“อาบเองยังไงล่ะ”
มู่อวิ๋นจิ่นถลึงตาใส่ฉู่ลี่ โดยพบว่า่นี้่นี้เขานับวันยิ่งน่าโดนทุบ ทำตัวไม่เ็าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ฉู่ลี่เห็นนางก็ปากต่อคำจึงหัวเราะเสียงต่ำ ยื่นมือไปลูบหัวนางอย่างเบามือ ก่อนจะยกมือออกมาดู ด้วยใบหน้ารังเกียจ
จากนั้นได้เอ่ยเสียงนิ่ง “เ้าควรไปอาบน้ำได้แล้วจริงๆ”
“ออกไปได้แล้ว!” มู่อวิ๋นจิ่นไม่พอใจคว้าหมอนเควี้ยงไป
ฉู่ลี่รับหมอนใบนั้นได้ทัน และไอกระแอ่มขึ้น “เปิ่นหวงจื่อจะให้ชิงเมิ่งมาช่วยเ้าอาบน้ำ”
“ไม่ต้อง ข้าอาบเองได้” มู่อวิ๋นจิ่นปฏิเสธเสียงเเข็ง
ฉู่ลี่เดินเข้าไปกระซิบข้างหู “เ้าเดินได้แล้วหรือ?”
มู่อวิ๋นจิ่นพยักหน้าพร้อมยื่นมือไปคว้าแขนฉู่ลี่เอาไว้ สลัดผ้าห่มไปด้านข้าง เริ่มก้มตัวสวมรองเท้า
หลังจากสวมรองเท้าเรียบร้อย มู่อวิ๋นจิ่นก็จับแขนฉู่ลี่ยอมให้เขาพาไปไหนก็ได้ พวกเขาเดินไปประตูที่อยู่ด้านข้าง ฉู่ลี่เปิดประตูออกพบบ่อน้ำร้อนที่มีควันผุดอบอวลไปทั่วห้อง
“นี่เป็บ่อน้ำร้อนที่ผสมยาสมุนไพรลงไปแล้ว ไม่เป็อันตรายต่อาแของเ้า” ฉู่ลี่กล่าว
มู่อวิ๋นจิ่นเลิกคิ้วขึ้นมองดูบ่อน้ำร้อนอยู่นาน หันไปถามฉู่ลี่ขึ้น “เ้าช่างใจกว้างยอมให้ข้ายืมแช่ตัวในบ่อน้ำร้อนอย่างนั้นหรือ?”
“เ้าไม่ได้เป็คนบอกว่าเปิ่นหวงจื่อไร้จิตใจมิใช่หรือ?” ฉู่ลี่เลิกคิ้วเช่นกัน
มู่อวิ๋นจิ่นแสยะยิ้มมุมปาก ปล่อยมือจากแขนฉู่ลี่ “เช่นนั้น เ้าไปช่วยข้าตระเตรียมชุดอาบน้ำก็แล้วกัน ข้าจะเอาชุดคลุม กางเกงตัวนอก และตู้โตว......”
ยังไม่ทันสั่งจนครบ ฉู่ลี่ก็เดินหน้าเสียออกไปก่อนแล้ว
มู่อวิ๋นจิ่นเห็นว่าฉู่ลี่ออกไปแล้ว จึงถอดชุดอย่างสบายใจ ก้าวลงไปในบ่อน้ำร้อน น้ำอุ่นๆ ัักับิัให้ความรู้สึกสบายไปทั้งตัว
มู่อวิ๋นจิ่นนั่งผิงผนังบ่อน้ำร้อน หลับตาสองข้างลง แขนของนางดีขึ้นมากแล้ว ต่อไปถึงเวลาต้องไปจัดการบางเื่แล้ว
นางไม่มีทางยอมปล่อยให้คนชั่วช้าบางคน ใช้ชีวิตอย่างสุขกายสบายใจไปได้
“พระชายา ชุดใหม่ที่ต้องเปลี่ยนวางอยู่ในห้องแล้วเพคะ” ชิงเมิ่งส่งเสียงนุ่มนวลรายงาน
มู่อวิ๋นจิ่นเอ่ย “อืม” จากนั้นเดินขึ้นจากบ่อน้ำร้อนไปแต่งตัวในห้อง
ภายในห้องเวลานี้ ไม่มีใครเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว
มู่อวิ๋นจิ่นจัดการเปลี่ยนชุดใหม่ ใช้ผ้าซับผมที่เปียกชุ่ม ยืดเส้นยืดสาย เดินออกไปข้างนอก
“อั๊ยย่ะ……”
มู่อวิ๋นจิ่นค่อยๆ เปิดประตูออกไป แสงแดดจากภายนอกในวันนี้ ได้สาดส่องแยมเข้าตานางจนต้องยกมือขึ้นมาบัง
พร้อมปรับตัวกับแสงได้แล้ว มู่อวิ๋นจิ่นก็ยืดเส้นยืดสายบิดี้เี เดินไปเดินมาที่ลานด้านหน้า
