ครืนๆ!” แผ่นดินใต้ฝ่าเท้าเริ่มมีอาการสั่นะเื ในชั่วขณะต่อมา ทิวทัศน์โดยรอบก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างน่าอัศจรรย์
เมื่อมองไปยังพื้นที่อันกว้างใหญ่ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวแล้ว ทุกคนต่างก็ใ
น่ะ...นี่มันวิเศษเกินไปแล้ว เมื่อสักครู่ยังเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจีอยู่เลย พริบตาเดียวก็กลายเป็หิมะและน้ำแข็งไปเสียแล้ว
การเปลี่ยนแปลงที่น่าในี้ก็กินระยะพื้นที่กว้างมาก ครอบคลุมผู้คนจำนวนไม่น้อย มีทั้งหมดห้ากลุ่ม เป็ผู้ใช้พลังิญญาห้าสิบคน สำนักิญญาเมฆายี่สิบคน สำนักคุมสัตว์ิญญาสิบคน สำนักรวมสมบัติิญญาสิบคน และสำนักแม่มดเพลิงร้อนสิบคน
กลุ่มสิบคนของสำนักรวมสมบัติิญญากลุ่มนี้มีผู้หญิงเจ็ดคน ในเวลานี้ชายสามหญิงเจ็ดต่างก็เบิกตากว้าง ไม่เชื่อสายตาตัวเอง มองไปยังพื้นที่สีขาวโพลนโดยรอบ สักครู่ใหญ่จึงมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของภาพตรงหน้าทำให้เหล่าศิษย์ทั้งสิบคนของสำนักรวมสมบัติิญญาต้องตื่นตะลึงเป็่ระยะเวลาสั้นๆ แล้วก็แสดงความปีติยินดีออกมา พวกเขารับรู้ได้จากอากาศที่หายใจเข้า พบว่า พลังิญญาในอากาศในบริเวณนี้เข้มข้นกว่าทุ่งหญ้าสีเขียวขจีก่อนหน้านี้มาก
แม้จะไม่ทราบว่าเหตุใดจึงมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เกิดขึ้น แต่ที่แน่ๆ นี่น่าจะเป็ดินแดนลับแห่งหนึ่งในโลกเร้นลับเมืองโบราณหลิงกุยนี้
“เร็วเข้า ดูนั่นสิ นั่นคือหญ้าหัวใจน้ำแข็ง ต้นสูงขนาดนี้จะต้องเป็สมุนไพรชั้นเยี่ยมแน่!” เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งเห็นเข้า ทุกคนก็หันไปมองพร้อมกันทันที และไม่ได้มีแค่นั้น แต่ภายในระยะร้อยจั้งนี้ หญ้าหัวใจน้ำแข็งสูงครึ่งคนตั้งตระหง่านอยู่บนก้อนน้ำแข็งขนาดหลายจั้งนี้
“ต้นสูงขนาดนี้ มีโอกาสที่จะเป็ถึงระดับสามเลยนะเนี่ย!” ดวงตาของทุกคนเป็ประกาย อย่างที่รู้กันว่าเมื่อสามวันก่อน สมุนไพรที่ดีที่สุดที่พวกเขาพบมีเพียงระดับหนึ่งขั้นกลาง และพบแค่เพียงต้นเดียวเท่านั้น
ตามบันทึกในตำรายาิญญา ทั้งสมุนไพริญญา ยาิญญา และวัตถุดิบิญญาล้วนแบ่งออกเป็เก้าระดับสามขั้น!
แต่ใน่สามพันปีที่ผ่านมาในอาณาจักรซินโยว สิ่งที่ค้นพบได้มากที่สุดก็คือวัตถุดิบระดับหกขั้นสูง! ส่วนพวกตัวยาและสมุนไพรนั้นจะหายากมากแม้แต่ระดับหกขั้นต้น
ในอาณาเขตซินโยว แม้แต่สมุนไพรระดับหนึ่งขั้นล่างที่ด้อยที่สุด ก็มีมูลค่าถึงห้าหินิญญาขั้นล่างแล้ว
ทุกขั้นขึ้นไป มูลค่าของมันก็จะเพิ่มขึ้นเป็สองเท่า
หญ้าหัวใจน้ำแข็งระดับสามนี้ ต่อให้เป็ระดับสามขั้นล่างที่ต่ำที่สุด ก็ยังมีมูลค่าสูงถึงสามร้อยยี่สิบหินิญญาขั้นล่างแล้ว และที่สำคัญคือ สมุนไพรระดับสามเมื่อนำมาปรุงเป็ยาระดับสาม ราคาก็จะเพิ่มขึ้นเป็หลายเท่าหรืออาจหลายสิบเท่าตัวเลยทีเดียว
หญิงสาวสองคนใช้เคล็ดวิชาตัวเบา แล้วรีบวิ่งไปข้างหน้าทันที
“โอ๊ววววว!” เสียงหอนยาวๆ ของสัตว์อสูรดังขึ้นมา เป็หมาป่าสีขาวตัวใหญ่ตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากด้านหลังก้อนน้ำแข็งก้อนนั้น จากนั้นก็มีหมาป่าหิมะปรากฏตัวออกมาทีละตัว
หมาป่าหิมะสิบเอ็ดตัว!