ติงเซี่ยนและชิงเมิ่งที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเรือนลี่เฉวียน เห็นมู่อวิ๋นจิ่นโผล่ออกมา ต่างตะลึงอ้าปากค้าง
แต่พอเห็นมู่อวิ๋นจิ่นที่ดูโทรมออกมาสูดอากาศภายนอก ต่างก็พากันยิ้มไม่เอ่ยคำใด
ฉู่ลี่เดินเข้าในลี่เฉวียนเห็นมู่อวิ๋นจิ่นกำลังยืนพิงกำลัง ตากแดดอยู่อย่างสบายใจ
ทันใดนั้น ติงเซี่ยนและชิงเมิ่งที่เห็นฉู่ลี่มา รีบวิ่งหลบไปที่อื่นอย่างรวดเร็ว
ฉู่ลี่เดินเข้าไปใกล้มู่อวิ๋นจิ่นเห็นบนบ่าของนางพาดผ้าเช็ดตัวอยู่ ผมเผ้ามีน้ำหยดติ๋งๆ เปียกชุดคลุมไปหมด
เขาจึงคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นไปขยี้ผมซับน้ำให้นาง
มู่อวิ๋นจิ่นััได้ถึงหนังหัวเหมือนจะหลุดออก จึงยื่นมือขึ้นไปมือฉู่ลี่เอาไว้ พลางหัวเราะเยาะ “เดี๋ยวข้าจัดการเอง”
ฉู่ลี่จึงยอมปล่อยมือลง
มู่อวิ๋นจิ่นจับผ้าเช็ดตัวซับน้ำที่ผมทีละครั้งๆ อย่างเชื่องช้า สีหน้าสบายใจไม่รีบไม่ร้อน
ฉู่ลี่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้ามู่อวิ๋นจิ่นหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ผสมกับกลิ่นยาสมุนไพร รู้สึกจิตใจผ่อนคลายจิตใจลงได้มาก
ฉู่ลี่มองดูมู่อวิ๋นจิ่นยืนซับน้ำด้วยท่าทางหงุดหงิด จึงยื่นมือไปบีบให้กำลังใจนางที่บ่า สายตาจ้องไปที่ริมฝีปาก เลื่อนลงมาที่เอว แล้วขยับตัวเข้าไปแนบชิดขึ้น
มู่อวิ๋นจิ่นรู้สึกจิตใจเต้นแรงและเร็วขึ้น พยายามจะถอยหลังไป ทว่าร่างติดอยู่กับกำแพงด้านหลังแล้ว
สีหน้าของมู่อวิ๋นจิ่นแดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาขยับเข้าใกล้ จิตใจมิอาจสงบสติอารมมณ์ สมองหยุดชะงักลง จึงทำได้เพียงหลับตาลงด้วยสัญชาตญาณ
จากนั้นริมฝีปากของนางนางััได้ถึงความเย็นที่ส่งผ่านมา
“คุณหนู กลับมาแล้วหรือเ้าคะ?” เสียงดีใจเอ่ยดังขึ้นจากหน้าประตูเรือนลี่เฉวียน
ด้านมู่อวิ๋นจิ่นที่กำลังฝันหวานกับจุมพิตของฉู่ลี่ ใสะดุ้งโหยงขึ้นทันที รีบยกมือผลักร่างของฉู่ลี่ด้วยใบหน้าแดงก่ำ จนอยากแทรกแผ่นดินหนี
จื่อเซียงรู้สึกเสียใจที่ส่งเสียงเรียกมู่อวิ๋นจิ่นเมื่อครู่นี้ เพราะสายตากินเืกินเนื้อของฉู่ลี่จับจ้องมาที่นาง สื่อความว่านางเข้ามาแทรกจังหวะโอกาสที่ดีของเ้านายทั้งสอง ด้วยความใขีดสุดเลยวิ่งออกจากเรือนไป
มู่อวิ๋นจิ่นอยากเอ่ยปากเรียกจื่อเซียง ทว่าไม่ทันเวลาเสียแล้ว
มู่อวิ๋นจิ่นก้มหน้าก้มตา เม้มริมฝีปาก ก่อนจะได้สติกลับมา
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย เมื่อครู่นางกับฉู่ลี่กำลัง……
มู่อวิ๋นจิ่นหยุดความคิดลงฉับพลัน กระทืบเท้าตึงตัง จ้องไปที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มของฉู่ลี่ “เ้ายิ้มทำไม!!!”
“หึ ข้าไม่เคยเห็นสตรีคนไหนอายได้ง่ายขนาดเ้าเลย” ฉู่ลี่พูดไปยกมือบีบแก้มทั้งสองข้างของนาง
“ไสหัวไป!” มู่อวิ๋นจิ่นตะคอกแล้ววิ่งกลับเข้าห้อง ปิดประตูลงกลอนแน่นสนิท
ด้านนอก ฉู่ลี่ยกมือขึ้นลูบริมฝีปาก พร้อมกับยิ้มอย่างได้ใจ สตรีผู้นี้รสชาติมิเลว
……
ก่อนที่ตะวันจะลาลับขอบฟ้าลง มู่อวิ๋นจิ่นเดินกลับไปที่ห้องของนางเอง
คลุกตัวอยู่แต่ในห้องบนเก้าอี้โยกเยก พลางส่ายหน้าไปมา อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบริมฝีปากที่ได้ััจูบแรกที่นุ่มนวล
จู่ๆ หัวใจของนางกลับเต้นแรงและเร็วขึ้นมา เผยยิ้มออกทางใบหน้า ก่อนจะเม้มปากหัวเราะคิกคัก
นอกประตูมีเสียงเคาะเบาๆ ขึ้นมา ตามด้วยเสียงจื่อเซียงที่หวาดกลัว “คุณหนู……”
“เข้ามาได้” มู่อวิ๋นจิ่นหุบยิ้ม มองไปที่ประตู
จื่อเซียงผลักประตูเดินเข้ามาหยุดยืนเบื้องหน้ามู่อวิ๋นจิ่น เอาแต่ก้มหน้ามิกล้าสบตา
“ทำไมไม่พูดไม่จา?” มู่อวิ๋นจิ่นรู้อยู่แก่ใจว่าจื่อเซียงกำลังหวาดกลัว
“คุณหนู บะ บะ บ่าว……” จื่อเซียงแววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“เอาล่ะ พอได้แล้ว ไม่ต้องเอ่ยถึงเื่นี้อีกแล้ว!” มู่อวิ๋นจิ่นเอ่ยขึ้น
จื่อเซียงพยักหน้า เผยยิ้ม คุกเข่าเงยหน้ามองมู่อวิ๋นจิ่น “คุณหนู ทำไมเข้าวังไปหาฉินไท่เฟยนานแบบนี้เ้าคะ?”
“ข้า……” มู่อวิ๋นจิ่นหยุดจัดความคิด ก่อนตอบด้วยรอยยิ้ม “ก็อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำนี่หน่า”
“ที่แท้ก็เป็อย่างนี้นี่เอง คุณหนูหิวไหม บ่าวจะไปทำมาให้ทานเอาไหมเ้าคะ” จื่อเซียงถามขึ้นอีก
“ไม่ต้องแล้ว ดึกดื่นค่ำมืด รีบกลับไปพักผ่อนเสียเถอะ” มู่อวิ๋นจิ่นมองไป
จื่อเซียงพยักหน้ารับ เห็นมู่อวิ๋นจิ่นไม่โกรธนาง จึงค่อยวางใจลงได้ เดินกลับออกไป
……
ในวันถัดมา มู่อวิ๋นจิ่นตื่นขึ้นั้แ่เช้าตรู่ หยิบชุดกระโปรงเรียบง่ายออกจากตู้เสื้อผ้า สวมเรียบร้อยแล้วเดินออกไป
เมื่อเดินจนถึงห้องโถง บังเอิญพบเข้ากับฉู่ลี่ที่เตรียมตัวเข้าวังพอดี
ฉู่ลี่มองมู่อวิ๋นจิ่นั้แ่หัวจรดเท้า ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ “เ้าจะออกไปข้างนอก?”
“อืม” มู่อวิ๋นจิ่นเบะปากเอ่ยขึ้น “ข้าจะไปสูดอากาศข้างนอกเสียหน่อย”
ฉู่ลี่ได้ยินกวาดสายตาไปจรงแขนซ้ายที่าเ็
“เ้าวางใจได้ ข้าจะไม่ให้กระทบกระเทือนแผล เพียงออกไปเดินเล่นเท่านั้น” มู่อวิ๋นจิ่นอ่านความคิดของฉู่ลี่ออก เลยบอกเป้าหมายให้ฟัง
“อย่างนั้นก็ตามใจเ้า” ฉู่ลี่กล่าวจบก็เดินออกห้องโถงไป
มู่อวิ๋นจิ่นรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ นางรอจนฉู่ลี่ขึ้นรถม้าเดินทางไป ถึงจะก้าวออกจากจวนโดยไม่ได้พาจื่อเซียงไปด้วย
นางเดินเล่นอยู่ในตลาด จนกระทั่งมาถึงหน้าร้านบ่อน ยิ้มมุมปากแล้วเดินเข้าไปข้างใน
ตอนนี้ยังถือว่าเช้าอยู่ ในบ่อนจึงมีแขกเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
“แม่นางผู้นี้มาเล่นพนันอย่างนั้นหรือ?” พอก้าวเข้าข้างใน หนุ่มน้อยก็เข้ามาต้อนรับ
“ข้ามาหาเถ้าแก่ของพวกเ้า” มู่อวิ๋นจิ่นบอกจุดประสงค์
นุ่มน้อยได้ฟังเกิดความใจนพิจารณามู่อวิ๋นจิ่นั้แ่หัวจรดเท้า ก่อนเอ่ยอย่างลำบากใจ “แม่นาง เถ้าแก่ของพวกเรา……”
ยังไม่ทันจบประโยค มู่อวิ๋นจิ่นก็ควักทองคำสองชั่งโยนใส่อ้อมอกของหนุ่มน้อย “ตอนนี้เข้าไปรายงานได้หรือยัง?”