เมื่อมองไปที่หมาป่าหิมะสิบเอ็ดตัวที่ดุร้ายเหล่านี้แล้ว ศิษย์ทั้งสิบคนของสำนักรวมสมบัติิญญานั้นไม่เพียงแต่จะไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย กลับมีประกายในดวงตาของพวกเขาด้วยซ้ำ เพราะในที่สุดก็ได้พบสัตว์อสูรแล้ว ไม่ใช่แค่ตัวเดียวเสียด้วย แต่เป็ฝูงหมาป่าหิมะสิบเอ็ดตัว
หมาป่าหิมะสิบเอ็ดตัว เป็ตัวใหญ่เจ็ดตัว และตัวเล็กสี่ตัว!
หมาป่าหิมะที่โตเต็มวัย ถือเป็สัตว์อสูรระดับหนึ่งขั้นดี! ส่วนลูกหมาป่าอีกสี่ตัวมีขนาดค่อนข้างเล็ก มีพละกำลังเพียงระดับหนึ่งขั้นล่างเท่านั้น
สัตว์อสูรทั้งเก้าระดับสอดคล้องกับระดับชั้นทั้งเก้าระดับของผู้บำเพ็ญเพียรเช่นกัน
แม้ว่าพลังกายของสัตว์อสูรนั้นจะเหนือกว่า แต่ว่าผู้บำเพ็ญเพียรไม่เพียงแต่ฝึกกระบวนท่าและวิชาิญญาต่างๆ เท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมีอาวุธิญญาที่คมกริบอีกด้วย
ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ที่สูสีกันเช่นนี้ ขอเพียงไม่พบกับสัตว์อสูรระดับหัวหน้าหรือระดับาาแล้ว ผู้บำเพ็ญเพียรของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ยังได้เปรียบกว่าเล็กน้อย
ผู้ใช้พลังิญญาระดับสูงสิบคน เผชิญหน้ากับฝูงหมาป่าหิมะที่โตเต็มวัยเพียงเจ็ดตัว โอกาสชนะนั้นถือว่าสูงมากทีเดียว!
ทั้งสิบคนก็ชักอาวุธิญญาของตนเองออกมา พร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องพร้อมกัน แล้วพุ่งเข้าใส่หมาป่าหิมะทั้งสิบเอ็ดตัวตรงหน้า!
...
สถานการณ์แบบเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นกับกลุ่มอื่นๆ เช่นกัน!
ทางเซียวหลิงอวิ๋นเองดีดนิ้วหนึ่งครั้ง ลำแสงสีแดงพุ่งออกมา ‘ฉัวะ!’ ดวงตาของหมาป่าหิมะตัวหนึ่งะเิออกราวกับฟองน้ำแตก พลังดรรชนีที่แหลมคมทะลุผ่านลูกตา ทะลวงเข้าไปในสมองของหมาป่าอย่างรวดเร็ว
หมาป่าหิมะที่ยังไม่ทันได้ส่งเสียงร้องแม้แต่ครั้งเดียวล้มลงไปกองกับพื้น!
‘ดรรชนีเพลิงทอง’ วิชาดรรชนีระดับเหลืองขั้นสูง!
หมาป่าหิมะเก้าตัว ตัวใหญ่เจ็ดตัว ตัวเล็กสองตัว หยวนอิ่งเคลื่อนไหวช้าไปครึ่งก้าว จนแม้แต่ลูกหมาป่าก็ยังไม่ทันได้จัดการ แต่ฝูงหมาป่าทั้งหมดถูกทุกคนฆ่าตายทั้งหมด
“หลิงอวิ๋น เืกับขาหมาป่าพวกนี้จะเอาด้วยหรือไม่!” ทางเฉียนหม่านควง โจวจวิ้น และถังเซียวต่างก็ตื่นเต้นมาก กำลังจะชำแหละวัตถุดิบ
“พวกเรามีเืหมาป่าสามถุงแล้ว เอามาเพิ่มอีกสักถุงแล้วกัน จัดการตัดหั่นขาหลังหมาป่าทั้งแปดตัวมาแล้วพกติดตัวเอาไว้ แล้วจัดการชำแหละเอาแก่นอสูรของสัตว์อสูรออกมา ส่วนที่เหลือก็ไม่ต้องแล้ว”
“ได้เลย!” ทั้งสามคนตอบ เฉียนหม่านควงก็เริ่มลงมือชำแหละเอาแก่นอสูรออกมาอย่างสุดกำลัง ในขณะที่โจวจวิ้นใช้มีดกรีดเอาเืออกมาจากศพหมาป่าที่เพิ่งตายไปและยังอุ่นๆ ทีละรอย ทางด้านถังเซียวก็ถือถุงใบใหญ่มารองรับเืหมาป่าที่พวยพุ่งออกมา ทั้งสามช่วยกันลงไม้ลงมือทีละตัว
ทางด้านเซียวหลิงอวิ๋นก็ดึงจุกออก ดื่มเืหมาป่าสองอึกใหญ่ๆ ที่ทั้งยังอุ่นและมีกลิ่นคาว จากนั้นก็ส่งถุงเืหมาป่าให้หยวนอิ่งที่อยู่ข้างๆ หยวนอิ่งขมวดคิ้วและเชิดคอขึ้น ‘อึกๆ!’ ดื่มเืไปสองอึกใหญ่ๆ ก่อนจะส่งถุงต่อไปให้อูเสี่ยวหมินที่อยู่ข้างๆ
อีกด้านหนึ่ง ดวงตาที่สวยงามของฉินหรูเยียนกะพริบปริบๆ อยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็เปิดจุกถุงเืหมาป่าขนาดใหญ่สองใบที่แขวนอยู่ตรงเอวออก แล้วโยนถุงเล็กให้หม่าิฮุ่ย “ถุงนี้เป็ของนางกับถานหย่า ทุกคนต้องดื่ม!”