หนุ่มน้อยผงกรับไม่หยุด รีบสาวเท้าวิ่งขึ้น้า
จากนั้นไม่นาน หนุ่มน้อยก็ลงมาโค้งคำนับและผายมือ “เชิญแม่นางชั้นบนขอรับ”
มู่อวิ๋นจิ่นยิ้มอย่างเบิกบานเดินขึ้นไปชั้นบน
เมื่อถึงชั้นสอง มู่อวิ๋นจิ่นถูกพาไปที่ห้องห้องหนึ่ง
ภายในห้องมีบุรุษผู้หนึ่งกำลังนั่งจิบน้ำชาอย่างสบายใจ
พอเห็นนางเข้ามาแล้ว ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพลง รีบเข้ามาเชิญด้วยความยินดีปรีดา “แม่นางผู้นี้ช่างงดงามเหลือเกิน ตั้งใจมาหาข้าอย่างนั้นใช่ไหม?”
“หยุดก่อน” มู่อวิ๋นจิ่นควักป้ายขึ้นมาแสดง
บุรุษผู้นั้นเห็นอักษรที่สลักบนแผ่นป้าย ถึงกับเขาทรุดลงกับพื้น หันมองไปที่มู่อวิ๋นจิ่น “คารวะพระชายาหกพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้องมากพิธี วันนี้ที่ข้ามา มีเื่จะปรึกษาเ้าหน่อย” มู่อวิ๋นจิ่นเดินไปนั่งเก้าอี้
บุรุษผู้นั้นนั่งลงอย่างหวาดหวั่น ตั้งอกตั้งใจฟังเป็ที่สุด
“เ้าชื่อเซียวเทียนฉีใช่ไหม?” มู่อวิ๋นจิ่นถามขึ้น
บุรุษผู้นี้รีบพยักหน้ารับไม่หยุด
“ในเมืองเตี๋ยฮวาแห่งนี้ ได้ยินมาว่าพ่อค้าเซียวเทียนฉีเป็ผู้ร่ำรวยและมีชื่อมิน้อย ทั้งยังมีบุตรชายอีกหนึ่งคนใช่ไหม?” มู่อวิ๋นจิ่นถามรัวๆ
เซียวเทียนฉีพยักหน้ารับต่อไป
“ได้ยินมาว่าเ้ารักใคร่ชอบพลอองค์หญิงห้ามาเนิ่นนานแล้ว?” มู่อวิ๋นจิ่นรุกถามต่อ
ตอนนี้เซียวเทียนฉีเข้าอ่อนลงกับพื้น รีบส่ายหน้าปฏิเสธ “มิได้ มิได้พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยเป็เพียงพ่อค้า มิบังอาจอาจเอื้อมองค์หญิงห้าพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวเทียนฉียังไม่รู้จุดประสงค์การมาของมู่อวิ๋นจิ่นในครั้งนี้ พอได้ยินนางเอ่ยถึงฉู่ชิงเฉียง ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่สู้ดีขึ้นมา
“ที่แท้เ้าไม่ชอบพลอพี่ห้านี่เอง ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน เดิมทีข้าอยากปรึกษากับเ้าสักเื่หนึ่ง เผื่อเ้าจะได้เป็ราชบุตรเขยของฝ่าา” มู่อวิ๋นจิ่นถอนหายใจ แสร้งทำเป็เสียดายแทนเขา
เมื่อเอ่ยจบลง ก็เตรียมตัวลุกเดินทางกลับ
เซียวเทียนฉีเห็นมู่อวิ๋นจิ่นเดินไปที่ประตู จึงรีบวิ่งเข้าไปรั้งและเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังที่สุด “พระชายาหก พอจะมีหนทางให้องค์หญิงห้าแต่งกับข้าน้อยไหมพ่ะย่ะค่ะ?”