หม่าิฮุ่ยขมวดคิ้ว ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร นางก็เห็นฉินหรูเยียนเปิดถุงขนาดใหญ่ที่เหลืออยู่ แล้วดื่มอย่างบ้าคลั่งจากปากถุง!
เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว หม่าิฮุ่ยก็อ้าปากค้างอยู่นานด้วยพูดอะไรไม่ออก แต่ก็งับปากลงได้ในที่สุด แล้วขมวดคิ้ว หลับตา ฝืนดื่มลงไปสองอึกใหญ่ๆ
เมื่อเข้าไปถึงคอ กลิ่นคาวที่รุนแรงทำให้นางแทบอยากจะอาเจียนออกมา แต่นางพยายามระงับความรู้สึกอยากอาเจียนนั้นเอาไว้ กล้ำกลืนฝืนดื่มลงไปอย่างยากลำบาก
“ตูม!” หม่าิฮุ่ยรู้สึกราวกับมีกองไฟเผาอยู่ในท้องของนาง นางพยายามระงับความรู้สึกอยากอาเจียนและคลื่นไส้เอาไว้ แล้วปิดกั้นลมหายใจทั้งหมด จนเวลาผ่านไปประมาณยี่สิบชั่วอึดใจ ความรู้สึกอยากอาเจียนก็หายไป เมื่อความรู้สึกอยากอาเจียนนี้หายไป หม่าิฮุ่ยก็รู้สึกว่าร่างกายของนางอบอุ่นไปทั้งตัว
นี่มัน? หรือว่านี่คือสรรพคุณของเืหมาป่า ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่แค่ความอบอุ่นเท่านั้น แต่ยังมี พลัง พลังโลหิตที่บริสุทธิ์ เืหมาป่านี้ยังมีผลลัพธ์วิเศษในการเสริมสร้างพลังโลหิตของผู้บำเพ็ญเพียร
หลังจากที่รู้เช่นนี้แล้ว หม่าิฮุ่ยก็ยื่นมือไปคว้าถุงจากมือของถันหย่า แล้วกลืนลงไปอีกสองอึกทันที
เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว เซียวหลิงอวิ๋นที่อยู่ไม่ไกลก็ยิ้มอย่างพอใจ
มีแต่ภายในโลกเร้นลับเท่านั้นที่จะมีเืและเนื้อสัตว์อสูรมากมายให้ได้กิน โอกาสที่คนอื่นต้องอิจฉาจนตัวสั่นเช่นนี้ พวกเ้าโชคดีแล้วแท้ๆ แต่กลับทำท่าทางราวกับกำลังกลืนยาพิษ! ช่างไม่รู้จักคุณค่าความโชคดีของตนเองจริงๆ
เซียวหลิงอวิ๋นจึงชักชวนให้ทุกคนดื่มด้วยกัน แน่นอนว่าเพื่อประโยชน์ของทุกคนด้วย แต่ก็ยังมีอีกเหตุผลที่สำคัญ คือเพื่อบรรเทาความอับอายของฉินหรูเยียน
กายหงส์เพลิงะของฉินหรูเยียน้าเืและเนื้อสัตว์อสูรจำนวนมากเพื่อค่อยๆ กระตุ้นทีละเล็กละน้อย หากคนอื่นไม่กิน นางจะไม่มีวันกินและดื่มคนเดียวต่อหน้าทุกคนอย่างแน่นอน! เพราะว่าในเวลานี้ หญิงสาวที่ห้าวหาญเหมือนบุรุษคนนี้ จู่ๆ เหมือนบุคลิกและความคิดที่เป็สตรีในตัวของนางถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา
